Morning Kitchen: A Little Kitchen For a Little Chef
Group Blog
 
All Blogs
 

Chicken Farm's Special Project: Queen of the Afternoon tea: Indian Spirit Tea time (โหลดรูปโหดมาก)


งานนี้เป็นงานพิเศษของฟาร์มไก่แห่งพันทิพย์นะคะ



//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=dailydelicious&month=04-2010&date=29&group=15&gblog=1 



พี่ปุ๊กได้จัดประกวดปาตี้น้ำชาขึ้น โดยมีข้อกำหนดว่าของว่างสองอย่าง เครื่องดื่ม 1 อย่าง เช้าก็เลยคิดโจทย์ออกมาได้แนวนี้ค่ะ



Indian Spirit Tea Time






 



Concept: ที่คิดออกมาแนวนี้ เพราะ ถ้าพูดถึง High Tea หรือ Afternoon Tea คงหนีไม่พ้นนึกถึงอังกฤษเป็นแน่แท้ (ถึงแม้ว่าอังกฤษจะมีวัฒนธรรมการดื่มชาช้ากว่าฝรั่งเศษถึง 2x ปีก็ตามทีเถอะ) แล้วหากนึกถึงชาอังกฤษ ก็คงจะอดคิดถึงประเทศอินเดีย ที่เคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ และเป็นแหล่งปลูกชาของอังกฤษมาช้านาน ไม่ได้เช่นกัน








Menu:  จาก Concept ด้านบน เช้าจึงเลือกที่จะทำ อาหารหน้าตาเป็นฝรั้ง ฝรั่ง แต่กัดเข้าไปได้กลิ่นอาย อินเดีย จนแทบจะเต้นระบำหน้าท้องมาเองตามนี้ค่ะ



1. Chicken Tandoori Openface Sandwich:  Open Face Sanwish ที่แทบจะไม่ฝากกลิ่นอายยุโรปไว้ในรสชาติเลย แต่หน้าตาออกฝรั่งเท่านั้น เหมือนลูกครึ่งที่โตในอินเดีย หน้าฝรั่ง พูดอังกฤษแทบไม่ได้อย่างไรอย่างนั้นเลย



 



         - แป้งแบบอินเดีย เป็นลูกครึ่งระหว่าง Naan กับ โรตี เช้าว่าโรตีมันมันไป Naan ก็แห้งไป ได้ลูกครึ่ง โดยการเอา Naan มาใส่น้ำมัน ทอดในน้ำมัน 555



         - โยเกิร์ตซอส ประยุคมาจาก Raita (ขอบคุณความรู้จากคุณสาวปากช่อง แห่งพันทิพย์ค่ะ)



         - หอมแดงฝรั่ง และ แตงกวาญี่ปุ่น ดัดแปลงมาจากผักใน Raita เช่นกัน



         - นางเอกของเรา ไก่ Tandoori ย่างฉีกฝอย



2. Indian Spice Cup( Strawberry Spice Cup/ Curry Cup): 



 



        - Strawberry Spice Cup:  ถ้วยชอกโกเล็ตที่ถ้วยกรอบ ใส้นิ่มนวลด้วยความที่เป็นกานาร์ชใส่ครีมเยอะหน่อย มีรสอมเปรี้ยวจาก Strawberry Puree แท้ๆ และเพิ่มความเฉียบคมดุดัน ด้วยกลิ่น คาดาม่อน (กระวาน) และเครื่องเทศอื่นๆนิดหน่อย เหมือนสาวแขกลูกครึ่งอังกฤษยิ้มหวาน แต่นัยตาคมกริบ        



        - Curry Cup: ถ้วยนี้คล้ายกับข้างบนค่ะ ถึงไม่หวานอมเปรี้ยวแบบสาวน้อยวัยใสอุ่นไอสตรอเบอรี่ แต่กลับเป็นสาวใหญ่ รสละมุนกลิ่นละไม ไม่เผ็ดร้อน ด้วยผงกะหรี่ ไม่น่าเชื่อว่ากลิ่นผงกะหรี่ไม่ได้เข้ากันดีกับแค่ปูหรือกุ้ง แต่ก็เข้ากับชอกโกเล็ต เหมือนเป็นมิติโลกใหม่กันเลยทีเดียว



3. Earlgray Tea: ชาอังกฤษเบสิกๆ ที่กลิ่นแรงพอจะมารบราฆ่าฟันกับกลิ่นเครื่องเทศในอาหารของเรา ใครใคร่ใส่นมใส่ ใครใคร่ใส่น้ำตาลก็ใส่















4. ชุดถ้วยชา : อาจจะสงสัยกันว่าทำไมถึงมีข้อนี้โผล่ขึ้นมาได้ ทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ในโจทย์ แต่เช้าขอยืนยันว่ามันเป็นสิ่งสำคัญในการดื่มชาให้อร่อยค่ะ เช้าว่าทานชาบ่ายๆแบบนี้ ชุดถ้วยชาที่เนื้อเนียนละเอียด ถ้วยบางเป็นเปลือกไข่นี่แหละเหมาะ หน้าตาชุดชานอริตาเกะชุดนี้ดูเหมาะเป็นชายามบ่ายในสวนแบบอังกฤษเอามากๆค่ะ เลยเลือกที่จะเอาชุดนี้มาล้างใช้ ^^












Method: ดูรูป อ่านชื่อกันไปหมดแล้ว มาดูวิธีทำกันบ้าง



1. Chicken Tandoori Openface Sandwich: 



         - เริ่มจากไก่ก่อน เช้าใช้ผงหมักสำเร็จรูปจาก Food land ค่ะ 555 ง่าย แต่มาเพิ่มยี่หร่า กับกระเทียมผง และขิงผงเล็กน้อยตามใจตัวเอง ใช้จมูกเป็นเครื่องวัดค่ะ ใส่โยเกิร์ด ไปตาม instruction ข้างซอง แล้วก็หมักไว้ 1 วันเต็มๆค่ะ ให้เข้าเนื้อสุดๆไปเลย แนะนำให้แกะหนังออกก่อนหมักนะคะ ไม่ตอ้งการให้หนังมาบดบังการดูดซึมของกลิ่น จากนั้นย่างให้แห้งๆค่ะ แล้วนำมาฉีกเป็นเส้นพักไว้






         - แป้งแบบอินเดีย ใช้สูตรแป้ง Naan ของคุณน้ำหวานในพันทิบ เปลี่ยนจากแป้งนาน เป็นแป้งสาลี น้ำมันเค้าไม่ได้ใส่ตอนนวดเช้าก็ใส่ไปค่ะ 555  เช้าทำแค่ 1/2 สูตร






- แป้ง แป้งอเนกประสงค์ 3 ถ้วย

- ยีสต์แห้ง 1 ชช

- นมสด 1 ถ้วย

- น้ำมันพืช 1 ชต

- น้ำตาล 1 ชช

- เกลือ 1 ชช

- น้ำอุ่น 1/4 ถ้วย



1. นวดทุกอย่างเข้าด้วยกันพอหนืบๆหนืดๆ เหนียวๆ






2. พักแป้งไว้ให้ขึ้น เช้าทิ้งลืมไว้ชั่วโมงนึง = =" มันขึ้นนิสเดียว



3. เอาออกมาแผ่เป็นแผ่นๆ



4. ทอดน้ำมันในกระทะเทพ



5. ตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม หรืออะไรก็ได้ที่อยากตัดค่ะ



         - โยเกิร์ตซอส ผสม โยเกิร์ต เกลือ ยี่หร่า กระเทียมผง กะๆเอาผสมๆ ให้ได้รสตามชอบค่ะ (มั่วสะใจ แต่อร่อยนะ)






         - หอมแดงฝรั่ง และ แตงกวาญี่ปุ่น  หั่นค่ะ!!









 



ประกอบร่าง



วางแป้งลงไป



ทาด้วยโยเกิร์ตซอส






โรยด้วยผัก






วางด้วยไก่



หยอดโยเกิรตอีกนิดโรยต้นหอมไม่โรยก็ได้แล้วแต่ชอบค่ะ แต่เช้าเพื่อความงาม ^^



FIN



2. Indian Spice Cup( Strawberry Spice Cup/ Curry Cup):



 ขอวิธีทำโดยคร่าวนะคะ เพราะเดี๋ยวกระทู้จะยาวเกิน เช้าเคยนำเสนอวิธี Temper Chocolate ไปแล้ว ใน Fruity Drunky ค่ะ



1. Temper Chocolate แล้วเคลือบพิมพ์รูปถ้วยให้สวยงาม ถ้าไม่มีซิลิโคน สามารถหาซื้อแบบใช้แล้วทิ้งได้ที่ไดโซะนะคะ ^^ อยากรู้ว่า temp ยังไงตาม link ค่ะ



//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=chibiasa&month=12-2009&date=26&group=5&gblog=17









2. ทำใส้ สูตรใส้มีดังนี้



ใส้ Strawberry Spice



- ครีม 80



- Frozen Strawberry ปั่น กรอง 20g






- ชอกโกเล็ตดาร์ค ละลาย 100 g



- คาดาม่อน ผง + ขิงผง ตามใจชอบค่ะ  เช้าใส่ปลายก้อย ว่ากลิ่นกำลังพอดีไม่จัดไปค่ะ






ใส้ Curry Cup



- ครีม 100



- ชอกโกเล็ตดาร์ค ละลาย 100g



- ผงกะหรี่ ผสมกับคาดาม่อนผง ดมให้ได้กลิ่นพอดี ไม่เหมือนปูจนเกินไป แล้วตักออกมาใช้แค่ปลายก้อยค่ะ



 



วิธีทำก็คืออุ่นครีมให้อุ่นๆ ถ้าจะใส่สตรอเบอรี่ให้ใส่เลยค่ะ แล้วก็ผสมกับเครื่องเทศ จากนั้น เทลงชอกโกเล้ตละลายผสมให้เข้ากัน ทิ้งให้อุณหภูมิห้อง หยอดลงในถ้วยชอกโกเล็ตค่ะ












 



อันเป็นชอกโกเล็ตขูดโรยนี่เป็น Curry Cup อันที่เป็นแปะแดงแต้มหน้าผาก นี่เป็น Strawberry Cup อิอิ






ส่วนจาน เช้าตกแต่งด้วยผงปาปริก้าค่ะ เอาไข่ขาวทาก่อน ใช้นิ้วจุ้มทา แล้วโรยปาปริก้าลงไป กดๆให้แน่นๆ แล้วเป่าด้วยที่เป่าผมค่ะ ฟู่ๆ






RESULT: ผลสำรวจจากประชากรที่กิน (คุณพ่อ คุณแม่ ปรัชญ์ เช้า)



1. ทุกคนชอบ Open Face Sandwich รสชาติไปกับชาได้ดี ทานแล้วไม่แน่นเกินไป



2. Spice Cup ผลทดสอบออกมาน่ากลัวมากที่ว่า "ผู้หญิงชอบสตรอเบอรี่" "ผู้ชายชอบกะหรี่"



 มาดูบรรยากาศอื่นๆกันค่ะ















หมดถ้วยแล้วค่ะ ใครชอบไม่ชอบยังไง รบกวนโหวตให้นู๋ด้วยน้า ส่วนสมาชิก exteen ที่มีaccount พันทิบ รบกวนโหวตให้ด้วยเน้อ โฮ๊ะๆๆ พี่ปุ๊กแจ้งว่าให้โหวตได้ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปน้า~ รายละเอียดตามนี้



//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=dailydelicious&month=06-2010&date=03&group=15&gblog=3



 





 

Create Date : 04 มิถุนายน 2553    
Last Update : 4 มิถุนายน 2553 13:44:20 น.
Counter : 2988 Pageviews.  

Classic Liver Pate(ตับบดทาขนมปัง)


จริงๆเมนูนี้ทำเสริ์ฟ วันที่ 11 ที่ผ่านมาแหละ แต่เนื่องจากป่วยยาว เลยไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาทำอะไรซะที พอดีวันที่ 11 ที่ผ่านมาเป็นวันเกิดตาหนวด สุดหล่อ ที่สำคัญมากมายมากๆๆๆ นั่นคือ iPrach ถึงวันที่ 11 เราจะป่วยแบบเป็นไข้ไม่สเบยเอาซะเท่าไหร่ เลยทำอาหารออกมาง่ายๆ เป็นสูตรที่เคยทำมาแล้ว มีแต่เจ้า Liver Pate นี่แหละ ที่ดูเมหือนจะใหม่ซะหน่อย มาดูรูปกันก่อนเลยจ้าา



 



 






ออกมารสชาติหอมนุ่มอร่อย เช้าว่าอร่อยกว่าพวกที่ขายหลอดๆในห้างนะ


มาดูเวลาปาดๆ





เริ่มจากสูตรก่อนเลยจ้า


ตับไก่ 250g

เนย 200 g

หัวหอมใหญ่ 1 หัวใหญ่ (ใหญ่มากๆก็ดีค่ะ หวานๆ) หั่นเป็นซีกๆกลีบๆ

กระเทียมสับ 1 ช้อนชา

ใบไทม์สด 2 ก้าน  หรือใบไทม์แห้ง 1 ช้อนชา (หอมค่ะ ชอบ)

เกลือ 1/2 ช้อนชา (ลดเพิ่มตามชอบ)

พริกไทยดำป่น 1/2 ช้อนชา (ลดเพิ่มตามชอบ)

บรั่นดี 50 ml

ไวน์แดง 25ml (ไม่ใส่ก็ได้)

เบลีฟ (ใบกระวาน) 3-4 ใบ ไว้วางบนหน้าตับบดให้กลิ่นหอมค่ะ

ไข่ไก่ 2 ฟอง

ไข่แดงอย่างเดยว 1 ฟอง

เบค่อน ไว้รองพิมพ์ค่ะ 


วิธีทำ

 



1. เริ่มจากผัดหอมกับกระเทียมให้หัวหอมใสค่ะ แต่อย่าให้ไหม้จนเป็นสีน้ำตาลนะ เอาให้ใสพอ แล้วใส่เหล้าและไวน์ลงไป เคี่ยวให้ลดลงครึ่งนึงค่ะ



2. เอาเจ้าส่วนผสมหอมผัดนี่ใส่ถ้วย ปั่นให้ละเอียดไว้เลย



3. ละลายเนยในกระทะ เราจะเอามาเคลียริไฟ โดยการตั้งด้วยไฟอ่อน จนเนยละลาย ช้อนฟองออกให้หมด พอเนยเริ่มไม่ปุดๆแล้วก็เทเอาเฉพาะส่วนใสออกมาค่ะ



 






 



4. ปั่นตับในแก้วแยกค่ะ กันกระเด็น ไม่งั้นจะสยดสยองมาก



 






 



 



 








 



5. นำตับกับหอมบดมารวมกัน ใส่ไข่แล้วปั่นพอเข้ากัน อย่าให้นาน ไม่งั้นมันจะฟองฟอดๆ



 








 



6. ปูพิมพ์ด้วยเบค่อน



 








 



7. เทตับบดลงไป ปะด้วยเบลีฟ



 








 



8. อบ แบบหล่อน้ำ (แบบอบคัสตาร์ดอะค่ะ เอากระบะหล่อไว้ด้านนอก เทน้ำให้ประมาณครึ่งของพิมพ์) 150 องษาเซลเซียส นาน 2 ชั่วโมง (นานมักๆ)  อย่าให้อุณหภูมิมากไปนะคะ ไม่อย่างนั้นสีจะออกมาไม่สวยค่ะ(เวลาอาจจะต้องนานขึ้นถ้าทำถ้วยใหญ่ แนะนำให้ทำถ้วยเล็กๆค่ะ



9 พอถึงเวลาได้ที่ ก็ยกออกมา เอา wrap คลุม เอากระป๋องวางทับไว้  ให้น้ำมันมันออกมาจากตับ และไปเคลือบด้านนอกแทนค่ะ



 






 



 






 



10. แช่เย็นไว้ 24 ชั่วโมงให้ Set ตัว เวลาจะทานจะคว่ำออกมา หรือจะตักขึ้นมาทาเลยก็ได้ค่ะ ทานกับขนมปังฝัร่งเศษก็อรอ่ย



 








 



 



ทีนี้มาดูอาหารอื่นๆที่ทำให้สุดหล่อกันดีกว่า



 








 



อบแป้งชูว์สูตรของพี่ Daily Delicious (อร่อยมักๆค่ะ)


เอามาทำสองส่วน ส่วนของหวานกะ App ค่ะ 





Salmon Creamcheese Choux


ของคาวเป็นสเตกหมูธรรมด้าธรรมดา





ของหวานก็ ชูครีมธรรมดาค่าา





สุดท้าย สุดหล่อกับขนม ^^ 






 



"สุดท้ายนี้ รักที่รักที่สุดน้า~ วันเกิดที่รักทั้งทีทำอาหารออกมาธรรมด๊า ธรรมดา ไม่ได้คิดสูตรอะไรอลังการงานสร้างแบบที่่ตั้งใจไว้ แต่ยังไงก็ทำให้สุดกำลังนะจ๊ะ ถ้าทำอะไรให้ไม่พอใจ ก็อย่าโกรธ อย่าอารมเสียนะ วันเกิดอยากทำอะไรให้มากกว่านี้ ที่รักจะได้ happy มากกว่านี้ ^^" HBD ย้อนหลังอีกทีนะคะ



 



BTW พรุ่งนี้วันเกิดเรา คงเป็นวันป่วยๆอีก 1 วันที่กินไรไม่ได้ = =" น้ำหนักเหลือ 39.8 แล้ว อยากหาย กินอาหารได้ปกติจัง





 

Create Date : 17 มีนาคม 2553    
Last Update : 17 มีนาคม 2553 13:34:06 น.
Counter : 3443 Pageviews.  

Gravad Lax เจ้า Salmon แผ่นบางๆ แพงนักทำเองก็ได้!!


ไม่ได้อัพซะนาน แถมดองไว้ด้วย ลง exteen ตั้งนานแล้วไม่ลง bloggang อิอิ เนื่องจาก ยุ่งมวากๆค่ะ ใครมาเมนท์แล้วไม่ได้ไปเมนท์ตอบ ต้องขอโทษด้วยนะคะ บางทีเช้าเข้าไปดู แต่ไม่ได้เมนท์เพราะขี้เกียจเข้าหน้า สog in บางทีเข้าไปก็ดูรูปไม่ได้ เพราะที่ทำงานบลอค สink ฝากรูปหลายตัวมาก อย่าโกรธกันน่อ

ก่อนอื่นต้องขออภัยก่อนเลยค่ะ ที่วิธีทำภาพไม่สวย เนื่องจากมันทำง่ายม๊ากมาก เช้าเลยขี้เกียจไปหยิบกล้องจากบ้านอีกหลัง 555






หลายๆคนคงเคยเห็นเจ้า Grava Lax หรือเจ้าซาลม่อนสีส้มสดแผ่นบางๆมันๆ ที่ขายแถบแฮมในห้างกันใช่มั้ยคะ ว่ามันขายติ๊สเดียวแล้วแพงมากกกกกกกกกกกกกกกก แบบว่า 80 กรัม 150 อะไรเยี่ยงนี้ นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่เช้าชอบทานมากเลยค่ะ!!~



หลังจากที่ทนราคาไม่ได้ เลยเอาความรู้ในการหมักปลาแบบสวีเด็นมาทำซะ!! นั่นคือ Gravad นั่นเอง Lax นี่แปลว่า Salmon น่อ การ Gravad นี่ทำได้ด้วยปลาสองชนิด(ที่เคยเห็น) คือ แมคเคอเรล กับ ซาลม่อนค่ะ แต่ซาลม่อนจะเป็นที่นิยมกว่านะคะ



ราคาต้นทุนที่เราจะเอามาทำนี่ ขึ้นอยู่กับวัตถดิบที่เลือกใช้ค่ะ อันที่จริงการเอามา Gravad นี่ ไม่ต้องเลือกซาลมันดีมากมาย ขนาดว่าเป็น Nordic ชิ้นบะเอ้ง โลละพันแปดไรงี้ จริงๆใชแค่ Salmon Trouth ก็พอค่ะ หรือซาลม่อน ธรรมดาๆ แต่ต้องเป็นชิ้นที่หันตามยาวตัวไม่ต้องหั่นแว่นเท่านั้นเองค่ะ แล้วก็ควรจะใช้แบบฟรีสมา หรือถ้าซื้อแบบสดก็ควรจะถามเค้าว่าผ่านการฟรีสมารึยัง เพราะการฟรีสที่ -30 ลงไป นานเกิน 6 ชั่วโมง จะทำให้ไข่พยาธิ์ฝ่อได้ (เค้าว่ากันว่างี้ เช้าก็มิมีความรู้มากไปกว่านี้)



 



ส่วนผสมที่ใช้ก็มี



1. ซาลม่อนหั่นตามยาว เอาก้างออกให้หมด 1 ชิ้น หนาบางน้ำหนักตามชอบ ไม่ต้องแพงมาก



2. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ



3 น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ



4. Dill หรือ ผักชีลาว



5. พริกไทยดำ



6. เหล้าจำพวก วอดก้า บรั่นดี หรือ จิน (ไม่มีก็ตัดไปได้ค่ะ)



วิธีทำก็แสนง่าย



1. ล้างชิ้นปลาให้สะอาด



2. ซับให้แห้ง



3. ทาเหล้าบางๆสองด้าน เค้าว่ากันว่าฆ่าเชื้อ 555



4. นำเกลือพริกไทยน้ำตาลคลุกให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกชิ้นปลาค่ะ กดลงให้ติดปลาเลยนะคะ ทั้งสองด้านค่ะ อย่าให้มีเนื้อส่วนที่ไม่ได้พอก ถ้าชิ้นปลาใหญ่ ก็เพิ่มจำนวนตามอัตราส่วนเดิมค่ะ






เกลือ น้ำตาลพริกไทยแบบนี้ แล้วปะแบบด้านล่างจ้า






6. วางช่อดิลไว้ด้านล่าง เอาเป็นช่อๆเลยค่ะ ไม่ต้องซอย เด็ดๆเอา วางชิ้นปลา แล้ววางช่อดิลปะอีกทีดานบน ห่อ ด้วย Plastic Wrap 2 ชั้น แล้วหาจานหรือเขียงวางไว้ด้านบน เอากระป๋อง หรือของหนักๆวางทับ แล้วแช่เย็นไว้ 24 - 48 ชั่วโมงค่ะ  ถ้าชิ้นเล็ก ชิ้นบางก็ 24 ชั่วโมงพอค่ะ นานไปจะเค็มนะคะ






 หนาๆแบบนี้ทั้งด้านบนล่างเลยจ้า ห่อเป็นก้อนๆ ไม่ให้เห็นเนื้อปลาเลย



7. พอครบกำหนดเวลา ก็เอาออกจากตู้เย็นมา ระวังเพราะว่าถาดที่รองจะเจิ่งนองไปด้วยน้ำมันและน้ำจากซาลม่อน ดึง Dill ออกแล้วล้างด้วยน้ำเย็นค่ะ ซับให้แห้ง จากนั้นนำมาสไลด์เป็นแผ่นบางๆ โรยหน้าด้วย Dill และพริกไทยดำอีกที เอา Wrap คลุม เข้าตู้เย็นเลยค่ะ 









เจ้า Gravad Lax นี่ สามารถอร่อยด้วยตัวของมันเองค่ะ จะทานกับซอสมัสตาร์ด หรือมายองเนส เคปเปอร์ บีบมะนาวก็ได้ นอกจากนี้ยังทำเป็นคานาเป้ ทานกับครีมชีสตีค่ะ



 



สูตรครีมชีส



1 ครีมชีส ครึ่งก้อน



2. ครีม 1.4 ถ้วย



3. พริกไทยดำป่นตามชอบ



4.  เกลือเล็กน้อย



 



ตีครีมชีสให้เหลวขึ้น ใส่ครีม ใส่เลกือ พริกไทย ชิมรสตามชอบจ้า แล้วบีบ หรือทาลงบนขนมปังได้เลย ทานกับเบเกิล ก็อรอ่ย ถ้าผสมวาซาบิลงไปก็จะได้แบบเบเกิลซาม่อนวาซาบิของ อุบลพัน จ้าา~



 



ต่อมาก็เป็น Salmon Spread 



ง่ายมาก เอาเจ้า Gravalax + ครีมชีสซัก 1/4 ก้อน มาบดละเอียดด้วยเรื่องบด  ใส่พริกไทยดำ และดีล ตามชอบไม่ต้องใส่เกลือนะจ๊ะ มันเค็มอยู่แล้ว ใส่มายองเนสนิดหน่อย ให้ได้รสเปรี้ยว จากนั้น ตีวิปครีมให้ตั้งยอดอ่อน fold ลงไปเลยจ้า คล้ายๆทำมูส จะได้ Sandwish Spread ที่เบานุ่ม อร่อยหอมมันมากๆ






 



สุดท้ายนี้ ขอบ่นนิสนุง เบื่อ อยากลาออกไปเปิดร้านของตัวเองที่หาดใหญ่ T_T ไปมาช่วงปีใหม่เห็นเลยว่ายังมีช่องว่างให้เราลงไปอยู่ในตลาดได้อีกเยอะ ไม่เหมือนกรุงเทพ หรือเชียงใหม่ แต่ไม่แน่น้า~ กำลังจะเปลี่ยนใจไปเปิดอยู่กะรุจังที่ชัยภูมิแทนแระ เอริ๊ก เก็บตังๆ สู้ตรายๆ แต่ที่สำคัญกว่าตังคือจะขอพ่อไปได้ไงหว่า 555 



อยากทำขนมแบบอลังๆ ทำกับข้าวมื้อใหญ่ๆ แต่ทำไม่ได้ ตอนนี้ที่บ้านก่อสร้างต่อเติมตกแต่ง แล้วช่างเจ้ากรรมก็ดันปิดกั้นหนทางสู่แหล่งน้ำของครัวเช้าทุกทิศทาง ทำได้แต่ของง่ายๆแบบเจ้า Gravad Lax นี่แหละ อึดอัดชะมัด 



 





 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2553 10:40:26 น.
Counter : 2613 Pageviews.  

Lamb Chop with bluecheese sauce VS Parma Mossarella Spring roll





ก่อนอื่นคงต้อง Happy new year ทุกคนเลยค่า จริงๆอาหารมื้อที่จะลงต่อไปนี่เป็นคริสมาสที่ผ่านมาค่ะ App กับ Main จะลงสูตร App และ Main ให้ แต่ว่าขนมนั้น เช้าเอาสูตรไปลงให้กับ หนังสือ Game Start ก็เลยลงให้ได้แต่รูปและส่วนผสมคร่าวๆนะจ๊ะ



อาหารประกอบไปด้วย 3 จานนะคะ



1. Parma & Mossarella Spring roll






2. Lamb Chop with bluecheese sauce






3. Montblanc






 



เจ้า Appitizer นี่คือ Parma & Mossarella Spring roll เสิร์ฟ กับ องุ่นสด พริกหวานแดงย่าง และ Peach Sauce



คอนเซปของอาหารอันนี้ คือดึง เอาป่อเปี๊ยะแบบอาหารเอเซีย ที่กินกะซอสบ๊วยหวาน มาเป็นอาหารฝรั่งกิน กะซอสบ๊วยฝรั่งเอา (พีชกะบ๊วยมันก็สปีชี่เดียวกันแล) 555






ส่วนผสมและวิธีทำ ง่ายมากค่ะ



1. ซื้อมอซโซเรลล่า แบบแช่ในน้ำ เป็นก้อนๆมา



2. ซื้อพาม่าแฮม ถาคิดว่าแพงไปก็นัทแฮม แบบแฉลบยาวๆมาค่ะ



3. แป้งเปี๊ยะสำเร็จรูปแบบฟรีส หรือสด ก็ได้



4. พริกหวานแดง - หั่นเส้น นาบกระทะแบบเคลือบ จนผิวไหม้ กลับอีกด้านย่างให้ผิวแห้ง ทำแบบนี้พริกหวานจะไม่เหลือรสเฝื่อนค่ะ จะหวานและหอม



5. องุ่นสด



6. พีชซอส - เอาพีชกระป๋องซักสามซีก ปั่นกับไวน์ขาวซัก 1/4-1/2 ถ้วย แล้วแต่ชอบ ตั้งไฟให้ข้นหน่อย ใส่เกลือหยิบมือให้รสจัดขึ้น ยกลงแช่เย็นให้เย็นค่ะ






 วิธีทำ



1. เอาแฮมห่อชีส






2. เอาเกี๊ยวห่อชีสกับแฮม ยาขอบด้วยน้ำเปล่าหรือไข่ขาวก็ได้ค่ะ



3. แช่ให้เกี๊ยวเย็นจัด แช่ฟรีสซักครึ่งชั่วโมงก็ได้ค่ะ



4. ตั้งน้ำมันให้ร้อนจัด เอาเกี๊ยวลงทอดให้พอเหลืองทั้งสองด้าน (อย่ากลับบ่อย มันจะเละนิ่มไม่กรอบ) พอได้ที่ยกขึ้นซับด้วยทิชชู่



5. เอาซอสใส่แก้วที่เตรียมไว้ วางเกี๊ยว พริกหวาน องุ่น ตกแต่งตามใจชอบจ้า






ชิ้นนี้งับตอนเย็น จะไม่ค่อยยยืด แต่อร่อยมมากๆค่ะ



ต่อมาเป็นจานหลักค่ะ นั่นคือ Lamb Chop with Blue Cheese Sauce ชื่อเรียบๆ แต่วิธีทำไม่ค่อยเรียบเท่าไหร่นัก จริงๆพระเอกนางเอกของจานนี้ นอกจากจะเป็นแกะเนื้อดีจากนิวซีแลนด์ กับบลูชีสแล้ว ต้องมีผู้ช่วยแบบ ใบเสจ และ องุ่นเข้ามาเป็นองค์ประกอบด้วย นอกจากนี้เช้ายังเสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งผัดเนยกับใบเสจด้วยอีกตาหาก ดูวิธีทำกันเลยค่ะ






ส่วนผสมสำหรับสเตค



1. น้ำมันมะกอก



2. เบลีฟแห้ง 1 ใบ



3. ใบเสจ



4. กระเทียมสับ



5. พริกไทยดำทุบ



6. เนื้อแกะ 



7. เกลือหยิบมือ



8. น้ำส้มบัลซามิก นิดเดียวค่ะ อย่าให้กลิ่นแรง เอาความเป็นกรดนิสนุง



ส่วนผสมสำหรับมันฝรั่ง



1. มันฝรั่ง



2. ใบเสจ



3. เกลือ



4. เนยสำหรับทอด 1/4 ก้อน



ส่วนผสมสำหรับ เกรวี่



1. ครีมสด



2. Bluecheese ตะกุยๆให้เป็นก้อนเล็กๆ ตามชอบค่ะ ชอบกลิ่นแรงแค่ไหนก็ใส่ตามสะดวก



3. องุ่นสด



4. บรั่นดี



5. เกลือ พริกไทยดำ กระเทียมสับ ใบเสจ ไว้แต่งกลิ่นรสตามชอบ



วิธีทำ






เริ่มต้น หมักแกะ กับส่วนผสมทั้งหมดทิ้งไว้ชั่วโมงนึง preheat เตาอบ 180 C



1. ปอกเปลือกมันฝรั่งแล้วหั่นเป็น 4 เหลี่ยมลูกเต๋า ต้มในน้ำ ใส่เกลือเล็กน้อยจนนิ่ม แต่ไม่ต้องนิ่มมาก



2. เทน้ำออก ตั้งไฟให้กะทะแห้ง จากนั้นใส่เนยลงไป พอเนยละลาย กลิ้งให้ทั่วกะทะ ทอดให้มันฝรั่งเริ่มเหลือง มีสีน้ำตาลเล็กน้อย ใส่ใบเสจลงไปทอดด้วย ทอดจนใบเสจใส มันฝรั่งสีสวย ตักขึ้น



3. เทเนยส่วนเกินออก พอให้เคลือบกะทะ เอาแกะลงนาบ ด้านละ 3 นาที แล้วใส่ถาดเตรียมเข้าเตาอบ พอทอดแล้ว ทิ้งไว้ให้น้ำจากแกะไหลออกมาซักพัก เทน้ำเก็บไว้ แล้วเอาเข้าเตาอบต่ออีก 3 - 5 นาที แล้วแต่ชอบสุกขนาดไหนถ้าชอบสุกมากก็ต่อไปเลย 7 - 8 นาทีค่ะ พออบได้ที่แล้วจัดใส่จานเรียงกับมันฝรั่งไว้เลย



4. เตรียมเกรวี่ โดยการเทน้ำมันส่วนเกินในกะทะออก แต่อย่าเอาพวกเศษๆติดกะทะออกนะ พวกนั้นทำให้อร่อยเลยแหละ เทน้ำที่ออกมาจากเนื้อแกะลงไป ใส่ครีม พอครีมเริ่มเดือด ใส่บรั่นดี บลูชีสลงไป คนให้บลูชีสแตกตัวค่ะ แต่งรสด้วยเกลือ (ชิมก่อนนะ เพราะชีสเค็มอยู่แล้ว) แต่งกลิ่นด้วยเครื่องเทศ พอเคี่ยวจนซอสข้นพอดี ก็ราดลงบนแกะที่เตรียมไว้ แล้วคอ่ยโรยองุ่นตามค่ะ ถ้าเคี่ยวซอสนาน ข้นไป ก็เติมนมสดเพิ่มได้น้อ ถ้าไม่มีก็เอาน้ำผสมครีมก๊ะได้



 



ส่วนของหวาน  Montblanc






ประกอบไปด้วย



1. ชิฟฟ่อน ทาด้วยน้ำเชื่อมบรั่นดี



2. มูสเกาลัค



3. เกาลัคครีม บีบรอบๆ



4.  วิปครีม



เช้าเสิร์ฟคู่กับ มารองกาเซ่ค่ะ ของญี่ปุ่น ของฝรั่งเศษบ่อจี้ ซือไม่ไหว ขนมเช้าไม่หวานมาก ดังนั้นใครอยากได้หวานแบบแสบใส้ต้องงัดเจ้ามารองกาเซ่ขึ้นมากิน



ยืนยันว่าเจ้านี่อร่อยมากๆ ความหวานจากเกาลัคตามธรรมชาติ อร่อยมากๆเลย เช้าแทบไม่ได้ใส่น้ำตาลเพิ่มเลยในเกาลัดครีม ยิ่งเจอกับชิฟฟ่อนนุ่มๆ กับครีมเบาๆนี่ยิ่งละลายในปากสุดๆ






สุดท้ายพ่อก็เปิดเจ้านี่ฉลองคริสมาส






ส่วนปีใหม่ปีนี้เช้าไป สตูล หาดใหญ่ มาเลมาค่ะ ทัวร์กินสุดๆ ลงรูปอวดพอเป็นกระใส ^^ ผ่านไปอีกปีที่สุขสันต์ ขอให้ปีนี้ทุกคนมีความสุขกันมากๆนะคะ ^^ ขอบคุณพี่ปู คุณชาย คุณผดุง สำหรับความสุขที่ส่งมาด้วยค่ะ



อวดรูปตอนไปหาดใหญ่-สตูล-ปีนัง นิสหน่อย






น้ำทะเลที่หลีเป๊ะ






พระอาทิตย์ตกหลีเป๊ะ






ซอกซอยในปีนัง






รอยเฮนน่าที่ปีนังฮิล






งานโคมไฟหาดใหญ่






งานโคมไฟเช่นกัน



 



 





 

Create Date : 05 มกราคม 2553    
Last Update : 5 มกราคม 2553 15:16:10 น.
Counter : 2732 Pageviews.  

เปลือกกุ้งหรอ!! ทำ Lobster(Prawn) Bisque สิ!!


เนื่องจากวันพ่อปีนี้ คุณพ่อเกิด Idea กระฉูดว่า อยากไปกินข้าวนอกบ้านบ้าง เช้าจะได้ไม่ต้องดำผุดดำว่ายอยู่ในครัวเหมือนทุกๆปีที่ผ่านมา แต่ไอ้ครั้นจะไม่ทำอะไรเลยก็กะไรอยู่ เลยตั้งใจว่าจะทำซุปให้คุณป๊ะป๋า ไว้ทานเล่นตอนหิวๆ ซึ่งก็เป็นตามคาดว่า ตอนเช้าป๊ะป๋าไปข้างนอกบ้าน กลับมาก็หิว ได้กินเป็นของยามบ่ายซะ 555



 



เจ้า Lobster Bisque นี่ ไปทานข้างนอกชามนึงก็ราคาโหดใช่ย่อย ต่อให้ลดต้นทุนโดยการใช้ Prawn หรือกุ้งแม่น้ำ เปลี่ยน Menu เป็น Prawn Bisque ราคาก็ยังไม่ต่ำกว่า 200 รสชาติก็งั้นๆ เอาอร่อยๆ ก็ราคา 3XX++ แต่หารู้ไม่ว่า เจ้าเนี่ย แทบจะมีแต่เปลือกกุ้ง มันเป็นวิธีในการใช้เปลือกกุ้งให้คุ้มค่านั่นเอง 55  แต่งานนี้เช้าใส่เนื้อกุ้งลงไปด้วยค่ะ เพราะไม่รู้จะเอาเนื้อไปทำอะไร มันอะไรก็ใส่ไปหมดเลย 555โดยแบ่งเนื้อออกเป็นสองส่วน ส่วนไว้ฉีกโรยหน้า กะส่วนที่ปั่นรวมซุปไปด้วย แต่ตามร้านอาหาร หรือโรงแรม เค้าไม่ใส่เนื้อกันหรอกนะจ๊ะ



 



ดูส่วนผสมกันเล้ยย




  • กุ้งแม่น้ำ 500 g (ถ้าใช้เปลือกอย่างเดียว ก็เกินน้ก็ได้ เปลือกเยอะๆก็ดีค่ะ หอมดี)


  • ข้าวสาร(ถ้ามีข้าวญี่ปุ่นให้ใช้ข้าวญี่ปุ่น หรือ pudding rice ก็ได้จ๊ะ) 80g อันนี้ให้ความข้นนะ


  • สตอคปลา 2 ลิตร ( สูตรด้านล่างนะคะ ใครจะใช้แบบกล่อง แบบก้อนอะไรก็ได้ค่ะ)


  • ไวน์ขาว 150 cc กับ 1/4 ถ้วยตวง (ใส่คนละรอบ ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นไวน์จัดๆ ให้ตัด 1/4 ถ้วยออกนะคะ)อันนี้ใช้ยี่ห้อไม่แพงได้ค่ะ เช้าใช้ขวดละสามร้อย ของชิลี ไวน์ชิลี ถูกและรสชาติ ok มีอยู่จริง อย่าไปซื้อไวน์ฝรั่งเศษ หรืออิตาลี่ ขวดละ 300 เข้าเชียว รสชาติรับประทานไม่ลงกันเลยทีเดียว


  • Tometo Puree 1 ช้อนโต๊ะ 


  • เนยซัก 2 ช้อนโต๊ะ


  • ครีม 100 g (ใส่ตอนท้ายค่ะ)


  • ต้นกระเทียม 1 ต้น หั่นๆเอาแต่ส่วนขาวๆ


  • หอมหัวใหญ่ 1 หัวหั่นเป็นซีกๆค่ะ


  • แครอท 1 หัวเล็ก (ให้สีส้มสวยแต่ถ้าใส่มากไปจะกลายเป็นซุปแครอท)


  • กระเทียมเล็ก 6 (ถ้าใหญ่ก็ 3) กลีบ


  • เบลีฟ ถ้าสด ก็ 1 ใบ ถ้าแห้งก็ 2-3 ใบ


  • Thyme สด 1 กอ


  • Fennel Seed 1 ช้อนชา


  • พริกไทยดำ 10 เม็ด


  • โป้ยกั๊ก 3 ดอก (เคล็ดลับจากเพื่อนเลยนะเนี่ย)


  • เกลือ ไว้แต่งรสค่ะ





อันนี้ เบลีฟ ไทม์ และโป้ยกั๊ก






อันนี้ก็ Fennel นะจ๊ะ



 



วิธีทำ 



1. แกะ เปลือกกุ้ง แยกมัน กับเนื้อไว้ เอาเปลือกกุ้งไปอบ 200 Cให้กลายเป็นสีเกือบน้ำตาลหอมฟุ้งค่ะ



 






 



 



 








 



2. ต้มสตอคปลา โดยใช้กระดูกปลาเก๋า 4 ชิ้น ต้มกับผักต่างๆ เช้าใช้ มันฝรั่ง 1 ขึ้นช่ายฝรั่ง 1 ก้านเอาแต่ก้าน มะเขือเทศ 1 หอมหัวใหญ่ 2 ต้มด้วยน้ำ 4 ลิตร ต้มให้เหลือ 2 ลิตรจ้า (ต้มไฟไม่ต้องแรงนะจ๊ะ ให้ค่อยๆงวด)



 






 



 









 



3. เอาเนยละลายในหม้อ ผัดเนื้อกุ้งให้หอม พอเริ่มสุก ก็ตักส่วนที่จะเอาไว้โรยขึ้น (เช้าใช้ห้าตัว ก็ตักออกสองตัว) อีกสามตัวก็ใส่ไว้ ใส่เปลือกกุ้งที่อบแล้ว กับมันกุ้งไปผัดด้วย ใส่ผัก เครือ่งเทศ มะเขือเทศ Puree ให้เข้ากันใส่ไวน์ขาว 150 cc ลงไป ผัดๆ แล้วตามด้วยสตอคใส่ข้าวสาร ต้มแบบเดือดนิดๆไป 1 ชั่วโมง หรือจนผักต่างๆนิ่มค่ะ ถ้าน้ำงวดไปเติมน้ำเพิ่มได้ค่ะ ตอนต้มเสรจ จะมีข้าวเหมือนข้าวต้มข้าวน้อยๆเลย 555 



4. เอาทุกอย่างมาปั่นค่ะ!! ปั่นให้ละเอียด ส่วนหัวกุ้งที่แข็งๆ เอาออกก่อนก็ได้ เอาโป้ยกั๊กออกมาด้วยค่ะ สองอย่าง ที่เหลือปั่นให้หมด!!! 



5. กรองค่ะ ด้วยกระชอน



 






 



 กรองแล้วจะได้เนื้อเนียนๆแบบนี้ กะกากๆแบบนี้แยกกัน









6. เอาขึ้นเคี่ยวต่อให้ร้อน ปรุงรสด้วยเกลือ ใส่ไวน์ขาว 1/4 ถ้วยที่เหลือลงไป พร้อมกับครีม 100 ml คนตลอดเวลากันซุปไหม้ เพราะจะข้นมาก พอร้อนแล้วก็ตักใส่ชามค่ะ



7. ตกแต่งวาดลายให้สวยงาม แล้ววางชิ้นกุ้งลงไปเป็นอันพร้อมเสิร์ฟ



เทใส่ชามก่อน






 



โรยพริกไทย หยอดครีม






วางชิ้นเนื้อกุ้งที่แยกเอาไว้ แล้วนำมาฉีกๆ (เน้นว่าใช้มือฉีก จะสวยกว่าหั่นค่ะ)






 ลายวาดได้หลายแบบนะเอ้า






จบแล้วค่า Review วันพ่อ



วันนี้ไม่ใช่วันพ่อแต่ก็ต้องอยู่บ้าน แถวบ้านปิดถนนกันกระจาย รถติดจนถึงเที่ยงคืนตีหนึ่ง (ติดแบบไม่เคยเป็นมาก่อน)เค้าจัดงานใหญ่โตดี แต่คงลืมคิดเรื่องการจราจร และที่จอดรถแหงๆ



 



 





 

Create Date : 06 ธันวาคม 2552    
Last Update : 6 ธันวาคม 2552 10:55:26 น.
Counter : 2438 Pageviews.  

1  2  3  

Chibiasa
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




I'm a cat but not just a CAT.
Friends' blogs
[Add Chibiasa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.