Jack-A-Little-Monster
"หลักไก่ต่อ ต้นน้ำพะโต๊ะ" ทริปนี้..มีเงินอย่างเดียวไม่พอ

รวมตัวพลพรรคขาลุยกันครบทีมแล้ว ก็เริ่มออกเดินทางจากกทม. ไปยังอ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ถึงตอนเช้ามืด ฟ้ายังไม่สางก็นอนเอาแรงกันอีกหน่อย




อาหารเช้า เลือกกินกันตามใจชอบ





นั่งรถกะบะไปส่งที่อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ถึงจุดเริ่มเดิน เส้นทางชันพอประมาณ เดินไปเรื่อยๆ สบายๆ ไม่ร้อนมาก เพราะข้างทางชุ่มชื่นไปหมด




ยังลัลล้ากันอยู่





เช็คทากกันเป็นระยะ





เดินกันต่อ





คืนแรก พี่ไม้ขอแสดงฝีมือ ปรุงอาหารท่ามกลางสายฝน ใจมากๆ แต่ที่เห็นตัวเปียกๆ นั่นเปียกเหงื่อนะ เห็นบอกร้อนมาก





อร่อยไปหมด





คืนวันสิ้นปี ไม่มีอะไรพิเศษกัน นอกจากนั่งจับกลุ่มคุยเรื่องราวต่างๆ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาหนักกว่าตอนเย็นเสียอีก เกือบๆ สี่ทุ่มก็แยกย้ายกันเข้านอน

ตืนมาในวันปีใหม่ สภาพแคมป์เละ หลังจากฝนผ่านพ้นไป





เก็บข้าวของแล้วเดินทางกันต่อ ระยะทางยังอีกยาวไกลนัก





แผนกเติมน้ำดื่ม ก็ตุนน้ำกันไป





เดินกันต่อ ระหว่างทาง ฝนโปรยปรายลงมาเป็นระยะๆ เดินตัดน้ำ ข้ามไปข้ามมา อยู่หลายหน กลุ่มหน้าเดินไวมาก หยิบกล้องมาถ่ายหน่อย ก็จะหายไปไกลแล้ว แต่งานนี้ไม่มีทิ้งกัน มาด้วยกันก็ไปด้วยกัน





เส้นทางเดินไม่เหนื่อย แม้ระยะทางจะยาวไกล อากาศเย็นๆ ชุ่มชื้น เดินไปแช่ขาเย็นๆ ไป มีความสุขจริงๆ





ถึงแคมป์จะเล่นน้ำให้ชุ่มปอดไปเลย





ของสวยๆ งามๆ ระหว่างทาง มีให้เห็นมากมาย





เหมือนจะราบรื่น แต่แล้วก็เจอปัญหาใหญ่เข้าจนได้ ป้าเพียรเกิดไถล ข้อเท้าพลิกจนแกบอกข้อเท้าหัก!

เดินตามหลังมา ได้ยินแล้วใจหายเลย ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลกันก่อน มีอะไรก็งัดออกมามีผ้าพันแผล หมอนลม ผ้าสามเหลี่ยม ยาแก้บวม

ป้องตัดสินใจไปพักกันข้างหน้าใกล้ๆ บอกพี่ลูกหาบช่วยไปตัดแพ พยุงป้าเพียรไปพักตรงริมน้ำ ดูอาการไม่ค่อยดีนัก





ก่อไฟ เตรียมทำอาหารกลางวันกินกันตรงนี้เลย





ช่วยกันก่อไฟ ต้มน้ำ กางฟลายชีท





พี่ลูกหาบไวมาก ใช้เวลาแปบเดียว ก็ทำแพเสร็จ





คนป่วย ยังยิ้มได้





ตกลงว่าให้ป้าเพียรขึ้นไปบนแพ แล้วจะมีผู้ติดตามไปสามคน รวมพี่โจ๊กอีกคน คอยรุนไป ที่เหลือเดินกันต่อ งานนี้เห็นแล้วเหนื่อยแทนกลุ่มลากแพ เพราะระดับน้ำน้อยมากในบางช่วง





กลุ่มเดินเท้าก็เดินต่อไป ขึ้นเขา ลงห้วย ลัดน้ำ กันไป จนเกือบจะถึงแคมป์ ก็เจอต้นไม้ยักษ์ แผ่พูพอนดูอลังการมาก





คืนนี้ตัดสินใจพักกันแถวนี้ หากไปต่อตลิ่งจะเริ่มสูงมากขึ้น ก็จัดแจงหาที่พักกันตามสะดวก





ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็หนีเจ้าบ้านตัวนุ่มๆ นี่ไม่พ้น เอาเป็นว่าผู้มาเยือนอย่างเราต้องปรับตัวให้เข้ากับสถาพแวดล้อมของที่นี่ให้ได้ สักพักก็ชินเอง





นี่แคมป์ของพี่ลูกหาบ ฟลายชีทเดียวนอนได้หมด 5 คน เจ๋งจริง





วันที่ 3 ของทริป เป็นอีกวันหนึ่งที่หนักเอาเรื่อง ผู้ชายทั้งหมดในทีม ต้องช่วยกันออกไปหาไม้ไผ่ที่พอจะเอามาทำเป็นแพได้ เดินขึ้นเขาไป ทั้งชัน ทั้งลื่น แบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจน เจอไม้ไผ่เหมาะๆ ก็ตัดลงมา แล้วลำเลียงมาไว้ที่ริมน้ำ กว่าจะได้แต่ละลำ เสียทั้งแรง เสียทั้งต้นไม้ไปหลายต้นเลย

หาไม้ไผ่กันอยู่หลายชั่วโมงก็ยังได้มาไม่พอทำแพ 5 ลำ ตามจำนวนคน ก็ล่องที่มีกลับมาแคมป์กันก่อน พักกินข้าวกลางวันก่อนออกไปหากันต่อ

เดินย้อนกลับไปเส้นทางเดิมที่เมื่อวานเดินมา คราวนี้เจอไม้ไผ่มากมาย แบ่งกลุ่มกันออกตามหา จนได้ครบก็เริ่มต่อแพกัน





พี่เขียวช่างต่อแพมือฉมัง





พี่วุฒิมาดเข้ม





ไม้ไผ่เริ่มถูกลำเลียงมาตามน้ำ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ส่งไม้มาเรื่อยๆ





หมดพลังก็เติมพลังกันหน่อย ด้วย m150 by เจ๊ไม้





ไม่มีลิมิต ชีวิตเกินร้อยจริงๆ





สักพักพลพรรคก็ตามมาสมทบ น้องเวทผู้ร่าเริง ต่อไปเมาท์ไป แรงดีไม่มีตก





ขั้นตอนหาไม้สิ้นสุดลง ต่อไปเป็นการต่อแพที่เหลือ





นำไม้ไผ่มาเรียงหัวเรียงปลาย แล้วก็เจาะรูเพื่อร้อยหวายเข้าไปยึดกันให้แน่นด้วยไม้สดอีกรอบ งานนี้ไม่มีหลุด ใช้ฝีมือล้วนๆ ผมได้แต่ยืนดูด้วยความทึ่งในภูมิปัญญา





นึกว่าใช้เวลาไม่นาน จริงๆ กว่าจะได้ลำนึง เหนื่อยมากครับ ยืนดูยังเหนื่อยเลย กว่าจะได้ครบ 5 ลำก็เล่นเอาเกือบหกโมงแล้ว





เหนื่อยนักก็พักก่อน





แสงแดดสอดส่องลอดช่องลงมากระทบผิวน้ำ สร้างความงดงามให้กับผืนป่า เพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้กับพวกเราได้ดีนัก





สรุปว่าคืนนี้ไม่สามารถถ่อแพออกไปได้ เพราะดึกเกิน ช่วงเย็นได้กำลังใจมาอีกครั้ง พี่บ่าวยาวถ่อเรือทวนน้ำขนเสบียงขึ้นมา งานนี้ไม่อดตายแล้ว

ตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะออกตัวกันแต่เช้าตรู่ ตื่นตี 5 เก็บของให้เรียบร้อย แพ็คของกันให้ดี เพราะเปียกปอนกันทั้งวันแน่ๆ กินอาหารเช้ากันให้อิ่ม

เอาของลงแพ มัดไว้ให้แน่น





ก่อนออกเดินทาง พี่บ่าวบรีฟกันก่อน





หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล กับเส้นทางอันคดเคี้ยวระยะทาง 15 กม. จะเป็นอย่างไร เดี๋ยวคงได้รู้กัน





เรื่องราวกำลังสนุก แต่รูปของผมหมดแค่นี้ ช่วงล่องแพไม่ได้ควักออกมาถ่ายเลย เส้นทางสมบูรณ์สุดๆ จากต้นน้ำน้อยๆ กลายเป็นแม่น้ำกว้างใหญ่ลึกหลายเมตร ผมตกน้ำไป 4 รอบได้ กว่าจะปรับตัว รู้วิธีการถ่อ ใช้เวลากันทั้งวันกว่าจะถึงปลายทาง หิวกันทุกคน แต่ประทับใจมิรู้ลืม



Create Date : 31 พฤษภาคม 2554
Last Update : 31 พฤษภาคม 2554 14:49:11 น. 9 comments
Counter : 1680 Pageviews.

 
น่าสนุก อิจฉา ๆๆๆๆ

แต่ทาก ... อ่ะ เนาะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 31 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:17:34 น.  

 
สวัสดีคะ

จากภาพดูแล่วน่าสนุกจริงๆคะ ไปกับเพื่อนฝูงที่ชอบลุยๆด้วยกันท่าจะมันเอาการอยู่



โดย: เจ้าช่อมาลี (PP_Skywalker ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:38:04 น.  

 
ห่างหายจากบ้านไปนานเลยนะบ้านนี้
ไปเที่ยวมานี่เอง


โดย: kwan_3023 วันที่: 31 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:41:40 น.  

 
น่าสนุก ธรรมชาติสวยงาม


โดย: Lovenumber129 วันที่: 31 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:00:22 น.  

 
บอกได้คำเดียวครับ..........สุดยอด


โดย: โหยหาชนบท (ไม่ล๊อคอิน) IP: 119.63.85.82 วันที่: 31 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:05:34 น.  

 
มาขอไปเที่ยวด้วยคนค่ะ
น่าไปบ้างจัง
แต่...เห็นทากแล้วขนลุกซู่...ขอดูอยู่ห่างๆละกัน ^^


โดย: Panino วันที่: 31 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:14:03 น.  

 
มาเยี่ยมชม ครับ


โดย: Kavanich96 วันที่: 1 มิถุนายน 2554 เวลา:8:07:33 น.  

 
สุยอดเรยนิ


โดย: 12365785963 IP: 118.175.84.56 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2555 เวลา:8:59:51 น.  

 
หรอยแรงเป่านิ


โดย: ทีมงานรักคนมีแฟน IP: 118.175.84.56 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2555 เวลา:9:06:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เม่าดอยตุง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




นับๆ ดูแล้วยังเหลืออีกหลายอุทยานเลยที่ยังไม่ได้ไป ว่าแล้วก็กางแผนที่ ออกเดินทางพิชิตอุทยานกันต่อไป..
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เม่าดอยตุง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.