จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
All Blogs
 

รอยไหม * พงศกร

รอยไหม * พงศกร



* ตั้งแต่ผมบ้าอ่านนิยายมานมนานหลายปี ... มีนิยายไม่กี่เรื่องหรอกครับที่อ่านไปแล้วเกิดอาการอินจัดถึงขนาดอยากจะไปยังเที่ยวชมสถานที่ที่เป็นต้นเรื่องราวทั้งหมดอย่างใจจดใจจ่อ ข่มอกข่มใจ ลดกิเลสอยู่ตั้งนานสองนานก็ไม่ลดละซะทีเพราะไปได้อ่านรอยไหม ของหมอพงศกรจบลงแบบหมาดๆ ...

* ในใจเฝ้าแต่ร่ำร้องภายในว่า อยากไปหลวงพระบาง อยากไปเมืองมรดกโลก ณ ประเทศลาว

* รอยไหม เป็นนิยายที่ลงเป็นตอน ๆ ในพลอยแกมเพชรในห้วงปี 2548 – 2550 แล้วมารวมเล่มเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ความที่ติดตามอ่านจากนิตยสารแบบกระปิดกระปอย ทำให้ผมถวิลหาอยากอ่านฉบับรวมเล่มของรอยไหมเป็นอย่างมาก แทบจะติดตามทุกสื่อว่าจัดพิมพ์ออกมาหรือยัง ...จนกระทั่งได้ซื้อเก็บไว้ครอบครองสมใจกิเลสตัวเองที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ(ซีเอ็ตยังไม่มีขาย) รอยไหมของหมอโอ๊ตเป็นนิยายที่พูดถึงชีวิตที่เกี่ยวพันกันกับภพชาติอดีตและปัจจุบันของเจ้าหญิงล้านนาผู้อาภัพ (เจ้านางมะณีริน) กับเจ้าหลวงเมืองลาวผู้สองศักดิ์สองพระองค์ (เจ้าศรีวัฒนา และเจ้าศิริวงศ์) ย้อนโยงมาในภพปัจจุบันที่เข้มข้นต่อเนื่องกันมาเป็นลูกโซ่ในความรักของเรริณ กับสุริยวงศ์ ซึ่งจะสมหวังหรือไม่ต้องติดตามในเรื่องกันนะครับ ...

* ตัวละครเข้มข้นอื่นๆ อย่าง หม่อมบัวเงิน / นางเม้ย / วันดารา / วงพระจันทร์ / ธานินทร์ และคนอื่นๆอีกมากมาย ช่วยเติมสีสันให้รอยไหมสนุกเข้มข้นวางไม่ลงน่าอัศจรรย์ ... ยังไม่รวมความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวของหลวงพระบางที่น่าสนใจอย่างวัดเชียงทอง พระธาตุพูสี น้ำตกกวางสี ถ้ำติ่ง หรือวัดภูควาย เป็นต้น ...

* หมอโอ๊ต (พงศกร) ใส่รายละเอียดเนื้อเรื่อง เหตุการณ์ ความเป็นมา เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของประวัติศาสตร์ ตลอดจนสภาพความเป็นอยู่ ความคิดของเพื่อนบ้านข้างเคียงเรา ไปในรอยไหมอย่างกลมกลืน สอดคล้อง พอเหมาะพอเจาะ ไม่เยิ่นเย้อมากความ ...

* นิยายเรื่องรอยไหม เป็นนิยายเรื่องเกือบล่าสุดของหมอโอ๊ต รองจากสาปภูษา เพรงสนธยา ไฮโซโอ้ลัลล้า และลิขิตชีวิต แต่ผลงานที่เราชาวหนอนจดจำมากที่สุดน่าจะเป็น “ฤดูดาว” หรือ “สาวหลงยุค” ที่ได้รับรางวัลมา
การันตีคุณภาพคับแก้วหลายรางวัล ไม่นับรวมผลงานที่แฟนๆติดตามอย่างหนาแน่นหลายเรื่องอาทิ ทะเลราตรี สร้อย
แสงจันทร์ (เป็นละครดังช่อง3) กลิ่นการเวก วังพญาพราย อลวนกลหัวใจ เบื้องบรรพ์ เป็นต้น

* รอยไหม เป็นนิยายที่ได้รับการถักทอไว้สวยงามน่าจับต้องเหมือนผ้าไหมเนื้อดี ก็เช่นเคยอยากจะให้เพื่อน
หนอนที่รักลองอ่านงานของพี่หมอโอ๊ตพงศกรเรื่องนี้ดู ผมขอยืนยันนอนยันว่าเมื่ออ่านจบเรื่อง ... รับรองว่าท่านอยากจะไปหลวงพระบางอย่างตัวกระผมแน่นอนครับ สวัสดีวันพระใหญ่ครับ ...
---------------------------------------------






 

Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2551 21:16:33 น.
Counter : 2525 Pageviews.  

สไบทิพย์ * น้อย ชลานุเคราะห์

สไบทิพย์ * น้อย ชลานุเคราะห์


เกมชีวิตและเกมความรักอันเข้มข้นของสองราชนิกูล คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพันธรังสีจรัสสุรีย์ กับ หม่อมเจ้าชายศิวะพงศ์ เพ็ญสิทธิ์ที่ดุเดือด เข้มข้น ร้อนแรง สมน้ำสมเนื้อ ตื่นเต้นจนแทบจะวาง “สไบทิพย์” ไม่ลงเพราะความอยากจะรู้ว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินต่อไปอย่างไร ... พระเอกทั้งสองมีอุณาโลม สุระชัย สาวสวยผู้ร่าเริงและโดดเด่นเป็นเดิมพันหัวใจรัก สุดท้ายใครจะเป็นผู้ได้ครองหัวใจของเธอ ... นี่คือเรื่องราวที่อยู่กลางเรื่อง ไม่ได้จบแค่นั้น ความยุ่งยากที่เป็นอุปสรรคความรักคนทั้งสอง(พระเอกกับนางเอก)ยังตามมารุมเร้า ลุ้นระทึกให้คนอ่านใจหายใจคว่ำไปตามกัน ไปจนถึงตอนจบเรื่อง ...

นิยาย “สไบทิพย์” ของน้อย ชลานุเคราะห์ เป็นนวนิยายเรื่องแรกที่ผมได้อ่านจากผลงานประพันธ์ทั้งหมดที่มีของผู้แต่ง ... หลังจากที่เฝ้าตระเวรตามหามาสนองความอยากอ่านของตัวเองอยู่นานเป็นปี ... หนอนหลายท่านคงจะทราบแล้วนะครับว่างานเขียนของคุณน้อย ชลานุเคราะห์นั้นหายากยิ่ง ผมได้ครอบครองเพราะหนอนรุ่นพี่เจ้าประจำ(คนเดิม) พาเหาะเหินเดินอากาศผ่านซอกหลืบของผู้คนในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ เดือนตุลาคมปีที่แล้ว แวะเวียนเข้าร้านลุงใจดี แล้วหยิบหมับที่เล่มนี้พร้อมกับชุดควรค่าน่าเก็บของคุณศุภร บุนนาคสองสามเรื่อง (รสริน /รถเมล์สายพระพุทธบาท และแม้ความตายมาพราก) ในราคาเป็นกันเอง (แบบกระเป๋าเบานิดๆหน่อยๆ) อารามดีใจมากเลยเก็บซุกเอาไว้ก่อน แล้วค่อยระบายเรียงคิวขึ้นมาอ่านได้ในวันนี้ครับ ..

เรื่อง “ สไบทิพย์ ” เป็นนิยายที่ผูกเรื่องเขียนขึ้นมาด้วยท่วงท่าลีลาอ่อนละมุน ผมชอบทุกอย่างที่เป็นตัวอุณาโลม หรือ อุ๊ มากๆ เพราะความเป็นหญิงสาวนำสมัย กล้าพูดกล้าทำกล้าคิด ไม่ปิดบังความรู้สึกตนเองแม้ยามคับขัน ท่านพระองค์ชายก็ชอบเช่นกัน ... ดูท่านเหมือนจะเป็นต้นแบบสุภาพบุรุษที่สาวๆ สมัยนี้ใฝ่หาได้มาครอบครองทั้งความอ่อนโยน มีรักแท้จริงให้กับหญิงสาวที่ตนรักอย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปเป็นอื่น แม้จะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆก็ตาม ส่วนหม่อมเจ้าชายศิวะพงศ์และหม่อมเจ้าหญิงวงศ์ศศิธร เพ็ญสิทธิ์ถึงแม้จะเป็นตัวร้าย แต่ก็มีข้อดีในแง่ความรักพี่รักน้อง ถึงแม้จะเป็นรักที่ผิดๆก็ตามเถอะ .... ตัวละครอื่นๆก็น่าสนใจหลายตัว อย่างเช่น หลวงไพริน ลงยา พระยาสุระเดชเดชาชัย เป็นต้น

ผมไม่เฉลยว่า “สไบทิพย์” ในเรื่องมาเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของพระเอกนางเอกได้อย่างไงนะครับ ... เอาเป็นว่าวันนี้ขอเชิญชวนให้หนอนที่น่ารักไปค้นหาเอาในนิยายกันเองนะครับ สนุกแน่ ขอรับรองงงง

ผมคิดว่าความเป็นอมตะผ่านกาลเวลามายาวนานของ สไบทิพย์ คงไม่ทำให้หนอนรุ่นเก่ารุ่นใหม่ไปหาอ่านงานอมตะชิ้นโบว์แดงชิ้นนี้มาอ่านได้ไม่ยากมาก ... ใครเบื่อนิยายพล็อตเกาหลี ญี่ปุ่นลองมาอ่านงานทางเลือกของนักประพันธ์รุ่นเก่าๆที่ยังคงอมตะอย่างคุณน้อย ชลานุเคราะห์ดูนะครับ ... ผมรับรองล้านเปอร์เซ็นต์ว่าได้อะไรกลับไปแน่นอน ... สวัสดีวันมาฆบูชาครับ ...




 

Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2551 19:27:44 น.
Counter : 1346 Pageviews.  

มาลัยสามชาย * ว.วินิจฉัยกุล

มาลัยสามชาย ของ ว.วินิจฉัยกุล



“ มาลัยสามชาย ”เป็นนวนิยายในดวงใจของเพื่อนกันอยู่แล้ว เพราะเป็นงานเขียนชิ้นสำคัญของอาจารย์ที่อดทนรอคอยกันมายาวนานมากพอสมควร ... ผมไม่ได้ติดตามอ่านมาลัยสามชายจากพลอยแกมเพชร แต่ได้ติดตามรับฟังข่าวสารการจัดพิมพ์มาโดยตลอดกระทั่งได้ครอบครองเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ....

นวนิยายขนาดยาว ความหน้า ๗๕๔ หน้า เรื่องนี้บอกกล่าวถึงชีวิตผกผันตลอดเวลาของลอออร (นางเอกของเรื่อง) ที่มีวิถีทางแห่งความรักกับชายหนุ่มสามคนก็คือ ยศ พลาธร / หลวงโยธาบดี / เจ้าดิเรกรุจ โดยมีผู้หญิงสาวสวย ทรงเสน่ห์ร้อนแรงที่ชื่อ “ ทองไพรำ ” เป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราวทั้งเรื่องให้ดำเนินไปอย่างสุดเข้มข้น น่าติดตามอย่างที่สุด ยังไม่นำตัวละครอื่นๆที่น่าติดตามไม่แพ้กันอีกหลายตัว อย่างเช่น ทองหยด นายวิศาล คุณจรวย สมิตา ประยงค์ คุณหนูเดช คุณหนูเล็ก นิรินทร์ หลวงนรา เป็นต้น ...

ผมชอบตัวละครทุกตัวโดยเฉพาะนางเอก คือ ลอออร กับ ทองไพรำ ทั้งสองคนนี่เหมือนสีขาวกับสีดำ ฟ้ากับเหว นรกกับสวรรค์ สัจธรรมชีวิตสอนคนได้ฉันท์ใดเรื่องราวชีวิตผู้หญิงทั้งสองก็บอกอะไรเราได้มากมายฉันท์นั้น ...

อาจารย์วินิตาบรรจงเขียนเรื่องนี้ได้อย่างสุดยอดทั้งเนื้อหา บทสนทนา ตัวละคร ฉาก เหตุการณ์ดำเนินเรื่อง คติสอนใจให้ชีวิต หรือแม้แต่ความนึกคิดของตัวละครที่ทำให้ผู้อ่านคล้อยตามได้ตลอดทั้งเรื่องก็สุดยอด สุดยอด ....

เพราะฉะนี้ มาลัยสามชายจึงอ่านสนุก เข้มข้น น่าซื้อหาเก็บสะสมไว้ในชั้นหนังสือยิ่งนักแล ... ถึงแม้ความยาวของนิยายเรื่องนี้จะยาวมากๆ แต่ผมก็อ่านจบไปอินเข้าไปในเรื่องไปแบบสองรอบโดยใช้เวลาไม่นานนักเลย สนุกมากจริงๆ ขอบอกเป็นครั้งที่ร้อย อิอิ ....

วันนี้วันแห่งความรัก เลยอยากชวนหนอนจ๋าที่น่ารักทั้งหลาย หากใครยังไม่ได้อ่านมาลัยสามชายของอาจารย์วินิตาเรื่องนี้ก็ รีบๆไปหาจับจองอ่านซะนะครับ ราคา๔๕๐ บาท ของศรีธาราครับผม .... สวัสดีครับ





 

Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2551 19:13:40 น.
Counter : 2434 Pageviews.  

ผัดไทยไม่ใส่เส้น ของชมัยพร แสงกระจ่าง

ผัดไทยไม่ใส่เส้น ของชมัยพร แสงกระจ่าง


พออ่านนิยายเรื่องนี้จบ คำแรกที่นึกจะพูดก่อนอะไรก็คือ “ ขอบคุณนายกันเกรา พิลังกาสา ขอบคุณอาจารย์ชมัยพร แสงกระจ่างมาก ๆ ที่ช่วยให้ผมมองเห็นมุมมองชีวิตคนๆหนึ่งที่เริ่มต้นด้วยตัวเลขชีวิตติดลบ ก่อนจะฝ่าฟันหนามชีวิต หนักหนาสาหัสพ้นผ่านอุปสรรคมาได้แบบต้องร้อง ... โอ้โห! นี่เหรอชีวิตคน ๆ หนึ่ง มันช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน ... ”
นวนิยายขนาด ๔๐ กว่าตอนจบเรื่องผัดไทยไม่ใส่เส้น ของอาจารย์ชมัยพร บอกเรื่องราวชีวิตของกันเกรา ตั้งแต่เล็กจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ผ่านเรื่องราวโหด เลว ดีทุกรูปแบบจนจบเรื่อง....

กันเกรา พิลังกาสาที่มีอาชีพขับรถแท็กซี่รับจ้าง จนพบเจอกับนางเอกคือซูซี่ หรือดวงศศี สาวน้อยใจกล้าแห่งยุคสมัย จนเกิดเรื่องราวมากมายในตอนท้าย เรื่องนี้อาจารย์ชมัยพรเล่าเรื่องสลับกันไปมาระหว่างอดีตของกันเกรา กับปัจจุบันที่เป็นอยู่ .... ตัวละครหลายตัวมีบทบาทเข้มข้นเป็นน้ำจิ้มชั้นดี ที่อาจารย์ปรุงรสได้กลมกล่อมพอดิบพอดี เรียกได้ว่าอร่อยแซ่บอย่างลงตัว อาทิ พี่ตุ๊ก(ลัดดาวัลย์) ครูโป้ง นายอำเภอดำรู เพื่อนๆดวงศศี เป็นต้น รายละเอียดนวนิยาย ผมคัดเลือกมาจากเวปสนพ.คมบาง ดังนี้นะครับ ...

//www.combangweb.com/columnread.php?id=70

หลังจากอ่านผัดไทยไม่ใส่เส้น ของอาจารย์ชมัยพร แสงกระจ่างจบไปหนึ่งรอบ เกิดความรู้สึกอยากกลับไปอ่านงานเก่าๆของอาจารย์อีกหลายเล่มที่ข้ามผ่านมา อย่างแบ่งฟ้าปันดิน ตะวันขึ้นที่ภูพระบาท คุณปู่แว่นตาโต กุหลาบในสวนเล็กๆ มิ่งมิตรในสวนดอกไม้ เป็นต้น อาจเป็นเพราะผมอ่านงานของอาจารย์แล้วมีความรู้สึกว่าอาจารย์หยิบแง่มุมชีวิตพวกเราๆ หาเช้ากินค่ำได้อย่างเหมือนตาเห็น ...

ผมขอชื่นชมอาจารย์ในการที่จำลองชีวิตคนใช้แรงงาน ไม่ได้คดโกงชาติบ้านเมือง เอาเหงื่อแลกเงินแลกทองมาประทังความหิวของท้องไส้อย่างสู้ชีวิต ถึงแม้ตอนจบของเรื่องอาจารย์ไม่ได้บอกกับคนอ่านว่าชีวิตต่อไปของกันเกราจะเป็นยังไง? ทุกข์สุขต่อไปแค่ไหน ? แต่อย่างน้อยทุกคนก็รู้ว่าหนทางต่อสู้ของคนเรา ไม่มีคำว่าแพ้แน่ถ้ารู้จักคำว่า “ อดทน ” ...หาอ่านกันให้ได้นะครับ ...

วันนี้ วันศุกร์อีกครั้งแล้วครับ วันเวลาผ่านไปเร็วเหมือนติดปีกบิน ... ถ้าหนอนที่รักคิดอยากจะทำอะไรที่เป็นประโยชน์ก็ลงมือทำได้แล้วนะครับไม่เช่นนั้น ทุกอย่างอาจจะสายเกินไป เกินกว่าที่จะมีชีวิตที่ดี สวยงามอย่างกันเกรา พิลังกาสาก็เป็นได้ สวัสดีวันหยุดครับ ...





 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2551 11:49:39 น.
Counter : 2246 Pageviews.  

ดวงใจ * นวนิยายรางวัลสุภาว์ปีแรกของ “ ศิรินารี”

ดวงใจ * นวนิยายรางวัลสุภาว์ปีแรกของ “ ศิรินารี”



ตอนนี้สถานการณ์ทาง ๓ จังหวัดภาคใต้ยังไม่ดีขึ้นเลย พวกเราอยู่แนวหลังก็ได้แต่เอาใจช่วย ส่งกำลังใจและกำลังทรัพย์(ได้เท่าที่จะทำได้)ไปให้เหล่าตำรวจทหารกล้าได้มีแรงใจต่อสู้เพื่อแผ่นดินขวานทองของเราต่อไปอีกนานเท่านาน จนกว่าจะถึงวันนั้น ...

ดวงใจ เป็นนวนิยายชนะเลิศรางวัลสุภาว์ ในการประกวดครั้งแรก แต่งโดย “ ศิรินารี ” นักเขียนที่มีผลงานไม่มาก แต่ฝากฝีมือในนวนิยายเรื่องแรกจนฝ่าด่านกรรมการได้รางวัลที่ ๑ ....

นวนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวครอบครัวของตัวเอกคือ “สร้อยบุระ” กับ “วาที” พร้อมลูกชายสามหน่อ ท่ามกลางสถานการณ์อันเลวร้ายจังหวัดภาคใต้ที่ไม่แตกต่างจากเหตุการณ์ในวันนี้ ความสูญเสีย ความผิดหวัง ชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย ผู้คนรายรอบตัวล้มตายไปเรื่อย ๆ รุกคืบใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนคนอ่านมองภาพเหตุการณ์ได้ชัดเจนว่าตัวสร้อยบุระกับวาทีจะทำเช่นไรกับสถานการ์ร้ายเช่นนี้ ...

“ ศิรินารี ” บรรจงเขียนเรื่องนี้จนหนอนอย่างพวกเรามองภาพการแบ่งแยกดินแดนชัดเจนว่า น่าหวาดหวั่นมากๆ สมกับได้รับรางวัล ซึ่งท้ายเล่มมีสัมภาษณ์ผู้แต่งด้วยว่า “ เป็นเรื่องใกล้ๆตัวแล้วหยิบมาเขียน อย่างที่อยากจะเขียนมานาน...”

“ ดวงใจ ” นวนิยายขนาดสั้นที่น่าอ่านไว้เพื่อเปรียบเทียบเหตุการณ์ทางภาคใต้ในสมัยโน้นกับสมัยนี้ อยากให้ลองไปหาอ่านกันดูนะครับ อ่านสนุก สำนวนลื่นไหล ได้คติการครองชีวิต (ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน) สำหรับตัวคนเขียน “ ศิรินารี ” ไม่ค่อยเห็นผลงานของท่านเท่าไหร่แล้ว ... ถ้าหากเขียนงานออกมาอีก ผมคนหนึ่งล่ะครับจะขอเป็นแฟนพันธุ์แท้ด้วยคนครับ ...

ช่วงนี้ข้าวของแพง น้ำมันก็แพง มีทางรอดทางเดียวที่พวกหนอนอย่างพวกเราจะอยู่ได้บนโลกใบนี้ก็คือ ประหยัดทุกอย่างครับ สวัสดีวันตรุษจีนครับผม...









 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2551 16:08:51 น.
Counter : 1334 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  

เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.