ฟ ฟัน สะอาดจัง
Group Blog
 
All Blogs
 

เขาคือเจ้าพ่อบล๊อก

เขาคือ เจ้าพ่อบล็อก !!!




ถึ งชั่วโมงนี้ เว็บบล็อก (Weblog) อันเป็นคำสมาส ระหว่างคำว่า Web (เว็บไซต์) กับ Log (การบันทึกข้อมูลในอินเทอร์เนต) ได้พังทลายกำแพง และอำนาจการสื่อสาร ที่เคยผูกขาดอยู่ในมือนักสื่อสารมวลชนอาชีพมายาวนานเสียสิ้นแล้ว อำนาจการสื่อสารถูกเปลี่ยนผ่านไปยังชาวบ้านทั่วไป เกิดนักข่าวชาวบ้าน หรือนักข่าวพลเมืองทุกหน ทุกแห่งที่เทคโนโลยีเข้าถึง ร้ายไปกว่านั้น นักข่าวชาวบ้านยังแสดงศักยภาพที่เหนือกว่านักข่าวอาชีพ ในหลายเรื่องราว ด้วยมุมมองที่ละเอียดลึกซึ้งกว่าด้วย

ก็เพราะ พื้นที่ที่เรียกว่า เว็บบล็อกนี่เอง ที่กลายเป็นสนามประลองความคมเข้มของเนื้อหา ความสามารถในเชิงวรรณกรรมของคนที่ไม่เคยผ่านหลักสูตรนิเทศศาสตร์ หรือวารสารศาสตร์จากมหาวิทยาลัยใดๆ ทั้งสิ้น

ถึงแม้บล็อกจะมิใช่สารเสพติด แต่เมื่อหลายคนกระโจนเข้ามาสู่วงการนี้แล้ว ก็มักถอนตัวไม่ขึ้น ด้วยเสน่ห์ลึกลับของบล็อกที่แผ่นฟ้า แผ่นดินทั้งหมด ก็ไม่สามารถจดจารได้หมดสิ้น แต่มีคนๆหนึ่ง ที่เคยหลงรักบล็อก เขียนบล็อก จมจ่อมอยู่กับบล็อก แต่วันหนึ่งเขากลับเบื่อหน่ายและหันหลังให้วงการบล็อกไปอย่างยาวนาน

ที่สำคัญ เขายังเป็นเจ้าพ่อบล็อก ผู้บัญญัติศัพท์คำว่า Weblog ขึ้นเป็นคนแรกในบรรณพิภพนี้ ในวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๑๙๙๗ หลังจากการเขียนในรูปแบบบล็อกเกิดขึ้นมาแล้วราว ๓ ปี

เขาชื่อ จอร์น บาร์เกอร์ (John barger) เป็นชาวอเมริกัน ผู้นิยมชมชอบธรรมชาติ และการไว้หนวด ไว้เครา การแต่งกายแบบบุปผาชน



บล็อกของบาร์เกอร์ จะเป็นงานวิเคราะห์วรรณกรรม และการตอบคำถามในชุมชนออนไลน์ Usenet แรกๆ ก็คึกคักดี ต่อมาบาร์เกอร์ ก็เริ่มเบื่อหน่ายและทิ้งช่วงไปเป็นเวลานานๆ จนเลิกราไปในที่สุด

ถึงแม้บาร์เกอร์ จะเป็นผู้สถาปนาคำว่า Weblog ซึ่งต่อมาปีเตอร์ เมอร์ฮอลซ์ นักเขียนออนไลน์ชาติเดียวกัน ตัดเหลือเพียงคำว่า blog แต่เขาไม่เคยได้รับสิ่งใดจากบล็อกตอบแทนเลย เหมือนที่เขาใช้คำว่า ไม่เคยได้อะไรแม้แต่แดงเดียว

แต่นี่คือหัวใจสำคัญที่สุดของบล็อกเกอร์ คือความสุขที่ได้เขียนเท่านั้น




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2552 14:53:22 น.
Counter : 451 Pageviews.  

เคล็ดลับเลือก “แปรง” และ “ยาสีฟัน”

13.42 น.  ศุกร์  20 ก.พ. 2552


 วันนี้ มาหา คุณหมอ ที่ รพ 


หลังจากที่โ ดนท้า ไป เป็นครั้งที่สอง


 ลูกผู้ชายอย่างเรา  โดนท้า อย่างนี้ ก็ต้องไป


 


สอง ชั่วโ มงผ่านไป มอไซต์ คันเก่ง มาจอดที่ หน้า รพ


 


 


"มาทำไม"  คุงหมอ ถามแบบนี้ ได้ไง


เลยตอบไปตามประสา ว่า


"มีคนท้า ก็เลยมา"


 


 


 


วันนี้ก็เลยถือโอกาส ทำฟันซะเลย


 


อุดไ ป สาม ซี่


 เการากฟัน 


แ ละก็ ขูดหินปูน


 


 


ทั้งหมด ศูนย์ บาท 


 


 


 






ปัจจุบัน “โรคฟันผุ” ยังเป็นโรคสำคัญที่เกิดขึ้นกับคนไทยเป็นจำนวนมาก ร้อยละ 65 ของเด็กไทยอายุ 3 ปีมีปัญหาฟันผุและมีแนวโน้มพบโรคฟันผุเพิ่มขึ้นในผู้สูงอายุ ทั้งๆ ที่โรคฟันผุนั้นสามารถป้องกันได้ด้วยการแปรงฟันอย่างถูกวิธีโดยใช้ยาสีฟันผสมฟลูอออไรด์

    จากการศึกษาวิจัยเรื่อง “ผลกระทบของขนาดแปรงสีฟันและชนิด/ยี่ห้อยาสีฟันต่อปริมาณของยาสีฟันขนาดต่างๆ” โดย ผศ.ทญ.ดร.ภฑิตา ภูริเดช อาจารย์ประจำภาควิชาทันตกรรมชุมชน คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อศึกษาขนาดของแปรงสีฟันและยาสีฟันที่เหมาะสมในเด็กและผู้ใหญ่ ได้ผลสรุปออกมาน่าสนใจทีเดียว

    ผลวิจัยให้ข้อมูลเอาไว้ว่า ขนาดของแปรงสีฟันจะมีผลต่อปริมาณของยาสีฟันที่ใช้ ส่วนชนิดและยี่ห้อของยาสีฟันไม่มีผลกระทบต่อปริมาณยาสีฟัน เด็กเล็กที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี จึงควรใช้แปรงสีฟันที่มีขนาดเล็กและใช้ยาสีฟันขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว เพื่อจำกัดปริมาณยาสีฟันที่ใช้และเพื่อฟ้องกันการกลืนยาสีฟัน เนื่องจากเด็กเล็กมักจะกลืนยาสีฟันขณะที่แปรงฟัน

   ในขณะที่ผู้ใหญ่นั้นสามารถใช้ยาสีฟันในปริมาณเพียงพอสำหรับการแปรงฟันได้อย่างสะอาดทั่วทั้งปาก เพราะผู้ใหญ่สามารถควบคุมการกลืนยาสีฟันได้ดี

     ส่วนระยะเวลาที่ใช้ในการแปรงฟันนั้น ในเด็กควรใช้เวลานาน 2 นาทีและผู้ใหญ่วรใช้เวลานาน 4 นาทีแล้วจึงบ้วนปาก นอกจากนี้ ควรแปรงลิ้นหลังการแปรงฟันทุกครั้งเพื่อกำจัดเชื้อโรคที่ลิ้น ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก

     ผศ.ทญ.ดร.ภฑิตาให้ความรู้ด้วยว่า ฟลูออไรด์ในยาสีฟันมีส่วนช่วยป้องกันฟันผุได้ โดยเฉพาะฟันผุในด้านเรียบของฟันซึ่งฟลูออไรด์เป็นสารที่ไม่มีผลกระทบต่อฟันหากใช้ในปริมาณที่ทันตแพทย์แนะนำ อย่างไรก็ตาม การใช้ปริมาณยาสีฟันมากเกินไปในเด็กเล็ก ซึ่งกำลังมีการสร้างฟันจะมีผลเบื้องต้นทำให้ฟันตกกระไม่แข็งแรงและหากได้รับในปริมาณสูงมากจะทำให้เกิดฟันผุได้ง่าย

     ทั้งนี้ ในการแปรงฟันนั้นควรใช้แปรงสีฟันที่มีหน้าตัดเรียบ ด้ามตรง มีขนแปรงอ่อนนุ่ม เพื่อจะไม่ได้ทำลายฟันและเหงือกในขณะแปรงฟัน เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนาดเหมาะสมกับช่องปากและฟันของแต่ละคน ที่สำคัญคือควรแปรงฟันให้สะอาดครบทุกซี่ทุกด้านทั่วทั้งปาก โดยแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ เด็กควรใช้แปรงสีฟันสำหรับเด็กที่มีขนแปรงอ่อนนุ่ม ใช้ยาสีฟันที่ไม่มีรสเผ็ดจนเกินไป ผู้ปกครองควรแปรงฟันให้เด็กเล็กตั้งแต่อายุ 6 เดือน ซึ่งฟันเริ่มขึ้นจนถึงอายุ 7 ปีเพื่อแปรงฟันให้สะอาดทั่วทั้งปาก





Free TextEditor




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2552 13:49:31 น.
Counter : 727 Pageviews.  

ประโยชน์ของยาสีฟัน ที่คุณมองข้าม

ต้อง ขออภัย เพื่อนๆ ทุก คนนะครับ ที่ไม่ได้ตอบบล๊อก
และอัตเดป บล๊อกช้าไป

เนื่องจากตอนนี้ กลับมาอยู่ ตจว เลยทำให้หลายๆ อย่างช้าไปหมด
รวมถึง ความเร็วของอินเทอร์เน็ตด้วย
จากที่จ่าย 700 บาท ควร จะได้ 1.5M แต่กลับได้มาเพียง 300 K

เศร้า ครับ ไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป กำลังจะแจ้ง ให้เจ้าหน้าที่มาช่วยดู
แต่ก็เฮ้อ เป็นเหมือนกัน คล้ายๆ กัน ทั่ว ประเทศ


จะลองโทรไปดู ไม่รู้ พี่TOT จะว่า ยังไง

--------------------------------------------------

ประโยชน์ของยาสีฟัน






         ยาสีฟัน นอกจากไว้ใช้แปรงฟันแล้ว ทราบหรือไม่ว่า ยังมีประโยชน์อย่างอื่นอีก วันนี้เกร็ดความรู้มีมาฝากกัน...


          - ใช้ทำความสะอาด คราบและรอยขีดข่วน บนพื้นผิววัสดุ ขัดหน้าปัดนาฬิกา แตะกับเศษผ้าสักหลาดแล้วขัดเบา ๆ 
          - ใช้ทำความสะอาด ช้อน ส้อม สเตนเลส ขัดถูด้วยผ้านุ่ม 
          - ลบรอยขีดข่วนบนกระจกปูโต๊ะ ป้ายที่รอยแล้วใช้ผ้านุ่มขัดเบา ๆ 
          - ลดรอยสกปรกบนโต๊ะพลาสติก 
          - ใช้ทำความสะอาด เครื่องประดับเงินแท้ แตะสำลีหรือผ้านุ่ม ๆ ขัดถู 
          - ใช้ทำความสะอาด หัวก็อกน้ำ ใช้เศษยาสีฟันที่ร่วงขณะแปรงฟันขัดถูหัวก็อก จะเงาเป็นประกาย 
          - ช่วยบรรเทาอาการแสบร้อน 
          - ขจัดคราบลิปสติกที่ติดเสื้อ ใช้ยาสีฟันทารอยเปื้อนแล้วซักตามปกติ 
          - ดับกลิ่นแรงที่ติดมือหลังทำครัว อย่างกลิ่นกระเทียม หอม แตะยาสีฟันเล็กน้อยแล้วล้างมือกับสบู่ กลิ่นจะหายไป


          รู้อย่างนี้แล้ว ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้ 








 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2552 9:31:59 น.
Counter : 553 Pageviews.  

ยาสีฟันของฉัน

ยาสีฟัน…เป็นของคู่กันกับการแปรงฟัน เพราะนอกจากจะช่วยในการทำความสะอาดฟันและเหงือกแล้ว ยังทำให้เรารู้สึกสดชื่นหลังจากแปรงฟันด้วย


   ส่วนประกอบในยาสีฟัน

 

ปัจจุบันมียาสีฟันจำนวนมากที่วางขายตามท้องตลาด ทำให้หลายคนมีคำถามว่าจะเลือกใช้ยาสีฟันยี่ห้อไหนดี การเลือกใช้ยาสีฟันมีหลักง่ายๆ คือ เลือกตามความต้องการโดยดูจากส่วนประกอบสำคัญในยาสีฟันนั้นๆ

 

โดยทั่วไปยาสีฟันที่นิยมใช้จะมีลักษณะเป็นครีมข้นประกอบด้วยผงขัดที่ละเอียดเพื่อช่วยขจัดคราบฟัน มีสารที่ทำให้เกิดฟองซึ่งจะช่วยให้คราบฟันถูกขจัดออกได้ง่าย มีการแต่งกลิ่นและรสเพื่อให้น่าใช้ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีสารเก็บความชื้น สารช่วยยึด สารกันบูดและสารฟลูออไรด์


   การเลือกใช้ยาสีฟัน

 

ส่วนประกอบของยาสีฟันแต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกัน จึงควรเลือกใช้ตามวัตถุประสงค์ของแต่ละคนดังนี้
1. ช่วยในการป้องกันฟันผุ ส่วนประกอบในยาสีฟันที่มีผลต่อการป้องกันฟันผุคือ ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปแล้วว่า ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุได้จริง

 

ในประเทศไทยกำหนดให้เติมฟลูออไรด์ในยาสีฟันได้ไม่เกินร้อยละ 0.11 หรือ 1,100 ส่วนในส่วนประกอบล้านส่วน (ppm.) และต้องได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยา หรือ อย. ด้วยยาสีฟันส่วนใหญ่ที่มีขายทั่วไปมักจะมีฟลูออไรด์ผสมอยู่ด้วย และหลายยี่ห้อจะมีคำว่า เอฟ (F) ต่อท้าย แต่ก็มีบางยี่ห้อที่มีคำว่า เอฟ แต่ไม่มีฟลูออไรด์ ฉะนั้นเราจึงควรศึกษารายละเอียดข้างกล่องในการเลือกใช้ให้ถูกต้อง
รูปแบบของฟลูออไรด์ที่ใช้มี 2 ชนิดคือ โซเดียมฟลูออไรด์กับโซเดียมโมโนฟลูออไรด์ฟอสเฟต ซึ่งในแต่ละยี่ห้อจะผสมสัดส่วนของฟลูออไรด์ทั้งสองต่างๆ กัน หรือใช้เพียงอย่างเดียว
ส่วนยาสีฟันที่ใช้สำหรับเด็กจะมีปริมาณฟลูออไรด์ต่ำกว่า 1,000 PPM. เช่น คอลเกตจูเนียร์มีฟลูออไรด์ 500 PPM. และโคโดโมเจลมีฟลูออไรด์ 850 PPM. ทั้งนี้เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการที่เด็กกลืนฟลูออไรด์เข้าไปมากเกินไป อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุก็จะลดลงด้วย

 

2. ช่วยในการลดเชื้อซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเหงือกและฟันผุ ในยาสีฟันบางยี่ห้อมีการเติมสารที่ช่วยในการลดเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคเหงือกและฟันผุ เช่น สารไตรโคซาน ตัวอย่างเช่น คอลเกตโททอล ใช้ไตรโคซานเป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะคงตัวอยู่ในช่องปากได้นาน 4-12 ชั่วโมงภายหลังการใช้
สารอีกตัวหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการลดเชื้อในช่องปากได้เช่นกัน ก็คือ สารไธมอล ซึ่งเป็นสารลดเชื้อที่มีอยู่ในยาสีฟันใกล้ชิดและพบว่า เป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำยาบ้วนปากลิสเตรอรีน ด้วย เพราะสารไธมอลจะคงตัวอยู่ในช่องปาก และยังคงมีฤทธิ์ในการระงับเชื้อภายหลังการใช้ประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนสารอีกตัวที่กำลังมาแรงก็คือ ทีที ออยส์ มีอยู่ในยาสีฟันใกล้ชิด แต่การคงตัวในช่องปากจะค่อนข้างต่ำเช่นเดียวกับไธมอล

 

3. ช่วยในการทำให้ฟันขาวขึ้น โดยการขัดคราบสีฟันออกทำให้ฟันขาวสะอาดขึ้น ยาสีฟันในกลุ่มนี้จึงเน้นไปที่ผงขัดฟันที่มีความหยาบกว่าปกติ เช่น ไดแคลเซียมฟอสเฟต (แซคท์) อลูมินั่มไฮดรอกไซด์ (เดนิวิท) อลูมินั่มออกไซด์ (คอลเกต-เซนเซชั่น) แคลไซน์อลูมินา (ดาร์ลี่ เฟรช แอนด์ ไบรท์) ซิลิคอนไดออกไซด์ (ใกล้ชิด) อลูมินั่มซิลิเกท (Glister)
ส่วนการทำให้ฟันขาวขึ้นอีกวิธีหนึ่ง คือ การฟอกสีฟัน (Bleeching) พบว่า มีเพียงสปาร์เกิ้ลสูตรเปอร์ออกไซด์เท่านั้นที่มีคาร์บาไมค์เปอร์ออกไซด์ ร้อยละ 3 ซึ่งเป็นสารที่สามารถฟอกสีฟันให้ขาวขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม โอกาสที่สารเปอร์ออกไซด์จะก่อให้เกิดการแพ้ และระคายเคืองต่อเหงือกมีได้สูง จึงควรระมัดระวังในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้สักหน่อย

 

4. ช่วยลดอาการเสียวฟัน มีการใช้สาร 2 ชนิด คือ สตรอนเตรียม คลอไรด์ (เซ็นโซดายน์สีแดง) และโปรตัสเซียมไนเตรดในการลดอาการเสียวฟัน โดยจะสามารถแก้เสียวฟันได้หลังการใช้ยาสีฟันประมาณ 20 ครั้งขึ้นไป
ช่วยในการรักษาโรคเหงือก จะมีการใส่สารหรือสมุนไพรต่างๆ เข้าไปในยาสีฟัน เพื่อช่วยในการรักษาโรคเหงือก โดยจะช่วยลดเชื้อ Methyl-4-Esculetal Sodium (ไพโอดอลทิล) กานพลู หรือ Clove oil ฯลฯ สารบางตัวจะเพิ่มความแข็งแรงของเหงือก เช่น วิตามิน P, โปรวิตามินบี 5, Allantoin ฯลฯ ส่วนคาโมไมล์ จะมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบ ทรานเอกชามิค เอซิด (ซอลท์) จะช่วยห้ามเลือด เป็นต้น

   ยาสีฟันสมุนไพร

 

สมุนไพรไทยที่นำมาใช้ในยาสีฟัน ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยข่อย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีตั้งแต่โบราณมาแล้ว ส่วนที่นำมาใช้คือ กิ่งเล็กๆ หรือเปลือก เนื่องจากพบว่าเปลือกข่อยมีสารเทนนิน ซึ่งมีฤทธิ์ในการระงับเชื้อได้ ในขณะเดียวกันจะช่วยเคลือบฟันได้ด้วย

 

กานพูล ส่วนที่นำมาใช้มักจะเป็นดอกซึ่งมีน้ำมัน มีฤทธิ์ในการระงับเชื้ออย่างอ่อน นอกจากนี้ก็มี เกลือ ลิ้นทะเล (กระดองปลาหมึก) ใช้เป็นผงขัดฟัน พิมเสน การบูร ชะเอมเทศ ใช้ในการปรุงแต่งรสชาติ

 

ส่วนสมุนไพรต่างประเทศที่นำมาผสมในยาสีฟัน จะพบว่ามีตัวหลักๆ คือ คาโมไมล์ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เมอร์เปปเปอร์มิ้นท์ เสจ เอคชินาเซีย แรททาเนีย เป็นสมุนไพรที่นำมาผสมในยาสีฟันเพื่อช่วยในการรักษาโรคเหงือก โสม (Ginseng) เป็นสมุนไพรที่มักใช้เป็นยาบำรุงกำลังก็มีการนำมาผสมในยาสีฟันก๊กเลี้ยง จาเป่า และรัสตี้


  ปัญหาจากการใช้ยาสีฟัน

 

ปัญหาจากการใช้ยาสีฟันโดยปกติแล้วจะพบได้น้อยมาก ที่อาจจะพบได้บ้าง ก็คือ การแพ้ยาสีฟัน เยื่ออ่อนในช่องปากจะเกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง บางรายอาจมีอาการบวม แดงที่ริมฝีปาก สาเหตุเกิดจากการแพ้สารบางตัวในยาสีฟันนั่นเอง เช่น บางคนจะแพ้เมนทอล ซึ่งเป็นสารแต่งกลิ่นและรสยาสีฟัน หรืออาจจะแพ้ฟลูออไรด์ในยาสีฟัน วิธีแก้ไขก็คือ เปลี่ยนไปใช้ยาสีฟันอื่นที่มีสารตัวนั้นน้อยลง

 

การใช้ยาสีฟันบางชนิดเพื่อขจัดคราบบุหรี่ และคราบอาหาร ซึ่งจะมีผงขัดมาก ก็อาจจะเกิดปัญหาทำให้ฟันสึกได้ จึงไม่ควรใช้ทุกวัน

 

ยาสีฟันบางชนิดผสมสมุนไพร มีฤทธิ์เป็นยาฝาดสมานทำให้เหงอกดูเหมือนแน่นขึ้น ซึ่งต้องระวังในผู้ที่เป็นโรคปริทันต์ ซึ่งอาจมีหินปูนอยู่ใต้เหงือก ยังไม่ได้ขูดออก อาจมีการติดเชื้อใต้เหงือกเกิดขึ้นได้


   หลักการเลือกใช้ยาสีฟัน

 

ในการใช้ยาสีฟันควรพิจารณาสิ่งต่อไปนี้คือ


  • เป็นยาสีฟันประเภทครีม (Paste) หรือ เจล (Gel) เพราะจะไม่ทำให้ฟันสึกมากเมื่อเทียบกับชนิดผง

  • มีฟลูออไรด์ผสมอยู่ด้วยเพราะสามารถช่วยป้องกันฟันผุได้

  • มีราคาเหมาะสมเมื่อเทียบกับคุณภาพของยาสีฟัน

  • เลือกตามปัญหาของแต่ละคน เช่น ผู้ที่มีอาการเสียวฟันอาจใช้ยาสีฟันที่แก้การเสียวฟันโดยเฉพาะ และเมื่อหมดอาการแล้วก็อาจจะใช้ยาสีฟันชนิดธรรมดาก็ได้


นอกจากนี้เวลาแปรงฟันควรให้ยาสีฟันสัมผัสกับผิวฟันไม่น้อยกว่า 2 นาที จึงจะเป็นการใช้ยาสีฟันในการป้องกันฟันผุได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า

 

บทความนี้เรียบเรียงจากข้อเขียนของทันตแพทย์ภราดร ชัยเจริญ ซึ่งท่านได้ทำการสำรวจข้อมูลเมื่อปีพ.ศ.2542 ปัจจุบันมียาสีฟันใหม่ๆ ออกมาขายอีกมากมาย ฉะนั้นข้อมูลบางอย่างอาจจะเปลี่ยนแปลงไป และไม่ครบถ้วน อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณท่านในโอกาสนี้ด้วย





 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2552 8:49:34 น.
Counter : 778 Pageviews.  

ดูแลรักษาแปรงสีฟันให้ปลอดเชื้อ



พอนึกถึงแปรงสีฟันแล้ว เรามักจะตั้งคำถามอยู่บ่อยๆ ว่าจะเลือกแปรงอย่างไรดี เอาแบบด้ามตรง ด้ามงอ หรือขนแปรงนิ่ม อ่อนแข็งขนาดไหน? แปรงสีฟันเป็นของจำเป็นที่ใช้ทุกวันในการขจัดคราบอาหาร สิ่งสกปรกที่ติดตามตัวฟัน เพื่อป้องกันฟันผุและเหงือกอักเสบ


แปรงฟัน
อีกมุมมองหนึ่ง คุณทราบไหมว่า แปรงสีฟันเป็นที่กักเก็บเชื้อโรคได้อย่างดียิ่ง !! 

ปัจจุบันนี้มีการวิจัยพบว่าแปรงสีฟันเป็นที่อาศัยของเชื้อโรคที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ทั้งในช่องปากและไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ปกติแล้วในช่องปากเป็นที่สะสมของแบคทีเรียหลายร้อยชนิด การที่เชื้อจากคนหนึ่งจะไปสู่อีกคนหนึ่ง แปรงสีฟันก็เป็นสาเหตุได้เช่นกัน เป็นบ้านอย่างดีของแบคทีเรีย เมื่อ...



• แปรงสีฟันสัมผัสกับน้ำลาย



• ถูกเลือดโดยเฉพาะคนที่เป็นโรคเหงือกอักเสบ

ทราบกันดีอยู่ว่ามีหลายโรคที่แพร่กระจายทางน้ำลายและเลือด เช่น ไวรัสตับอักเสบ HIV เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็มีการศึกษาว่าจะทำอย่างไร ที่จะลดเชื้อแบคทีเรียไม่ให้มาสะสมที่แปรงสีฟัน สมาคมทันตแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกาเขาแนะนำว่าการดูแลรักษาแปรงสีฟันอย่างนี้ครับ



• อย่าใช้แปรงสีฟันร่วมกัน เพราะการใช้แปรงร่วมกัน โอกาสสัมผัสกับน้ำลาย เลือด ของอีกคนได้ง่ายมากๆเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยตรงเลยครับ



• ล้างขนแปรงด้วยน้ำก๊อก หลังจากแปรงฟันเสร็จ เพื่อเอายาสีฟันที่ค้างและสิ่งสกปรกออก แล้ววางให้ตั้งตรง ให้ขนแปรงถูกอากาศพัดให้แห้ง หากมีแปรงหลายอัน ก็อย่าให้ขนแปรงมาชนกันหรือสัมผัสกันเพื่อป้องกันการปนเปื้อน



• อย่าเก็บแปรงในกล่องปิด เพราะแบคทีเรียจะเจิรญเติบโตได้ดีในที่ชื้นๆ แต่ถ้าขนแปรงถูกอากาศ ก็จะไม่เปียก แบคทีเรียไม่ชอบ จึงควรวางให้แห้งด้วยอากาศดีกว่า



• ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3-4 เดือน อย่าใช้แปรงจนขนแปรงบานนะครับ เพราะประสิทธิภาพในการขจัดเอาเศษอาหารจะลดลง แถมยังอาจทำร้ายเหงือกมากขึ้นด้วย อย่าเสียดายเลย ต้องเปลี่ยนแปรงตามระยะ อย่างไรเสียค่าทำฟันก็แพงกว่าค่าแปรงสีฟันมากครับ





แปรงให้ถูกวิธี จัดเก็บแปรงให้ถูกต้อง สุขภาพฟันของคุณจะสมบูรณ์และมีฟันให้เคี้ยวอาหารนาน ๆ 

 






Free TextEditor



ขอขอบคุณ
ทพ.พจนารถ พุ่มประกอบศรี




 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2552 17:29:29 น.
Counter : 466 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

nat85min
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีตอนรับทุกคนที่เข้ามานะครับ

ชื่อนัทครับ ไม่ใช่หมอฟัน

แต่มีแฟนเป็นหมอ(ฟัน)

จึงอยากให้ blog นี้เป็น

แหล่งรวบรวมเรื่องราว

เกี่ยวกับฟัน ฟัน ฟัน
<data:blog.title/> <data:blog.pageName/> กระบี่อยู่ที่ใจ ไร้ใจ ไร้กระบี่

สร้างลิงค์ของโปรไฟล์ในแบบที่เป็นตัวคุณเอง
Friends' blogs
[Add nat85min's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.