Group Blog
 
All Blogs
 
เมนูเด็ด...บอกลาปัญหาเรื่องเท้า

อาหารเพื่อสุขภาพ


เมนูเด็ด...บอกลาปัญหาเรื่องเท้า (Modernmom)
เรื่อง : โอบา

"You are what you eat" สุขภาพดีเริ่มต้นจากการกิน เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ใครก็รู้ แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบว่ามีอาหารชนิดใดบ้างที่กินแล้ว จะทำให้เท้าแข็งแรงและมีสุขภาพดี และอาหารชนิดใดบ้างที่กินแล้วจะส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพเท้าของตัวเอง...มาค้นหาคำตอบจากเมนูเหล่านี้กันค่ะ

8 อาหารบำรุงสุขภาพเท้า

มาเริ่มต้นดูกันสิว่า อาหารที่กินแล้วบำรุงสุขภาพเท้าให้แข็งแรงมีอะไรกันบ้าง...

นม : อุดม
ด้วยแคลเซียมที่ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีที่สุด เพราะมีน้ำตาลแล็กโทส
ซึ่งเป็นตัวช่วยส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียม
จึงเสริมความแข็งแรงของกระดูกบริเวณเท้า

โยเกิร์ต :
นอกจากเป็นอาหารในกลุ่มผลิตภัณฑ์จากนมที่ให้แคลเซียมแล้ว
ในโยเกิร์ตยังมีจุลินทรีย์ที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราทำ
งานอย่างสมบูรณ์
แต่ที่สำคัญคือจะต้องเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่ไม่เติมผลไม้เชื่อมหรือ
น้ำตาลลงไป
เพราะความหวานจะไปทำลายจุลินทรีย์และแคลเซียมเสียหมดคุณค่าที่ต้องการเลยหาย
วับไป

ปลาเล็กปลาน้อย :
สำหรับคนแพ้ผลิตภัณฑ์นม อาจเลือกกินปลาเล็กปลาน้อย เช่น ปลาไส้ตัน ปลาซิว
ปลาข้าวสาร ปลาสร้อย ฯลฯ ซึ่งเราสามารถกินได้ตั้งแต่กระดูก เกล็ด ครีบ หาง
ทำให้อาหรประเภทนี้มีธาตุแคลเซียมอยู่สูงมาก แต่ถ้าใครไม่ชอบกินปลา
อาจจะเปลี่ยนเมนูไปเป็นกินกุ้งฝอยที่มีเปลือกอยู่ หรือกุ้งแห้งแทนก็ได้
เพราะเปลือกกุ้งจะอุดมไปด้วยธาตุแคลเซียมเหมือน ๆ
กับการกินปลาเล็กปลาน้อยเช่นเดียวกัน

อาหารทะเล :
ตับ เนื้อแดง มีธาตุเหล็กสูง และร่างกายดูดซึมได้ดีที่สุด
ช่วยส่งเสริมโครงสร้างการทำงานของเยื่อบุผิวและกระดูก
หากขาดธาตุเหล็กอาจทำให้กระดูกเปราะบางได้

ผักใบเขียว :
บำรุงกระดูกให้แข็งแรง นอกจากเนื้อสัตว์แล้ว
ผักใบเขียวยังอุดมด้วยธาตุเหล็ก และแคลเซียมไม่แพ้กัน
ซึ่งมีผลต่อความแข็งแรงของกระดูกเล็บ ไม่ให้เปราะหรือหักง่าย

เต้าหู้ :
แหล่งโปรตีนสำคัญจากพืชที่มีไขมันต่ำ แต่กลับให้แคลเซียมสูง
แถมราคาก็ไม่แพงกินแล้วดีกับกระดูก ระบบย่อยอาหาร
นอกจากนี้ในเต้าหู้ยังมีสารที่ช่วยปรับระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย
ให้สมดุลและมีสุขภาพดีอีกด้วย

งา :
อาจจะไม่ได้โด่งดังเท่ากับนม แต่งาอบมีแคลเซียมสูงกว่านมถึง 10 เท่า
และสูงกว่าพืชผักทั่วไปถึง 40 เท่า เพราะงาอบมีทั้งแคลเซียม โปรตีน
เหล็กไอโอดีน และฟอสฟอรัส
ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญในการสร้างกระดูกเท้าและบำรุงข้อเท้าให้แข็งแรง

บร็อกโคลี่ :
นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังเป็นผักที่ให้วิตามินซี แคลเซียม เหล็ก
ซึ่งล้วนมีประโยชน์กับกระดูกและเล็บทั้งสิ้น
นอกจากนั้นยังมีกากใยช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี
แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องไม่ปรุงให้สุกมากเกินไป
เพราะความร้อนจะทำให้คุณค่าวิตามินต่าง ๆ หายไปหมด


กาแฟ

5 อาหารต้องห้าม

น้ำตาล :
เป็นอาหารของเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการเท้าเหม็น
หากกินน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินความพอดีก็อาจจะกระตุ้นให้โรคทวีความรุนแรง
มากขึ้นได้

อาหารหมักดอง :
ในอาหารหมักดองจะพบยีสต์และเชื้อรา
ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่จะกระตุ้นให้โรคเกี่ยวกับเชื้อราที่เท้าทวีความ
รุนแรงมากขึ้น ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยง

อาหารที่มีกลิ่นฉุน :
เช่น หัวหอม กระเทียม ฯลฯ แม้จะมีสรรพคุณเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
แต่หากกินมากเกินพอดี ก็อาจส่งผลให้เท้ามีกลิ่น
เพราะในกระเทียมมีสารกระตุ้นที่ทำให้ร่างกายเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์
โดยขับออกมาทางปัสสาวะ ลมหายใจ และเหงื่อด้วย
ทำให้ตัวเหม็นได้มากกว่าปกติเช่นกัน

ดื่มกาแฟเกินวันละ 2 ถ้วย :
มีงานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า กาแฟแค่ 2
ถ้วยก็มากพอที่จะทำให้กระดูกเปราะบางได้ เนื่องจากกาเฟอีนในกาแฟ
จะทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะ ทำให้กระดูกเท้าเสื่อมเร็วกว่าปกติ

น้ำอัดลม :
เครื่องดื่มเย็นซ่าชื่นใจชนิดนี้
มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดภาวะกระดูกหักได้ง่าย
โดยผู้ที่ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ
จะมีโอกาสเกิดกระดูกพรุนมากกว่าผู้ที่ไม่ดื่ม 3-4 เท่าทีเดียว
ถ้าเราอยากให้กระดูกและเท้าแข็งแรง ก็ควรจะดื่มให้น้อยลง

ลองปรับเปลี่ยนวิถีการกินเพียงเล็กน้อย สุขภาพเท้าก็ดูแลได้ง่ายนิดเดียว




Create Date : 10 ตุลาคม 2554
Last Update : 10 ตุลาคม 2554 2:42:37 น. 1 comments
Counter : 534 Pageviews.

 
......ดีจ้า


โดย: jaideeda1 วันที่: 11 ตุลาคม 2554 เวลา:1:57:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bestjingjai1
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add bestjingjai1's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.