ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

90 นาทีที่กูดิสัน ปาร์ค ไม่ใช่เกม “เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้” ในแบบที่เคยคุ้น

อำลาดาร์บี้

90 นาทีที่กูดิสัน ปาร์ค ไม่ใช่เกม “เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้” ในแบบที่เคยคุ้น

ไม่ใช่เกมที่เปิดฉากแลกกันอย่างดุเดือด ไม่มีการปะทะที่หนักหน่วงให้เห็นมากนัก ไม่มีใบแดง แม้กระทั่งใบเหลืองยังเป็นของหายาก

ไม่มีการต่อสู้แบบถวายชีวิตให้เห็น

ความจริงมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะในชีวิตคนเราใช่ว่าจะสุดขีดสุดขั้วได้ทุกเวลานาที

เพียงแต่มันอาจเสียดายและอดใจหายไม่ได้ เมื่อเห็นภาพของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด กับแววตาของคนหัวใจสลายเพราะทันทีที่สิ้นเสียงนกหวีดของแอนโธนีย์ เทย์เลอร์ นั่นหมายถึงนับจากนี้เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ กับเขาจะเป็นแค่เรื่อง “อดีต” เท่านั้น

ไม่มีอีกแล้วสำหรับสตีวี่ จี

นอกเหนือจากเอฟเวอร์โตเนียนและแมนคูเนียนแล้ว ผมเชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยอยากเห็น เจอร์ราร์ด ได้ประสบชัยชนะในเกมสำคัญๆที่เขาผูกพันทุกนัดในการเผชิญกับคู่แข่งแห่งโชคชะตา ในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนที่เหลือก่อนจะจากลิเวอร์พูลไป

แต่ชีวิตคนเรานั้นใช่จะสมหวังได้เสียทุกอย่าง และเกมที่กูดิสัน ปาร์ค นั้นเป็นอีกครั้งที่เขาไม่สมหวัง

ไม่มีการปิดฉากตำนานแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ด้วยชัยชนะ

สิ่งที่เจอร์ราร์ดทำได้คือการพยายามวิ่งให้ครบ 90 นาที ปลุกเร้าลูกทีม และพยายามประคับประคองการเล่นของตัวเองไม่ให้เป็นตัวถ่วงของทีมมากนัก ซึ่งถือว่ากัปตันลิเวอร์พูลทำได้ดีในระดับพอใช้

อย่างน้อย “แพสชั่น” หรือความรู้สึกอันแรงกล้าของเขาที่มีต่อการเล่นเกมดาร์บี้ สามารถแผ่ปกคลุมเกมได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ



จังหวะการกระโดดขึ้นตีลังกายิง รวมถึงการแปบอลหมายเสียบเสาไกลนั้นไม่ใช่วิธีการเล่นตามปกติวิสัยของเขา แต่ในยามที่แข้งขาอ่อนเปลี้ย การเล่นพลิกแพลงเพื่อไม่ให้คู่แข่งคาดเดาได้ง่ายเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าทำไมเจอร์ราร์ด จึงตัดสินใจเล่นเช่นนี้ในจังหวะแบบนั้น

ถึงอย่างนั้น “อิทธิพล” ของเขาที่มีต่อลิเวอร์พูลนั้นเหลือน้อยลงทุกที

แสงที่เคยเจิดจ้าร้อนแรงมันไม่สว่างเและอบอุ่นเหมือนเก่า

อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องธรรมดาของโลกครับ ไม่มีใครจะอยู่ยืนยงบนจุดสูงสุดได้ตลอดกาล นักฟุตบอลนั้นเกิดและดับไป มีเพียงสโมสรที่คงอยู่

ในแง่ดีอย่างน้อย เจอร์ราร์ด น่าจะพอได้เห็นแล้วว่าในหมู่มวลเด็กๆของเขานั้น หลายคนพยายามที่จะ “โต” ขึ้น เพื่อแบกรับทีมแทนเขาในวันข้างหน้า

เราพอได้เห็นประกายแสงวิบวับในหลายคนครับ แต่ที่ฉายเด่นหน่อยคือเอ็มเร่ ชาน ที่กลายเป็นสตาร์ในแนวรับของทีมได้อย่างเหลือเชื่อ

ชาน สามารถเผชิญหน้ากับ “อสูร” อย่างโรเมลู ลุคาคู กองหน้าที่ตลอดมาเป็น “ฝันร้าย” ของลิเวอร์พูลมาโดยตลอดได้อย่างน่าดูชม

ไม่เพียงแค่ไม่ยอมให้ผ่านได้ง่ายๆ ชานยังพร้อมชนกับดาวยิงร่างยักษ์ในทุกจังหวะ และแสดงออกให้เห็นชัดๆว่า “กูไม่กลัวมึง”

เช่นกันกับ โจ อัลเลน ที่จำเป็นต้องลงสนามแทนลูคัส ที่บาดเจ็บต้องเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ครึ่งแรก “ชาบี้แห่งเวลส์” ที่ฟอร์มตกมาตลอด เร่งฟอร์มกลับมาช่วยลิเวอร์พูล คุมเกมแดนกลางได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งตัดเกม ทำลายจังหวะ และประสานสิบทิศให้ทีมขับเคลื่อนได้

และอีกคนที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือเจ้าหนู จอร์ดอน ไอบ์ ที่ได้ลงสนามในฐานะตัวจริง และทำได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะจังหวะการลากเลื้อยทำเกม รวมถึงจังหวะส่องไกลในช่วงครึ่งแรกที่เกือบจะเป็นการแจ้งเกิดในฝันแล้ว

อนาคตของเด็กคนนี้น่าจับตามองครับ เป็นเพชรที่รอการเจียระไน ซึ่งมีโอกาสที่นักเจียระไนมือดีอย่าง ร็อดเจอร์ส จะปั้นขึ้นมาแทน ราฮีม สเตอร์ลิง ได้ในอนาคต



ด้านเอฟเวอร์ตัน แม้อยู่ในฐานะเจ้าบ้าน แต่ในวันที่กำลังใจอ่อนล้าพวกเขาทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ประคองตัวไม่ให้ทีมพลาดพลั้งเสียทีต่อคู่ปรับร่วมเมืองเท่านั้น ซึ่งต้องชื่นชมกับแนวรับและมิดฟิลด์กันชนอย่าง แกเร็ธ แบร์รี่ ที่ตรึงกำลังรับกันได้ดี

คนเดียวของพวกเขาที่สร้างอันตรายได้ดีที่สุดคือ รอสส์ บาร์คลีย์ ซึ่งน่าเสียดายที่โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ให้โอกาสเล่นแค่ไม่ถึง 10 นาทีรวมช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

เพราะแม้จะเล่นแค่ไม่กี่นาที สายเลือดสเกาเซอร์แท้ๆเช่นเขากลับทำได้ดีกว่าแนวรุกเอฟเวอร์ตันทุกคนรวมกันเสียอีก

ในภาพรวมผลเสมอเมื่อถึงจุดสิ้นสุดเป็นผลการแข่งขันที่พอใช้ได้สำหรับทั้งสองฝ่าย

ไม่มีได้ ไม่มีเสีย มีแค่บอบช้ำและเจ็บตัว รวมถึงอาการอ่อนล้าที่น่ากังวล เพราะทั้งสองทีมดูหมดแรงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะลิเวอร์พูล ที่มีโปรแกรมโหดกับสเปอร์สในเกมวันอังคาร ซึ่งถ้าเล่นได้เท่านี้ก็น่าเป็นห่วงแทน

อย่างไรก็ดีเรื่องนั้นคงไม่ใช่สาระสำคัญอะไรนัก สามารถว่ากันภายหลังได้

เพราะ ณ เข็มนาฬิกาเดินไป ผมกำลังคิดถึงเด็กชายหัวขิงคนหนึ่งที่กระโดดเสียบสองเท้าใส่ เควิน แคมป์เบลล์ จนโดนใบแดง

บางที ผมเชื่อของผมเองว่าเจอร์ราร์ด อาจอยากให้เกมดาร์บี้สุดท้ายของเขาจบลงอย่างเร้าใจและน่าจดจำมากกว่าเกมธรรมดาๆนัดนี้


Football Insight
by ลูกแม่กิ่ง (lookmaeking@hotmail.com)

เนื้อหาโดย Hot Score

hot-score




 

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2558 8:00:39 น.
Counter : 1241 Pageviews.  

′ซิโก้′เตรียมถก′บังยี′คัดบอลโลก-ซีเกมส์ ชี้ส่งดาวรุ่งลุยซีเกมส์ชวดทองสูง

′ซิโก้′เตรียมถก′บังยี′คัดบอลโลก-ซีเกมส์ ชี้ส่งดาวรุ่งลุยซีเกมส์ชวดทองสูง

ตามที่ "บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ มอบหมายให้ "โค้ชซิโก้" นายเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอน "ช้างศึก" ทีมชาติไทย เตรียมทีมชาติไทย 2 ชุด เพื่อแข่งขันในช่วงเดือนมิถุนายนที่มีโปรแกรมศึกกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 และฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย หลังจากที่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) อาจไม่เลื่อนคิวเตะคัดบอลโลกตามคำขอของชาติอาเซียนนั้น

โค้ชซิโก้เปิดเผยว่า ได้มีแผนเตรียมทีมเอาไว้ทั้ง 3 ชุดแล้ว คือ ปรี-โอลิมปิก, ซีเกมส์ และฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ซึ่งจากปัญหาคิวเตะชุดซีเกมส์และฟุตบอลโลกทับซ้อนกันนั้น

หลังจากจบฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 43 ประมาณ 1-2 สัปดาห์ จะหารือกับนายวรวีร์ถึงแนวทางทำงานว่าจะจัดนักเตะโดยมุ่งเป้าไปที่รายการใด เพราะนักเตะหลายคนเป็นกำลังหลักในทั้ง 2 ชุด เช่น "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ และนักเตะ 1 คนจะต้องเลือกรายการใดรายการหนึ่งเท่านั้น

หากเอากำลังหลักไปเล่นคัดฟุตบอลโลกแล้วให้ซีเกมส์เป็นเวทีของดาวรุ่งแล้วก็ต้องยอมรับว่า โอกาสพลาดเหรียญทองซีเกมส์ก็มีสูง ซึ่งหากเป็นแบบนั้นจริงแล้วจะรับกันได้หรือไม่




 

Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2558 8:40:31 น.
Counter : 999 Pageviews.  

มาแล้ว “คะแนนนักเตะไทย” หลังเกมเสมอ เกาหลีใต้ แบบได้ใจแฟนๆ 0-0

มาแล้ว “คะแนนนักเตะไทย” หลังเกมเสมอ เกาหลีใต้ แบบได้ใจแฟนๆ 0-0

ทีมชาติไทย ทำดีที่สุดด้วยการเสมอกับ เกาหลีใต้ 0-0 ทั้งที่มีโอกาสจบสกอร์มากมาย

สุดท้ายเลยได้แค่รองแชมป์ ครั้งที่ 43 โดยแชมป์ตกเป็นของ เกาหลีใต้ ที่มี 7 คะแนน จากการลงสนาม 3 นัด

วันนี้ลองมาดูคะแนนความสามารถนักเตะไทยกันดูครับ ว่าใครได้คะแนนเท่าไหร่กันบ้าง?

กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ : แทบจะไม่มีงานหนักตลอดทั้งเกมสำหรับเจ้าตอง มีแค่ลูกเซฟจากลูกยิงในช่วงท้ายเกมเพียงครั้งเดียว ส่วนช่วงทดเจ็บที่ออกมาตัดเกมเกือบๆกลางสนาม ถือว่าเขาออกมาถูกที่ถูกเวลา  และต้องบอกว่า ทัวร์นาเม้นท์นี้ถือว่า เจ้าตองผลงานอยู่ในระดับพอใช้  
คะแนน : 7/10

พีระพัฒน์  โน๊ตชัยยา : เป็นอีกหนึ่งเกมที่เจ้าบาส เติมเกมแบบวันเวย์ เพราะทีมจากแดนกิมจิ มาเน้นรับ แต่สำหรับแฟนบอลแล้ว สิ่งที่อยากเห็นจากแบ็คซ้ายจากบีอีซีรายนี้ คือการหาจังหวะซัดจากนอกกรอบที่เป็นอาวุธเด็ดให้มากกว่านี้  ขณะที่ลูกเปิดจากริมเส้นต้องทำให้ใด้ดีกว่าเดิมให้ได้
คะแนน : 7/10



ธนบูรณ์ เกษารักษ์  : ตอบโจทก์ได้เลย กับการกลับมาประสานงานกับคู่ขาอย่าง สุทธินันท์ เกมนี้เจ้าตั้ม อ่านเกมได้อย่างฉลาดเฉลียว ที่สำคัญไม่น่าเชื่อว่าเขาจะหยุด คิม ยุน กองหน้าร่างยักษ์ของเกาหลีใต้ได้อยู่หมัด  
คะแนน : 9/10

สุทธินันท์ พุกหอม :  เป็นเกมที่เจ้าเอ็ม กลับมาขันแนวรับได้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดเกมโต้กลับของคู่แข่งในวันนี้ ถือว่าเขาช่วยทีมได้มากโข   
คะแนน : 8/10

อาทิตย์ ดาวสว่าง  :  ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมแรกในทัวร์นาเม้นท์ แทนที่ของ นฤบดินทร์ แต่ "เจ้าแบ็ค"ที่อาศัยลูกหนักที่ตนถนัดเล่นงานผู้เล่นเกาหลีได้ดี แต่ที่ดีมากกว่านั้นคือ เราเห็นเขาเติมเกมบุกได้ตามที่โค้ชต้องการจากตัวเขาในเกมนี้
คะแนน : 8/10

อดุล หละโสะ :  กัปตันตัวจริงเสียงจริง ถูกส่งลงมายืนในตำแหน่งของ สารัช อยู่เย็น ที่กรอบเป็นข้าวเกรียบ และเขาก็แสดงให้เห็นว่าตัวเขายังดีพอสำหรับทีมชาติ การไล่กวด ไล่แย่งบอล จากคู่แข่ง ทำให้รู้ได้เลยว่า ทีมชาติไทยต้องมีคนแบบนี้อยู่ในทีม
คะแนน : 8/10

ปกเกล้า อนันต์   :  เป็นอีกหนึ่งเกมที่มิดฟิลด์จากเพื่อนตำรวจ ทำผลงานเข้าตา แม้เกมนี้จะไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตู แต่ถือว่าการกลับมาสุ่ทีมชุดใหญ่ของเขาในครั้งนี้ เป็นคำตอบที่ถูกต้อง
คะแนน : 7/10

มงคล ทศไกร    :   เกมริมเส้นอาจจะไม่ได้เด่นอะไรมากมายสำหรับ มงคล ทศไกร ในเกมนี้ แต่ความขยันของเขา ก็สร้างประโยชน์ให้ทีมไม่น้อย 
คะแนน : 6/10

ชนาธิป สรงกระสินธ์   :  ดูจะเงียบๆไปหน่อยสำหรับ "เมสซี่เมืองไทย" ในครึ่งแรก นั่นอาจจะเป็นเพราะว่า ไม่มีพื้นที่หน้าปากประตูมากนัก เนื่องจากคู่แข่งเน้นเกมรับเป็นหลัก แต่ครึ่งหลัง การจ่ายบอลได้ทั้งสองเท้าของเจ้าเจ ก็เป็นอะไรที่ต้องบอกว่าแจ๋วสุดๆ  ขณะที่ความคล่องแคล่วของ ชนาธิป คืออาวุธชั้นเลิศของทีมชาติไทย ที่หามานานแล้วนักเตะแบบนี้ ลูกยิงเน้นๆสองดอกจากท้ายครึ่งหลัง น่าเสียดายจริงๆ ที่มันไม่เป็นประตู! 
คะแนน : 9/10

เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์  :  "เดอะก้อง" ยังเดินเกมได้ดี และมีโอกาสส่องเน้นๆ สองสามครั้ง และเขาน่าจะเป็นตัวริมเส้นฝั่งซ้ายที่ทีมชาติไทยหามานาน นอกจากนั้น การลงมาช่วยเกมรับ คือสิ่งที่เจ้าก้องไม่เคยละเลย และช่วยทีมไม่ให้เสียประตูหลายครั้งในเกมนี้  
คะแนน : 8/10

ภิญโญ อินพินิจ  :  หาโอกาสให้กับตัวเองได้ดีขึ้นจากเกมที่แล้ว เกมนี้ ภิญโญ  ทำผลงานได้ดี และมีโอกาสกดเน้นๆ หลายครั้ง แต่โดนปฏิเสธจากนายทวารของเกาหลีใต้
คะแนน : 7/10

ผู้เล่นสำรอง :

สารัช อยู่เย็น  : ถูกส่งลงสนามมาแทนที่ของ รุ่นพี่อย่าง อดุล และ "เจ้าตัง" ก็ทำผลงานได้ตามมาตรฐานของตังเอง      
คะแนน : 7/10

ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์  :  หลังจากหายเจ็บและกลับมาติดทีมชาติ ดูเหมือน อะไรๆจะยังไม่เข้าทาง โดยเฉพาะความคล่องตัว คงต้องใช้เวลาสักพัก "เจ้านิว" น่าจะกลับมาเป็นคนเดิมได้ไม่ยาก  
คะแนน : 6 /10

ประกิต ดีพร้อม   :  เข้ามาสร้างความวูบวาบให้ทีมได้พอสมควร น่าเสียดายที่ลูกฟรีคิกลูกถนัด แต่ยิงไม่ผ่านกำแพง
คะแนน : 6/10




 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2558 13:54:14 น.
Counter : 992 Pageviews.  

แฟนบอลรอชม! ซิโก้ ยืนยัน เรียก มุ้ย,อุ้ม,ประทุม เสริมแกร่งช้างศึกอุ่นสิงคโปร์,คัดบอลโลก 2018

แฟนบอลรอชม! ซิโก้ ยืนยัน เรียก มุ้ย,อุ้ม,ประทุม เสริมแกร่งช้างศึกอุ่นสิงคโปร์,คัดบอลโลก 2018

หลังจากที่ทีมชาติไทย พ่ายต่อ อุซเบกิสถาน 2-5 ในเกมคิงส์คัพ ครั้งที่ 43 เมื่อวันที่ 4 ก.พ. จนมีเสียงว่าควรเรียกนักเตะใหม่เข้ามาสู่ทีมเพื่อเสริมทัพให้แกร่งขึ้นกว่าเดิม

ล่าสุด "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เตรียมจะเรียก "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าตัวเก่งของทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ "อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้ามาเสริมทีม

นอกจากนี้ จากเกมรับที่โดนถลุงไป 5 ลูก นายใหญ่ทีมช้างศึกยังจะเรียก ประทุม ชูทอง กองหลังจอมฟิต จากสุพรรณบุรี เอฟซี เข้ามาร่วมทีม เพื่ออุ่นเครื่องกับสิงคโปร์ ตามโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ ในวันที่ 31 มีนาคมที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ทีมชาติไทย จะลงอุ่นเครื่องกับทีมชาติ สิงคโปร์ และ หลังจากนั้นก็จะต้องเตรียมความพร้อมในการลงสู้ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ที่จะเริ่มแข่งขันในช่วงเดือนมิถุนายน  

นอกจากนี้อดีตหัวหอกจอมตีลังกาของทีมชาติไทย ยังระบุว่า "ไม่มีเหตุผลอะไร ที่ผมจะไม่เลือกนักเตะที่ดีที่สุดมารับใช้ชาติ และศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ทีมชาติไทยจะใช้ผู้เล่น ชุดที่ดีที่สุดลงสนาม อย่างแน่นอน"




 

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2558 8:24:40 น.
Counter : 1528 Pageviews.  

“10 การซื้อขายดีที่สุด สำหรับหน้าหนาวนี้”

“10 Best January Transfers”

สำหรับตลาดฤดูหนาวที่เพิ่งผ่านพ้นไป แม้ว่าจะไม่มีบิ๊กดีลมูลค่าช็อกโลก แต่เท่าที่มีการ "ซื้อมา-ขายไป" หลายๆ ดีลก็ถือว่าน่าสนใจและน่าติดตามอยู่ไม่น้อย

โดยวันนี้จะพาไปดู 10 การซื้อขายที่ดีที่สุดในเดือนมกราคม 2558 ที่น่าจะมีโอกาสเป็นดีลที่สร้างประโยชน์ให้กับผู้ซื้อได้อยู่ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว

1.วิลเฟร็ด โบนี่
(สวอนซี > แมนฯ ซิตี้ 28 ล้านปอนด์)

ปัญหาสภาพร่างกายของ เซร์คิโอ อเกวโร่, เอดิน เชโก้ และ สเตวาน โยเวติช ที่มักจะเจ็บออดๆ แอดๆ ทำให้บางช่วงเวลา แมนฯ ซิตี้ ถึงกับเข้าตาจนด้วยการดัน ดาบิด ซิลบา หรือ เจมส์ มิลเนอร์ ไปเป็นกองหน้าจำเป็น

โปรไฟล์ของ วิลเฟร็ด โบนี่ ก็ถือว่าไม่ธรรมดา เป็นกองหน้าที่ยิงได้มากที่สุดของพรีเมียร์ลีกในหน้าปฎิทินปี 2014 และด้วยสไตล์การเล่นที่แข็งแกร่ง กองหน้าทีมชาติ ไอวอรี่ โคสต์ น่าจะเข้ามาเพิ่มเขี้ยวเล็บให้กับทีม "เรือใบ" ได้มากทีเดียว

2.เอ็นโซ่ เปเรซ
(เบนฟิก้า > บาเลนเซีย 20 ล้านปอนด์)

นับตั้งแต่ ดาบิด อัลเบลด้า ประกาศแขวนสตั๊ดไปเมื่อปี 2013 บาเลนเซีย ก็มีปัญหาที่แดนกลางมาตลอด การย้ายมาของ เอ็นโซ่ เปเรซ อดีตแข้งเป้าหมายของ แมนฯ ยูไนเต็ด คือความคาดหวังที่จะมาเติมเต็มในจุดนี้

ดาวเตะอาร์เจนไตน์ ประเดิมสนามสุดหรูหลังมีส่วนช่วยให้ทีมหยุดสถิติชนะรวดของ เรอัล มาดริด ด้วยสกอร์ 2-1 หากเจ้าตัวสามารถพาเจ้า "ค้างคาว" คัมแบ็กสู่เวทีแชมเปี้ยนส์ ลีกได้ มูลค่า 20 ล้านปอนด์ถึงจะแพงแต่ก็น่าจะคุ้ม

3.กาเบรียล เปาลิสต้า
(บีญาร์เรอัล > อาร์เซน่อล 11.2 ล้านปอนด์)

ฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล ถือว่ามีปัญหาในเกมรับค่อนข้างเยอะ ตัวหลักหลายรายผลัดหน้าผลัดตากันบาดเจ็บไม่เว้นแต่ละวัน ถึงขนาดต้องนำฟูลแบ็กอย่าง นาโช่ มอนเรอัล หรือ มาติเยอ เดบูชี่ มาเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟชั่วคราว

แม้ว่า เปาลิสต้า จะผ่านการเล่นในเวทียุโรปเพียงแค่ 45 นัด แต่ด้วยสถิติต่างๆที่เข้าข่ายการเป็นยอดกองหลัง เป็นนักเตะที่ตัดบอลได้มากเป็นอันดับสองในลา ลีกา คือเหตุผลหลักที่ อาร์แซน เวนเกอร์ เชื่อว่านักเตะรายนี้คือการเซ็นสัญญาที่น่าเสี่ยง

4.เซย์ดู ดุมเบีย
(ซีเอสเคเอ มอสโก > โรม่า 11 ล้านปอนด์)

หลังจากตกเป็นแข้งเป้าหมายของบรรดาทีมดังทั่วยุโรป ในที่สุด ดุมเบีย ก็ตัดสินใจแยกทางกับ ซีเอสเคเอ มอสโก เพื่อมาเป็นตัวความหวังในการลุ้นแย่งสคูเด็ตโต้ให้กับทาง โรม่า

ด้วยสไตล์การเล่นที่มีทั้งความแข็งแกร่งและรวดเร็ว กองหน้าทีมชาติ ไอวอรี่ โคสต์ น่าจะปรับตัวเข้ากับแท็กติกของ รูดี้ การ์เซีย ได้ไม่ยาก การได้เล่นร่วมกับเพื่อนร่วมชาติอย่าง แชร์วินโญ่ น่าจะทำให้ โรม่า กลายเป็นทีมที่เล่นเกมโต้กลับได้อันตรายที่สุดในลีก

5.ฮวน กวาดราโด้
(ฟิออเรนติน่า > เชลซี 27 ล้านปอนด์)

กวาดราโด้ อาจจะเป็นผู้เล่นในอุดมคติของ โชเซ่ มูรินโญ่ เพราะนอกจากจะเล่นเกมรุกได้อย่างเด็ดดวง มีความไว เลี้ยงลูกดี และการจบสกอร์ที่ไว้ใจได้ แต่การที่เคยเล่นตำแหน่งวิงแบ็กนั้นหมายความว่าเจ้าตัวยังสามารถเล่นเกมรับได้ดีอีกด้วย

"เขาสามารถเอาชนะกองหลังได้ทุกเวลา เขาเป็นปีกในอุดมคติ สำหรับคนที่เป็นกองหน้าคงไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการที่มีปีกที่สามารถพาบอลไปริมเส้นและครอสถวายพานมาให้ได้ ผมคิดว่า กวาดราโด้ คือผู้เล่นที่พิเศษนะ" เธียร์รี่ อองรี กล่าว

6.เควิน แคมเปิ้ล
(ซัลซ์บวร์ก > ดอร์ทมุนด์ 9 ล้านปอนด์)

แม้ว่าชื่อชั้นของ แคมเปิ้ล จะดูค่อนข้างโนเนมสำหรับแฟนบอล ทว่าผลงานในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาถือว่าไม่ธรรมดา โดยเฉพาะการพา ซัลซ์บวร์ก คว้าดับเบิ้ลแชมป์ลีกออสเตรียในฤดูกาลที่ผ่านมา

ยิ่งสถานการณ์ของ ดอร์ทมุนด์ ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก กลายเป็นบ๊วยของบุนเดสลีกา การเข้ามาของมิดฟิลด์ชาวสโลวีเนีย ถูกคาดหวังว่าจะช่วยยกระดับทีมได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งจากเกมแรกที่เสมอกับ เลเวอร์คูเซ่น เจ้าตัวก็ถือว่าทำได้น่าประทับใจ

7.มาติย่า นาสตาซิช
(แมนฯ ซิตี้ > ชาลเก้ ยืมตัว)

แม้ว่าจะทำผลงานในฤดูกาลแรกกับทาง แมนฯ ซิตี้ ได้ดี สามารถผสานงานร่วมกับ แว็งซ็องต์ กอมปานี ได้อย่างลงตัว ทว่าในยุคของ มานูเอล เปเญกรินี่ เจ้าตัวกลับเป็นเพียงแข้งส่วนเกินที่ไม่ได้รับโอกาสเพียงพอ

โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ น่าจะรู้สึกพอใจที่ได้ตัวเขามาร่วมทีม เพราะด้วยสไตล์การเล่นที่ชาญฉลาด สามารถดักทางบอลได้ดี เจ้าตัวน่าจะปรับตัวกับบุนเดสลีกาได้ไม่ยาก ผลงาน 2 เกมแรกที่ชนะทั้ง ฮันโนเวอร์ และบุกไปเสมอ บาเยิร์น น่าจะยืนยันได้เป็นอย่างดี

8.บิคตอร์ บัลเดส
(ฟรีเอเย่นต์ > แมนฯ ยูไนเต็ด ไร้ค่าตัว)

แม้ว่าโอกาสลงสนามของ บัลเดส กับทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะมีไม่มากนัก เพราะเจ้าตัวถูกดึงมาเพื่อเป็นตัวสแตนด์บายให้กับผู้รักษาประตูรุ่นน้องร่วมชาติอย่าง ดาบิด เด เกอา ที่กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

ทว่าด้วยประสบการณ์ที่เคยประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับทาง บาร์เซโลน่า ระดับฝีมือที่ได้รับการการันตี หากได้รับโอกาสจาก หลุยส์ ฟาน กัล เชื่อว่าเจ้าตัวก็น่าจะสร้างผลงานที่ดีได้อย่างแน่นอน

9.มาโนโล่ กับเบียดินี่
(ซามพ์โดเรีย > นาโปลี 9.75 ล้านปอนด์)

การคว้า มิชู เข้ามาเสริมแนวรุกในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมากลายเป็นดีลที่เต็มไปด้วยความล้มเหลว เพราะดาวเตะ สวอนซี ไม่สามารถสร้างประโยชน์อันใดให้กับทีม แม้กระทั่งการลงไปโชว์เพลงแข้งในสนาม

การเสริมทัพใหม่คือสิ่งที่จำเป็น และ มาโนโล่ กับเบียดินี่ หนึ่งในผู้เล่นหนุ่มที่ดีที่สุดแห่งยุคคือตัวเลือกที่เหมาะสม ผลงานเลกแรกกับ ซามพ์โดเรีย ที่ยิงได้ถึง 13 ประตูทำให้เขาถูกคาดหมายว่าอาจจะเป็น เอ็นริโก้ เคียซ่า คนใหม่ของวงการลูกหนังอิตาเลีย

10.อังเดร ชูร์เล่
(เชลซี > โวล์ฟสบวร์ก 24 ล้านปอนด์)

แม้ว่าจะไม่ได้ล้มเหลวเหมือนกับทาง มาร์โก มาริน ทว่าการย้ายมาเล่นให้ เชลซี ดูเหมือน ชูร์เล่ จะไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพได้เต็มที่นัก เพราะตำแหน่งดูจะไปทับซ้อนกับสตาร์เบอร์หนึ่งของทีมอย่าง เอด็อง อาซาร์

จุดเด่นของดาวเตะทีมชาติเยอรมัน คือการได้เล่นในตำแหน่งปีกซ้ายและลากตัดไปยิงด้วยขาขวาที่ทรงพลัง ซึ่งการย้ายครั้งนี้น่าจะวินๆกันทุกฝ่าย ชูร์เล่ ได้โอกาสลงเล่นมากขึ้น ส่วน โวล์ฟสบวร์ก ได้แข้งคุณภาพมาเติมเต็มสำหรับการไล่ล่า บาเยิร์น มิวนิค

เนื้อหาโดย Hot Score

hot-score




 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2558 7:34:13 น.
Counter : 1756 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  179  180  181  182  183  184  185  186  187  188  189  190  191  192  193  194  195  196  197  198  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.