..ถ้าจักตายก็ขอตายในหน้าที่ ถ้าจักพลีก็ขอพลีแด่เหนือหัว ถ้าจักอยู่ก็ขออยู่เพื่อครอบครัว ถ้าจักชั่วก็ขอชั่วแก่ไพรี..
Group Blog
 
All Blogs
 

*เงาพญาอินทรีในฟิลิปปินส์ เป้าหมายแรกของเอเชียอาคเนย์*

**ช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น อเมริกันพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะแผ่ขยายอิทธิพลของตนในทุกด้านเข้ามาในภูมิภาคนี้หลังจากพ่ายแพ้สงครามในเวียดนาม อเมริกันเบนเข็มมุ่งไปลงหลักปักฐานที่ฟิลิปปินส์ โดยมีฐานทัพทหารขนาดใหญ่ไว้คอยซับพอร์ทกองกำลังของตนที่ปฎิบัติการยั่วยุ ยุแหย่ ราดน้ำมัน มือที่สาม ในย่านนี้ แต่แล้ววิบากรรมของอเมริกาในฟิลิปปินส์ก็เกิดขึ้นจากความเห็นแก่ตัวของอเมริกาเอง การสูบเลือดสูบเนื้อ การแทรกแซงรัฐบาลฟิลลิปินส์ การครอบงำองค์กรทางการเมืองและระบบราชการของฟิลิปปินส์ ทำให้ขุนทหารและประชาชนกว่าครึ่งประเทศของฟิลิปปินส์ที่มีการศึกษา ต่างมองเห็นภัยของอเมริกาที่มาในรูปแบบมหามิตรประเทศ การที่อเมริกาเขาสิงร่างคณะรัฐบาลของฟิลิปปินส์เพื่อให้ออกกฎหมาย ให้สิทธิ กำหนดทิศทางบริหาร เหล่านี้ล้วนแต่นำพาฟิลิปปินส์ไปสู่การไร้เสถียรภาพของประเทศ องค์กรทั้งรัฐทั้งเอกชนต่างอ่อนแอและไร้ความหมาย การทุจริตคอรัปชั่นกลายเป็นสิ่งที่กัดกร่อนฟิลิปปินส์อย่างรุนแรง ในที่สุดกลุ่มคนที่มองเห็นภัยของอเมริกานั้นก็ลูกขึ้นปลดแอกที่แอบแฝงมากับมหามิตรอย่างอเมริกา นำมาสู่การยกเลิกฐานทัพอเมริกัน การปฎิรูปการเมืองและระบบราชการอย่างขนานใหญ่ ก่อนอเมริกันจะออกจากร่างฟิลิปปินส์ไปนั้น อเมริกันยังวางระเบิดเวลาไว้ตามแบบฉบับอังกฤษอดีตเมืองแม่ของอเมริกันไว้ด้วย นั่นคือการทิ้งอาวุธ ความคิด และทฤษฎีของการมีสิทธิเท่าเทียม ไว้กับชนกลุ่มน้อยตามเกาะต่างๆของฟิลลิปปินส์ที่มีเป็นพันเกาะ นั่นคือ การทิ้งเชื้อพันธุ์ของการแบ่งแยกดินแดน เพราะอเมริกันเสียดายที่ตั้งทางทหารชั้นเลิศทางทะเลที่นี่ ยังต้องทิ้งพันธุ์แห่งความแตกแยกไว้ที่นี่เผื่อวันหนึ่งอเมริกันจะกลับเข้ามาเหมือนอย่างที่ นายพลแมคอาเธอร์เคยกล่าวไว้ตอนสงครามโลกครั้งที่๒ ก่อนเสียฟิลิปปินส์ให้แก่ญี่ปุ่น**

***แล้วอเมริกันก็กลับมาจริงๆจากข้ออ้างที่ตนเองทิ้งเชื้อไว้ก่อนจากเมื่อครั้งที่แล้ว ด้วยเหตุผลของการมาช่วยเหลือในการปราบปรามผู้ก่อการร้ายทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ อเมริกาเริ่มให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ฟิลิปปินส์อีกครั้ง มีการส่งทหารอเมริกันมาเป็นที่ปรึกษาและช่วยรบ อเมริกันมาแบบเดิมอีกแล้ว แบบที่เมื่อก่อนเข้ามาก็แบบนี้ ฟิลิปปินส์เองก็เจ็บแล้วไม่จำ ยังคงดำเนินการต่างๆในเกือบทุกเรื่องภายใต้การช่วยเหลือของอเมริกา การเข้ามาใหม่ของอเมริกาในฟิลิปปินส์ครั้งนี้คอยดูไปเถิด ฟิลิปปินส์จะโงหัวไม่ขึ้นยิ่งกว่าครั้งเก่า เพราะนิสัยอย่างอเมริกันนั้นความพ่ายแพ้เป็นบทเรียนเสมอ ครั้งนี้ของอเมริกันจะแก้ทางมาแล้วเป็นอย่างดี เห็นได้จากทำเนียบขาวตั้งทีมพิเศษไว้เพื่อทำงานในฟิลิปปินส์อย่างเดียว ทั้งการทหาร การเมือง และเศรษฐกิจ คราวนี้มันเอาถึงตาย เพราะต้องการฟิลิปปินส์ไว้เป็นฐานทัพที่คอยสกัดจีนเข้าสู่ตะวันออกกลางทางทะเลในแง่การทหาร และฐานทัพที่จะเกิดใหม่นี้จะควบคุมจุดยุทธศาสตร์ทางทะเลของย่านนี้ร่วมกับออสเตรเลีย เป็นการบล๊อคกองทัพเรือจีนที่ร้ายกาจมากหากเกิดสงคราม ในแง่ของการเมืองและเศรษฐกิจนั้น วันนี้ฟิลิปปินส์ในสายตาอเมริกันไม่มีอะไรให้อเมริกาสูบอีกแล้ว มีแต่การทหารและการเมืองเท่านั้นที่อเมริกาจะเข้ามาครอบงำจนถึงเข้าสิงสู่ไปตลอดกาล อเมริกากำลังย้อนศรพวกคอมมิวนิสต์ในเอเชียด้วยการใช้แผนป่าล้อมเมืองมาใช้บ้าง อเมริกาจะเข้าครอบงำทีละชาติจากรอบนอกของย่านนี้ การปั่นสงครามในป่า การปั่นสงครามในเมือง เป็นสิ่งที่อเมริกาจะใช้เป็นเหตุเข้าแทรกแซงชาติต่างๆในย่านนี้ หากเราจะสังเกตุให้ดีจะรู้ว่า ที่ใดที่อเมริกาเข้าไปยุ่มย่าม ที่นั้นมักจะไม่สงบ มักจะเกิดสงครามแบ่งแยกดินแดน การก่อการร้าย การพิพาทระหว่างดินแดน จากนั้นอเมริกันก็จะเข้ามาเพื่อช่วยเหลือเรื่องพวกนี้ในฐานะมิตรประเทศหรือในความช่วยเหลือทางทหาร ซึ่งหากชาติใดไม่รู้เท่าทันยอมรับการช่วยเหลือที่มาในรูปแบบต่างๆ ทั้งการฝึกร่วม การช่วยเหลือด้านอาวุธ การช่วยเหลือด้านการเงิน การส่งทีมทางทหารมาให้คำปรึกษา นั่นก็เหมือนการเปิดประตูรับข้าศึกเข้ามาในบ้านโดยไม่รู้ตัว อเมริกาจะเริ่มขยายวงล้อมและเงื่อนไขออกไปเรื่อยๆ ไม่ช้าก็จะบีบบังคับและแทรกแซงการเมืองการบริหารของประเทศนั้นๆ ในที่สุดก็จะเข้าสิงสู่แบบเต็มๆตัว เพื่อรีดเอาผลประโยชน์ที่อเมริกันต้องการในทุกรูปแบบ ฟิลิปปินส์นั้นเคยโดนแบบนี้มาแล้ว ครั้งนี้ก็กำลังโดนอีก ขอพยากรณ์ไว้ว่าไม่ช้าฟิลิปปินส์จะต้องมีสงครามกลางเมือง ที่ขยายตัวมาจากสงครามก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน และเหตุเหล่านี้จะยุติเมื่ออเมริกายาตราเข้าฟิลิปปินส์แบบเต็มตัว ***










 

Create Date : 02 เมษายน 2549    
Last Update : 16 ธันวาคม 2552 15:59:21 น.
Counter : 479 Pageviews.  


Westpoint
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




* ทหารต้องมีวินัย วินัยเป็นเครื่องมือที่ใช้ควบคุมกองทัพ ทหารในกองทัพคือผู้ถืออาวุธของแผ่นดิน คำสั่ง สำหรับทหารนั้นคือสิ่งสำคัญที่เราไม่อาจละเลยได้ หากทหารทุกคนในทัพเอาความคิดของตนเป็นที่ตั้ง โดยไม่นำพาต่อวินัยในการเป็นผู้ถืออาวุธของชาติ ไม่ว่าตัวเล็กตัวน้อย อาวุธเล็กอาวุธน้อย กองทัพจะเป็นกองโจร ในการมีการใช้ในการถือครองอาวุธของแผ่นดินด้วยหน้าที่นั้น วินัยล้วนเป็นหลักทั้งสิ้น ในสังคมทหาร ในกรมกองทหาร ไม่มีคำว่าประชาธิปไตย ไม่มีการออกสิทธิออกเสียง ไม่มีโหวต ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับคำสั่งของผู้บังคับบัญชา การวางปืนแล้วหันหลังออกจากแนวไป ไม่สนใจไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชามิว่าด้วยเหตุผลใดไม่ว่าในสนามรบหรือในที่ตั้ง นั่นคือการหนีทัพ ในสนามรบนั้นหากทำอย่างนี้ ถูกยิงเป้าทันที หากทำนอกสนามรบ นั่นคือการละทิ้งหน้าที่ มีโทษไม่น้อยเหมือนกัน มีทหารอีกมากมายนักในกองทัพที่ไม่ได้เห็นด้วยกับผู้บังคับบัญชาไปทุกเรื่อง แต่ทำได้แค่คิดเท่านั้น เราไม่มีสิทธิโต้แย้งใดๆในคำสั่ง สิ่งเดียวที่ทำได้สำหรับระดับปฎิบัติคือ เมื่อเราเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ผิด เป็นคำสั่งที่ผิดศีลธรรมจรรยาของทหารแห่งชาติที่ดี ไม่ว่าด้วยแง่มุมใดๆ เรายังคงต้องปฎิบัติไปตามคำสั่งนั้น เราอาจทำให้ไม่สำเร็จ ทำได้แค่นี้เท่านั้น เราทำแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ นี่เป็นทางออกเดียวเท่านั้นของระดับผู้ปฎิบัติหรือระดับสั่งการในสนามเล็กๆ รูปการณ์อย่างนี้มิใช่ว่ามิเคยมี ตัวอย่างมีให้ดูมาแล้วจากในอดีต เรามิได้ผิดวินัย แต่เราทำตามความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในเบื้องลึกในจิตใจเท่านั้น นี่เป็นคำตอบที่ว่า ทำไมทหารค่อนกองทัพ ถึงต้องทำอย่างที่ประชาชนทุกคนเห็นตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ในรร.ทหารในระดับเริ่มต้น ก้าวย่างแรกของการเป็นทหาร ทุกคนในกองทัพจะต้องถูกหล่อหลอมเรื่องวินัยอย่างสุดขั้ว รร.ทหารที่ไหนๆในโลกก็ทำอย่างนี้กันทั้งนั้น เพราะทุกคนในโลกรู้กันดีว่า ผู้ที่จะจบออกไป จะเป็นผู้ที่ต้องถืออาวุธของชาติ และจะต้องใช้อาวุธในมือไปตามหน้าที่ และวินัยที่ รร.ทหารเฝ้าหลอมให้ทหารทุกคนนั่นก็คือ วินัยในการมีหน้าที่ ส่วนการจะถือจะใช้อาวุธในมือของตนตามหน้าที่และคำสั่งนั้น มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกเฉพาะตนในความเป็นชาติ และความเป็นคนไทยเท่านั้น *นี่เป็นสิ่งเดียวที่จะมีอำนาจเหนือกว่า หน้าที่ในทางเป็นจริงของทหาร *
Friends' blogs
[Add Westpoint's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.