Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
6 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
ตะกอนยม ต้นกล้าแกร่ง แก่งเสือเต้น

"เขื่อนจะทำให้ชุมชนเราแตกสลาย ทุกวันนี้เรายังไม่รู้ว่ารัฐจะเอายังไงกันแน่ ความคิดเรื่องการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นมีปีละ 2 ครั้ง คือหน้าแล้งกับหน้าฝน แต่ถึงแม้จะไม่มีเขื่อน ชุมชนก็อาจจะล่มสลายได้เหมือนกัน ..."

*เพิ่งจะ 6 โมงครึ่งเท่านั้น แต่กาดมั่ว (ตลาด) บ้านดอนชัย ใกล้จะวายแล้ว

     ถึงกระนั้น เธอและพลพรรคอีก 4-5 คนก็ยังชื่นมื่น สบายใจ กับการจับจ่ายอาหารเช้าและของกินเล่น

เช้าวันนั้นเธอถือเงินออกจากบ้านไปตลาดเพียง 40 บาทเท่านั้น แต่แทบไม่น่าเชื่อว่า ภายใต้ความเพลิดเพลินกับการชื่นชมสินค้าและจับจ่ายนั้น ยังมีเงินเหลือติดกระเป๋ากลับบ้านอีกตั้ง 20 บาท

     จะไม่ให้เหลือได้อย่างไร ในเมื่อกาแฟร้อนแก้วละ 5 บาท ข้าวราดหน้าหมูกรอบ มีหมูกรอบชิ้นขนาดพองามอยู่ตั้ง 8 ชิ้น 5 บาทเหมือนกัน และไข่พะโล้รสชาติเยี่ยม ประกอบด้วยไข่ไก่ 3 ฟอง เต้าหู้อีก 2 ชิ้น ราคา 10 บาทเท่านั้น เพื่อนโต๊ะข้างๆซื้อผักดองเค็มถุงใหญ่แล้วแบ่งให้ลองชิม บอกว่าถุงละ 5 บาทเหมือนกัน กินอิ่มจนพุงกาง

น่าเสียดาย ถ้าเราไปช่วงหน้าร้อน จะได้กินไข่มดแดง เปรี้ยวๆ มันๆ ผลิตผลจากป่าผืนงามที่ชาวสะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ช่วยกันดูแลด้วย

     เห็นแผงผักข้างๆ มีแต่ผักแปลกๆ เขียวๆ สดๆ น่ากินทั้งนั้น อยากซื้อกลับไปกินที่กรุงเทพฯใจจะขาด ยิ่งได้ยินแม่ค้าบอกราคาก็ยิ่งตกใจ ต้องถามกลับไปอีกรอบ เพราะกลัวฟังผิด ยอดฟักแม้ว มัดละ 2 บาทเท่านั้น แต่ละมัดก็มีแต่ยอดอ่อนงามๆ ไม่ใช่ใบแก่ๆ เหมือนที่เคยซื้อในกรุงเทพฯ และที่เคยซื้อนั้น มัดขนาดเดียวกันนี้ราคาปาเข้าไปตั้ง 30 บาท

แต่ไม่ได้ไปตลาดนานแล้ว ป่านนี้ไม่รู้ว่ามันขึ้นราคาไปหรือยัง

"ราคาเท่านี้แหละ ขายแพงกว่านี้ แถวนี้ใครจะซื้อ ขายเท่านี้ก็กำไร และอยู่ได้แล้ว" ป้าแม่ค้าคนขายผักบอก

     แกบอกด้วยว่า ผักทั้งหมดไม่ได้ซื้อหามาจากไหน แต่ลูกหลานช่วยกันเก็บมาจากป่าบ้าง ปลูกเอาไว้ข้างบ้านบ้าง ต้นทุนแทบจะไม่มี ไม่รู้จะขายแพงไปทำไม แต่ก็กังวลอยู่ลึกๆ ว่า ถ้ารัฐบาลจะเอาเขื่อนแก่งเสือเต้น ป่าที่เคยไปเก็บผักก็คงไม่มี รวมทั้งบ้านที่แกอยู่ก็คงหายไปด้วย เพราะหมู่บ้านนี้ทั้งหมู่บ้านน้ำจะต้องท่วมทั้งหมด

*นึกถึงวันแรกที่เดินทางมาที่นี่ ชาวบ้านบ้านสะเอียบจัดพิธีบวชป่าให้พื้นที่ป่าสัก เป็นพิธีการอย่างหนึ่งที่ต้องการปกป้องผืนป่า

     ทุกคนในหมู่บ้าน ทั้งเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ และพ่ออุ้ย แม่อุ้ย ปิดบ้านเข้าร่วมพิธีกันถ้วนหน้า สะดุดตาตรงที่เด็กวัยรุ่นชายหญิงกลุ่มหนึ่งเข้าไปมีส่วนร่วมในพิธีการครั้งนี้อย่างขมีขมัน

ใครคนหนึ่งบอกว่า เด็กเหล่านี้เป็นพวกตะกอนยม

เสร็จจากพิธีบวชป่า โดยขั้นตอนทางสงฆ์ พวกเราได้รับแจกผ้าเหลือง หรือจีวร สำหรับผูกลำต้นไม้สักในป่า เพื่อเป็นเครื่องหมายว่าสักต้นนั้นผ่านการบวชแล้ว ป่าที่ผ่านพิธีบวชเป็นเสมือนดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจเข้าไปทำลายได้ ใครเข้าไปตัดหรือทำลายไม้ในป่าที่บวชแล้ว เชื่อกันว่าความบาปจะเทียบเท่ากับการฆ่าพระสงฆ์ 1 รูป

เราต้องเดินเข้าป่าลึก เพื่อนำจีวรไปห่มต้นสัก

     ยิ่งเดินลึกเท่าใด ยิ่งเห็นว่าป่ายังอุดมสมบูรณ์ และรู้สึกขนลุกทุกครั้งที่ได้เอาผ้าเหลืองไปห่มต้นสัก

"ต้นนี้ผมมาถ่ายรูปทุกเดือนว่ามันโตแค่ไหนยังไง มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ทำมา 3 ปีแล้ว" หนุ่มน้อยคนหนึ่งบอก เธอจำได้ว่า เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มตะกอนยม เดินทำโน่นทำนี่ไม่ได้หยุดระหว่างงานในตอนเช้า

ถ่ายไปทำไม เพื่อนคนหนึ่งถาม

"เพื่อจะอธิบายว่าแต่ละช่วงเวลามันจะเป็นอย่างไร หน้าฝนมันเขียว หน้าร้อนมันผลัดใบ หน้าหนาวมันเป็นแบบไหน จะได้รู้จะได้อธิบายให้คนอื่นรู้ได้ ใครมาดูป่าหน้าแล้ง ชอบพูดไปเรื่อยว่าเป็นป่าเสื่อมโทรม เพราะเขาไม่รู้ธรรมชาติของป่าที่นี่ดี" หนุ่มน้อยคนเดิมอธิบาย

*ออกมาจากป่าเย็นวันนั้น หลังอาหารเย็น ได้แวะไปเยี่ยมบ้านหลังเล็กริมถนน หน้าบ้านหลังนั้นมีป้ายขนาดใหญ่พองาม บอกว่าเป็นที่ทำการของตะกอนยม กลุ่มเยาวชนที่จะทำหน้าที่พิทักษ์ป่าสักในอุทยานแห่งชาติแม่ยมเท่าชีวิต

     วุฒิชัย ศรีคำภา หนุ่มน้อยวัย 20 ปีเศษๆ ซึ่งเจอกันในป่าเมื่อตอนกลางวัน นั่งรออยู่ เขายิ้มทักทายผู้ไปเยือน เขาเริ่มต้นเล่าเรื่องความเป็นมาของกลุ่มตะกอนยมอย่างน่าทึ่ง

"ตะกอนยมตั้งมาเมื่อ 14 ปีก่อน ตอนที่รัฐบาลครั้งนั้นจะสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ตอนนั้นผมยังเด็กมาก ยังไม่ขึ้น ป.1 ด้วยซ้ำ แต่ตั้งแต่จำความได้ ผมก็เห็นพวกพี่ๆ ตะกอนยมในหมู่บ้านทำงานมาตลอด ผมเข้ามาร่วมกิจกรรมกลุ่มเมื่อตอน ม.3 ได้ไปค่าย พี่ๆ สอนให้รู้เรื่องป่า สมัยนั้นแม้ว่าผมจะเป็นเด็กในพื้นที่ก็จริง แต่ผมไม่รู้เรื่องป่าเลย และเมื่อรู้แล้วตั้งแต่นั้นจนถึงวันนี้ผมเรียนรู้เพิ่มเติมตลอด จนเรียนจบชั้น ม.6 ผมตัดสินใจไม่ไปเรียนต่อในเมืองหรือที่กรุงเทพฯ เพราะคิดว่า องค์ความรู้ในบ้านเกิดของผมยังมีให้เรียนอีกมาก" วุฒิชัยบอก

     ปัจจุบันนี้เยาวชนหนุ่มสาวเกือบมากกว่าครึ่งใน ต.สะเอียบ เป็นสมาชิกกลุ่มตะกอนยม พวกเขาต่างมีธงร่วมกันคือ ต่อต้านการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น

วุฒิชัยบอกว่า ก่อนที่จะต่อต้าน เพื่อจะปกป้องอะไร พวกเขาจะต้องรู้ก่อนว่า สิ่งที่พวกเขาจะปกป้องนั้นเป็นอย่างไร ต้องเรียนรู้อย่างถ่องแท้ เรื่องที่มาที่ไปแห่งการเกิดชุมชนของพวกเขา เรื่องทรัพยากรทั้งหมดในพื้นที่ กระบวนการและแนวทางการต่อสู้ ถูกถ่ายทอดจากผู้หลักผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน และพี่ๆ ตะกอนยมรุ่นแล้วรุ่นเล่า

"พวกพี่ก็เห็นกันด้วยตาตัวเองแล้วว่า ป่าสักบ้านผมมันอุดมสมบูรณ์แค่ไหน หมดจากตรงนี้ไปคงหาจากที่อื่นไม่ได้อีก พวกผมอาจจะยังเด็ก หากจะพูดเรื่องการต่อสู้ แต่พ่อแม่พี่น้องของเราสู้เรื่องนี้มาตลอด เราก็จะช่วยพวกเขาสู้เรื่องนี้ สู้จนกว่าจะสู้ไม่ได้แหละครับ"

     ตะกอนยมรุ่นใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อยอีกคน อย่างแคน หรือชาติชาย ธรรมโม ซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกล ยิ้มชอบใจกับเรื่องที่น้องพูด

"เขื่อนจะทำให้ชุมชนเราแตกสลาย ทุกวันนี้เรายังไม่รู้ว่ารัฐจะเอายังไงกันแน่ ความคิดเรื่องการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นมีปีละ 2 ครั้ง คือหน้าแล้งกับหน้าฝน แต่ถึงแม้จะไม่มีเขื่อน ชุมชนก็อาจจะล่มสลายได้เหมือนกัน หากเด็กรุ่นใหม่เข้าไปอยู่ และทำงานในเมืองกันหมด ปล่อยให้คนแก่เฝ้าบ้าน แบบนี้มันอาจจะทำให้ชุมชนล่มสลายเร็วกว่าการสร้างเขื่อนด้วยซ้ำ" แคนบอกเสียงเครียด

     เขาบอกด้วยว่า ถ้าตะกอนยมยังอยู่แบบนี้ เขายังรู้สึกอุ่นใจว่าชุมชนของเขาจะไม่ล่มสลายไปง่ายๆ ถึงกระนั้นก็ไม่ได้วางใจ ตะกอนยมทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ยังคงมุ่งมั่นที่จะสั่งสมองค์ความรู้ ทั้งใหม่และเก่า ทั้งข้างในและนอกพื้นที่

ความรู้จะเป็นเหมือนเกราะเพชรอันมั่นคงที่จะทำให้พวกเขาสามารถปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนได้

อาจจะลำบากหน่อยและเหนื่อยบ้าง หากต้องสู้ความอยาก ความโลภอย่างไร้เหตุผล ของผู้มีอำนาจบางกลุ่ม


ขอขอบคุณ
ที่มา :
มติชนออนไลน์ - วันศุกร์ที่ 4 เดือนกรกฎาคม พศ. 2551 โดย ชุติมา นุ่นมัน aae_ok@yahoo.com

H O M E



Create Date : 06 กรกฎาคม 2551
Last Update : 23 กรกฎาคม 2551 0:16:07 น. 2 comments
Counter : 879 Pageviews.

 


โดย: yosita_yoyo วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:14:31 น.  

 
จะต้องหาโอกาสไปค่ะ


โดย: Why England วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:57:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.