..ถ้าจักตายก็ขอตายในหน้าที่ ถ้าจักพลีก็ขอพลีแด่เหนือหัว ถ้าจักอยู่ก็ขออยู่เพื่อครอบครัว ถ้าจักชั่วก็ขอชั่วแก่ไพรี..
Group Blog
 
All Blogs
 
*ทหารจะรบตามตำราหรือสัญชาตญาณ*

*ทหารจะรบตามตำราหรือตามสัญชาตญาณ*
**ประโยคนี้เป็นคำถามยอดฮิตของ รร.ทหารทั่วโลก เมื่อใดที่ทหารเข้าสู่สนามรบ สติสัมปชัญญะเป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนยุทธวิธีในการรบ หากขาดสติ ขาดปัญญา อาจนำไปสู่การสูญเสียทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมรบ ส่งผลถึงการแพ้-ชนะ ผู้นำหน่วยในสนาม เป็นตัวแปรหลักที่จะคิด พิจารณาและสั่งการ เพื่อเข้าสู่ยุทธวิธีที่ตัวเองร่ำเรียนและฝึกฝนมา ผู้นำหน่วยที่ดีจะถูกฝึกฝนทั้งด้านวิชาการทหารและจิตวิทยา การปกครอง แต่การมีสตินั้นเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการคาดหมายใดๆ พื้นฐานครอบครัว การศึกษาแนวคิด ประสบการณ์ และจิตเวชส่วนตัว เป็นสิ่งที่กำหนดการการมีสติของแต่ละบุคล**

***ผู้นำหน่วยที่กล้าหาญ อาจพาลูกน้องไปตายทั้งหน่วย หากกล้าหาญแบบขาดสติ กล้าหาญแบบโง่ๆผู้นำหน่วยที่กล้าหาญ อาจพากองทัพสู่จุดอับ หากความกล้าหาญนั้น ขาดการระวังรอบคอบอย่างมีสติตำราทางทหารทุกเล่ม ล้วนสอนให้มุ่งเอาชัย และพร่ำสอนให้ยอมตายเพื่อชาติ พลีชีพในสนามรบยอมตายอย่างมีเกียรติดีกว่าอยู่เป็นเชลยศึก ทหารทุกคนไม่ว่าชาติไหนจะถูกสอนกันมาอย่างนี้ ผมเองก็ถูกสอนมาอย่างนี้
แต่สัญชาตญาณของมนุษย์นั้น เป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิดกับมนุษย์ทุกคน นั่นคือ การดิ้นรนเพื่อการมีชีวิตรอด
เอาล่ะสิ ตำราที่เรียนมาสอนให้ยอมตายเพื่อชาติ แต่สัญชาตญาณดิบของมนุษย์คือการดิ้นรนเพื่ออยู่ ขัดแย้งกันอย่างแรง***

****ทางออกสุดท้ายที่วิจัยกันมาแล้วจากสถาบันชั้นเลิศอย่าง เวสพอยท์ ดันทรูน แซนเฮิร์ท ส่วน จปร.นั้นผมไม่ทราบเพราะไม่ได้จบที่นั่น ผลเป็นอย่างนี้ สติปัญญา คือสิ่งที่ทุกสถาบันเลือกเอาเป็นสิ่งควบคุมรอยต่อของทั้งสองประเด็นที่ขัดแย้งกัน สติปัญญาของผู้นำหน่วยเท่านั้นที่จะพาให้หน่วยรอดพ้นจากจุดสุดท้ายคือการยอมตายคาสนามรบ สติปัญญาของผู้นำหน่วยเท่านั้นที่จะพาให้หน่วยรอดพ้นจากการถูกบีบคั้นจนวิกฤตจนกระตุ้นให้สัญชาตญาณเดิมของมนุษย์ถูกขับเคลื่อน พูดง่ายๆตามประสาไทยแท้คือ เอาชนะข้าศึกให้ได้ก่อนมันจะฆ่าเรา หรือไม่ก็ ยกกองร้อยหนีให้พ้นข้าศึกเพราะใช้ปัญญาวิเคาระห์แล้วว่า หมดทางสู้ ไม่มีทางสู้ตอนนี้ ไม่พร้อม ที่มั่นไม่ดี ชัยภูมิเสียเปรียบ เรากองร้อยเดียว ข้าศึกหนึ่งกองพล หลบไปก่อนแล้วค่อยวางแผนทีหลัง ก็แล้วแต่ผู้นำหน่วยจะกล่าวอ้างกันไป เพื่อให้พ้นจุดที่ขัดแย้งระหว่าง จะยอมตายตามตำรา หรือ จะเอาชีวิตรอดตามสัญชาตญาณ****

*****ในสถานการณ์การรบจริงในหลายๆสมรภูมิรบในอดีต เราจะเห็นภาพเชลยศึก ไม่ว่า เยอรมัน อังกฤษ อเมริกันญี่ปุ่น ฝรั่งเศส รัสเซีย ฮอลแลนด์ ออสเตรเลีย จีน ไม่ว่าชาติใหญ่ชาติเล็ก ไม่ว่าชาติมหาอำนาจ หรือชาติทั่วๆไป หรือแม้กระทั่งชาติที่ยอมรับกันว่ามีการทหารชั้นเลิศ อย่างเยอรมัน ชาติที่มีอุดมการณ์รุนแรงอย่างญี่ปุ่น ต่างก็มีทหารของตนยอมแพ้และตกเป็นเชลยศึกในการรบต่างๆ ดังนั้นจึงเป็นข้อยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าสัญชาตญาณดิบดั้งเดิมของมนุษย์คือการอยู่รอด เมื่อใดเมื่อมันถูกขับเคลื่อน มนุษย์อย่างเราๆท่านๆก็จะเลือกทางรอด ดังนั้นมิติของสงครามในสมัยปัจจุบันจึงเน้นสร้างเสริมสติปัญญาของทหาร มากกว่าการทำให้เก่งทางการรบอย่างเดียว จึงเกิดสถาบันทางการศึกษาของทหารอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และเกิดหลักสูตรต่างๆของทหารเป็นร้อยเป็นพันหลักสูตร เพื่ออะไร ก็เพื่อเสริมสร้างสติปัญญาจากเดิมที่มีอยู่ ให้มากขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีสิ้นสุด ยิ่งรู้มากยิ่งตัดสินใจดี ยิ่งเรียนมากยิ่งอ่านทางศึกออก ยิ่งมีประสิทธิภาพทาง
การรบมากยิ่งลดโอกาสตายมาก ดังนั้นการเรียนรู้ของทหารแบบตลอดชีวิต จะทำให้ทหารหลีกพ้นจากการยอมตายคาสนามรบซึ่งหากทหารทุกคนเลือกได้ และมีโอกาศเลือก แน่นอนทุกคนว่าคงเลือกที่จะอยู่ ซึ่งก็หมายถึงอยู่อย่างผู้ชนะศึกนั่นเอง*****












Create Date : 21 มีนาคม 2549
Last Update : 16 ธันวาคม 2552 15:45:51 น. 6 comments
Counter : 631 Pageviews.

 
ผมเคยรู้จักทหารจบจากจปร. ใช้เส้นเข้าไปเรียนเพราะนามสกุลเดียวกับอดีตรัฐมนตรีช่วยกลาโหม ได้ข่าวว่าสมัยเรียนมัธยมนายทหารคนนี้เรียนได้เกรด 1 กว่าๆ แต่พยายามปกปิดความหลังตัวเอง รับราชการอยู่แถวนนทบุรี วันๆ ไม่มีอะไรทำ มองหาแต่ผลประโยชน์อย่างเดียว พอรับราชการไม่โต ก็อยากเป็นตำรวจก็ไม่ได้ แต่อยากเข้าดีเอสไอจนขาสั่น คงไม่บอกแหละน่ะเข้าไปเพื่ออะไร กรณีนี้กองทัพเราคงไม่พร้อมที่จะต่อสู้กับใครได้แน่ เพราะได้คนที่ไม่มีคุณภาพแบบนี้เข้ามาเยอะๆ และมีผู้นำหน่วยอย่างนี้


โดย: แผ่นเสียงตกร่อง IP: 202.5.81.85 วันที่: 21 มีนาคม 2549 เวลา:22:23:08 น.  

 
ตำราทางทหารทุกเล่ม ล้วนสอนให้มุ่งเอาชัย และพร่ำสอนให้ยอมตายเพื่อชาติ พลีชีพในสนามรบยอมตายอย่างมีเกียรติดีกว่าอยู่เป็นเชลยศึก ทหารทุกคนไม่ว่าชาติไหนจะถูกสอนกันมาอย่างนี้ ผมเองก็ถูกสอนมาอย่างนี้
--------------------------------------------------------
จปร.สมัยพ่อน้องก็สอนแบบนี้ค่ะคุณพี่ แต่น้องชักเซ็งๆ เพราะมีคนจบจากนายเรืออากาศกล่าวว่า "นักการทหารชั้นยอด สอนให้รบเพื่อชนะ ไม่ใช่รบให้ตาย"

น้องว่านักการทหารชั้นยอด ที่เค้ากล่าว ไม่ใช่คนไทยแน่ๆ ตำราฝรั่ง แล้วก็มีคนที่ตีความผิดๆ เค้าน่ะพูดถูก แต่พูดสั้น

คนบางคนจึงลืมไปว่าการตายเพื่อชาติอย่างมีเกียรติ แม้เพียงจะประวิงเวลาให้ชาติรอดอีกสักนิด ให้แนวหลังได้มีเวลาคิดอีกสักหน่อยว่าจะล่อไม้ไหน หรือให้เพื่อนทหารผู้จะมาผลัดเปลี่ยนหน้าที่ได้จัดกระบวนทัพอย่างสุขุม มันก็น่าจะรวมด้วยถูกมั้ยคะ

น้องก็เลยโคตรจะ sad ...ขนาดพ่อสอนน้อง ยังบอกเลยว่าทำอะไร อย่าทิ้งไพ่หมดใบ ทหารเค้าเก็บกระสุนไว้นัดนึง.... ไอ้เราก็ยังเด็ก(ตอนนั้น 5555) คิดว่าเหมือนหนังไทย ประมาณกูทำเป็นยิงไม่ออก กระสุนหมด พอเข้ามาใกล้ๆ ก็กูเปรี้ยงเข้าให้ ... เน่า ๆ ๆ ๆ

เปล่า....พ่อบอกว่า เก็บไว้ยิงตัวตายเว้ย ดีกว่าถูกจับไปเป็นเชลยให้เค้ารีดความลับ ทรมาน ทรกรรม ใครมันจะทนไหว..ตายดีกว่า ตายด้วยน้ำมือตัวเอง โอ้โฮ..ซึ้งมาก

พี่เขียนบ่อยๆนะคะ รู้สึกดี


โดย: นวลบงกช ข.ท. IP: 202.130.75.139 วันที่: 23 มีนาคม 2549 เวลา:23:16:19 น.  

 
สติปัญญาของผู้นำหน่วยเท่านั้นที่จะพาให้หน่วยรอดพ้นจากจุดสุดท้ายคือการยอมตายคาสนามรบ สติปัญญาของผู้นำหน่วยเท่านั้นที่จะพาให้หน่วยรอดพ้นจากการถูกบีบคั้นจนวิกฤตจนกระตุ้นให้สัญชาตญาณเดิมของมนุษย์ถูกขับเคลื่อน

ดังนั้นจึงเป็นข้อยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าสัญชาตญาณดิบดั้งเดิมของมนุษย์คือการอยู่รอด เมื่อใดเมื่อมันถูกขับเคลื่อน มนุษย์อย่างเราๆท่านๆก็จะเลือกทางรอด
---------------------------------------------------------
ใช่ค่ะ... คุณพ่อเคยแปล motto ของนักบินนาวิกฯ ไอ้กัน ต่างจากคนอื่นที่มาแปลให้ พี่ฟังนะคะ
fight to fly,fly to fight,fight to win

ศัพท์ง่ายดีนะคะ ใครๆก็แปลว่า "ทำทุกอย่างเพื่อให้เป็นนักบิน บินเพื่อรบ และรบให้ชนะ"

คุณพ่อแก้ว่า NO....มันต้อง "มีชีวิตรอดเพื่อบิน บินเพื่อไปรบ และรบให้ชนะ"

fight to fly คือการ "อย่ายอมตาย" ไม่ค่อยกล้าหาญเนาะ แต่ไม่ยอมตายเพื่อกูจะมารบกับมึงใหม่ ไม่ได้หนีหายไปไหน เข้าท่ากว่านะคะ วนเวียนเป็น cycle แบบนี้ ซึ้งจัง....


โดย: นวลบงกช ข.ท. IP: 202.130.75.139 วันที่: 23 มีนาคม 2549 เวลา:23:27:18 น.  

 
สติปัญญาของผู้นำหน่วยเท่านั้นที่จะพาให้หน่วยรอดพ้นจากการถูกบีบคั้นจนวิกฤตจนกระตุ้นให้สัญชาตญาณเดิมของมนุษย์ถูกขับเคลื่อน ...สัญชาตญาณดิบดั้งเดิมของมนุษย์คือการอยู่รอด เมื่อใดเมื่อมันถูกขับเคลื่อน มนุษย์อย่างเราๆท่านๆก็จะเลือกทางรอด
--------------------------------------------------------
เว้ย..เขียนแล้วดันหลุด กำลังจะบอกว่า ...เรารอดเพื่ออะไร? ต่างหาก..คือเส้นแบ่งที่ไม่เสียฟอร์ม

น้องเคยให้ใครหลายคนแปล motto ของหน่วยบินนาวิกฯ ไอ้กัน " fight to fly,fly to fight,fight to win" ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นนักบิน บินเพื่อไปสู้ และสู้เพื่อให้ได้ชัยชนะ"

พ่อบอกว่า NO!! แปลอย่างนี้ถึงจะถูก "รักษาชีวิตเพื่อให้บินได้ บินเพื่อไปสู้ และสู้เพื่อให้ได้ชัยชนะ"

fight to fly คือเอาชีวิตรอดให้ได้!!!! อย่าเสือกบุ่มบ่าม หนีก็หนี ถอยก็ถอย แต่ทำเพื่อกูจะกลับมาต่อกรกับมึงใหม่ ไม่ได้หนีไปเล่นการเมือง 5555 วนเวียนแบบนี้จนครบ motto

น้องว่าก็เข้าท่าดี เหมือนทหารราบ หน่วยรบพิเศษน่ะค่ะ "มึงมากูมุด มึง........." จำไม่ได้แล้ว ถอย/ ถอนกำลัง /หนี /หรือ กองพันละลาย ย่อมมีเส้นแบ่ง ไม่รู้จะตีความกันถูกต้องรึเปล่า อันนี้ขึ้นอยู่กับสติปัญญา




โดย: นวลบงกช ข.ท. IP: 202.130.75.139 วันที่: 23 มีนาคม 2549 เวลา:23:46:59 น.  

 
สวัสดีครับท่านผบ.กรม ขอเป็นสมาชิกด้วยคนนะครับ ^^

ผมว่ารบตามตำรากับรบตามสัญชาติญาณควรนำมาผสมกันครับ

บางทีการรบก็รบจากตำราทั้งหมดไม่ได้ และก็ไม่สามารถรบตามสัญชาติญาณได้ทั้งหมดเช่นกัน

ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่าที่จ่าที่คุมกองกำลังเล็กๆ นี่จะเก๋าเกมเวลารบกว่าทหารยศสูงๆ ที่นั่งวางแผนอยู่ในกระโจม?

ขอบคุณครับ


โดย: Archbishop IP: 124.121.161.9 วันที่: 13 ตุลาคม 2549 เวลา:18:41:28 น.  

 


โดย: naragorn วันที่: 19 สิงหาคม 2550 เวลา:12:27:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Westpoint
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




* ทหารต้องมีวินัย วินัยเป็นเครื่องมือที่ใช้ควบคุมกองทัพ ทหารในกองทัพคือผู้ถืออาวุธของแผ่นดิน คำสั่ง สำหรับทหารนั้นคือสิ่งสำคัญที่เราไม่อาจละเลยได้ หากทหารทุกคนในทัพเอาความคิดของตนเป็นที่ตั้ง โดยไม่นำพาต่อวินัยในการเป็นผู้ถืออาวุธของชาติ ไม่ว่าตัวเล็กตัวน้อย อาวุธเล็กอาวุธน้อย กองทัพจะเป็นกองโจร ในการมีการใช้ในการถือครองอาวุธของแผ่นดินด้วยหน้าที่นั้น วินัยล้วนเป็นหลักทั้งสิ้น ในสังคมทหาร ในกรมกองทหาร ไม่มีคำว่าประชาธิปไตย ไม่มีการออกสิทธิออกเสียง ไม่มีโหวต ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับคำสั่งของผู้บังคับบัญชา การวางปืนแล้วหันหลังออกจากแนวไป ไม่สนใจไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชามิว่าด้วยเหตุผลใดไม่ว่าในสนามรบหรือในที่ตั้ง นั่นคือการหนีทัพ ในสนามรบนั้นหากทำอย่างนี้ ถูกยิงเป้าทันที หากทำนอกสนามรบ นั่นคือการละทิ้งหน้าที่ มีโทษไม่น้อยเหมือนกัน มีทหารอีกมากมายนักในกองทัพที่ไม่ได้เห็นด้วยกับผู้บังคับบัญชาไปทุกเรื่อง แต่ทำได้แค่คิดเท่านั้น เราไม่มีสิทธิโต้แย้งใดๆในคำสั่ง สิ่งเดียวที่ทำได้สำหรับระดับปฎิบัติคือ เมื่อเราเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ผิด เป็นคำสั่งที่ผิดศีลธรรมจรรยาของทหารแห่งชาติที่ดี ไม่ว่าด้วยแง่มุมใดๆ เรายังคงต้องปฎิบัติไปตามคำสั่งนั้น เราอาจทำให้ไม่สำเร็จ ทำได้แค่นี้เท่านั้น เราทำแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ นี่เป็นทางออกเดียวเท่านั้นของระดับผู้ปฎิบัติหรือระดับสั่งการในสนามเล็กๆ รูปการณ์อย่างนี้มิใช่ว่ามิเคยมี ตัวอย่างมีให้ดูมาแล้วจากในอดีต เรามิได้ผิดวินัย แต่เราทำตามความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในเบื้องลึกในจิตใจเท่านั้น นี่เป็นคำตอบที่ว่า ทำไมทหารค่อนกองทัพ ถึงต้องทำอย่างที่ประชาชนทุกคนเห็นตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ในรร.ทหารในระดับเริ่มต้น ก้าวย่างแรกของการเป็นทหาร ทุกคนในกองทัพจะต้องถูกหล่อหลอมเรื่องวินัยอย่างสุดขั้ว รร.ทหารที่ไหนๆในโลกก็ทำอย่างนี้กันทั้งนั้น เพราะทุกคนในโลกรู้กันดีว่า ผู้ที่จะจบออกไป จะเป็นผู้ที่ต้องถืออาวุธของชาติ และจะต้องใช้อาวุธในมือไปตามหน้าที่ และวินัยที่ รร.ทหารเฝ้าหลอมให้ทหารทุกคนนั่นก็คือ วินัยในการมีหน้าที่ ส่วนการจะถือจะใช้อาวุธในมือของตนตามหน้าที่และคำสั่งนั้น มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกเฉพาะตนในความเป็นชาติ และความเป็นคนไทยเท่านั้น *นี่เป็นสิ่งเดียวที่จะมีอำนาจเหนือกว่า หน้าที่ในทางเป็นจริงของทหาร *
Friends' blogs
[Add Westpoint's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.