|
|
|
- ใต้ปีกพญาอินทรีที่ตะวันออกกลาง -
*การรุกคืบและการเข้าแทรกแซงตะวันออกลางของอเมริกานั้นมีมานานแล้ว แต่วันนี้นโยบายเข้าแทรกแซงและควบคุมเสถียรภาพของตะวันออกกลางของอเมริกานั้น อเมริกาถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องจัดการ หลังจากที่สยายปีกอินทรีเข้าครอบงำยุโรปได้แล้ว เหตุที่อเมริกาไม่เข้าแทรกแซงตะวันออกกลางอย่างออกหน้าเต็มตัวอย่างทุกวันนี้ในตอนแรกๆก็คือ จากข้อมูลที่สถานฑูตอเมริกาในตะวันออกกลางทั้งหมดส่งกลับบ้านนั้น อเมริการู้ดีว่า ตะวันออกลางไม่ใช่ศัตรูที่จะกระทบประโยชน์อเมริกาได้อย่างเฉียบพลันเหมือนกลุ่มยุโรป เพราะกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางนั้นยังรวมตัวกันอย่างไม่แน่นหนา และอเมริกายังสามารถควบคุมบางประเทศแกนหลักย่านนั้นได้หากออฟไซด์หรือแอคชั่นมากไป แต่วันนี้นั้นอเมริกาเริ่มหันรัฐนาวามาทางนี้อย่างเต็มตัวและเปิดเผย การเข้าโจมตีและแทรกแซงตะวันออกกลางของอเมริกานั้น หากพูดเป็นภาษาไทยชาวบ้านก็ต้องใช้คำพูดที่ว่า" จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ขนมหวานกรอบ อเมริกันชอบจริงๆ" การใช้ประเด็นทางเชื้อชาติและศาสนาเข้าโจมตีประเทศย่านนี้นั้น อเมริกาทำมานานแต่เพิ่งจะมาเร่งเชื้อไฟเชื้อฟืนหรือราดน้ำมันลงไปเมื่อสองสามปีที่ผ่านไปนี้เอง การสนับสนุนทุกอย่างแก่อิสราเอลของอเมริกานั้น เหมือนกับเป็นการเอาระเบิดไปวางไว้ในภูมิภาคนี้ดีๆนี่เอง การตีกลุ่มโอเปคให้งัดกันเองซีไอเอของอเมริกาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม การยุแหย่ในเลบานอนซีไอเอก็ได้คะแนนเต็มอีก การสยายปีกเข้าสร้างฐานทัพขนาดมโหราฬในซาอุดิอาราเบียนั้นเป็นการตอกย้ำให้ตะวันออกกลางต้องคำนึงถึงพลังอำนาจของอเมริกาในภูมิภาคนี้หากคิดจะไปซบอำนาจอื่น การยกกองเรือขนาดปลาเห็นก็ช๊อคตายมาลอยลำอย่างยาวนานที่คาบสมุทรนี้ ล้วนเป็นการแสดงให้อำนาจอื่นหรือประเทศอื่นที่ไม่พอใจอเมริกาในนโยบายเซ็นทรัลเอเซียต้องหุบปากและทำได้แค่มองตาปริบๆ การเข้าครอบงำยูเอ็นที่เปรียบเหมือนกรรมการห้ามมวยนานาชาตินั้น ก็ยิ่งเหมือนเป็นเครื่องมือชั้นดีในการเข้างาบผลประโยชน์ในภูมิภาคต่างๆ อเมริกานั้นชาติที่แล้วคงทำบุญมาเยอะ ชาตินี้จึงเหมือนถูกหวย เพราะเมื่ออิรัคบุกเข้าไปตื๊บคูเวตด้วยเหตุผลที่โคตรโง่ของซัดดัม อเมริกาจึงเหมือนได้บอลมาหน้าโกลล์ ชู๊ทเข้าโกลล์ ออกนำจีนไป 3-0 อย่างเหนือชั้น เหมือนถูกหวยรางวัลปรกติและรางวัลพิเศษไปพร้อมๆกันจากการซื้อครั้งเดียว ที่ว่าออกนำจีนไป3-0นั้นคือ 1-0ลูกแรกคือการที่ซาอุยอมให้อเมริกันไปตั้งฐานทัพในประเทศ ซึ่งอเมริกาก็ขนไปตั้งอย่างชนิดที่ซาอุก็ยังตกใจว่า "นี่มึงจะมาตั้งฐานทัพหรือจะมายึดกูกันแน่เนี่ย" ซึ่งนั่นก็หมายถึงในทางพฤตินัยนั้นซาอุฯเสียเอกราชไปแล้ว(จำไว้นะคนไทย อย่าให้ใครมาตั้งฐานทัพที่บ้านเราเป็นอันขาด)เพราะนิสัยอย่างอเมริกันนั้น เข้าแล้วจะไม่ยอมออกง่ายๆหรอก แน่จริงซาอุฯมึงลองแถลงข่าวไล่อเมริกาดูสิ เดี๋ยวก็จะรู้ว่าหมู่หรือจ่า 2-0ลูกที่สองนั้นคือ การยกหมื่นศึกโยธาหารเข้าปลดปล่อยคูเวต ประเทศเล็กกระจิ๊ดริ๊ดอย่างคูเวตนั้น อเมริกายังไม่ทันเอาจริงเลย ทหารอิรัคเผ่นจากคูเวตแทบไม่ทัน จบเห่ อเมริกันเข้าควบคุมคูเวตไปเรียบร้อยโรงเรียนจอร์จดับเบิ้ลยูบุช ก็เหมือนเดิมอีกเข้ามาแล้วไม่ยอมออกง่ายๆ คูวตคงงงไม่หายจนทุกวันนี้ว่า "นี่มึงมาช่วยกู้กรุงให้กู หรือมึงจะมายึดกูต่อเนี่ย" 3-0ลูกที่สามนั้นคือ เมื่อไล่ทัพโจรอิรัคออกจากคูเวตไปแล้วด้วยความยังไม่หายมันส์ของอเมริกา จึงประกาศให้ชาวโลกได้รู้ถึงความชอบธรรมในการจะเข้าไปเต่ะสั่งสอนอิรัคให้หายโง่ในบ้านของเขา ชาวโลกก็ได้แต่ทำตาปริบๆต่อไป ยุโรปเงียบกริบ จีนก็พูดไม่ออก รัสเซียก็ได้แต่ทำฮึดฮัด เพราะยูเอ็นกรรมการห้ามมวยเสือกเข้าข้างอเมริกาซะแล้วตั้งแต่ยังไม่ต่อย ผลสุดท้าย อิรัคเสร็จไปอีกหนึ่ง เข้าแล้วไม่ออกอีกเหมือนเดิม ยึดไว้หน้าตาเฉย มิไยที่ชาวโลกจะด่าว่าให้ถอนตัวได้แล้ว สงครามสงบแล้ว จับซัดดัมได้แล้วจบภารกิจแล้วออกมาได้แล้ว อเมริกาแรกๆก็เฉยทำไม่รู้ไม่ชี้ สุดท้ายอเมริกาก็คิดได้ว่า บทนี้อาจเอาไปใช้กับชาติอื่นที่อื่นได้อีก อย่ากระนั้นเลยจำเราต้องยอมทำตามชาวโลกสักครั้งเพื่อรักษาภาพลักษณ์ตำรวจโลก ว่าแล้วก็แอบไปวางระเบิดในอิรัคตามเมืองต่างๆ ตรงนู้นตูม ตรงนี้ตูม ตายกันทุกวันวันละหลายสิบ เน้นเป้าหมายไปที่พลเรือนอิรัคเป็นหลัก ตูมของตัวเองมั่งเล็กๆน้อยพอให้สมจริง ทำแบบนี้ไปสักพักแล้ววันดีคืนดี อเมริกาก็ประกาศต่อชาวโลกว่า "ที่อิรัคยังไม่สงบ สาธารณูปโภคพื้นฐาน ความปลอดภัยในเบื้องต้นถูกทำลาย ต้องมีคนมาดูแลแก้ปัญหาเรื่องนี้" งานนี้อเมริกาเขี่ยลูกเอง เลี้ยงเอง ยิงเอง แล้วก็เหมือนเดิม เข้าแล้วเรื่องจะให้ออกง่ายๆ นั่นมันสงครามเวียดนามแล้ว นี่เป็นอเมริกันยุคดิจิตอล คำตอบสุดท้ายต่อชาวโลกคือ "กูอเมริกันขออยู่อิรัคต่อ พื่อสร้างสรรค์สันติภาพ หากใครไม่ไว้ใจกู กลัวว่ากูจะยึดเอาไว้เหมือนคูเวต ก็ให้ยูเอ็นส่งทหารมาร่วมเฝ้ากับกู กำลังรบไม่ต้องเอามานะ กูอเมริกันกับลูกสมุนอังกฤษจัดการเองได้ เอามาแต่หมอกับช่างก็พอ เอากำลังรบมาเดี๋ยวรู้หมดว่ากูแอบทำอะไรที่นี่" แล้วอเมริกาก็อมอิรัคไว้ในปากต่อไป แล้วก็จะใช้ที่นี่เป็นที่นอนอาบแดดเพื่อดูผลงานของคู่ซี้อิสราเอล ที่กำลังจะเล่นบทกวนตีนอาหรับทั้งหลาย เพื่อให้พวกแขกอาหรับกัดกันเองเรื่องอิสราเอล *
| Create Date : 29 มีนาคม 2549 | | |
| Last Update : 29 มีนาคม 2549 15:59:45 น. |
| Counter : 357 Pageviews. |
| |
|
 |
|
|
|
|
|
* ทหารต้องมีวินัย วินัยเป็นเครื่องมือที่ใช้ควบคุมกองทัพ ทหารในกองทัพคือผู้ถืออาวุธของแผ่นดิน คำสั่ง สำหรับทหารนั้นคือสิ่งสำคัญที่เราไม่อาจละเลยได้ หากทหารทุกคนในทัพเอาความคิดของตนเป็นที่ตั้ง โดยไม่นำพาต่อวินัยในการเป็นผู้ถืออาวุธของชาติ ไม่ว่าตัวเล็กตัวน้อย อาวุธเล็กอาวุธน้อย กองทัพจะเป็นกองโจร ในการมีการใช้ในการถือครองอาวุธของแผ่นดินด้วยหน้าที่นั้น วินัยล้วนเป็นหลักทั้งสิ้น
ในสังคมทหาร ในกรมกองทหาร ไม่มีคำว่าประชาธิปไตย ไม่มีการออกสิทธิออกเสียง ไม่มีโหวต ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับคำสั่งของผู้บังคับบัญชา การวางปืนแล้วหันหลังออกจากแนวไป ไม่สนใจไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชามิว่าด้วยเหตุผลใดไม่ว่าในสนามรบหรือในที่ตั้ง นั่นคือการหนีทัพ ในสนามรบนั้นหากทำอย่างนี้ ถูกยิงเป้าทันที หากทำนอกสนามรบ นั่นคือการละทิ้งหน้าที่ มีโทษไม่น้อยเหมือนกัน มีทหารอีกมากมายนักในกองทัพที่ไม่ได้เห็นด้วยกับผู้บังคับบัญชาไปทุกเรื่อง แต่ทำได้แค่คิดเท่านั้น เราไม่มีสิทธิโต้แย้งใดๆในคำสั่ง
สิ่งเดียวที่ทำได้สำหรับระดับปฎิบัติคือ เมื่อเราเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ผิด เป็นคำสั่งที่ผิดศีลธรรมจรรยาของทหารแห่งชาติที่ดี ไม่ว่าด้วยแง่มุมใดๆ เรายังคงต้องปฎิบัติไปตามคำสั่งนั้น เราอาจทำให้ไม่สำเร็จ ทำได้แค่นี้เท่านั้น เราทำแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ นี่เป็นทางออกเดียวเท่านั้นของระดับผู้ปฎิบัติหรือระดับสั่งการในสนามเล็กๆ รูปการณ์อย่างนี้มิใช่ว่ามิเคยมี ตัวอย่างมีให้ดูมาแล้วจากในอดีต เรามิได้ผิดวินัย แต่เราทำตามความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในเบื้องลึกในจิตใจเท่านั้น
นี่เป็นคำตอบที่ว่า ทำไมทหารค่อนกองทัพ ถึงต้องทำอย่างที่ประชาชนทุกคนเห็นตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ในรร.ทหารในระดับเริ่มต้น ก้าวย่างแรกของการเป็นทหาร ทุกคนในกองทัพจะต้องถูกหล่อหลอมเรื่องวินัยอย่างสุดขั้ว รร.ทหารที่ไหนๆในโลกก็ทำอย่างนี้กันทั้งนั้น เพราะทุกคนในโลกรู้กันดีว่า ผู้ที่จะจบออกไป จะเป็นผู้ที่ต้องถืออาวุธของชาติ และจะต้องใช้อาวุธในมือไปตามหน้าที่ และวินัยที่ รร.ทหารเฝ้าหลอมให้ทหารทุกคนนั่นก็คือ วินัยในการมีหน้าที่ ส่วนการจะถือจะใช้อาวุธในมือของตนตามหน้าที่และคำสั่งนั้น มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกเฉพาะตนในความเป็นชาติ และความเป็นคนไทยเท่านั้น *นี่เป็นสิ่งเดียวที่จะมีอำนาจเหนือกว่า หน้าที่ในทางเป็นจริงของทหาร *
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [