Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
1 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
ปริศนาพุทธชินราช "พระเกศล่องหน"

*เป็นข่าวลือหนาหูว่าองค์ “พระพุทธชินราช” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง จ.พิษณุโลก พระพุทธรูปสำคัญของชาวพุทธ-ของประเทศไทย มีพุทธลักษณะ “เปลี่ยนไป” หลังการบูรณะ บ้างก็ลือว่า “พระเกศเปลวเพลิง” เปลี่ยนไป และบ้างก็ลือถึงขั้นพระเกศ “หายไป” ซึ่งถ้าเป็นจริง...มิใช่เรื่องเล็กแน่ ?!?

“พระพุทธชินราช” มีความเป็นมากว่าหกร้อยปี...

อยู่ ๆ ใครจะเปลี่ยนพุทธลักษณะย่อมไม่บังควร !?!


ตามหลักฐานชั้นทุติยภูมิพงศาวดารเหนือระบุว่า...เมื่อปี พ.ศ. 1900 สมัยกรุงสุโขทัย ในรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 หรือ พญาลิไท ทรงโปรดฯ ให้สร้างวัดใหญ่ หรือ “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร” วัดชั้นเอกวรมหา วิหารในปัจจุบัน และทรงโปรดฯ ให้มีการจัดสร้างพระพุทธรูปสำคัญเพื่อนำไปประดิษฐาน โดยดำริให้มีการสร้าง 3 องค์คือ พระพุทธชินศรี, พระศาสดา และ “พระพุทธชินราช”

     “พระพุทธชินราช” หล่อขึ้นด้วยทองสัมฤทธิ์ขัดเงาเกลี้ยง มีขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 5 ศอก 1 คืบกับอีก 5 นิ้ว หรือประมาณ 2.875 เมตร มีความสูง 7 ศอก หรือราว 3.5 เมตร ซึ่งตามตำนานระบุว่าพระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปองค์สุดท้ายที่สร้างเสร็จ โดยต้องหล่อถึง 5 ครั้ง เนื่องจากทองไม่แล่นทั่วองค์พระ จนต้องมีการประกอบพระราชพิธีตั้งสัจจาธิษฐานแล้วทำพิธีเททองหล่อ การหล่อถึงสำเร็จ



     และนอกจาก “พระพุทธชินราช” จะเป็นพระพุทธรูปที่มีการรวมบรรดาช่างหล่อ-ช่างปั้นฝีมือดีทั้งจากชะเลียง (สวรรคโลก) เชียงแสน และหริภุญ ไชย (ลำพูน) มาร่วมกันแล้ว ยังมีตำนานร่ำลือว่า...ในการหล่อองค์พระมี “เทวดา” จำแลงเป็น “ปะขาว” ลงมาร่วมในพิธีหล่อด้วย โดยขณะที่ทำการหล่อในครั้ง สุดท้ายนั้นมีปะขาวผู้หนึ่งซึ่งไม่มีใครทราบว่ามาจากที่ไหนมาช่วยในการปั้นและเททองหล่อ พอเสร็จก็หายไปอย่างลึกลับไร้ร่องรอย

เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้าสักการะ

แต่ “พระพุทธชินราช” ยังมีความน่าสนใจมากกว่านี้ !!


*นอกจากตำนานความเป็นมาแล้ว “ความงดงาม” จากพุทธลักษณะก็เป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผู้คนกล่าวขวัญถึง พระพุทธชินราชมีพุทธศิลป์แตกต่างไปจากพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยสมัยคลาสสิกอื่น ๆ

กล่าวคือ...มี “พระเกศรัศมียาวเป็นเปลวเพลิง” ซึ่งเป็นจุดที่เกิด “ข่าวลือ” ล่าสุด และวงพระพักตร์ก็ค่อนข้างกลม ไม่ยาวรีเหมือนพระพุทธรูปยุคศิลปะสุโขทัยองค์อื่น ๆ ยิ่งเมื่อเสริมกับ “ซุ้มเรือนแก้ว” ที่สลักและลงรักปิดทองประดับเบื้องพระปฤษฎางค์ ซึ่งเสมือนเป็นรัศมีรอบ ๆ ยิ่งช่วยขับองค์พระให้โดดเด่นแปลกตา

พุทธลักษณะเด่นต่าง ๆ ทำให้พระพุทธชินราชถูกจัดเป็น “พระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยหมวดพิเศษ” โดยตั้งชื่อหมวดตามชื่อขององค์พระ ก็คือ “หมวด พระพุทธชินราช” นั่นเอง...

“เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีลักษณะงดงามที่สุดในโลก”

*นี่เป็นคำกล่าวขานกันในแวดวงศิลปะและโบราณคดีไทย ซึ่งนอกจากพระพุทธชินราชองค์จริงที่ จ.พิษณุโลกแล้ว ยังมีการจำลององค์พระพุทธชินราชไปประดิษฐานในบางจังหวัด หลายวัด–หลายแห่ง แต่ที่สำคัญคือองค์จำลองที่ประดิษฐานอยู่ ณ พระอุโบสถ วัดเบญจมบพิตรฯ ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จำลองมาประดิษฐานไว้

สำหรับการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระพุทธชินราช ก็มีอาทิ...สมัยกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงลงรักปิดทององค์พระเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2134, สมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 5 ทรงบูรณะโดยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์และเงินบริจาคของประชาชนที่ศรัทธาเมื่อปี พ.ศ. 2444

กับการบูรณะครั้งล่าสุดที่ดำเนินการเมื่อปี 2547 เริ่มเป็นข่าวมาตั้งแต่เดือน มี.ค.ปีที่แล้ว โดยทางวัดและสำนักงานพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระพุทธชินราช กรมศิลปากร แถลงร่วมกันว่า...เกิดการชำรุดเสียหายที่องค์พระ ทองที่ปิดไว้ถลอก มีรอยขูดขีด บริเวณที่ลงรักมีร่องรอยการแตก จึงน่าจะมีการซ่อมเแซม

     เดือน พ.ค. 2547 มีข่าวว่าองค์พระเกิดความเสียหายขณะซ่อม ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญขนาดที่ทางรัฐบาลต้องเข้าจัดการ และแถลงว่า...เนื่องจากมีการไปอุดช่องระบายความร้อนในองค์พระที่อยู่ด้านหลังฐานพระ ทำให้ “ทองคำละลาย” ซึ่งหากองค์พระภายในเกิดความร้อนมากเกินไปอาจร้ายแรงถึงขั้นทำให้ “องค์พระระเบิด” และทางรัฐบาลได้เข้ารับดำเนินการเป็นเจ้าภาพในการบูรณะต่อ ร่วมกับกรมศิลปากร แล้วข่าวก็เงียบไป

“หากมองมุมตรง ๆ ก็จะรู้สึกตกใจที่พระเกศไม่เหมือนเดิม แต่หากมองจากทางมุมข้าง ๆ แล้วก็จะเห็นชัดว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลง”...เป็นคำชี้แจงของ วินัย ชาญวิชัย ไวยาวัจกรวัดใหญ่ ต่อกรณีข่าวลือเกี่ยวกับ “พระพุทธชินราช” ที่ว่า “พระเกศเปลี่ยนไป-พระเกศหายไป” พร้อมทั้งบอกอีกว่า...คงเป็นเพราะมีการเปลี่ยนใช้ไฟสปอตไลต์ที่ฉายจับแบบที่ไม่ก่อให้เกิดความร้อนต่อองค์พระ ทำให้ “แสง-เงา” เปลี่ยน

สรุปคือพุทธลักษณะ “พระพุทธชินราช” ยังงดงามดังเดิม

“พระเกศเปลี่ยน-พระเกศหาย” เป็น “ปาฏิหาริย์ไฮเทค”

เป็นปาฏิหาริย์จาก...“ปรากฏการณ์แสงและเงา !?!”.



ขอขอบคุณ
ที่มา :
Dailynews online


H O M E



Create Date : 01 ตุลาคม 2552
Last Update : 1 ตุลาคม 2552 18:51:53 น. 3 comments
Counter : 1215 Pageviews.

 
เพิ่งมีโอกาสได้ไปนมัสการองค์พระเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา องค์ท่านยังงามสง่าเหมือนเดิมค่ะ เห็นแล้วก็อดทึ่งในความสามารถของช่างโบราณไม่ได้


โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:20:16:49 น.  

 
พระพุทธชินราชสวยงามมาก แค่เห็ในรูยังสวยขนาดนี้
ถ้าไปดูจะสวยขนาดไหน




โดย: หมิว IP: 125.26.10.104 วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:18:38:21 น.  

 
whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!

GOD always forgive your mistake
the one that you cant even forget,
he always does it and always being with us
to help and blesss us for us whose heart is full of him


โดย: DA IP: 124.122.247.144 วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:18:29:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.