Jack-A-Little-Monster
. . . เ ก อ เ น โ ก ร . . .




ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มีโอกาสกลับมาอุ้มผางอีกครั้ง

...

ทริปนี้สมาชิกอุ่นหนาฝาคั่ง เดินทางมากันถึง 4 คันรถตู้ ออกจากกรุงเทพหัวค่ำ ก็ถึงอุ้มผางตอนเช้า เส้นทางคดเคี้ยวเช่นเคย ต้องคอยลุ้นอยู่ว่าจะไปถึงตลอดรอดฝั่งรึเปล่า เพราะใช้เบรกเยอะมาก บางช่วงจึงต้องจอดพัก เช็คผ้าเบรกกันไป

ถึงอุ้มผางต่อรถกระบะ ไปกันต่ออีกประมาณ 80 กิโลเมตร เส้นทางตะปุ่มตะป่ำ เป็นหลุมเป็นบ่อ ช่วงนี้ทำเอาเกือบเมารถเหมือนกัน

ถึงหมู่บ้านทีจอชี เอารถข้ามน้ำ มีลุ้นกันเล็กน้อย งานนี้เก๋งหมดสิทธิ์





...





ตั้งหลักกันที่โรงเรียนหมู่บ้านทีจอชี คืนนี้จะไปแคมปิ้งกันที่เกอเนโกรปีกซ้าย
เส้นทางชุ่มฉ่ำ เพราะฝนตกตลอด ทางเดินเลยเละตุ๊มเป๊ะ ผลคือ ลื่นปรื้ดๆ ตลอด บางช่วงสไลด์ไปมากกว่าเดินไป





เส้นทางไม่ชันอะไร เดินได้เรื่อยๆ แต่เดินยาก เพราะทางเละ





พวกเราใช้เวลาเดินกันอยู่พอสมควร ก็ถึงจุดแคมปิ้ง คืนนี้ยังไม่ได้เห็นน้ำตกเกอเนโกรปีกซ้าย แต่เห็นสายน้ำแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็น เพราะน้ำเยอะมาก แต่ใสกิ๊กราวกับกระจก





พวกเราต้องรีบกางเปลให้เสร็จแข่งกับเวลา เพราะฝนจะตกลงมาอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หาทำเลเหมาะๆ ต้นกล้วยแข็งแรงๆ แล้วก็เริ่มสร้างวิมานของตัวเอง





คืนนี้นั่งจับกลุ่มคุยกันในวงดินเนอร์เหมือนเคย บทสนทนาออกรสชาติดี เมื่อได้เพื่อนร่วมทางคอเดียวกันมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางของแต่ละคน

...





รุ่งเช้ากินกาแฟ ข้าวต้มกัน โดยฝีมือลูกหาบนำทีมโดยพี่สิงห์ แล้วก็รีบออกเดินทางกัน เพราะวันนี้หนักแน่นอน





เมื่อคืนฝนตกตลอดคืน ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น ช่วงที่เดินไปชมน้ำตกเกอเนโกรปีกซ้ายจึงต้องใช้ความระมัดระวังมาก เพราะสายน้ำเชี่ยวกราก





อย่างจุดนี้แค่น้ำอยู่ระดับหัวเข่า แต่ทำเอาขยับแทบไม่ได้ ต้องอาศัยแรงคนอีกฝั่งช่วยจูง ช่วยลาก

เข้าใจได้ดีเลยถึงคนที่เจอสึนามิ ระดับความแรงมันเยอะกว่านี้หลายร้อยเท่า เจอเข้าแบบนี้ ต้านไม่ไหวจริงๆ

..

พวกเราลัดเลาะไปตามน้ำ ไม่ไกลนักก็ถึงน้ำตกเกอเนโกรปีกซ้าย ดูมันยิ่งใหญ่ สวยงามมาก ผมไม่สามารถถ่ายทอดความงามด้วยกล้องของผมให้เหมือนที่ตาเห็นได้





ผมได้แต่ชื่นชมความงามอยู่เบื้องล่าง ในขณะเดียวกันก็ชื่นชมความกล้าของเหล่าลูกหาบที่ขณะนี้ปีนป่ายขึ้นไปยังด้านบนของน้ำตกได้อย่างว่องไว ดูจากเส้นทางแล้ว ท่าจะลื่นสุดๆ จากทีแรกตั้งใจจะขึ้นไป สักพักพี่สิงห์ส่งสัญญาณบอกมาจากข้างบนว่าอย่าขึ้น อันตรายเกินไป





..

กลับมาแพคของทุกอย่าง เพราะจะต้องเดินทางกันต่อ มาปีกซ้ายเสร็จก็ต้องไปชมปีกขวากันต่อ (ฟังดูเหมือนเล่นบอลเลย)

ถึงทางแยกไปน้ำตกปีกซ้าย กับเส้นทางเดินกลับ ลูกหาบบอกให้วางเป้ไว้แล้วเดินไปตัวเปล่า...





ทีแรกผมนึกว่าสักครึ่งชั่วโมงก็น่าจะถึง (นี่แหละน้า ไม่รอบคอบ ถามให้ดีก่อน) จึงไม่ได้ติดเสบียงไปเลย แม้แต่นิดเดียว ด้วยความคิดที่ว่าน้ำเราสามารถดื่มกินจากน้ำตกได้ตลอดทางอยู่แล้ว

เส้นทางเดินขึ้นเขาชันดิก และลื่นมากมาย ประกอบกับต้นไม้ที่ขึ้นรกเต็มเส้นทาง ทำให้ต้องเดินไป แหวกทางกันไป

ช่วงต่อไปต้องเดินลัดเลาะขอบเหว เสียวมาก ถ้าเดินห่างกับคนอื่น พลาดพลั้งตกลงไป อาจจะไม่มีคนรู้ก็ได้ ทำให้ต้องเพิ่มความระมัดระวังกันมาก

..





ยิ่งเดินก็ยิ่งไกล เริ่มได้ยินเสียงบ่นจากหลายๆ คนว่า เมื่อไหร่จะถึง บางคนบ่น ไกลแบบนี้ไม่คุ้มที่จะเดินมา

เหลือบไปดูลูกหาบคนนำทาง ก็ยังไม่มีทีท่าว่าใกล้จะถึงแล้ว ได้แต่บอกพวกเราว่าอีกนิดเดียวๆ

ตอนนี้ท้องกิ่วไปหมดแล้ว!

แต่ทำไงได้.. ก็ต้องก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป

..

ช่วงท้ายๆ ต้องเดินลัดเลาะขอบน้ำตก มีบางช่วงเดินตัดข้ามห้วย กลุ่มหน้าสุดเดินหายไปแล้ว ทำเอากลุ่มที่เดินตาม เดินหลงไป ขึ้นไปยังน้ำตกเล็กๆ อีกอัน กว่าจะรู้ตัวว่าเดินผิดก็เล่นเอาท้อแท้ใจ ลูกหาบสองคนที่ตามมา ก็ไม่เคยมาเหมือนกัน

เอาไงต่อดี!?

..

จากจุดที่ทิ้งเป้ไว้ ถึงตอนนี้พวกเราใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงแล้ว เดินทางแบบไม่มีอาหารติดท้อง กับเส้นทางที่ไม่ชัดเจน เดินผิดมั่งถูกมั่ง แถมฝนก็โปรยปรายตลอดเวลา ลูกหาบที่เดินมากับกลุ่มเรามี 2 คน แต่ก็เป็นครั้งแรกของพวกเขาเหมือนกันกับน้ำตกแห่งนี้!

ขณะที่กำลังหาทางไป ก็ได้ยินเสียงวู้ๆ ของลูกหาบกลุ่มหน้าคนนึง เดินย้อนกลับมา

เหมือนสวรรค์โปรด!

ที่แท้ต้องเดินทวนน้ำตกไปอีกสักระยะหนึ่ง ก็จะถึงน้ำตก แต่ต้องบอกจริงๆ ว่าใครไม่เคยมา หลงทางเอาได้ง่ายๆ เลย

..

อารมณ์ดีใจกลับมาอีกครั้ง หลังจากเห็นเพื่อนกลุ่มแรกตั้งหน้าตั้งตาถ่ายรูปอยู่ด้านบน แรงฮึดกลับมาอีกรอบ

ยิ่งเข้าไปใกล้ๆ ก็เห็นความอลังการของมัน

ในที่สุดก็มาถึง เกอเนโกรฝั่งขวา!





ความเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้ง!

..

สักครู่เดียว สมาชิกทุกคนก็มาถึงยังจุดหมาย สีหน้าเต็มไปด้วยความสุขที่ได้มายังน้ำตกไปยากแห่งนี้





บางคนก็เล่นน้ำด้วยความสบายใจ ก่อนจะได้เวลาเดินกลับย้อนทางเดิม..

..

ช่วงขากลับ น้ำขึ้นค่อนข้างเร็ว มีช่วงตื่นเต้นอยู่สองสามจุด ลูกหาบเอาท่อนไม้มาวางให้จับขณะข้ามห้วย แต่กระแสน้ำรุนแรงมาก ทำเอาหลายคนต้องข้ามด้วยความทุลักทุเล ซึ่งพวกเราก็ได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือกันและกันอย่างเต็มที่





..

เส้นทางขากลับ ต้องรีบทำเวลา เพราะจากน้ำตกเดินไปยังจุดวางเป้ก็สามชั่วโมงแล้ว ขณะที่จุดวางเป้เดินกลับไปยังโรงเรียนทีจอชี ก็ยังอีกไกล

งานนี้เดินจนมืดแน่นอน!

..

ผมก้าวฉับๆ เกาะกลุ่มอยู่ในกลุ่มหน้า แต่ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมคนหลังที่ตามมา เพราะคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการหลงป่าในช่วงเวลานี้

กลุ่มหน้าหายวับไปแล้ว ผมเกาะกลุ่มที่สองกับพี่อีกสามคน เดินกันแบบไม่ได้คุยอะไรกันแล้ว ทุกๆ อย่างเงียบสงัด มีแต่เสียงก้าวเท้าเสียงลมหายใจ

ถึงเป้ ก็รีบหยิบเอาไฟฉายมาคาดหัวไว้ แล้วขึ้นเป้เดินกันต่อ ก่อนที่จะมืดไปกว่านี้

แสงเริ่มรำไรลงเรื่อยๆ จากทางที่หลงง่ายๆ อยู่แล้ว คราวนี้ต้องช่วยๆ กันตัดสินใจว่าทางไหนถูก ทางไหนผิด

ผมหักไม้ไว้เป็นสัญญาณบอกให้คนข้างหลังได้เห็น บางทีก็ขีดเส้นเอาไว้ แต่ถึงเวลามืดจริงๆ อะไรๆ ก็ดูยากไปหมด

..





พี่จุกตัวเปียกซก ทีแรกผมนึกว่าแกเล่นน้ำขณะข้ามสะพานไม้ซุง 3 ท่อน มารู้อีกทีว่าแกเพิ่งตกสะพาน เป้เปียกไปหมด ดีที่ระดับน้ำไม่ลึกมาก แต่เหตุการณ์นี้ก็ทำให้แกเสียหมวกใบเก่งไป..

ยังไม่ทันที่ผมจะข้ามสะพานเจ้าปัญหานี้ดี ก็ได้ยินเสียงตามมา

ตุ้บ!

ผมหันหลังขวับขณะที่กำลังยืนอยู่กลางสะพานไม้ซุง

เฮ้ย! พี่บุ๋มตกสะพาน

ผมรีบเดินย้อนกลับไปช่วยแก แต่ยังไม่ทันถึงตัวแกดี ขาผมก็พลาดลื่นตกลงไปในช่องว่างระหว่างซุง!

พี่อาร์ทที่เดินตามหลังมาพยุงร่างพี่บุ๋มขึ้นมา ขณะที่ผมเดินมาสมทบ พี่บุ๋มลื่นตกลงไปช่วงหัวสะพาน โชคดีเหลือหลายที่ตกลงไปโดยมีเป้สะพายหลังรองรับกระแทก

ต้องบอกว่า ไม้ซุงสามท่อน ณ เวลานี้ ลื่นสุดๆ เหมือนมีตะไคร่มาเกาะ งานนี้เล่นเอาพี่บุ๋มกลัวไม่กล้าเดินข้ามอีกแล้ว ต้องคอยไถก้นไปทีละนิดๆ ในขณะที่ผมก็ต้องเดินอย่างพิถีพิถันทุกย่างก้าวเช่นกัน

..





ผ่านป่ามาแล้ว เป็นไร่นาของชาวบ้าน ตอนนี้รอบข้างดำมืดสนิท มีแต่เพียงแสงไฟที่คาดหัวคอยนำทางให้พวกเรา

เดินไปเกือบพ้นไร่ พี่จุกขอนั่งพัก ดูมีอาการเวียนหัว หน้ามืด

พี่บุ๋มควักเอาขนมมาแจกจ่ายช่วยเพิ่มพลังงาน ถึงเวลานี้ มันช่างเป็นอะไรที่อร่อยเสียเหลือเกิน

พวกเรายืนรอพี่อาร์ทตามมาสมทบ แล้วก็เดินไปด้วยกัน

เวลาประมาณสองทุ่ม ในที่สุดพวกเราก็มาถึงโรงเรียนทีจอชี

กว่าสมาชิกจะออกมากันครบ ก็ปาเข้าไปสามทุ่มกว่าแล้ว

เป็นอีกหนึ่งวันที่ได้ครบทุกรสชาติจริงๆ ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ทั้งเปียก ทั้งเลอะ แต่ความสวยงามและมิตรภาพบนเส้นทางเดินนี้เป็นอะไรที่ไม่รู้ลืมจริงๆ





Create Date : 03 กันยายน 2553
Last Update : 3 กันยายน 2553 10:53:04 น. 9 comments
Counter : 994 Pageviews.

 
เห็วางเป้ไว้ที่พื้น เคยเห็นเพื่อนโดนทากเกาะเต็มหลังเลยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:12:02:29 น.  

 
ที่สุดแห่งคำว่า "ลุย"


โดย: *SUPRA* วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:12:28:07 น.  

 
มาไงนี่
ปกติ จขบ.ชอบ Up Blog ตอนกลางดึก
แต่ก้อดีค่ะ
น้ำตกน่าเล่นจัง
แต่ทาง เละไปหน่อย


โดย: kwan_3023 วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:12:35:40 น.  

 
สวัสดีครับน้อง Prinzknecht

หมู่นี้ up บล็อกทุกวันเลยนะครับ สงสัยยังมีข้อมูลรอ up อีกเพียบแน่ๆ

ทริปนี้ก็ลุยๆ อีกแล้ว ไปกับ trekkingthai หรือเปล่าครับ เพราะเห็นที่นั่นเขาชอบจัดทริปหารเฉลี่ยไปเที่ยวลุยๆ แบบนี้แหละ แหม....ถ้าย้อนเวลากลับไปได้สักสิบปีผมก็อยากจะไปลุยแบบนี้บ้างนะ แต่ถึงตอนนี้ด้วยหน้าที่การงาน ด้วยเรื่องครอบครัว ก็คงหมดโอกาสไปลุยแบบนี้แล้วล่ะ


โดย: NET-MANIA วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:12:59:54 น.  

 
อือ ..เหมือนคุณ net ..เลย อยากย้อนเวลา กลับ ไป ตอนที่มีไฟ อิ อิ .. เข้า มาแล้วก็ได้ความตื่นเต้น ลุยดีจริง นี่คือ รสชาติ ของ ชีวิต เลย แหละ ..ไปดูบ้านพี่ ก็มีแต่ตื่นเต้น แต่ คนละแบบ 555


โดย: tifun วันที่: 4 กันยายน 2553 เวลา:10:41:38 น.  

 
เกอเนโกรคือชื่อน้ำตกนั่นเอง

น้องหมาในกล่องเม้นท์น่าร้ากกก แต่ใครแกล้งฝังเค้าหละคะนี่ เง่อ...


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 6 กันยายน 2553 เวลา:11:59:17 น.  

 
เกอเนโกร.....

อยากไปบ้างครับ

แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะเป็นเมื่อไหร่ดี.....


โดย: ขึ้นเป้ วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:21:31:00 น.  

 
เคยไปเที่ยวที่ลอซูกับทีมพี่สิงห์เหมือนกันค่ะ พี่ๆดูแลดีมากเลย


โดย: manuchi11 IP: 27.131.172.2 วันที่: 15 กันยายน 2553 เวลา:13:16:11 น.  

 
สมบุกสมบันสุด ๆ
น่าไปมาก
ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 20 ตุลาคม 2553 เวลา:13:48:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เม่าดอยตุง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




นับๆ ดูแล้วยังเหลืออีกหลายอุทยานเลยที่ยังไม่ได้ไป ว่าแล้วก็กางแผนที่ ออกเดินทางพิชิตอุทยานกันต่อไป..
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เม่าดอยตุง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.