จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
All Blogs
 
ปิมปา ... นวนิยายรางวัลสุภาว์ฯ ของชัญวลี ศรีสุขโข

ปิมปา* ชัญวลี ศรีสุขโข

“ เจ้าเป็นดอกเอื้องงามแห่งเมืองเหนือ แต่ชีวิตกลับหาความรื่นรมย์และงดงามดังดอกไม้ได้ไม่ เนื่องด้วยรอยกรรมแต่อดีต หากใช่ว่าชีวิตจะต้องประสบแต่ความทุกข์หรือผิดหวัง อนาคตข้างหน้าขึ้นอยู่กับการกระทำในตอนนี้ ปิมปา....หากเจ้ากระทำแต่สิ่งที่เลวร้าย เจ้าจะเป็นคนที่ร้ายอย่างหาใครเปรียบมิได้และต้องชดใช้กรรมกันไปไม่สิ้นสุด ปิมปา...หากเจ้ากระทำแต่สิ่งดีเจ้าจะเป็นคนที่ดีมิมีใครเทียบ ชีวิตก้าวต่อไปก็จะมีแต่ความสุขและความงดงาม สมเป็นดอกไม้แห่งเมืองเหนือไปชั่วนิรันดร์ ...”

ปิมปาเป็นเอื้องเหนือแสนสวย มีความงามหาใครมาเทียบทั้งบ้านเหนือบ้านใต้ ปิมปาอยู่กับยายคำแปงและสีมอย ความงามของเธอเป็นที่เลืองลือและหมายปองของใคร ๆ จนเกิดเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียอยู่ตลอดเวลา ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดตรงไหน ... กระทั่งจุดจบสุดท้ายของเรื่อง คนอ่านจะต้องลุ้นว่าระหว่างไอ้ใบ้ หน้าตาหล่อเหลา ผู้บูชารักแท้เทียบเท่าชีวิตหรือหมอเข้ม ผู้มีความหลังแสนเจ็บปวดยากจะลืมเลือน ใคร คนไหนจะได้หัวใจและครอบครองเอื้องเหนือที่ชื่อ “ปิมปา” คนนี้กันแน่ ต้องติดตาม ต้องติดตาม .....

ปิมปา เป็นงานเขียนที่ทรงพลัง อ่านสนุก วางไม่ลง สมแล้วครับที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ภาษาที่ใช้ในเรื่องเป็นภาษาเหนือเกือบทั้งหมด ความสมจริงของเรื่องดีมากมาก (ชอบ ชอบ อิอิ) การดำเนินเรื่องน่าตื่นเต้น ลุ้นไปตลอดจนจบเรื่อง ส่วนใครไม่ทราบภาษาเหนือจะมีคำแปลอยู่ท้ายเล่มครับ (เรื่องนี้น่าเอาไปทำเป็นละครโทรทัศน์) อ่านเรื่องปิมปา แล้วนึกถึงงานเขียนของอาจารย์มาลา คำจันทร์ ขึ้นมาตงิดๆ (เดี๋ยวจะกลับไปอ่านหัวใจพระเจ้าเสียที อิอิ แต่คิวอ่านยาวเหลือเกินนนนนน) //////////

ปิมปา (พิมพา) เป็นนวนิยายรางวัลสุภาว์เทวกุล ประจำปี ๒๕๔๑ ของชัญวลี ศรีสุขโข นักเขียนหญิงที่มากฝีมือและมีรางวัลการันตีคุณภาพงานเขียนมากมาย ประวัติของพี่ชัญวลี (ยกมาจากเวปประพันธ์สาส์น) ชัญวลี ศรีสุโข เป็นชาวจังหวัดเชียงใหม่ เกิดในครอบครัวศิลปินมีคุณแม่เป็นกวี-นักเขียน ใช้นามปากกาว่า นที ศรีสวัสดิ์ มีคุณตาเป็นช่างฟ้อนและครูดนตรีไทย หากมองในเวทีประกวดวรรณกรรมบ่อยครั้งมักจะมีชื่อของ ชัญวลี ศรีสุโข ติดโผอยู่เป็นประจำ ชัญวลี ศรีสุโข เป็นนักศึกษาทุนแพทยศาสตร์บัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปัจจุบันนี้ คุณหมอชัญวลี ศรีสุโขใช้ชีวิตครอบครัวที่แสนอบอุ่นกับ นายแพทย์พัฒนัตถ์ ศรีสุโขและบุตรชายอีก3คน นอกจากการเป็นสูติ-นรีแพทย์ ,หัวหน้าแผนกสูติ ของโรงพยาบาลพิจิตร ที่มีหน้าที่ค่อยตรวจรักษาผ่าตัดคนไข้ สอนหนังสือนักศึกษาแพทย์ เป็นวิทยากรทั้งรายการวิทยุและโทรทัศน์ แล้วเธอยังหาเวลาว่างเขียนหนังสือซึ่งถือว่าเป็นงานอีกอย่างที่เธอชอบและทุ่มเทกับมัน เริ่มเขียนหนังสือในปีพ.ศ.2537 เริ่มจากเขียนกลอนและกลอนเปล่าลงวารสารวงการแพทย์ ต่อมามีคนประท้วงว่า ไม่เกี่ยวกับวงการแพทย์ เลยเปลี่ยนมาเขียนบทความและเรื่องสั้น จากนั้นได้ส่งเรื่องสั้นไปตามนิตยสารต่างๆ ปีพ.ศ.2539 เรื่องสั้น“ยายของนุช’ ตีพิมพ์เป็นเรื่องสั้นเรื่องแรกในนิตยสารดิฉัน แล้วก็ได้ส่งเรื่องสั้นประกวดรางวัลสุภาว์ เทวกุล “ตาของหมอ”เป็นเรื่องสั้น1ใน10รางวัล“สุภาว์ เทวกุลฯ” ปีพ.ศ.2540 ต่อจากนั้นก็เริ่มเขียนเรื่องสั้น นวนิยาย วรรณกรรมเยาวชน บทความวิชาการ บทความแสดงความคิดเห็น ทั้งพิมพ์เป็นเล่ม ส่งประกวด และตีพิมพ์ในนิตยสารต่างๆ

รางวัลทางวรรณกรรม
“ตาของหมอ”เป็นเรื่องสั้น1ใน10รางวัล“สุภาว์ เทวกุลฯ”ปีพ.ศ.2540
“ปิมปา”เป็น นวนิยายรางวัล“สุภาว์ เทวกุลฯ”2541
“ครั้งหนึ่ง…”เป็น1ใน12เรื่องสั้นรางวัล”สุภาว์ เทวกุลฯ”2543
“ผู้เข้มแข็ง”เป็น1ใน15เรื่องสั้น รางวัลช่อปาริชาติ 2544
“หมอน้อยกายสิทธิ์”เป็นวรรณกรรมเยาวชนรางวัลชมเชยพระราชทาน แว่นแก้ว2544
“บัตรทองคำ”เป็นเรื่องสั้นดีเด่นรางวัลช่อปาริชาต2545
“เกน…เจ้ามังกรน้อย” รางวัลนิทานสีรุ้งยอดเยี่ยม 2546
“ม้าขี่ผีเจ้านาย”เรื่องสั้นการเมืองรางวัลชมเชยพานแว่นฟ้า จากรัฐสภา2546
“สัญชาตญาณ”เรื่องสั้นชนะเลิศ รางวัล อ.ไชยวรศิลป์ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ครั้งที่2,2547
“เกมมัจจุราช”พ็อคเก็ตบุ๊กส์รวมเรื่องสั้น รางวัลชมเชย 7-awards2547
“ระบำหุ่น”เรื่องสั้นการเมืองรางวัลชมเชยพานแว่นฟ้าจากรัฐสภา2547
“ต้นกล้า”วรรณกรรมรองชนะเลิศรางวัลดวงดาวของกระทรวงเทคโนโลยี่สารสนเทศและการสื่อสาร(ICT)(ไม่มีรางวัลชนะเลิศ)2548
“บัตรทองคำ” พ็อคเก็ตบุ๊กส์รวมเรื่องสั้น รางวัลชมเชยหนังสือดีเด่นประจำปี2548ของกระทรวงศึกษาธิการ
“ดังลมพัดผ่าน”เรื่องสั้นรางวัลชมเชยวิชิต โรจนประภาครั้งที่1 2548
“ปั้นเลขเป็นตัว” เรื่องสั้นการเมืองรางวัลชมเชยพานแว่นฟ้าจากรัฐสภา2548

นี่เป็นบทสัมภาษณ์ของพี่ชัญวลีฯ บางส่วนครับ ... เป็นหมอกับเป็นนักเขียนชอบอะไรมากกว่ากัน อาชีพหมอเป็นอาชีพที่รักและภาคภูมิใจอันดับหนึ่ง เขียนหนังสือรองลงมา เคยคิดว่าหากไม่ได้เป็นหมอหรือคนเขียนหนังสือจะรู้สึกอย่างไร คำตอบที่ตอบตนเองก็คือ คงเป็นอะไรก็ได้ ที่เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม ตอนเด็กๆอยากเป็นช่างฟ้อน และถ้าเป็นจริงโปงลางสะออนก็โปงลางสะออนเถอะ คิดว่าตนเองคงเป็นได้เหมือนกัน อาชีพหมอช่วยในเรื่องงานเขียนมากน้อยแค่ไหน ช่วยทั้งด้านผลัก และฉุด ด้านผลัก คือ อาชีพหมอนั้นทำให้เห็นวัฎจักรชีวิต เกิดแก่เจ็บตาย มีเรื่องสะเทือนใจให้เขียนถึง,เขียนหนังสือไม่กังวลกับรายได้ ด้านฉุดคือ อาจจะเขียนวนเวียนในอาชีพ ทำให้ซ้ำซาก บางเรื่องที่คนอื่นสะเทือนใจเราอาจจะเห็นจนชิน,เวลามีไม่มาก
ฝากถึงคนอยากเป็นนักเขียน อยากเขียนลงมือเขียนแต่อย่ามุ่งหวังสูง จงเชื่อว่าการเดินทางไปสู่ประตูความเป็นนักเขียนไม่มีทางลัด ไม่มีลิฟต์ ไม่มีวิธีอื่นใด นอกจากเคี่ยวกรำตนเอง อาศัยกำลังใจการลองผิดลองถูกและความอดทน หากมีผู้ที่เดินทางโดยทางลัดไม่ว่าจะด้วยวิธีใด สุดท้ายเขาก็มักจะหายสาบสูญจากการเป็นนักเขียน ...


วันนี้ก็เป็นวันเด็กแห่งชาติ ก็มาเชิญชวนหนอนที่รัก อ่านหนังสือกันเยอะๆ นะครับ ชาติบ้านเมืองเราจะได้เจริญ พ้นวิกฤตกันเสียที โชคดีกันทุกท่านครับผม ....






Create Date : 13 มกราคม 2551
Last Update : 13 มกราคม 2551 15:11:21 น. 5 comments
Counter : 2487 Pageviews.

 
ทำไมไม่เคยเห็นหนังสือเล่มนี้เลยหว่า


โดย: Boyne Byron วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:16:22:13 น.  

 
ขอบอกว่าอยากให้เล่มนี้มาก ๆ เลย เสียดายหาซื้อไม่ได้ค่ะ


โดย: ตอกะจอ วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:20:06:29 น.  

 
น่าอ่านจังค่ะ จะมีพิมพ์ใหม่ไหมเนี่ย
ตามร้านคงหายากแล้ว

จขบ. เคยอ่านนิยายของ "อิงอร" ไหมคะ?
เห็นอยู่ในร้านมือสองใกล้บ้าน ยังไม่ค่อยกล้าหยิบ
ถ้าเขียนดี จะได้ลอง


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:22:51:58 น.  

 
Boyne Byron ***** เรื่องนี้รอดสายตาหนอนตัวยงอย่างท่านไปได้ไง
ตอกะจอ *****เล่มนี้ผมยังเห็นในร้านหนังสือเก่าอยู่ครับ
ยาคูลท์ **** ไปหาอ่านให้ได้นะครับ อารมณ์ประมาณสาวเครือฟ้าอะครับ ส่วนนิยายของอิงอร ในสต็อกกระผ้มมีไม่กี่เล่ม นิทรา สายัน/ ดรรนีนาง/ธนูทอง/กลิ่นยี่โถแดง อะไรประมาณนี้แหละครับ ... สักประเดี๋ยวจะมารีวิวต่อจากนี้ครับ ..อิอิ


โดย: เมฆชรา IP: 203.113.56.72 วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:16:12:16 น.  

 
^
งั้นเดี๋ยวรอรีวิวค่ะ (แอบกดดัน อิอิ)

เพื่อนไปซื้อนิยายของอิงอรมาจากงานมหกรรมหนังสือฯ ครั้งล่าสุด ถ้าสนุก จะได้ไปไถๆๆๆ


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:18:12:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.