|
10 สุดยอดนักเตะที่ไม่เคยโชว์ฝีเท้าในสังเวียนฟุตบอลโลก
นักเตะบางคนเป็นผู้เล่นอันยอดเยี่ยมของสโมสร แต่กลับไม่เคยได้โชว์ศักยภาพนั้นในฟุตบอลโลกเลย ส่วนมากก็มาจากเหตุผลที่ว่าประเทศของเขาไม่ผ่านรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก และส่วนใหญ่มาจากสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซะด้วยสิ น่าเห็นใจนักเตะเหล่านี้จัง เพราะผมก็เป็นแฟนแมนยูคนนึง รักนักเตะทุกคน เก็บสะสมของทุกอย่างที่เกี่ยวกับทีม ทั้งของมีราคาหรือแม้แต่ของแลกซื้อในเซเว่นก็ตาม ล่าสุดก็เพิ่งไปเหมาโฟมล้างหน้าวาสลีนมา เพื่อจะแลกของพรีเมี่ยมแมนยู 555555 นอกเรื่องมาซะเยอะเลย เอาเป็นว่าไปดูเลยดีกว่า 10 นักเตะที่ว่าจะมีใครกันบ้าง 
1. จอร์จ เบสต์ นักเตะที่ยากจะหาใครมาเปรียบคนนี้เล่นให้ทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ 37 นัด ทำได้ 10 ประตู ซึ่งไม่ถือว่าน่าประทับใจอะไรนัก อย่างไรก็ตามเขาก็คว้าแชมป์ลีก 2 สมัยและถ้วยยุโรป 1 สมัย กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมในดวงใจของเขา ซึ่งนั่นทำให้เขาได้รับการโหวตเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของยุโรปในปี 1968 หลังจากพาทีมคว้าถ้วยยุโรปสำเร็จ สื่อสเปนตั้งฉายาให้จอร์จ เบสต์ ว่า "El Beatle" หลังจากเขาเล่นงานรีล มาดริด จนย่อยยับในรอบ 4 ทีมสุดท้ายของถ้วยยุโรปด้วยเทคนิคการเลี้ยงลูกชั้นยอดคล้ายกับนักเตะตำนานอย่างแสตนลีย์ แมทธิว นอกจากนี้ แม้แต่ราชาลูกหนังอย่างเปเล่ก็ยังยกให้จอร์จ เบสต์ เป็นสุดยอดนักเตะ แล้วใครจะกล้าเถียง  2. อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน คนที่เคยชมฝีเท้าของนักเตะฉายา Blond Arrow หรือ ไอ้ศรแดงในละตินอเมริกา ต่างกล่าวว่านี่คือนักเตะที่สุดยอดกว่าเปเล่ เพราะดิ สเตฟาโนได้คว้าแชม์ถ้วยยุโรป 5 สมัยติดต่อกันกับรีล มาดริด และได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของยุโรปในปี 1957 และ 1959 ในช่วงชีวิตนักเตะอันยาวนานของดิ สเตฟาโน เขาได้เล่นในนามทีมชาติถึง 3 ประเทศคือ อาร์เจนตินาบ้านเกิดของเขา โคลอมเบีย และสเปน ในปี 1950 เขาเล่นให้กับอาร์เจนตินา แต่ในปีนั้นประเทศบ้านเกิดของเขากลับปฏิเสธการเข้าร่วมฟุตบอลโลก ต่อมาในปี 1954 เขาก็ย้ายไปที่สเปน ซึ่งในตอนแรกถูก FIFA สั่งห้ามลงเล่นฟุตบอลโลกเนื่องจากเขาเคยติดเล่นให้ทั้งทีมชาติอาร์เจนตินาและโคลอมเบียมาก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามเขาก็ได้เล่นในนามทีมชาติสเปนเมื่อปี 1957 ด้วยวัย 31 ปี แต่น่าเศร้าที่ปีนั้นสเปนไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือกได้ ต่อมาเมื่อถึงปี 1962 เขามีโอกาสอีกครั้งแต่ก็บาดเจ็บเสียก่อน 
3. ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ คือนักเตะที่หลายคนทำนายว่าจะเติบโตเป็นแข้งอังกฤษที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต แต่เขาก็เสียชีวิตไปก่อนในโศกนาฏกรรมที่มิวนิคในปี 1958 ขณะนั้นเขาอายุเพียง 21 ปี เล่นให้ทีมชาติอังกฤษไปแล้ว 18 นัด และคว้าแชมป์ลีกของอังกฤษกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ 2 สมัยในปี 1956 และ 1957 ทอมมี่ โดเคอร์ตี้ อดีตนักเตะทีมชาติสกอตแลนด์และผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกล่าวว่า ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์นั้นเหนือกว่าจอร์จ เบสต์ เปเล่ หรือมาราโดน่าเสียอีก ด้าน เซอร์ บอบบี้ ชาร์ลตั้น อดีตแข้งอังกฤษชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 และอดีตเพื่อนร่วมถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดกล่าวว่า ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์คือนักเตะคนเดียวที่ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าได้ 
4. ไรอั้น กิ๊กส์ ฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่บราซิลก็จะไม่มียอดนักเตะอย่างไรอั้น กิ๊กส์ลงอวดแข้งอีกครั้ง ปีกพ่อมดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดรายนี้ประสบความสำเร็จมากมายในระดับสโมสร คว้ามาแล้วแทบทุกถ้วยทุกรายการ เพราะเส้นทางฟุตบอลอาชีพทั้งชีวิตของเขาอยู่ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดทั้งหมด ไรอั้น กิ๊กส์เป็นเจ้าของสถิติลงเล่นให้สโมสรมากที่สุดและยังคว้าแชมป์ถ้วยยุโรปกับแมนยูฯได้เป็นครั้งที่สองของชีวิตอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้รับเลือกเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA ในปี 2009 อย่างไรก็ตาม การที่เวลส์ไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือกไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ก็ทำให้เขาไม่มีโอกาสได้เปล่งประกายในเวทีอันยิ่งใหญ่นี้เลย 
5. จิม แบกซ์เตอร์ หากกล่าวถึงนักฟุตบอลสกอตแลนด์ในตำนาน ชื่อว่าชื่อ จิม แบกซ์เตอร์ หรือ "สลิมจิม" ต้องอยู่อันดับต้นๆ ของรายชื่อแน่นอน เขาเป็นมิดฟิลด์ที่มากด้วยพรสวรรค์ เล่นให้สมโสร เรนเจอร์ และทีมชาติสกอตแลนด์ในช่วงทศวรรษที่ 1960 ในปี 1967 สกอตแลนด์เจอกับคู่ปรับเก่าคืออังกฤษที่สนามเวมบลีย์ ศึกครั้งนี้ถือว่ามีนัยสำคัญเป็นพิเศษ เพราะอังกฤษเพิ่งคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาเมื่อปีที่แล้ว และได้ทำถ้วยฟุตบอลโลก จูลส์ ริเมต์ หายไปด้วย จิม แบกซ์เตอร์ช่วยให้สกอตแลนด์เก็บชัยเหนือแชมป์ฟุตบอลโลกที่เอาชนะเยอรมันตะวันตกได้ในปี 1966 ไป 3-2 เขาทำให้ผู้ชมอึ้งด้วยการโชว์ทักษะเดาะบอลต่อหน้านักฟุตบอลอังกฤษขณะที่แข่งขันอยู่ ราวกับว่าเขากำลังเล่นสนุกกับการเดาะลูกฟุตบอลอยู่คนเดียว 
6. จอร์จ เวอาห์ ดาวเตะชาวไลบีเรียคนนี้เป็นอีกหนึ่งสุดยอดนักเตะที่น่าจับตามอง เขาโชว์ฟอร์มสุดยอดในฝรั่งเศสกับโมนาโกและปารีสแซ็งต์แฌแมงต์ ก่อนจะเปล่งประกายอย่างแท้จริงเมื่อย้ายมาอยู่กับเอซี มิลานในอิตาลี จอร์จ เวอาห์คือนักเตะคนแรกที่คว้ารางวันผู้เล่นยอดเยีย่มแห่งปีในปี 1995 และเป็นเจ้าของรางวัลนักเตะแอฟริกายอดเยี่ยมถึง 3 สมัยในปี 1989, 1994 และ 1995 ว่ากันว่าเขาคือนักเตะที่มาแทนที่มาร์โค แวน บาสเทนได้เลยทีเดียว จอร์จ เวอาห์มีทั้งความแข็งแกร่ง พละกำลัง และความว่องไว ประตูสุดสวยของเขาหลายลูกช่วยให้มิลานคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ในปี 1995 และ 1999 
7. อีริค คันโตนา ถ้าดูจากผลงานอันเยี่ยมยอดที่เขาสร้างไว้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและทีมชาติฝรั่งเศสในช่วงทศวรรษที่ 1990 คงไม่น่าเป็นไปได้ที่อีริค คันโตนาจะไม่เคยเหยียบสนามฟุตบอลโลกเลย แต่มันก็เป็น เพราะฝรั่งเศสผิดหวังในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกทั้งในปี 1990 และ 1994 จากนั้นซีเนอร์ดีน ซีดานก็เข้ามาแย่งบทบาทสำคัญในทีมชาติของเขาไประหว่างที่เขาถูกแบนยาวในปี 1995 เมื่อกลับมาลงสนามอีกครั้งเขาก็ไม่ได้กลับไปเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศสอีกเลย ทำให้เขาพลาดแชมป์โลกในปี 1998 ที่ประเทศของตัวเองไปด้วย ในระดับสโมสร คันโตน่าคว้าแชมป์ 7 รายการกับมาร์เซล์, ลีดส์ ยูไนเต็ด, และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขายังได้รับเลือกเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA ในปี 1994 อีกด้วย 
8. เอียน รัช กรณีคล้ายกับไรอั้น กิีกส์ เอียนรัชประสบความสำเร็จมากมายในระดับสโมสร แต่ด้วยความเก่งกาจของเขาคนเดียวไม่เพียงพอที่จะพาเวลส์ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ เขายิงได้ 28 ประตูใน 73 เกมที่ลงเล่นให้เวลส์และเกือบจะช่วยให้เวลส์ผ่านรอบคัดเลือก แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ประสบความสำเร็จกับลิเวอร์พูลมากกว่าหลายเท่า ด้วยการพาทีมคว้าถ้วยยุโรปได้ในปี 1981 และ 1984 และแชมป์ลีกอีก 5 สมัย โดยยิงประตูถล่มทลายได้ถึง 346 ลูก 
9. แบรนด์ ชูสเตอร์ แบรนด์ ชูสเตอร์ ช่วยให้เยอรมันตะวันตกคว้าแชมป์ยุโรปและได้รับเลือกเป็นอันดับ 2 ของผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนท์ แต่ข้อขัดแย้งระหว่างเขากับสมาคมฟุตบอลเยอรมันทำให้เขาต้องจบเส้นทางฟุตบอลทีมชาติไปตั้งแต่อายุเพียง 24 ปี โดยติดทีมชาติทั้งหมด 22 นัดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มิดฟิลด์เจ้าของฉายาขบถลูกหนังก็คว้าแชมป์ลีกของสเปนได้ทั้งตอนที่อยู่กับบาร์เซโลน่าและรีล มาดริด 
10. ยารี่ ลิตมาเน่น ยารี่ ลิตมาเน่นสามารถคว้าถ้วยรางวัลต่างๆ ได้มากมาย แต่เฉพาะกับระดับสโมสรเท่านั้น ศูนย์หน้าตัวฉกาจคนนี้เริ่มสร้างชื่อเสียงตั้งแต่ตอนอยู่กับอาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัมส์ เขายิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่ามาแทนที่เดนนิส เบิร์กแคมป์ที่ย้ายไปอินเตอร์ มิลานได้อย่างสมบูรณ์ทีเดียว ลิตมาเน่นเคยคว้าถ้วยแชมเปี้ยนลีกและแชมป์ลีกสูงสุดของฮอลแลนด์ได้อย่างละ 4 สมัย อีกทั้งทริปเปิ้ลแชมป์ตอนอยู่กับลิเวอร์พูลหลังจากย้ายจากบาร์เซโลน่า แต่เมื่อฟินแลนด์ไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกไปได้ ดาวเตะมากด้วยพรสวรรค์คนนี้จึงไม่เคยได้โชว์ฟอร์มในฟุตบอลโลกเลย ทั้งๆ ที่เขาเป็นดาวยิงคนสำคัญของประเทศที่แฟนๆ ต่างจับตามอง
| Create Date : 18 มิถุนายน 2557 | | |
| Last Update : 18 มิถุนายน 2557 0:17:32 น. |
| Counter : 1162 Pageviews. |
| |
|
| |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [
