• สุขใจที่ได้อ่าน
• ผลงานของเมฆชรา
• กาพย์กลอน
• เที่ยวท่องไปในโลกกว้าง
• ความจริงของชีวิต

สองฝั่งคลอง * ว.วินิจฉัยกุล “ ..สภาพคลองสานในสมัยโน้นร่มรื่นด้วยไม้ใหญ่และบ้านเรือนมีทางเดินปูอิฐขนาดกว้างขนาบตลอดไปตามฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา บ้านเรือนเคหสถานที่เคยเป็นของลูกหลานสมเด็จเจ้าพระยาเวลาที่ข้าพเจ้าเห็นส่วนมากดูเงียบเหงา เพราะเจ้าของส่วนใหญ่ไปอยู่ที่อื่นเสียแล้ว..” ฟื้นความหลัง/พระยาอนุมานราชธน ผมเชื่อว่าแฟนนวนิยายไทยทุกคนต้องเคยอ่านนิยายเรื่องนี้กันหมดแล้ว.. สองฝั่งคลองเป้นงานเขียนที่สนุก วางไม่ลง อ่านได้หลายๆรอบและสามารถไปค้นคว้าต่อยอดอ่าน(จากหนังสืออ้างอิงท้ายเล่ม) ได้อีกมากมายหลายเล่ม ชีวิตที่แสนอาภัพและดิ้นรนของทับทิมที่ต้องต่อสู้กันมาตั้งแต่เด็กจนเป็นสาว แต่งงานมีครอบครัวที่สมบูรณ์แต่ก็ต้องลำบากลำบนผ่านร้อนผ่านหนาวไปมากมายไปกับคุณลาน สามีคู่แท้คู่ชีวิตจูงมือกันไปในเวลาจนแก่เฒ่าก่อนจะแยกจากกันชั่วนิรันดร์ สองฝั่งคลองของ อาจารย์วินิตา หรือ ว.วินิจฉัยกุล ดีเด่นยังไงคงไม่ต้องพูดถึงอีกแล้วเพราะขนาดผมอ่านมาสองรอบแล้วยังประทับใจไม่รู้ลืม ต้องหาเวลามาอ่านใหม่อีกให้ได้ มีข้อแนะนำสำหรับการอ่านนวนิยายเรื่องนี้ก็คือค่อยๆอ่านช้าๆ อ่านความคิดตัวละคร อ่านวิธีการนำเสนออรรถรสนวนิยายพร้อมกับสอดแทรกเกร็ดประวัติศาสตร์เหตุการณ์การบ้านเมือง และดูความเป็นอนิจจังของสังคมที่มีการพลิกผันตลอดเวลา                 นวนิยายเรื่องนี้อาจารย์บอกในคำนำว่ามีแนวเรื่องอ้างอิงคล้าย ความฝันในหอแดง กับ Budden Brooks ของโทมัส มานน์ คือ เป็นนวนิยายที่ใช้ความล่มสลายของตระกูลหนึ่งเป็นแกนนำให้เห็นสภาพสังคม และ สองฝั่งคลอง .... เริ่มเรื่องในปี พ.ศ.2468 ในสมัยปีสุดท้ายรัชกาลพระบาสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวกระทั่งร่ายเรียงเรื่องราวมาจนจบเรื่องในกุการณืเกิดสงครามเอเชียบูรพา ปลายรัชกาลที่8 รวมระยะเวลาทั้งเรื่องราว 21 ปี โดยมีเหตุการณ์สำคัญๆก็คือ เปลี่ยนแปลงรัชกาล 3 รัชกาล มีเหตุการณ์ณืประวัติศาสตร์สำคัญทางการเมืองพ.ศ. 2475 และเกิดสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามมหาเอเชียบูรพา (2484-2488) อ่านนวนิยายไปได้ความรู้กันไป .. นิยายก็สนุกเข้มข้นจนวางไม่ลง ต้องฝีมือชั้นครูเท่านั้นถึงจะเขียนเช่นนี้ได้ต้องตกผลึกสะสมประสบการณ์ในการเขียนเป็นเวลา 20ปีขึ้นไปถึงจะได้ชิ้นงานที่ละเมียดละไม ดูพลิ้วไหวเหมือนผ้าไหมผ้าแพรชั้นดีนี่แหละค่าของวรรณศิลป์ .... ถ้าไม่อ่านก็จะไม่ได้พบเห็น หนังสืออ้างอิงที่ผมเอ่ยถึงข้างต้นมีมากมายให้ไปสืบค้นต่อยอดหลังการอ่านจบสองฝั่งคลองอาทิเช่น - ประมวลสุภาษิต พระนิพนธ์ 5.6 - ประชุมโคลงโลกนิติคำโคลอง สมเด็จฯกรมพระยาอดิศร - ตำนานเรื่อง เครื่องโต๊ะและเครื่องปั้นของ สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ - ชีวิตคนไทยสมัยก่อน ของ เสถียรโกเศศ - เบื้องหลังการปฏิวัติ 2495 ของ กุหลายสายประดิษฐ์ - พระไตรปิกฎ ฉบับประชาชน ของ สุชีพปุญญานุภาพ ฯลฯ         หยิบนวนิยายแนวนี้มาอ่านทีไรรู้สึกว่าชีวิตมีพลังสู้ปัญหาดีเหลือเกินครับ .. วันนี้เลยอยากแนะนำเพื่อนๆที่ยังไม่อ่านนวนิยายดีดีมีรางวัลการันตี และขึ้นหิ้งไปแล้วอย่างเรื่องสองฝั่งคลองเรื่องนี้ .. ลองเดินไปร้านหนังสือหยิบขึ้นมาจ่ายกระตังค์ พอมาถึงบ้านปิดอินเตอร์เน็ต ปิดทีวี เอนตัวนอน หยิบสองฝั่งคลองขึ้นมาจรดสายตาค่อยซึมซับเรื่องราวตั้งแต่สมัยปลายรัชกาลที่ 7 จนถึงต้นรัชกาลปัจจุบัน .. นับว่ามีความสุขแบบไม่เหมือนใครแน่นอนครับ สวัสดีวันพฤหัสบดี 1 สิงหาคม 2556ครับ / อิส รักในหลวง/เมฆชรา *****   Create Date : 01 สิงหาคม 2556     Last Update : 1 สิงหาคม 2556 13:46:06 น. Counter : 4131 Pageviews.   8 comment Share Tweet

เทพบุตรในฝัน* ชูวงศ์ ฉายะจินดา เล่มนี้อ่านต่อเนื่องจากสุดสายป่าน เป็นนิยายเล่มบางขนาดกะทัดรัดน่ารัก เหมะสำหรับเพื่อนๆที่ไม่มีเวลาอ่านนิยายสักเท่าไหร่ .. ผมจำไม่ได้ว่านิยายเรื่องนี้เป็นละครทางช่อง 3 หรือไม่ ตอนนั้นเชอรี่เป็นนางเอก คลับคล้ายคลับคราว่าน่าจะใช่ เพราะพล็อตนิยายเรื่องนี้มีอยู่ว่า .. นางเอกของเราคือ รุ้งลาวัลย์ เป็นหญิงสาวที่มีเชื้อเจ้า แต่อาภัพที่พ่อกับแม่มาด่วนจากไปเสียหมด เหลือตัวคนเดียวต้องอาศัยอยู่กับหม่อมป้าที่ใจร้ายและเอาเปรียบทุกๆอย่าง ต้องทำงานหนักเหมือนคนใช้ ต้องเหนื่อยสายตัวแทบขาดในแต่ละวัน จนกระทั่งวันหนึ่งมีชายหนุ่มวัยกลางคน สมบูรณ์แบบทั้งการเงิน หน้าตา และชาติตระกูล เป็นเศรษฐีไร่ยางพาราแถวภาคใต้ ชื่อ ชุษ มาบอกหม่อมป้าว่าจะแต่งงานกับรุ้งลาวัลย์แล้วนำตัวไปเป็นเจ้าของไร่ที่ภาคใต้เลย .. นางเอกตกกระใดพลอยโจนแต่งงานกับพระเอกแล้วออกเดินทางในทันที กระทั่งขึ้นมาบนรถไฟก็ได้ยินการสนทนาของชายคู่หนึ่ง หนึ่งในนั้นคือ พระเอกของเรา ความบอกว่า .. พระเอกไม่ใช่คนรวยอย่างที่สร้างภาพเอาไว้ เป็นการแสดงละครตบตาทั้งหมด .. รุ้งจะหนีก็หนีไม่ได้ต้องเลยตามเลยกระทั่งถึงคฤหาสน์ของชุษ เธอก็ยังคิดว่าทุกคนแสดงละครอยู่ .. เรื่องราวในนิยายมีเหตุการณ์มากมายที่จะพิสูจน์ว่าทั้งสองคนรักกัน แม้สถานการณ์ไม่เป็นใจก็ตาม นวนิยายบางเรื่องไม่ต้องอะไรมาก แค่ดำเนินเรื่องให้สนุก ลุ้นไปกับเหตุการณ์ในเรื่อง จนถึงบทสุดท้ายปิดปมของเรื่องให้สมเหตุสมผล .. คนอ่านพอใจ ปิดหนังสือลงอย่างมีความสุข หลับฝันดีนิยายโรแมนติก .. ตัวละครร้ายๆในเรื่องนี้ก็มี (เออ .. ถ้าไม่มีเรื่องก็ไม่สนุก พระเอกนางเอกไม่มีอุปสรรคจนเจอรักแท้) นวนิยายส่วนมากของป้าชูวงศ์ ฉายะจินดาจะเป็นเรื่องแนวนี้ เป็นแนวรักโรแมนติก ฝ่าฟันอุปสรรครัก จนสุดท้ายฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ .. แต่เราก็ยังชอบอ่านกันใช่ไหมครับ .. ผมหาเก็บงานคุณป้าไปเรื่อยๆ ซึ่งงานของชูวงศ์มีอยู่สองยุค คือ ยุคก่อน และหลังคุณป้ากลับมาเขียนนวนิยายอีกรอบ (เพิ่งสั่งมายาสวาททางเน็ตมาอีกเรื่อง เป็นนิยายปกเก่าเล็กเล็ก .. น่าสนใจมาก) สวนเรื่องอื่นๆที่เสาะหามาด้วยความพยายาม ก็มี รักเล่ห์ โสมส่องแสง บัวกลางบึง ยายอินกะยายนา สวรรค์ชั้นสี่ ฝนซาฟ้าสาง ซากุระสีชมพู ฯลฯ น่าเสียดายที่ป้าชูวงศ์ฯไม่เขียนงานออกมาอีกแล้ว ทิ้งนิยายสองเล่มสุดท้ายเอาไว้ให้เราได้อ่านก็คือ .. หนึ่งรักนิรันดร กับ เพียงมีรักในใจเธอ ส่วนนวนิยายของคุณป้าก็ถูกนำมาสร้างอยู่เรื่อยๆ อย่างเรื่อง จำเลยรัก ตำรับรัก สุดสายป่าน (ละครที่ออนแอร์อยู่ได้ดัดแปลงบทประพันธ์ไปหลายจุด เพิ่มความสำคัญตัวละคร ขยายบทละครบางตัว และไม่ได้ให้เครดิตผู้ประพันธ์ทางหน้าจอเลย) เงาอโศก ดอกรักริมทาง บุหงาหน้าฝน ฯลฯ ยังไงก็ลองไปตามอ่านนวนิยายของราชินีนิยายพาฝัน (ฉายาป้าชูวงศ์ ฉายะจินดาทีเคยได้รับ)กันดูนะครับ สวัสดีวันพุธครับผม * นายอิส รักในหลวง/เมฆชรา   Create Date : 31 กรกฎาคม 2556     Last Update : 22 สิงหาคม 2556 10:11:38 น. Counter : 4930 Pageviews.   4 comment Share Tweet

โซ่สวาท * โสภาค สุวรรณ โซ่สวาท ++ เป็นนิยายเรื่องล่าสุดของป้าโสภาค สุวรรณ ++ ที่ สนพ.เพื่อนดี นำมาพิมพ์รวมเล่มทันอกทันใจหลังจากที่จบจากหน้านิตยสารหญิงไทย ++ นิยายเรื่องนี้หน้านิตยสารลงมานานมาก ตั้งแต่ ปี 2552 - 2556 รวมเกือบ 5 ปี และน่าจะเป็นงานชิ้นล่าสุดของคุณป้า (เรื่องก่อนหน้านี้น่าจะเป็นเรื่อง จดหมายรักจากบาบิยั่น ภาค 1-2 ก่อนหน้านั้นก็มี ลูกสาวพ่อมด ก่อนหน้านั้นอีกน่าจะ .. จัสมีน่า มาฮาล ) นานๆที่เราจะได้อ่านนิยายที่เต็มอิ่ม เต็มอรรถรส แบบนี้เสียที พอได้มา(ขอบคุณพี่ บก โอ๊ต) ผมก็เร่งระดมอ่าน นอน หลับ ตื่น คาหนังสือ สามวันสามคืน (พักเป็นระยะๆ) โซ่สวาท ++ มีขนาดความยาว 91 ตอน แต่ก็อ่านได้ไม่รู้วาง อ่านแล้วติดหนึบวางไม่ลง ด้วยความอยากรู้ว่าชีวิตของพวงชมพู หรือ น้องพู หรือ ชื่อของเธอแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า .. โซ่สวาท. นั่นจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างกับชีวิตอันผกผันตลอดเวลาของเธอ โซ่สวาท ++ เริ่มต้นเมื่อนางเอกของเราอายุได้ 12 พวงชมพูอยู่กับแม่ที่เป็นครู ชื่อ ครูรำเพย ในบ้านเรือนไทยริมแม่น้ำลพบุรี ทั้งสองรักความสงบ สันโดษ ไม่ยุ่มเกี่ยวกับใครนอกจากเพื่อนบ้านที่รักใคร่น้ำใจกัน ++ นิยายเปิดปมเรื่องครูเพย เสมือนเป็นเมียสองของท่านรองผู้ว่า มานิต ++ ใครๆต่างก็เล่าลือถึงประเด็นเมียน้อย (รักกันมาก่อนก่อนที่ มานิตจะแต่งงาน เพราะหน้าที่ กับคุณจินดา ซึ่งเป็นบ้านใหญ่) พวงชมพู คือผลิตอันเกิดจากความรักของมานิตกับรำเพย ++ เหตุการณ์พลิกผันรุนแรงเมือ่ความตายเข้ามาพรากแม่ พรากพ่อพวงชมพู ++ เด็กสาวต้องต่อสู้เพียงลำพังคนเดียว ต้องอยู่กับแม่เลี้ยงอย่างจำใจ ++ แต่หนูพู ก็มีพี่โรม หรือ บุริน เป็นยอดดวงใจ ยอดอัศวิน ยอดชายในฝันมาตั้งแต่เด็ก ++ เรื่องราวสลับซับซ้อนเกินจะบรรยาย มีตัวละครเกี่ยวข้องอีกมากมาย ล้วนขับเคลื่อนเรื่องให้อ่านสนุก แทบจะวางไม่ลง (แต่ก็ต้องวางเพราะหนักอยู่เหมือนกัน) พระเอกนางเอก ต้องอดทนเพื่อความถูกต้องในศีลธรรม กว่าจะสมหวังก็ต้องลุ้นกันเฮือกสุดท้ายนั่นแล โซ่สวาท ++ จะอ่านสนุก ก็ต้องค่อยๆอ่าน อย่าเปิดข้ามหน้า ไม่เช่นนั้นจะขาดตอนสำคัญไปเลยทีเดียว คุณป้าโสภาคฯ จะสอดแทรกข้อคิดต่างๆลงในแต่ละตอนอย่างไม่ขัดเขิน หรืออ่านสะดุด. เนื้อเรื่องในเรื่องไม่อืดนะครับ มีเหตุการณ์ให้ตื่นเต้นตลอดเวลา แถมประเด็นหลักของเรื่องนี้ คือ เรื่องการตั้งครรภ์แทน ++ เมื่ออ่านไปก็สาระความรู้ แน่นปึก เอาไปใช้ได้จริงได้เลยนะครับ ++ คนแต่งบรรยายได้ละเอียดชัดเจนดีมาก ขอยกนิ้วให้เลย โซ่สวาท ของโสภาค สุวรรณ ++ เรื่องนี้จึงเป็นนวนิยายร่วมสมัย ++ ที่ควรอ่านยิ่ง อ้อ .. ลืมบอกเรื่องสำนวนภาษา ถ้าใครได้อ่านเรื่องนี้จะไม่มีง่วงหาวนอนแน่นอน ++ คำพูด ตลอดเรื่องทั้ง สวยงาม อ่อนหวาน หนักแน่น และก็เผ็ด จัดจ้าน สะใจคอซาดิสถ์ยิ่งนัก ++ ไม่อยากสปอยเลย อยากให้ไปอ่านดูจริงๆจ๊ะ งานของคุณป้าโสภาค สุวรรณ ++ มีมากมายเยอะแยะไปหมด คุณป้าเขียนในบทนำในเรื่องโซ่สวาทว่า เรื่อง .. ให้คนตั้งท้องให้เรื่องนี้ ต้องใช้ข้อมูลเยอะมากกว่าจะย่อยออกมาเป็นนิยายก็แรมเดือนแรมปี เรื่องนี้คล้ายๆกับเรื่อง .. สงครามดอกรัก (อันนี้ยังไม่ได้อ่าน) เรื่องอื่นๆ เท่าที่สมองผมจำได้ ก็มี ทะเลสาปพระจันทร์ /พรานทะเล /น้ำคำ /ดาวเหนือ/หิมะสีแดง/ปุลากง/บุษย์น้ำทอง/โกบี /ฟ้าจรดทราย / เจ้าชาย / ยังมีรักที่อฮัคการ์/ สิคีริยา /ศิขรินเทวินตา/ สายโลหิต /ญาติกา /ส้มพอหลวง /คลื่นใต้น้ำ/ตะวันลับฟ้า/ด้วยรักและผูกพัน ฯลฯ ไปหาอ่านกันนะครับ วรรณกรรมไทยประเภทนวนิยายนี่ .. อ่านกันไปทั้งปีก็ไม่หมด สนุกทุกเรื่อง แต่ละแนว แต่ละรสนิยมที่เพื่อนๆจะสรรหามาอ่านกัน ++ มีเพื่อนๆหลายคนถามผมว่า ทำไมชอบอ่านนิยายไทย ทำไม่ไม่อ่านนิยายแปลฝรั่งหรือหรือนิยายจีนกำลังภายใน ++ ตอบ คือ ความจริงผมก็อ่านทุกแนวเลย ชอบหมดทุกเรื่องที่อ่านสนุกๆ แต่เล่มที่อ่านไม่สนุกก็มีเยอะ คละปะปนกันไป อย่างเรื่องล่าสุดที่อ่าน ผมอ่านนิยายแปลจีนของแจ่มใส เรื่อง ฝันคืนสู่ต้าชิง มีทั้งหมด 3 ภาค 6 เล่มจบ อ่านแล้ววางไม่ลงเลย สนุกมากกกกกกกกก สำนวนภาษาอ่านง่ายๆ เพราะเขียนง่ายๆ แต่แฝงไปด้วยข้อมูลที่แน่นปึก อ่านก็รู้เลยว่าคนแต่งรู้จริงๆ ตอนนี้จบสองเล่มแล้ว อยากอ่านเล่มต่อไปจะแย่แล้ว ++ ของเขาดีจริงๆ 55 ++ อย่าลืมติดตามอุษาสวาท ++ ผลงานเขียนล่าสุดของป้าโสภาค สุวรรณทางนิตยสารหญิงไทยกันเยอะๆนะครับ + วันนี้วันจันทร์เป็นวันเริ่มต้นที่ดีและเป็นวันพระด้วย .. ถ้าหากใครมีฝันจงเร่ิมลงมือทำ ทำ ทำ แล้วความสำเร็จจะอยู่ไม่ไกล ++ ขอบคุณที่ติดตามอ่านบล็อกนะครับ เนืองแน่น อุ่นใจจริงๆ ++ ขอคารวะ 1 จอก ::: เมฆชรา/นายอิส รักในหลวง   Create Date : 15 กรกฎาคม 2556     Last Update : 15 กรกฎาคม 2556 9:06:54 น. Counter : 8594 Pageviews.   22 comment Share Tweet

หางเครื่อง * นิเวศน์ กันไทยราษฏร์ +เป็นงานขียนของพี่นเวศน์ กันไทยราษฏร์. คนใกล้ชิดของพี่กนกวลี. พจนปกรณ์. นักเขียนชื่อดังอีกท่านหนึ่ง ผลงานเขียนของพี่นิเวศน์มีหลายเรื่องที่โด่งดัง. แต่เมื่อๆม่ได้ทำเป็นละครทำให้ไม่รู้จักแพร่หลายในวงกว้าง ขนาดผมยังจำได้เรื่องเดียวคือ ถนนนอกเมือง + นวนิยายเรื่องหางเครื่องได้ถูกนำมาทำเป็นละครแล้วครั้งหนึ่งทางช่อง 5 บ่ายวันเสาร์-อาทิตย์ ตอนนั้นโด่งดังมาก เป็นกระแสเกรียวกราวเลยทีเดียว และตอนนี้ช่อง 7 สีได้นำนิยายเรื่องนี้มาปัดฝุ่นทำใหม่อีกครั้งได้น้องกรีน เอเอฟกับเติ้ล ธนพล ก็น่าสนใจขึ้นมาเลยทีเดียว ต้องติดต่อไปว่าละครทำเหมือนนิยายหรือไม่นะครับ + หางเครื่องเป็น---- นิยายสะท้อนผู้หญิงคนหนึ่งที่มีการศึกษาน้อย แต่ไม่เคยยอมแพ้ สู้ชีวิตทุกรูปแบบทั้งวงการลูกทุ่งวงดนตรี วงการหนังสือพิมพ์ วงการหนังหรือวงการธุรกิจ --เดือน เป็นคนสวยแต่มีการศึกษาน้อย อยู่กับแม่แก่ชรา เธออยากเป็นนักร้อง แต่เส้นทางที่ไปมันไม่ง่ายเลย -- เธอเสียตัวให้กับโรจน์ หัวหน้าวงดนตรี เพราะความไว้ใจและรู้น้อย ก่อนจะมีความรักกับครูรวิ นักดนตรีหนุ่มรูปงาม -- โชคชะตาเธอให้มาพบกับนักหนังสือพิมพ์ที่ชื่อชูเกียรติ เธอพลาดพลั้งครั้งแล้วครั้งเล่า ---- ชีวิตที่ดิ้นรนของเธอสู้ยิบตาทุกอุปสรรคปัญหา ก่อนทุกอย่างจะคลี่คลายในตอนจบ จะสมหวังหรือไม่ติดตามได้ที่หน้านิยายนะครับ + นวนิยายเรื่องนีีนางเอกมีสามี 3 คน ไม่ทราบว่าน้องกรีนจะเล่นได้หรือเปล่า? ท้าทายความสามารถมากๆ เมื่ออ่านนิยายจบก็สปอยได้ว่าเป็นนิยายที่อ่านสนุกระดับหนึ่ง รสชาติแซ่บจัดจ้านแบบลูกทุ่งๆ อ่านเพลินสบายๆตั้งแต่ต้นจนจบ ลองหาอ่านกันนะครับ + งานเขียนนวนิยายของพี่นิเวศน์ กันไทยราษฎร์ มีหลายเรื่องอาทิ ผู้หญิงคนหนึ่ง / แด่ .. คนดี / ถนนนอกเมือง /บันทึกถึงลูกสาว / เขี้ยวลากดิน / จดหมายถึงลูก /รถเข็นสีขาว /ไม้ไกลต้น /เกร็ดดาว /ผ่านมากับสายลมร้อน ฯลฯ + ลองไปหาอ่านงานสนุกๆเรื่องนี้อ่านกันนะครับ ติดดิน รากหญ้ากันเลยทีเดียวเชียวครับ + หวัดดีวันสุขขขขขขข คร้าบ /เมฆชรา : นายอิส รักในหลวง   Create Date : 12 กรกฎาคม 2556     Last Update : 15 กรกฎาคม 2556 8:57:23 น. Counter : 2200 Pageviews.   2 comment Share Tweet

เวียงแว่นฟ้า/หนึ่งฟ้าดินเดียว/ขุนหอคำ * กฤษณา อโศกสิน เวียงแว่นฟ้า/หนึ่งฟ้าดินเดียว/ขุนหอคำ * กฤษณา อโศกสิน +เป็นนิยายที่มีความยาวอีกเรื่องที่มีโอกาสได้อ่านในช่วงนี้ นิยายชุดนี้เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านนวนิยาย พร้อมๆดื่มด่ำบรรยากาศโบราณล้านนาดึกดำบรรพ์ ย้อนไปเกือบสองร้อยปีกว่ายาวนานมาแล้ว +นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ เป็นงานเขียนที่เขียนยาก ข้อมูลต้องแม่น แน่นจริง แล้วเสริมด้วยอรรถรสแบบนิยาย คือ ต้องอ่านสนุกไม่น่าเบื่อวางไปเสียก่อน เพราะนิยายชุดนี้ยาวมากมาก เหตุการณ์ในเรื่องก็ชวนลุ้นใจหายใจคว่ำตลอดเวลา + เริ่มต้นที่เรื่องแรก .. เวียงแว่นฟ้า (พ.ศ. 2411-2413) ตัวเอกสามตัวที่เด่นคือ เจ้าม่อนฟ้า บัวบุรี และเมืองราม ผมชอบภาคนี้ที่สุด อ่านสนุกย้อนเวลาไปในอดีตกาลน่าอัศจรรย์ใจ ป้ากฤษณายังบรรยายติดๆขัดๆไปบ้าง แต่ก็อ่านสนุกมากๆๆเลย ลองดูๆครับ + เรื่องที่สอง หนึ่งฟ้าดินเดียว (พ.ศ. 2417-2430) นิยายเรื่องนี้มีเพื่อนๆบอกว่าอ่านสนุกที่สุดในสามเรื่อง ในความเห็นส่วนตัวของผมผมว่าคุณป้าเขียนได้ลื่นไหลมากกว่าเล่มแรก เนื้อความในประวัติศาสตร์ล้านนายังแน่นเหมือนเดิม แต่อรรถรสนิยายเพื่อนๆต้องอ่านดูเองครับ เรื่องนี้ตัวละครเด่นมีสองตัวคือ เจ้าระยับเนตรกับเมืองราม ขับเคี่ยวเข้มข้นทั้งเรื่อง สนุกเช่นกัน + เรื่องที่สาม ขุนหอคำ (พ.ศ. 2431-2433) มหากาพย์นิยายเรื่องเอ่ยถึงเมืองไทใหญ่ ผ่านตัวละครรุ่นลูกอย่าง เจ้ามาวฟ้า กับ อาบองค์ เรื่องนี้อ่านสนุก ตอนจบเศร้าสุดๆ (ไม่อยากให้จบแบบนี้เลย) ประวัติกฤษณา อโศกสิน ดังนี้ กฤษณา อโศกสิน ชื่อจริง สกัญญา ซลศึกษ์ เกิด 27 พฤศจิกายน 2474 ที่กรุงเทพฯ เรียนจบโรงเรียนราชินี จบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับราชการที่กรมประมง ก่อนจะมาเขียนหนังสือเป็นอาชีพ .. ในสมัยคุณแม่ของป้ากฤษณาฯ ท่านชอบอ่านหนังสือและชอบสะสมหนังสือเป็นจำนวนมาก พอไม่ได้เรียนหนังสือคุณป้าก็มุอ่านหนังสือเพื่อเ็นนักประพันธ์ในวันหน้า เนื่องสั้นเรื่องแรกของท่านคือ ของขวัญวันปีใหม่ ส่งไปให้นิตยสารไทยใหม่ได้รับการตีพิมพ์ในนามปากกา .. กัญญ์ชลา /ใต้ร่มชงโค ลงนิตยสาร สีฟ้า/ เมื่อฉันเสียดวงตา ชนะเลิศการประกวด นิตยสารสตรีสาร / ลงในศรีสัปดาห์ด้วยเรื่อง .. เขาพบกันที่หลุมฝังศพ ... ส่วนนิยายเรื่องแรกที่เขียน คือ ชีวิตเป็นของเรา (เค้าโครงเรื่องมาจาก เจนแอร์ ) จนตามมาด้วยเรื่อง ประตูสีเทา / หยาดน้ำค้าง/ ดอกหญ้า-ดวงตาสวรรค์/หนามกุหลาบ/ศัตรูหัวใจ/บาดาลใจ เขียนเรื่อยมานับ 100 เรื่อง ส่วนเรื่องที่มีคุณภาพได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น รางวัล สปอ ++ เรือมนุษย์/ตะวันตกดิน รางวัลชมเชยสมาคมผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือ ++ ฝันกลางฤดูฝน รางวัลชมเชยจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ++รากแก้ว/ไม้ผลัดใบ/ลมที่เปลี่ยนทาง/บ้านขนนก/ไฟหนาว/กระเช้าสีดา// +++++++++++++++++++ ภมร/ถ่านเก่าไฟใหม่/เพลงบินใบงิ้ว/ชาวกรง/พญาไร้ใบ/เวียงแว่นฟ้า/ตะเกียงแก้ว รางวัลดีเด่นจากคณะกรรมการพัฒนาฯ ++ บุษบกใบไม้/ไฟทะเล/ข้ามสีทันดร/จำหลักไว้ในแผ่นดิน/น้ำเล่นไฟ/หนึ่งฟ้าดินเดียว รางวัลซีไรต์ 2528 จากเรื่อง ปูนปิดทอง ส่วนนิยายเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจก็มี สมมุติว่าเขารักฉัน/ลมพัดชายน้ำ/ถนนไปดวงดาว/วิมานไม้ฉำฉา/ลานกุมรา/ควันเทียน/พกฤษาสวาท/โลกของมัทรี/ถนนสานเสน่หา/เสื้อสีฝุ่น/รอบรวงข้าว/รวมเรื่อง 5 เรื่อง จากนามปากกาสไบเมือง/อุโมงเวลา/รสรักปักอุรา/ริมหน้าต่างกระจก/ฉากทอง/ปีกทอง/เนื้อทอง/ข้ามบรรพกาล/ดาดฟ้าดาว/ล่องทะเลดาว/พันไว้ด้วยใบรัก/ลูกไม้ลายดอกรัก ฯลฯ นวนิยายไตรภาคชุดนี้อ่านแล้วได้เห็นความพยายามของคนแต่ง และฝึกความอดทนของคนอ่าน แต่สิ่งที่ล้ำค่าจากการอ่านชุดนี้ก็คือ เกร็ดประวัติศาสตร์ผ่านมุมมองนวนิยาย และอรรถรสนิยายบรรยากาศล้านนา .. มันยากมากที่จะมีนักเขียนท่านไหนเขียนได้ออกมายอดเยี่ยมเช่นนี้ ถึงแม้กำแพงภาษาจะเป็นอุปสรรคอยู่บ้าง (คนภาคเหนือก็บอกว่า คำบางคำยังไม่ใช่ .. คนภาคอื่นอ่านก็งงๆบางคำ) แต่ต้องยกย่องคนแต่งที่ถักทอผืนผ้าชั้นดีออกมาเป็นตัวอักษร สร้างจินตนาการให้กับคนหมู่มากได้ขนาดนี้ ต้องยกนิ้วให้เลยครับ + ใครว่างๆยาวๆเหมือนผมก็ลองหานวนิยายชุดนี้ไปอ่านดู รับรองว่าอ่านแล้วอยากไปเมืองเหนือ เพื่อตามรอย หรืออยากจะค้นคว้าตำนานเมืองเหนือเหมือนผม (กำลังอ่านประวัติศาสตร์ล้านนา อ.สรัสวดี อ่องสกุลกับเพ็ชรล้านนา เล่ม 1-2 ) ลองอ่านดูนะครับ + สะหวัดดีวันดีวันนี้ครับ + เมฆชรา / นายอิส รักในหลวงฃ + 10/7/2556   Create Date : 10 กรกฎาคม 2556     Last Update : 23 สิงหาคม 2556 16:36:47 น. Counter : 3763 Pageviews.   8 comment Share Tweet

• ศศิศ
• โตมิโต กูโชว์ดะ
• ~:พุดน้ำบุศย์:~
• merveillesxx
• สาวน้อยเกวลิน
• khoon-time
• สามปอยหลวง
• เมฆชรา
• อุ้มสม
• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com