Beef Wellington สวรรค์ของคนรักเนื้อ ปะทะ Tuna Fillet w. Red wine Chocolate Sauce สำหรับคนรักปลา
เนื่องจากเช้าได้เนื้อ Grassfed จากออซซี่มาสองกิโล ไม่รู้จะทำอะไรดี แล้วเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเห็นกระทู้นึงในพันทิพของคุณ Swin เค้าก็ทำแบบ individual (กรรมวิธีคล้ายกัน แต่ว่าส่วนผสมต่างกันเยอะ) ทำให้เช้าคิดถึงอารมปาตี้ ที่กินแบบสันในก้อนยาวๆเลยแหละ ก็เลยเอาวะ ตัดเนื้อมาครึ่งกิโลแล้วทำกันเต๊อะ!!
เปิดตู้เย็นมารื้อของก่อนเลย เรามีอะไรในตู้เย็นบ้าง มี Black Forrest Ham อยู่ ---> Add to inventory ตับบดแบบหยาบรสหัวหอม ---> Add to inventory มันฝรั่ง ---> Add to inventory (ก็ได้ฟระ)-->กลายร่างเป็นมันบด Watercress --> Add ก็ได้ฟระอีกรอบ ---> กลายร่างเป็นSalad สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือเนื้อสันใน และแป้งพายชั้น (เช้าซื้อสำเร็จรูปจาก Foodland จ๊ะ) 1. ก่อนอื่นเราต้องทำการหมักก่อน โดยสูตรตามด้านล่างเลยจ้า
- เนื้อสันใน ขอเป็นท่อนๆ
- น้ำมันมะกอก
- ไวน์แดงปริมาณเท่าน้ำมันมะกอก
- Balsamic 1 ช้อนโต๊ะ
- Bay leaf
- Rosemary
- Black Pepper
- Salt
หมักไว้เลยค่ะ 2 ชั่วโมง 2. หมักแล้วก็ต้องนำเนื้อมาซีลโดยการนาบกระทะร้อนๆด้านละ 1 นาที กันความชื้นออกจากเนื้อจ๊ะ 
3. ซีลแล้วเอา Wrap วางไว้ เอาแฮมเรียงกัน 
4.ปาดตับบดปาดดดดด
5.เรียง Bay leaf
6.ห่อ wrap แช่เย็น 15 นาที 
7.คลี่แป้งพายให้พอดีห่อเนื้อ เชื่อมรอยต่อด้วยไข่จ๊ะ (ตีไข่ธรรมดาเลย) 8.เอาเจ้าที่แช่เย็นไว้มาหอแป้งพาย แช่เย็นอีก 5 นาทีให้แป้งอยู่ตัวจ๊ะ 9.เอาออกจากตู้เย็น วางลงบนถาดอบ ทาเนยให้ทั่วถาดอบด้วย รองกระดาษไขก็ต้องทาเนยเหมือนกันจ๊ะ เพราะมันจะติด กรีดหน้าเป็นลายตามชอบ แล้วก้ทาไข่ 10. เอาเข้าเตาอบ 220 C จนกระทั่งแป้งพายสุกเหลืองหอมกรอบ เย่ (เช้าใช้เวลาประมาณ 20 นาที ไม่รู้เตามั่วไม่มั่ว 555)
เพียงเท่านี้ก็ได้แล้ว Beef Wellington ปาดแล้วเป็นเช่นนี้ 
ส่วนผู้ไม่บริโภคเนื้อก็มีอีกเมนู เป็น Tuna Fillet with Red wine chocolate sauce ได้แรงบันดาลใจมาจากเชฟกอดอน กับน้องปอ(เช่)แหละ ^^เลยทำซอสสูตรนี้ขึ้นมา
เริ่มจาก เอาปลามาทามะนาวบางๆทุกด้าน โรยเกลือพริกไทยดำ กระเทียมสับ แช่ทิ้งไว้ซักสิบห้านาที แล้วนาบกระทะด้านขอบด้านละ 1 นาที ด้านหน้าด้านหลัง ด้านละสามนาที ใส่น้ำนิดหน่อย ปิดฝา ทิ้งไว้อีกซักสามนาที ให้ข้างในไม่สุกมากค่ะ 
ส่วนซอสไวน์แดงชอกโก้นี่ใช้ ไวน์แดง น้ำสตอกหมู(หรือไก่ หรือเนื้อ) อย่างละเท่าๆกัน จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ใส่หอมแดง กระเทียมสับ เบลีฟ โรสแมรี่ พริกไทยดำ (คือเท่าที่มีในตู้เย็นตอนนี้แหละค่ะ 555) เฮอชี่ไซรับ 2 ชอ้นชา คิดซะว่าเป็นซีอิ้วหวาน 555 ราวๆนั้น ผงโกโก้นิดเดียวค่ะ พอให้มีกลิ่น รีดิวซ์ให้เข้มข้นค่ะ กะๆเอาให้เหลือซัก 1/3 แต่งรสด้วยเกลือค่ะ อยากแต่งรสอะไรยังไงก็ใส่ๆไปตามใจชอบเลย รสชอกโกเล็ตไม่ออกหรอกนะคะ มีแต่กลิ่น รสจะเหมือนซอสไวน์แดงตามปกติค่ะ ทานกับมันบด และสลัดวอเทอเครสค่ะ หั่นแล้วเป็นแบบนี้ เย่
ส่วนขนมเป็น สูตรคิดแบบโง่ๆ แต่สำเร็จได้แบบไม่น่าเชื่อ ชอบกันทั้งบ้านเลย มันคือ Pear Chocolate Meringue Pie คือมีแพร์อยู่ อยากกินชอกโก้มูส และมีไข่ขาวเหลือจากการทำมันบด(ใส่ไข่แดงในมันบดด้วยเพิ่มความเจ้มจ้น~) สูตรนี้เมอแรงไม่กรอบกรุ๊บๆ เพราโดนความชื้นจากชอกมูสค่ะ แต่ว่ามันนุ่มละมุนละลายในปากหายวั๊บไปหมดเลย หอมกลิ่น VSOP อ่อนๆด้วย ฮี๊ยวว~ สูตรนี้ถ้ามีเวลาเดี๋ยวเอาลงใน My little Bakery อีกทีค่า
Create Date : 23 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 24 สิงหาคม 2552 7:58:12 น. |
|
15 comments
|
Counter : 3197 Pageviews. |
 |
|
ไม่ไหวละ ทำไมทำแบบนี้ตลอด
น่ากินเกินไปนะ พี่หิววววววววววว
พรุ่งนี้ว่าจะทำพาสต้าเพสโต้ซอสกะราสเบอรี่บราวนี่ส์โรล
ญาติคนเยอรมันจะมาเยี่ยม มันบอกไอไม่กินแบล็คฟอเรสนะ 55