..ถ้าจักตายก็ขอตายในหน้าที่ ถ้าจักพลีก็ขอพลีแด่เหนือหัว ถ้าจักอยู่ก็ขออยู่เพื่อครอบครัว ถ้าจักชั่วก็ขอชั่วแก่ไพรี..
Group Blog
 
All Blogs
 
- ยุโรปภายใต้กรงเล็บพญาอินทรี -

*หลังจากผ่านพ้นช่วงสงครามเย็นกับค่ายคอมมิวนิสต์มา อเมริกาปรับเปลี่ยนท่าทีของตัวเองต่อนานาชาติแบบพลิกโฉม จากการที่เล่นบทเป็นผู้ให้ ช่วยเหลือประเทศนู้นประเทศนี้ในด้านการพัฒนาต่างๆ มาเป็นการเข้าแทรกแซงในทุกรูปแบบ ยุทธศาสตร์ทางการเมืองระหว่างประเทศและการทหารของอเมริกาเปลี่ยนโฉมหน้าจากพญาอินทรีที่เกาะเป็นร่มเงาให้ชาติเล็กชาติน้อยต่างๆ มาเป็นบินโฉบเฉี่ยวไปทั่วโลกเพื่อเป็นผู้ล่า จากที่เคยมียุทธศาสตร์เน้นในเชิงรับ มาเป็นเน้นไปที่เชิงรุก เพราะวิทยาลัยการสงครามของอเมริกาฟันธงภัยการคุกคามอเมริกาไปที่ยุโรปและตะวันออกกลาง อเมริการู้ดีว่าการเข้าแทรกแซงประเทศในยุโรปเป็นเรื่องยาก เพราะจะว่าไปแล้วประเทศในกลุ่มยุโรปเป็นเหมือนเครือญาติกันเกือบทั้งทวีปและมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับอังกฤษโจทย์เก่าของตัวเอง อเมริกาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อลากอังกฤษออกมาจากกลุ่มยุโรปเพื่อจะได้ตื๊บให้ถนัดๆ การผลักดันอย่างลับๆของอเมริกาเรื่องสกุลเงินยูโร ทำให้ยุโรปแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เพราะอเมริการู้ว่าประเทศในยุโรปที่มีกษัตริย์จะไม่ยอมเสียเอกราชในเรื่องนี้ การยุแหย่อาเจนติน่าอย่างลับๆให้งัดกับอังกฤษเรื่องเกาะฟอล์คแลนด์ เพื่อจะดูประสิทธิภาพที่แท้จริงของกองทัพเรืออังกฤษที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเจ้าสมุทรตัวจริง การขยายฐานทัพและเพิ่มกำลังทหารอเมริกาในเยอรมันและในตุรกีเป็นเหมือนการปิดล้อมยุโรปโดยปริยาย วันนี้อังกฤษที่เปรียบเสมือนผู้นำของยุโรปอ่อนแอลงทุกวันเพราะโดนอเมริกาตื๊บทางอ้อมทุกวัน เยอรมันก็อยู่ใต้อุ้งปีกอินทรีเพราะฐานทัพที่นั่นกลายเป็นฐานทัพหลักของอเมริกันภาคพื้นยุโรปไปแล้ว ส่วนซีกด้านยุโรปที่ติดกับเอเซีย ก็ยังมีฐานทัพหลักของอเมริกันอยู่ในตุรกีอีก
กลายเป็นว่าความมั่นคงของยุโรปกลายเป็นความมั่นคงของอเมริกาไปแล้วโดยทางอ้อม เป็นไงเห็นฤทธิ์พญาอินทรีตัวนี้หรือยัง จะเอาอะไรมันก็เอาจนได้ ขนาดชาติหลักๆในโลกแบบในยุโรปยังเสียท่าอเมริกันในทุกเรื่องทั้ง เศรษฐกิจ การเมือง การทหาร วันนี้อเมริกาจึงคืบคลานปนวิ่งเข้าสู่ตะวันออกกลางแบบเต็มตัว เพราะขืนช้าจีนจะมาแย่งไป ยุโรปเสียท่าอเมริกันเพราะความที่ทุกประเทศต่างถือตัวว่าเป็นชาติอารยันและเคยยิ่งใหญ่มาก่อนจึงทำให้ขาดความสามัคคีและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในทวีป ประมาณว่า ต่างคนต่างถือว่าตนก็เป็นมหาอำนาจชาติหนึ่ง ฝรั่งเศสก็คิดว่าตัวเองเป็นมหาอำนาจ อังกฤษก็ว่ากูก็เป็น เสปนก็ว่ากูก็ใช่ อิตาลีก็บอกกูก็ดูเหมือน เยอรมันก็ตะโกนว่ากูก็เคยเป็น ผลสุดท้ายมหาอำนาจตัวจริงอย่างอเมริกาก็เข้ามาบอกว่า กูนี่แหล่ะที่เจ้าพ่อมหาอำนาจตัวจริงที่จะบีบคอพวกมึงเมื่อไรก็ได้ ทุกชาติในยุโรปจึงต้องฟังอเมริกาจนทุกวันนี้*

**จากที่ผ่านมาเราได้เห็นถึงการแผ่ขยายอิทธิพลของอเมริกาไปแล้วกว่าครึ่งโลก อเมริกานั้นใช้หลักง่ายๆพื้นๆในการเจาะฐานประเทศต่างๆ การศึกษาถึงจุดอ่อนจุดแข็งของทวีปหรือประเทศเป้าหมายนั้น ทำให้อเมริกามองเห็นถึงช่องทางเข้าแทรกแซงประเทศต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ข้อมูลหลักๆที่อเมริกาได้มาประกอบเป็นนโยบายต่อประเทศต่างๆนั้น อเมริกาใช้คณะฑูตของตัวเองที่ส่งไปประจำทั่วโลกได้อย่างล้ำลึกเกินกว่าประเทศใดจะกล้าทำหรือล่วงรู้ คณะฑูตของอเมริกานั้นมีทุกฝ่ายมีทุกประเภทในหนึ่งสถานฑูตหรือกงศุล อเมริกาใช้สถานฑูตของตนเป็นศูนย์บัญชาการในการรวบรวมข้อมูลของพื้นที่นั้นๆส่งกลับไปให้ประเทศตัวเองวิเคราะห์ในทุกแง่มุม ประชากรศาสตร์ นิติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ของประเทศเป้าหมายจะถูกรวบรวมเป็นข้อมูลอย่างเรียลไทม์ตลอดเวลา อเมริกาจึงรู้ทุกอย่างของประเทศนั้นๆได้ดีกว่าเจ้าของประเทศนั้นๆซะอีก หากการใดที่อเมริกาได้ประโยชน์ รัฐบาลอเมริกันจะรีบแอ่นอกมาร่วมสนับสนุน หากการใดกระทบต่อประโยชน์ของอเมริกา รัฐบาลอเมริกาจะเข้าแทรกแซงทันที อเมริกาทำอย่างนี้กับทุกประเทศที่ตัวเองมีสถานฑูตและสถานกงศุลอยู่ บางคนอาจจะสงสัยว่า อเมริกันทำอย่างนี้เพื่ออะไร คำตอบก็คือ อเมริการู้ดีว่าตนเองนั้นมีแสนยานุภาพขนาดไหน มีพลังอำนาจอย่างไร การเก็บรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สต๊าฟของชั้นปกครองต้องรู้ เพื่อความแม่นยำในการออกนโยบายของอเมริกาต่อประเทศนั้นๆ การจัดลำดับ การจัดกลุ่ม การจัดความสำคัญ การจัดทิศทาง การจัดประเภท ในทุกแง่ของประเทศทั่วโลก เหล่านี้ล้วนเป็นภารกิจหลักที่สำคัญที่แอบแฝงไปกับหน้าที่ตัวแทนรัฐบาลอเมริกันของสถานฑูตอเมริกันทั่วโลก ทั้งสิ้น*












Create Date : 29 มีนาคม 2549
Last Update : 29 มีนาคม 2549 15:46:11 น. 1 comments
Counter : 394 Pageviews.

 
รบกวนเปลี่ยนขนาดอักษร/สีอักษรด้วยได้ไหมคะ
พอตัวเล็กแล้วสีขาวใกล้เคียงกับพื้นหลัง อ่านค่อนข้างยากนะคะเนี่ย ^^"

จริง ๆ นอกเหนือจากการใช้กำลังทางทหารและการทูต
สิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างก็คือการครอบงำผ่านทางเศรษฐกิจนะคะ
อย่างพวกแนว economic impercialism
ให้ประเทศโลกที่สามที่ด้อยพัฒนาต้องกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อโครงการ megaprojects
ที่เอื้อให้แค่คนกลุ่มน้อยกลุ่มเดียวแต่ต้องเป็นเหยื่อหนี้กับทั้งประเทศ

พอถึงเวลาเป็นหนี้ ก็ต้องไปกู้หนี้มาจาก IMF เพื่อปรับหนี้
ต้องปรับโครงสร้าง-เปิดเสรีแล้วแต่อเมริกาจะเรียกร้อง

หรือมิฉะนั้นการเป็นหนี้ ก็เป็นหลักประกันสำหรับอเมริกา
ในการเข้าถึงทรัพยากรของประเทศเหล่านี้ในราคาถูก

ลองอ่าน Confessions of an Economic Hitman (หรือฉบับแปลไทย: เพชฌฆาตเศรษฐกิจ)
ดูหรือยังคะ เพิ่งได้อ่านไป แล้วก็ชอบมาก ๆ เลย



โดย: หมาเลี้ยงแกะ วันที่: 31 มีนาคม 2549 เวลา:3:58:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Westpoint
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




* ทหารต้องมีวินัย วินัยเป็นเครื่องมือที่ใช้ควบคุมกองทัพ ทหารในกองทัพคือผู้ถืออาวุธของแผ่นดิน คำสั่ง สำหรับทหารนั้นคือสิ่งสำคัญที่เราไม่อาจละเลยได้ หากทหารทุกคนในทัพเอาความคิดของตนเป็นที่ตั้ง โดยไม่นำพาต่อวินัยในการเป็นผู้ถืออาวุธของชาติ ไม่ว่าตัวเล็กตัวน้อย อาวุธเล็กอาวุธน้อย กองทัพจะเป็นกองโจร ในการมีการใช้ในการถือครองอาวุธของแผ่นดินด้วยหน้าที่นั้น วินัยล้วนเป็นหลักทั้งสิ้น ในสังคมทหาร ในกรมกองทหาร ไม่มีคำว่าประชาธิปไตย ไม่มีการออกสิทธิออกเสียง ไม่มีโหวต ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับคำสั่งของผู้บังคับบัญชา การวางปืนแล้วหันหลังออกจากแนวไป ไม่สนใจไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชามิว่าด้วยเหตุผลใดไม่ว่าในสนามรบหรือในที่ตั้ง นั่นคือการหนีทัพ ในสนามรบนั้นหากทำอย่างนี้ ถูกยิงเป้าทันที หากทำนอกสนามรบ นั่นคือการละทิ้งหน้าที่ มีโทษไม่น้อยเหมือนกัน มีทหารอีกมากมายนักในกองทัพที่ไม่ได้เห็นด้วยกับผู้บังคับบัญชาไปทุกเรื่อง แต่ทำได้แค่คิดเท่านั้น เราไม่มีสิทธิโต้แย้งใดๆในคำสั่ง สิ่งเดียวที่ทำได้สำหรับระดับปฎิบัติคือ เมื่อเราเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ผิด เป็นคำสั่งที่ผิดศีลธรรมจรรยาของทหารแห่งชาติที่ดี ไม่ว่าด้วยแง่มุมใดๆ เรายังคงต้องปฎิบัติไปตามคำสั่งนั้น เราอาจทำให้ไม่สำเร็จ ทำได้แค่นี้เท่านั้น เราทำแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ นี่เป็นทางออกเดียวเท่านั้นของระดับผู้ปฎิบัติหรือระดับสั่งการในสนามเล็กๆ รูปการณ์อย่างนี้มิใช่ว่ามิเคยมี ตัวอย่างมีให้ดูมาแล้วจากในอดีต เรามิได้ผิดวินัย แต่เราทำตามความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในเบื้องลึกในจิตใจเท่านั้น นี่เป็นคำตอบที่ว่า ทำไมทหารค่อนกองทัพ ถึงต้องทำอย่างที่ประชาชนทุกคนเห็นตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ในรร.ทหารในระดับเริ่มต้น ก้าวย่างแรกของการเป็นทหาร ทุกคนในกองทัพจะต้องถูกหล่อหลอมเรื่องวินัยอย่างสุดขั้ว รร.ทหารที่ไหนๆในโลกก็ทำอย่างนี้กันทั้งนั้น เพราะทุกคนในโลกรู้กันดีว่า ผู้ที่จะจบออกไป จะเป็นผู้ที่ต้องถืออาวุธของชาติ และจะต้องใช้อาวุธในมือไปตามหน้าที่ และวินัยที่ รร.ทหารเฝ้าหลอมให้ทหารทุกคนนั่นก็คือ วินัยในการมีหน้าที่ ส่วนการจะถือจะใช้อาวุธในมือของตนตามหน้าที่และคำสั่งนั้น มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกเฉพาะตนในความเป็นชาติ และความเป็นคนไทยเท่านั้น *นี่เป็นสิ่งเดียวที่จะมีอำนาจเหนือกว่า หน้าที่ในทางเป็นจริงของทหาร *
Friends' blogs
[Add Westpoint's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.