ชิลๆ ที่เกาะสมุย และ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
จากที่เมื่อวานพวกเราไปนอนเขาสกกัน วันนี้ก็ขับรถมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ ก่อนตัดสินใจกันว่า คืนนี้จะไปนอนกันที่เกาะสมุย
กว่าจะทำธุระเสร็จก็บ่ายคล้อยแล้ว พวกเราขับรถจากอำเภอเมือง ผ่านอ.กาญจนดิษฐ์ มุ่งหน้าไปยังอ. ดอนสัก เพื่อไปยังท่าเรือเฟอร์รี่ดอนสัก
เสียเวลาไปมากกว่าจะมาถึง ซึ่งรอบนี้เป็นรอบสุดท้ายแล้ว จึงต้องรีบเร่งกันหน่อย จากที่ตั้งใจจะนำรถไปด้วย พวกเราเปลี่ยนแผนเป็นเอารถจอดไว้ที่ชายฝั่งแล้วนำเฉพาะของที่จำเป็นไปก็พอ
คิวรถรอขึ้นเฟอร์รี่ยาวเหยียด ระยะทางจากที่จอดรถไกลพอสมควร จึงต้องเดินจ้ำๆ เล็กน้อย
พวกเราใช้บริการของราชาเฟอร์รี่ ซึ่งได้ยินมาว่าเรือจะเก่ากว่าของซีทรานส์ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าสภาพก็พอใช้ได้ แถมมีที่นั่งเหลือให้เราเลือกนั่งเพียบ
จากท่าเรือดอนสักไปยังเกาะสมุยใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 30 นาที มีโทรทัศน์ให้เราชมหากรู้สึกเบื่อ หรือใครใคร่จะออกไปรับลมชมวิวก็ไม่มีใครว่ากัน
โชคดีของพวกเราที่มีน้องคนอื่นรู้จักเพื่อนทำโรงแรมอยู่ พอถึงท่าเรือเพื่อนเค้าก็ขับรถมารับถึงที่เลย
แวะเก็บของที่โรงแรมแล้ว ก็ออกมาหาอะไรกินเล่นกัน น่าแปลกที่หาร้านอาหารแบบข้างถนนได้ยาก ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารใหญ่ๆ เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เป็นชาวต่างชาติทั้งนัน
ตกดึกจองแพคเกจเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองกัน ใช่แล้ว พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวอช.หมู่เกาะอ่างทองกัน
.....
ผมตื่น 7 โมงเช้า เตรียมตัวเสร็จก็เดินเล่นรีบชายหาดเล็กน้อย วันนี้พวกเรามีนัดกับทัวร์เวลา 8 โมง รถตู้มารอรับเรียบร้อย ขับวนรับนักท่องเที่ยวที่จองทัวร์อยู่หลายโรงแรมจนครบ ก็มุ่งหน้าสู่ท่าเรือที่มีเรือเฟอร์รี่รอพวกเราอยู่แล้ว
บนเรือเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะมีคนไทยอยู่ 2 กลุ่ม คือกลุ่มผม และกลุ่มสว..
บนเรือมีขนมปัง ผลไม้ รวมถึงกาแฟไว้บริการ
ได้ยินเสียงคุยกันภาษาเยอรมันแว่วมา เลยหันไป say Hallo! กับเค้าด้วย เป็นสองสามีภรรยาชาวออสเตรียน มาเที่ยวเมืองไทยสิบกว่าครั้งแล้ว! ฟังแล้วภูมิใจจังที่ได้เป็นเจ้าของประเทศไทย
เรือออกจากท่าเรือประมาณ 8 โมงครึ่ง ระยะทางไปถึงเกาะวัวตาหลับซึ่งเป็นที่ทำการอุทยานหมู่เกาะอ่างทองประมาณ 35 กม.
ต่อเรือเล็กกันเข้าไปถึงเกาะแล้วก็ตกลงกับหัวหน้าทัวร์ถึงเรื่องโปรแกรมและเวลา
ใครใคร่พายคายัคพาย ใครใคร่ปีนเขาก็ปีน
สำหรับผมแล้ว ไฮไลท์สุดยอดของที่นี่ก็คือ การได้ขึ้นไปชมจุดชมวิวผาจันทร์จรัสที่สามารถมองเห็นเกาะลูกได้หมดทุกเกาะ
ตระเตรียมความพร้อมกันดีแล้ว ก็เริ่มออกเดินทาง ขออนุญาตเดินแซงกลุ่มสว. นำขึ้นไปก่อน
ระยะทางจากข้างล่าง ขึ้นไปถึงยอดประมาณ 500 เมตร เส้นทางค่อนข้างจะต้องปีนเยอะ บางช่วงต้องเกาะกิ่งไม้เถาวัลย์ บางช่วงต้องจับเชือกไต่ขึ้นไป
ระหว่างทางจะมีจุดพักชมวิว ให้หายเหนื่อย เพิ่มกำลังใจด้วยวิวสวยๆ
ยิ่งขึ้นสูง วิวก็ยิ่งสวย
แต่
ทางก็ยิ่งโหด
โดยเฉพาะช่วง 100 เมตรสุดท้ายนั้น ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
เนื่องจากเขาหินปูนแหลมๆ สามารถทำอันตรายเราได้ ต้องค่อยๆ เดิน มือเกาะเชือกไว้ให้มั่น ก้าวให้ดี
ได้มาถึงด้านบนสุด ความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อได้เห็นวิวสวยสุดยอดบนเกาะวัวตาหลับ ซึ่งขณะนี้เราสามารถมองเห็นเกาะลูกได้ทั้งหมด
ผมเดินสวนกับนักท่องเที่ยวฝรั่งสองคน เห็นเค้าลงแล้วทุลักทุเลเหมือนกันนะ อดคิดเป็นห่วงตอนลงไม่ได้ แต่เอาเหอะ มาถึงบนนี้แล้ว..
ขอชื่นชมกับวิวก่อนดีกว่า!
มองไปทางไหนก็สวยไปหมด รู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
สักพักน้องก็ตามขึ้นมาสมทบ แต่ละคนหอบเหนื่อยหมดแรง ได้พักสักครู่ก็หันมาถ่ายรูปกัน
พอเริ่มใกล้เวลานัด ก็เดินลงกันอย่างช้าๆ เพราะเร็วไม่ได้ หัวจะทิ่มเอา
ขาลงยังเจอบางคนกำลังขึ้นมา แต่ไม่เห็นกลุ่มสว. ไปเจออีกทีตอนอยู่ข้างล่าง คุณป้าๆ ท่านบอกว่าไปถึงแค่จุดชมวิวแรกแล้วก็ลง เพราะทางลำบากพอสมควรสำหรับแก
ทานอาหารกลางวันกันเสร็จก็ออกเดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไปก็คือ ทะเลใน
...
ทะเลใน
ตั้งอยู่บนเกาะแม่เกาะซึ่งอยู่ห่างจากเกาะวัวตาหลับไปทางทิศเหนือ ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 15 นาที มีลักษณะ เป็นทะเลสาบ ซึ่งเกิดอยู่ในแอ่งยุบขนาดใหญ่ของภุเขาหินปูน มีรูปเป็นวงรีล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน เนื้อที่ของทะเลใน มีประมาณ 41 ไร่ โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลาง กว้าง 250 เมตร ยาว 350 เมตร น้ำลึกประมาณ 7 เมตร เนื่องจากทะเลในมี ีทางเข้าออกของน้ำทะเลทางด้านทิศตะวันออก ทำให้ระดับน้ำของทะเลในเท่ากับระดับน้ำทะเลภายนอก แต่สีของน้ำ ทะเลในแตกต่างจากทะเลภายนอก เพราะท้องน้ำตื้นและมีพื้นส่วนใหญ่เป็นทราย
credit: //www.paiduaykan.com
...
เรือพาพวกเรามาจอดเทียบท่าเกาะแม่เกาะ ทางเดินทำด้วยพลาสติกถูกปูเป็นทางยาวถึงชายหาด มีนักท่องเที่ยวอยู่บนเกาะนี้พอสมควร
จากชายหาด ต้องเดินขึ้นบันไดไปตามทางซอกหินแคบๆ ไต่บันไดอีกเล็กน้อยก็จะถึงศาลาไม้ที่สามารถชมทะเลในได้
วิวทะเลในสวยงาม น้ำสีฟ้าเข้มสดใส ตัดกับต้นไม้สีเขียว ดูแล้วสดชื่นดีมากมาย
แต่อยู่ชมวิวได้ไม่นานก็ต้องผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนให้คนอื่นได้ชมกันบ้าง เพราะที่ค่อนข้างคับแคบ
ด้านล่างยังมีทางเดินลงไปให้ชมทะเลในในแบบมุมต่ำด้วย
แต่เป็นเพราะระดับน้ำที่ลึก จึงไม่ได้เปิดให้ลงเล่นน้ำในบริเวณนี้
...
ได้เวลาอันสมควรก็นั่งเรือกลับเกาะสมุยกัน
ก่อนเข้าที่พัก พวกเราแวะชมหินตา หินยายกันก่อนซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจากโรงแรม
ชมสัญลักษณ์ของเกาะสมุยได้สักพักฝนก็เทลงมา ปิดฉากทริปของวันนี้ไปด้วยความชุ่มฉ่ำหนำอุรา
ข้อมูลการเดินทาง:
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง 145/1 ถ.ตลาดล่าง ต.ตลาด อ. เมืองสุราษฎร์ธานี จ. สุราษฏร์ธานี 84000 โทรศัพท์ 0 7728 6025, 0 7728 0222 โทรสาร 0 7728 6588 อีเมล angthong_np@hotmail.com
การเดินทาง:
ขึ้นเรือจากอำเภอดอนสัก เช่น ท่าเรือซีทรานเฟอร์รี่ , ท่าเรือสมุยทัวร์ และซื้อตั๋วข้ามฝั่งไปยังท่าเรือหน้าทอน อ.เกาะ สมุย เรือโดยสารออกเดินทางเวลาประมาณ 8.30 น. เพียงวันละ 1 เที่ยว
การนั่งเรือไปยังอุทยานแห่งชาติ มีท่าเรือหน้าทอน จะเป็นเรือทัวร์ขนาดใหญ่ 70-100 คน ราคาค่าโดยสารประมาณ 950-1,100 บาท (เป็นแพ็คเก็จรวมอาหารกลางวัน) ใช้เวลา 2 ชม 30 นาที และท่าเรือบางรักษ์ เป็นเรือสปีคราคาค่าโดยสารประมาณ 1,400 บาท (เป็นแพ็คเก็จรวมอาหารกลางวัน) ใช้เวลา 45 นาที
ระยะทางจากอ.เกาะสมุยไปยังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ประมาณ 35 กิโลเมตร
สามารถเดินทางโดยทางเรือโดยสาร (เรือทัวร์) ราคา 1,100 บาท (เป็นราคาแพ็กเก็จไปกลับ รวมอาหารกลางวัน)เรือโดยสารออกเดินทางเวลาประมาณ 8.30 น. เพียงวันละ 1 เที่ยว
credit: //www.dnp.go.th
ถ้าไม่ได้ค้างคืนที่เกาะวัวตาหลับ จะมีเวลาค่อนข้างน้อย ซึ่งถ้าตัดสินใจขึ้นจุดชมวิวในช่วงเวลากลางวัน ควรจะพกหมวกกันแดด น้ำดื่ม ติดตัวไว้ด้วย ถ้าให้ดีพกถุงมือติดตัวไว้อาจได้ใช้ประโยชน์ เพราะต้องมีการปีนป่ายเกาะกิ่งไม้ และหินปูนแหลมคม รองเท้าควรจะมิดชิดห่อหุ้มนิ้วเท้าเราไว้ไม่ให้โดนหินบาดเอาได้
Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2553 13:10:03 น. |
|
11 comments
|
Counter : 1440 Pageviews. |
|
|
|
สวยที่สุด น้ำทะเล เขียวดีอ่ะ ชอบรูปตรงเชือกอ่ะ
แอบ save ไปและ
สวยทุกรูปเลย มิน่าล่ะ จขบ. หนีไปเที่ยวมานี่เอง
ไม่ชวนไม่ชวน