จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
All Blogs
 

เรื่องของชายชื่อกนกสามคน * ชมัยภร แสงกระจ่าง

เรื่องของชายชื่อกนกสามคน * ชมัยภร แสงกระจ่าง






ชื่อนิยายเรื่องนี้ก็บอกแล้วนะครับว่าเป็นเรื่องของคนที่ชื่อ “ กนก ” มีกนกอินทร์ กนกรัฐ และกนกเทพ (ปาฏิหาริย์)ที่มีชีวิตเกี่ยวพันกันจากอุบัติเหตุในตอนต้นเรื่องเพียงครั้งเดียว เหตุการณ์ในครั้งนั้นพลิกชีวิตคนทั้งสามให้กลับตาลปัตรจากหน้ามือเป็นหลังมือ ... คนที้เคยใช้ชีวิตอย่างประมาทกลับใช้ชีวิตหลังจากวันนั้นอย่างระมัดระวัง กลัวจะตายไปอีกครั้ง ... คนที่อยู่ในกรอบระเบียบ ใช้ชีวิตเป็นเส้นตรงมาตลอดกลับมุ่งเสพความสุขจากรูปรสสัมผัสอย่างเต็มที่ จนลืมเหตุการณ์ร้ายในวันนั้น ...ส่วนคนสุดท้ายชีวิตไม่ได้ทำอะไรเพื่อคนอื่น แต่ชะตากรรมบีบบังคับให้อยู่นิ่งๆ เป็นภาพสีเทา ....

ผมคิดว่าพระเอกคือ กนกอินทร์ ในเรื่อง คือ ภาพคนดีในอุดมคติที่สังคมบ้านเราต้องการอย่างยิ่ง เพราะคนที่ทำอะไรผิดพลาดแล้วพยายามทุกวิถีทางที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองกระทำ ไม่ว่าจะทำผิดทางตรงหรือทางอ้อมก็แล้วแต่ ความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ... กนกอินทร์พยายามทุกวิถีทางที่จะแก้ไขสิ่งที่มันผ่านมาแล้วด้วยการเกี่ยวข้องกับนางเอก คือ แหวนพลอย (น้องสาวแหวนลงยา - คนที่พระเอกต้องรับผิดชอบร่วมกับรุ้งทิพย์ ) บททดสอบชีวิตหลายบทถูกนำมาร้อยเรียงให้คนทั้งสองข้ามผ่านอย่างทุลักทุเล จนจบลงอย่างสวยงามในตอนท้ายเรื่อง ...

ส่วนกนกรัฐ เดิมทีี่เป็นแค่ครูสอนหนังสือธรรมดาๆ แต่ชะตาชีวิตพลิกผันหลังเกิดอุบัติเหตุไปเป็นคนที่มีชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือยแบบก้าวกระโดด ลืมไปเลยว่าชีวิตของตนเองเคยผ่านเหตุการณ์อะไรมาครั้งหนึ่ง ... จนสุดท้ายก็ต้องรับผลกรรมไปตามวาระ ...

วันพรุ่งนี้จะเป็นวันพระใหญ่ (วันวิสาขบูชา) ถ้าหนอนคนไหนหยิบจับนิยายเรื่องของชายชื่อกนกสามคนของอาจารย์ชมัยภร แสงกระจ่าง ขึ้นมาอ่าน ผมรับรองว่าจะต้องได้รับอะไรกลับไปมากมายจากเนื้อหาในเรื่อง อาทิเรื่อง บทเรียนสอนเรื่องกรรมดีกรรมชั่ว / บททดสอบบุญกรรม หรือ การกระตุ้นตัวเองให้เห็นธรรมะด้วยดวงตาแห่งธรรม เป็นต้นครับ ...
ผมอ่านนิยายเรื่องนี้จบด้วยความอิ่มใจ แล้วหันกลับมาทบทวนตัวเองว่าในวันนี้ตัวเราทำความดีอะไรไปแล้วมั่ง อย่างน้อยศีล 5 ยังครบดีอยู่หรือเปล่า .... ประมาณนี้เป็นต้นครับ ...

นิยายเรื่องนี้อาจารย์ชมัยภร ท่านเขียนจบเมื่อตอนต้นปี 2550 หลังจากลงที่สกุลไทยมาพักหนึ่ง ก็ได้รับการกล่าวถึงมากพอสมควร ผมซื้อมาก็แล้วซุกไว้ในชั้นหนังสือนานหลายเดือน... พอดีได้ไปงานสัปดาห์ฯเมื่อเดือนที่แล้ว เดิน เดินแวะที่บูธสำนักพิมพ์คมบาง เจอคนขายเพื่อถามหานิยาย “จดหมายถึงดวงดาว”ก็ปรากฏว่าหมดเกลี้ยงไม่เหลือสักเล่ม ... คนขายแนะนำต่อว่าลองอ่าน
เรื่องของชายชื่อกนกสามคนดูสิสนุกนะ ผมเลยบอกว่ามีแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่าน... ก็เลยกลับมาอ่านจนจบ ...

อาจารย์ชมัยภรเขียนเรื่องราวชีวิตของคนทั้งสามคนได้สนุกมากๆ ทั้งสามสิบห้าตอน อ่านไม่เบื่อ ... ได้คติแง่คิดสอนใจตลอดเวลา ... เส้นกราฟชีวิตของกนกอินทร์ สายอินทร ขึ้นลงไปจนดูคล้ายๆกับนายกันเกรา พิลังกาสา จาก ผัดไทยไม่ใส่เส้น อาจจะแตกต่างกันที่รายละเอียด แต่ที่เหมือนกันคือ การต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความถูกต้อง แล้วมุ่งมั่นก้าวข้ามผ่านไปให้ได้ ไม่ว่าจะผ่านทุกข์สุข ร้อนหนาวสักเท่าใด ....

ชีวิตที่ต่อสู้เพื่อคนอื่นด้วยความเสียสละ เป็นชีวิตที่น่ายกย่องไม่ใช่หรือครับ ...

ผมคิดว่าเหตุการณ์ร้ายๆในห้วงอาทิตย์นี้ คงสั่นคลอนความรู้สึกเพื่อนหนอนมากมาย ไม่ว่าพายุนาร์กีสที่พม่า หรือ แผ่นดินไหวคนตายเป็นเบือที่ประเทศจีน แต่สุดท้ายก็คงจะเหมือนอย่างที่ท่านอาจารย์ ว.วชิรเมธี ท่านพูดในรายการทีวีๆหนึ่งเมื่อวันก่อน ท่านว่า .... เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ในทางพระพุทธศาสนาไม่ได้สอนให้เราหวาดกลัวต่อเรื่องราว .... แต่ ...ให้เราพร้อม แล้วเตรียมรับมือกับมัน .... หากมันมาเยี่ยมเยียนเราในเวลาอันใกล้ หรือ ไกล ..

วันพระวันพรุ่งนี้ ... เพื่อนหนอนคงตื่นกันแต่เช้าเตรียมตัวทำบุญทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้วไม่มัวหมองด้วยอบายกิเลสทั้งปวง จนเมื่อจิตใจสงบนิ่งเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ความดี ความงาม ความร่มเย็นจะคุ้มครองพวกเราไปตลอดกาล ...

สวัสดีวันพระครับ .... เมฆชรา






 

Create Date : 18 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 18 พฤษภาคม 2551 21:03:34 น.
Counter : 1842 Pageviews.  

กลิ่นกาสะลอง * เนียรปาตี

กลิ่นกาสะลอง * เนียรปาตี




เป็นผลงานเรื่องที่สามของเนียรปาตีที่ได้ติดตามอ่านมา นิยายเรื่องนี้แค่อ่านปกโปรยไว้ว่า ....

“ กาสะลอง ขาวนวลผ่อง เหน็บเกศา
ปลดเจ้ามา ให้พี่เชย รำลึกได้
กลิ่นเจ้าอยู่ แล้วตัวเจ้า อยู่หนใด
ขอตามรัก ทุกชาติไป เจ้าเนื้อนวล ....”

ก็เดาเอาว่านางเอกเรื่องนี้ต้องสวยเหมือนดอกกาสะลอง และจับตาจับใจได้เหมือนที่เห็นบนภาพปก จนพออ่านไปเรื่อยๆ จบเล่มสอง ก็ค้นพบว่าแม่นางกาสะลอง (นางเอกของเรื่อง) มีรูปพรรณที่สวยล้ำเหนือกาลเวลาดังที่จินตนาการไว้แล้วจริง ๆ

กลิ่นกาสะลอง เป็นนิยายพี่เรียดย้อนยุคตัดสลับกับเหตุการณ์ปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๕๐) จนข้ามผ่านไปในอนาคตปี ๒๕๘๐ นั่นก็เป็นเรื่องของความรักของคนสามรุ่นเช่นกัน ... พระเอกภาคปัจจุบัน คือ ทินกฤต กับ พิมพ์พิศา (พริมพี่ :นางเอก) และภาคอดีต (พ.ศ.๒๔๖๗) คือ หมอทรัพย์ กับ กาสะลอง ... ส่วนพระนางอนาคตก็คือ ปรัศวินทร์ และพิมพ์มาดา ...

เรื่องราวความรัก ความแค้น และอิจฉาริษยาอาฆาตของพี่น้องซ้องปีบกับกาสะลอง ... ส่งผลมาเป็นลูกโซ่ห่วงกรรม เหมือนกงกรรมกงเกวียนเวียนตามกันมาหลายภพหลายชาติ จนมาสรุปจบคลี่คลายปมปริศนาได้ในที่สุด ...

คราวนี้เนียรปาตีมาในแนวเขียนที่ท้าทายยิ่ง เพราะเขียนกลิ่นกาสะลองเรื่องนี้ ย้อนยุคกลับไปปีพุทธศักราช ๒๕๖๗ สมัยมลฑลพายัพ เชียงใหม่ ..ที่มีสภาพบ้านเรือน ความเป็นอยู่ ความรู้สึกนึกคิด ความเชื่อ วิถีชาวบ้าน ตลอดจนประเพณีวัฒนธรรมเป็นแบบล้านนาโบราณกำลังปรับตัวเข้าสู่อารยแห่งความเจริญจากภายนอก
ข้อมูลเหล่านี้เนียรปาตีได้สืบค้นหามาและสอดแทรกเข้ากับนิยายได้อย่างกลมกลืนดีเยี่ยมทั้งในแง่ความสนุกหรืออรรถรสของนิยาย

... ผมติดตามอ่านนิยายของเนียรฯมาสามเรื่อง(แป้งร่ำสารภี และหมอกพรางดาว แล้วชอบเรื่องนี้ที่สุด อาจจะเป็นเพราะฮู้ภาษาเหนือก็เป็นได้นะ อิอิ)
เหตุผลที่กลิ่นกาสะลองของคุณเนียรปาตี เป็นนิยายที่น่าอ่านยิ่งเรื่องหนึ่งในตอนนี้ ก็เพราะว่า เราจะหานิยายที่ย้อนยุคกลับไปยังเมืองเชียงใหม่สมัยเก่าเมื่อประมาณ ๘๔ ปีมาอ่านนั้น หายากเต็มที ...

ผมจะไม่สปอยเนื้อเรื่อง เพราะอยากให้ไปหยิบหาอ่านกลิ่นกาสะลอง ของเนียรปาตีกันเยอะๆ เลย ... เผื่อว่าพี่ี่นักเขียนได้มาอ่านและมีกำลังใจสร้างสรรค์งานเขียนแล้วลงมือค้นคว้าข้อมูล ผลิตงานเขียนงานดีๆ อย่างกลิ่นกาสะลองให้เราได้อ่านอีกหลายๆ เรื่องก็เป็นได้ครับ ....

กลิ่นกาสะลอง ได้วางขายครั้งแรกที่งานสัปดาห์หนังสือ ฯที่ผ่านมา ... ผมเคยเจอนักเขียนมาแล้วครั้งหนึ่ง คุยกันสองสามคำ ... รู้สึกทึ่งในความขยันเขียนนิยายของเขามากๆเห็นเสียงแว่วๆ ตามลมมาว่าเร็ววันนี้จะมีนิยายออกมาให้หนอนอย่างพวกเราสอยเป็นเจ้าของอีกสองเรื่อง ... เวิ้งๆ อะไรสักอย่างนี่แหละครับ ...

เพื่อนๆหนอนอย่าลืมอุดหนุนผลงานนักเขียนอย่างคุณเนียรปาตีด้วยนะครับ ... ผมรับรองว่ากลิ่นกาสะลอง อ่านสนุก วางไม่ลงจนจบสองเล่มแน่นอนครับผม


สวัสดีวันหยุดยาวสามวันนะครับ ... เมฆชรา




 

Create Date : 03 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 3 พฤษภาคม 2551 20:31:12 น.
Counter : 4361 Pageviews.  

ดิน น้ำ ลม ไฟ * อรชร

ดิน น้ำ ลม ไฟ นิยายอมตะของ อรชร


“ วันใดที่ข้ากับเอ็งผิดคำสาบาน ด้วยจิตวัญญาณแห่งความรัก ขอให้มันจงพินาศด้วยธาตุทั้ง ๔ ...”

... เพราะความเข้าใจผิดคิดว่าพี่นก ฉัตรชัย จะหยิบเอางานประพันธ์เรื่อง ดิน น้ำลมไฟ ของอรชรมาทำเป็นละคร ก็เลยไปหางานประพันธ์ชิ้นนี้มาอ่าน ... ปรากฏว่าชื่อเหมือนกันแต่คนละพล็อตครับ ..

แต่ไหนๆก็หามาอ่านแล้วก็ลองสักหน่อย จนกระทั่งอ่านจบก็ไม่ผิดหวังอย่างที่ตั้งใจไว้จริงๆ เพราะได้ประโยชน์สองต่อ ต่อแรกก็คือ ได้อารมณ์ถวิลหาแบบนิยายย้อนยุคเก่าๆ สมัยบู๊ล้างผลาญประเภทเลือดนองท่วมหนังสืออะไรประมาณนี้ (นิยายบางกอกยุคเก่าๆ อย่างเช่น ชุมแพ ชุมทางเขาชุมทอง คมแฝก เป็นต้น ) ต่อที่สองได้กลับไปค้นหานิยายแบบที่ว่ามาข้างต้น แล้วอ่านแบบเป็นล็อตใหญ่กันอีกครั้งสมใจอยากไปเลย...

ที่นี้มาเข้าเรื่องนิยายดิน น้ำ ลม ไฟ ดีกว่า ... ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นนิยายรักบู๊สนุกเข้มข้นว่าด้วยชีวิตรักของคนสี่คน สี่ธาตุเกิดคือ ลือ ลอ แพร และแข ทั้งสี่เกี่ยวพันกันทางด้านความรัก ...

เริ่มที่ลอกับลือ ได้สาบานต่อหน้านายมั่น พ่อบุญธรรม ว่าจะเป็นพี่น้องรักใคร่ไม่ทรยศกันตลอดชีวิต .. ลอหลงรักแพร สาวสวยประจำหมู่บ้าน แต่แพรกลับมีใจและมอบกายให้กับลือ ผู้ลึกลับมาจากแดนไกล ... ส่วนแข เป็นสาวสวยอีกคนที่รักลอด้วยชีวิต ไม่สามารถจะมีสายตามองใครได้อีก .... ในทางตรงกันข้ามลือกับหลงรักแข เข้าอย่างจังจนยากจะถอนตัว ...

ความรักสี่เส้าจึงวุ่นวายและเกิดเรื่องราวตามมามากมาย ... แพรได้ตั้งท้องกับลือ แขหนีจากลอด้วยความช้ำใจ ... ลือหนีจากแพรเพราะหน้าที่ที่ได้รับมาจนไปเจอแขในต่างสถานที่ ... ทั้งคู่รักกัน ...แต่มันผิดคำสาบานที่ให้กับแพรเอาไว้ว่า ถ้าเป็นอื่นจะต้องตายด้วยคมหอกคมดาบ ...

เรื่องราวขมวดเข้มข้นในตอนท้ายเรื่อง สนุกน่าติดตามยิ่งนัก ... หนอนที่รักจะรู้ซะทีว่าลือที่ผิดคำสาบานกับแพรจะมีจุดจบอย่างไง ... แล้วความรักต้องห้ามของลือกับแขล่ะจะเป็นเช่นไร ... ต้องไปอ่านในนิยายกันเอานะครับ ...ไม่สปอยดีก่า เดี๋ยวไม่สนุก ...อิอิ...

พออ่านดิน น้ำ ลม ไฟ จบผมก็นึกถึงงานเขียนของคุณอรชร อย่างเรื่อง ร้อยป่า .. ที่เป็นสุดยอดของสุดยอดในนิยายแนวนี้ของบ้านเรา .... เรื่องความยาวของตัวนิยายไม่ต้องพูดถึงมีความยาวมากถึงมากที่สุด (แต่ก็รองเพชรพระอุมา นะครับ) หรืออย่างเรื่อง... ดอกรักบานที่สันกำแพง ... ได้ทำเป็นละครโด่งดังลือลั่นสนั่นบางทางช่อง ๓ (เปลี่ยนชื่อเป็น ... เมื่อดอกรักบาน ) อย่างนี้เป็นต้นครับ ...

นิยายเรื่องดิน น้ำ ลม ไฟ ได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วยนะครับ นำแสดงโดยพี่เอกสรพงษ์ แสดงเป็น ลือ นาถ ภูวนัย แสดงเป็น ลอ เนาวรัตน์ ยุกตะนันต์ แสดงเป็น แพร และวิยะดา อุมารินทร์ แสดงเป็น แข กำกับการแสดงโดย เชาว์ มีคุณสุต ... ตัวหนังอาจจะเก่านานมากๆแล้ว แต่ก็ยงพอหาดูได้จากวีซีดี ...
ถ้าใครอยากจะได้บรรยากาศเพิ่มเติมจากหนังสือก็ไปหาชมกันนะครับ ...

วันนี้เป็นวันพุธ สิ้นเดือนเมษายน ฝนตกทั้งวัน รักษาสุขภาพกันนะครับ ... สวัสดีครับผม เมฆชรา









 

Create Date : 30 เมษายน 2551    
Last Update : 30 เมษายน 2551 22:24:58 น.
Counter : 1988 Pageviews.  

สวรรค์เบี่ยง * กฤษณา อโศกสิน

สวรรค์เบี่ยง * กฤษณา อโศกสิน





นิยายเรื่องนี้กำลังเป็นกระแสละครที่โด่งดังมากสุดสุด วันพุธวันพฤหัสแฟนละครต้องอยู่บ้านจับตาดูแอนกับเคนสวมบทบาทเป็นคาวี วรวัฒน์กับนาริน โสภณรัตน์ ส่วนบทบาทตัวละครอื่นๆก็น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นลีลา คุณต้อม แพท คุณคิด เป็นต้น …. สวรรค์เบี่ยงเป็นนวนิยายในดวงใจของผมอีกเรื่องหนึ่งที่ชอบPlotเรื่อง หรือการดำเนินเรื่องมากๆเรื่องหนึ่ง จำได้ว่าได้อ่านนิยายเรื่องนี้มาตั้งแต่ยังเด็กๆ อ่านซ้ำในอีกหลายครั้งที่มีโอกาส จนได้จับเอามาทำเป็นละครช่อง 3 คราวนี้ ผมก็ได้หยิบขึ้นมาอ่านอีกรอบเพื่อเปรียบเทียบระหว่างเนื้อหาบทละครนำมาเสนอกับเค้าโครงบทประพันธ์เดิมของอาจารย์กฤษณา อโศกสิน …

หลังจากอ่านจบด้วยเวลาอันรวดเร็ว (ผมเพิ่งสังเกตว่าถ้าได้อ่านนิยายที่สนุก PLOT เจ๋งเป้ง เรื่องราวการดำเนินเรื่องน่าติดตามให้อยากรู้ตั้งแต่หน้าแรกไปจนหน้าสุดท้าย จนสรุปจบลงตัวด้วยท่าทีที่น่าพอใจในตอนท้าย …. ผมจะอ่านได้อย่างรวดเร็วข้ามวันข้ามคืนแบบไม่รู้ตัว อิอิ)

สวรรค์เบี่ยงเป็นนิยายขนาดยาวที่อาจารย์กฤษณา เขียนตั้งแต่สมัยเรายังเป็นวุ้นกันอยู่ประมาณปี 2508-2510 จะเห็นว่าหลายเรื่องราวในนิยายอาจจะล้าสมัยไปบ้างอย่างแฟชั่นการแต่งตัว หรือค่าเงินในสมัยโน้นครับ แต่โดยรวมแล้วอ่านสนุกมากจนกลบรายละเอียดปลีกย่อยเหล่านี้ไปหมด …

กลับมาที่เนื้อเรื่องในนิยาย ถ้าหากใครยังไม่ได้อ่านสวรรค์เบี่ยง ภาคหนังสือ แล้วไปชมละครโทรทัศน์อย่างเดียว ... บางทีอาจจะงงๆก็เป็นได้ เพราะไม่ทราบความเป็นมาของตัวละครแต่ละตัว อย่างกรณี ลีลาเคยชอบคาวีมาก่อนอย่างไร เพราะอะไร ... หรือเหตุการณ์ที่คาวีพานารินไปทำร้ายร่างกายเพราะความแค้นที่มีต่อลีลา...ที่พัทยา...ในละครโทรทัศน์ก็เพิ่มเติมความเข้มข้นให้เรื่องน่าติดตามเข้าไป ... เหล่านี้เป็นต้น...

ฉะนั้นถ้าใครอยากรู้ที่มาที่ไปของตัวละครแต่ละตัวอย่างละเอียดให้ไปหานได้ในนิยายเท่านั้นนะครับ ....

ผมคิดว่านวนิยายที่เป็นอมตะมีคนกล่าวและพูดถึงอยู่ตลอดเวลาในบ้านเรามีไม่กี่ชิ้น ... เท่าที่ผมสังเกตส่วนมากแล้วจะเป็นไปตามกระแสซะมากกว่า อย่างกรณีนิยาย “ ฟ้าจรดทราย หรือ จำเลยรัก ” ที่เพิ่งจบไม่นานก็เช่นกัน

แต่ผมว่าก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เด็กๆสมัยนี้จะได้อ่านงานเขียนชั้นครูกัน เพราะถ้าหากให้พวกเขาหยิบขึ้นมาอ่านกันเองคงไม่มีทางแน่ ฉะนั้นสรุปก็คือ ให้นวนิยายเป็นกระแสอย่างนี้แหละดีแล้ว อย่างน้อยสุดหนอนรุ่นใหม่ๆ จะได้ผ่านตาและหยิบจับขึ้นมาเสพอ่านบ้างไม่มากก็น้อย จะได้ไม่หลงไปกับกระแสใต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่นให้มากนัก …

เมื่อไม่นานมานี้เองนิยายสวรรค์เบี่ยงหาซื้อได้ยากมาก เพราะขาดตลาดไปตั้งแต่ครั้งดอกหญ้าเอามาจัดพิมพ์ ผมก็หนึ่งในนักสะสมงานอาจารย์กฤษณา อโศกสิน (แบบมือใหม่) หาไม่ได้เช่นกันครับ … กระทั่งก่อนงานสัปดาห์หนังสือไม่กี่อาทิตย์ สำนักพิมพ์เพื่อนดีได้จัดพิมพ์ใหม่ ผมก็ได้จับจองเป็นเจ้าของตอนนี้แหละ …

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2551 ที่ผ่านมาผมได้ไปเข้ารับฟังงานสัมมนาที่งานสัปดาห์ฯ กับเขาด้วย ได้เจอะเจออาจารย์กฤษณาฯ รู้สึกปลื้มใจในตัวท่านมากๆ ที่สำคัญได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกต่างหาก อิอิ

ตอนนี้กระแสสวรรค์เบี่ยงกำลังแรงทุกสำนักเรทติ้ง เลยถือโอกาสเชิญชวนหนอนที่รักไปหาอ่านงานเขียนของอาจารย์กฤษณาเรื่องนี้มาอ่านกันนะครับ … สุกสันต์วันสิ้นเดือนครับผม … เมฆชรา














 

Create Date : 25 เมษายน 2551    
Last Update : 25 เมษายน 2551 12:35:27 น.
Counter : 3214 Pageviews.  

กาลมรณะ * จัตวาลักษณ์

กาลมรณะ * จัตวาลักษณ์








นวนิยายเรื่องนี้เป็นนิยายสืบสวนสอบสวนรสชาติแบบไทยๆ ที่ไม่ธรรมดาเพราะได้รับรางวัลมาการันตีถึงสองรางวัลภายในปีเดียวนั่นก็คือ รางวัลนวนิยายสืบสวนสอบสวน รางวัลชมเชย จากการประกวดนานมีบุ๊คอะวอร์ด ปี ๒๕๕๐ และรางวัลนวนิยายชมชมเชยจากงานสัปดาห์หนังสือ ปี ๒๕๕๑ ....

ตอนแรกขอสารภาพว่าไม่ได้สนใจงานเขียนชุดนี้มากเกินกว่าจะคิดซื้อหามาไว้ครอบครอง ... พอหนังสือได้รับรางวัล ประกอบกับหนอนหลายท่านแนะนำว่าสนุกนะ ผมก็เริ่มปฏิบัติการเช่นที่เคยทำคือ ... เสาะหากันจ้าละหวั่น ไปถามร้านไหนๆ ก็บอกว่าหมดแล้วจ้า หมดแล้วจ้า ... จนหาซื้อได้ที่ร้านบีทูเอส คลังพลาซ่า ...

พอลงมืออ่านก็พบความไม่ธรรมดาของนิยายเรื่องนี้ ... จะเรียกว่ากาลมรณะ เป็นนิยายสืบสวนย้อยยุค สไตล์ไทยๆ ในกลิ่นอายตะวันตกแบบเซอร์ล็อคโฮม ... ความดีเด่นของเรื่องอยู่ที่การสืบสวนสอบสวนของสมัย ตำรวจหนุ่มผู้เก่งกาจ รอบด้านกับคู่หูที่ฝีมือพอๆกันอย่างนายลออ ....
เนื้อหาของเรื่องมีอยู่ว่าสมัย ตำรวจสืบสวนนอกเครื่องแบบแห่งกองปราบ ต้องใช้ไหวพริบในการสืบสวนคดียากที่เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันสามคดี ...
คือ ๑. คดีทำร้ายร่างกายช่างตัดผมในเวลาค่ำ
๒. คดีเจ้าของร้านขายเครื่องใช้จากยุโรปถูกจัดฉากว่าผูกคอตาย
๓. คดีหญิงสาวสำนักโคมเขียวถูกพบเป็นศพในคลอง
โดยหลักฐานจากทุกคดีบ่งชี้ไปที่คน ๆ เดียว จักรา ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของหลวงมงคลศิลป์ไพศาล ...
ผู้ถืออำนาจบาตรใหญ่ ....
เรื่องราวทั้งหมดอาจดูจะเป็นคดีธรรมดา ถ้านาฬิกาที่อยู่ในที่เกิดเหตุของสองในสามคดีชี้บอกเวลาเดียวกัน และที่สำคัญผู้ต้องสงสัยคนเดียวกันจะก่อคดีพร้อมกันในสองสถานที่ได้อย่างไรกัน ...
ทีนี่ก็เป็นหน้าที่ของสองตำรวจหนุ่มที่คลี่คลายปมปริศนาทั้งหมดให้กระจ่างภายในเวลาที่กำหนด ...

(รายละเอียดเรื่องราวทั้งหมดดูได้ที่บล็อกของคุณยาคูลล์ ตามนี้นะครับ..)//www.bloggang.com/mainblog.php?id=yum-cha&month=01-10-2007&group=9&gblog=378

เมื่ออ่านจบผมก็ถึงบางอ้อว่าทำไมเรื่องนี้ถึงได้รับรางวัลและได้รับความนิยมเป็นอย่างดี ... ผมเคยหัดเขียนนิยายสืบสวนอยู่เรื่องหนึ่ง เขียนไปเขียนมาได้สามสี่ตอนก็ต้องหยุด เพราะเริ่มเข้าป่า ออกทะเลไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ค้นพบว่า เวลาอันใกล้นี่ตัวผมเองยังไม่ถึงเวลาที่จะเขียนเรื่องราวอันซับซ้อนอย่างเช่นมือโปรขั้นเทพทั้งหลายทั้งปวงได้ ...

วันนี้ก็เลยจะมาชวนเพื่อนๆหนอนไปหาอ่านงานเขียนของพี่จัตวาลักษณ์ เรื่อง กาลมรณะเรื่องนี้อ่านดู ผมรับรองว่าสนุก เดาเรื่องราวในเรื่องไม่ถูกแน่นอน ....

สวัสดีวันอาทิตย์ที่ร้อนอบอ้าวมากๆ นะครับ ... เมฆชรา




 

Create Date : 20 เมษายน 2551    
Last Update : 20 เมษายน 2551 9:36:19 น.
Counter : 1957 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  

เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.