Bloggang.com : weblog for you and your gang
Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
Group Blog
พีรดลย์ หนึ่งเดียวคนนี้ !!!
เมื่อพีร์เดินทาง
ธรรมะนอกหน้าต่าง
มุมที่ไม่สว่าง
ผู้ด้อยโอกาสทางความรัก
บ้านนาจอก ณ นครพนม
หนังสือคือมิตรสนิทยิ่ง
กรกฏาคม 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
12 กรกฏาคม 2553
4 เล่มข้างหมอน
เล่มโปรดก่อนนอน
All Blogs
หลังม่านการเมือง
ร่างกายไม่เคยโกหก : What ever body is saying
บังเอิญ : A Life by Chance โดยคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์
คุณนายบ้าน (ฝรั่ง) เช่า
พม่าตราตรึง
พฤกษนิยาย
ว่ายน้ำให้เหมือนนก บินให้เหมือนปลา วาราณสี เหนือจริง
พิศเจริญ ...กำลังใจ 2
ณ เส้นขอบฟ้า สามี ...ภรรยา
จดหมายจากบ้านนา
ดวงแก้วแห่งพระมงกุฎเกล้า
จดหมายจากรัฐฉาน แผ่นดิน 19 เจ้าฟ้า
วิมุตตะมิติ มหัศจรรย์แห่งโลกภายใน หนังสือดีที่ต้องอ่าน !
หนังสือจากอาจารย์
4 เล่ม 4 (อรรถ)รส
4 เล่มข้างหมอน
เล่มโปรดก่อนนอน
4 เล่มข้างหมอน
บล๊อกนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากคุณรัชชี
เพื่อนบล๊อกที่รู้สึกว่าเป็นกัลยาณมิตรคนหนึ่ง
ในสังคมออนไลน์คุณภาพของผม เธอเขียนเล่าถึงหนังสือแต่ละเล่ม
ที่ได้มากจากงานหนังสือ ทำให้ผมหันมามองข้างหมอนของผม
และริที่จะลองเขียนดูบ้าง เพราะผมเองก็เป็นคนหนึงที่
มีหนังสือเป็นเพื่อนสนิทมานานโข
ผมเองชอบอ่านหนังสือและใช้เวลาอย่างมีความสุขกับการอ่านหนังสือ
พอคเก็ตบุ๊คเล่มเล็ก มาสม่ำเสมอตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย
ที่มักไปยืนอ่านฟรีในร้านดอกหญ้า ตอนโดดเรียนฟิสิกส์ที่ PEP สาวรีย์ชัย
แต่พอมีกำลังซื้อดันเป็นเมมเบอร์ร้านนายอินทร์ ซะงั้น หุหุ
และเวลาอ่านจะชอบแนว ธรรมะแนวใหม่ ๆ เขียนทันสมัย
หรือไม่ก็แนวประวัติศาสตร์ หรือสารคดีท่องเที่ยว
ผมมักจะซื้อหาหนังสือเล่มโปรดมาบำรุงสมองสม่ำเสมอเพราะว่า
กิจกรรมก่อนนอนที่ดีที่สุดของคนโสดอย่างผมคือการ
หยิบหน้งสือมาอ่านซักสิบกว่าหน้าก่อนที่จะผล็อยหลับไป
ผมมีหนังสือหลาย ๆ เล่ม ไว้เพื่ออ่านสลับไปมา
โดยจะไม่อ่านเล่มใดเล่มหนึ่งให้จบไปก่อนค่อยซื้อมาอีกเล่ม
มันได้ฟิลเหมือนดูละครไงคับ ดูหลาย ๆ ช่อง
แต่ดีกว่าละครโทรทัศน์ก็ตรงที่หนังสือมันวางอยู่ใกล้มือ
จะไม่จบไปก่อนหรือไม่หนีไปก่อนเหมือนตอนเรา
พลาดละครสักตอน
ที่อ่านค้างอยู่ตอนนี้มี 4 เล่ม
เริ่มที่เล่มแรกก่อน ได้มาหลายเดือนแต่อ่านยังไม่จบซะที
เพราะว่าเล่มหลัง ๆ ที่ได้มาเร้าใจกว่ามากมาย
เล่มแรกคือ "ถ้ารู้กูทำไปนานแล้ว"
ผู้เขียนคือ คุณณัฐพบธรรม เป็นวิศวกรจบจากมช.
แล้วก็มาเรียน MBA ที่จุฬา หลังจากนั้นก็ได้ร่ำเรียนกรรมฐานจากสำนักต่าง ๆ รวมทั้งวิชาธรรมกาย ของหลวงปู่สดวัดปากน้ำอีกด้วย
เนื้อหาจะเขียนตามภาษาของคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจง่าย กระชับ
อธิบายด้วยภาษาง่ายแต่ลึกซึ้ง มีภาพประกอบที่น่าสนใจ
ชื่อเรื่องจะเป็นคำถามชวนติดตาม เช่น บางคนทำความดี แต่ทำไมยังไม่รวย ?
จุดเด่นของงานเขียนเรื่องนี้อยู่ที่
การเขียนภาพประกอบที่เข้าใจง่าย
อืมม์ ท้ายเล่มเค้ามีการประมวลสถานที่ปฏิบัติธรรมแยกเป็นภูมิภาค
มีเบอร์โทรให้โทรไปสอบถามกันได้อีกด้วย
ผมว่าเค้าเป็นนักเขียนอีกคนหนึ่งที่น่าจะไปได้ไกลกับงานเขียนแนวนี่
จุดเด่นอีกประการคือ การอ้างอิงพระไตรปิฎก แทรกเป็นระยะที่ทำให้งานเขียนน่าเชื่อถือมาก
ผมว่าปัจจุบันงานเขียนแนวนี้มีมากมายเหลือเกิน ต้องเลือกสรรกันหน่อย
แต่อย่างน้อยข้อดีก็คือธรรมะสามารถแทรกซึมเข้าไปถึงคนรุ่นใหม่ได้ง่ายแพร่หลายกว่าเมื่อก่อนมากมาย อืมม์เล่มนี้ไม่แพงคับ ราคา 259.-
เล่มที่ 2 คือ "ขุนช้างขุนแผน ฉบับอ่านใหม่"
ผู้เขียนคือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ปราชญ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ขอย้อนหน่อยว่างานเขียนของคุณชายคึกฤทธิ์ผมได้อ่านแล้วหลายเล่ม
ไม่เคยผิดหวังเลยคับ ได้ความรู้ละเอียดลึกซื้ง เช่น ซูสีไทเฮา กฤษดาภินิหารอันบดบังมิได้ ยิว ฉากญี่ปุ่น สี่แผ่นดิน พม่าเสียเมือง
แต่ที่สนุกและโปรดมากมายคือ
โครงกระดูกในตู้ อันเป็นวีรกรรมของท่านป้าฉวีวาด อันลือลั่นถึงกรุงกัมพูชา !
งานเขียนเรื่องนี้ เป็นการเขียนเชิงวิพากษ์ตั้งแต่ฉากของเรื่อง
และคนที่แต่งเสภา และเล่าเรืองต่อ ๆ กันมา น่าจะเป็นคนที่อยู่ในคุก !!!!
เพราะมีข้อความระหว่างบรรทัดที่สื่อไปถึงได้ เนื้อเรื่องจะเขียนถึงสมัยขุนช้างขุนแผน และลากยาวต่อไปถึงยุคพลายงามลูกชายโน้นแนะ
ใครที่เคยได้ยินได้เรียนเรืองนี้มาบ้างแล้ว สมัยเด็ก ๆ
แล้วยังคาใจ แนะนำให้ไปหามาอ่านเล้ยย ไม่ผิดหวังแน่นอน
เพราะว่าจะทะลุปรุโปร่งเรื่องตัวละคร ความเป็นอยู่ของคนสมัย
อยุธยาตอนปลาย เรียกว่าเกร็ดประวัติศาสตร์ต่าง ๆ จะร้อยเรียงแทรกผ่านตัวอักษร และความบันเทิง อ่านแล้ววางไม่ลงเลย
จุดเด่นเล่มนี้คือการยกบทเสภามาอธิบายเป็นระยะ ๆ ไม่มากเกินไป
จะเห็นความงามของภาษา พร้อมกับความงามจากจินตนาการของฉาก
ต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่จะมีอยู่จริงในปัจจุบัน
อ่านแล้วรู้สึกว่ามันยังคงร่วมสมัยมากกมาย
ทั้งที่เขียนมานานนม แปลกมาก !!!
อืมม์สนนราคา เล่มนี้ก็ 260.- ถ้ามีบัตรส่วนลดก็ถูกลงไปอีกนะ
เล่มที่ 3 คือ "สิ้นแสงฉาน"
เล่มนี้เป็นงานแปลด้วยภาษาที่สวยมากฝีมือชั้นครู ของ มนันยา
แปลมาจาก Twilight over Burma my life as Shan princess
ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่เขียนอิงประวัติศาสตร์
อันเป็นบันทึกของ สุจันทรี (อิงเง่) มหาเทวีผมทอง ชาวออสเตรีย
ของเจ้าฟ้าหลวงแห่งแคว้นสีป่อในรัฐฉานของพม่า
ซึ่งน่าแปลกที่หญิงสาวชาวตะวันตกจะพบรักและกลายเป็นมหาเทวีของเจ้าฟ้าองค์หนึ่งของโลกตะวันออก ในคราวที่ทั้งสองเป็นนักศึกษาด้วยกัน
จึงน่าจะเรียกว่า "ครั้งหนึ่งที่แสนงดงามเมื่อ ตะวันตก มาบรรจบ ตะวันออก"
จุดเด่นของเล่มนี้คือ
สำนวนแปลที่สวยมากของคุณมนันยา และเรืองราวที่เบื้องหลังอันอึมครึม
และความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศพม่าที่บ่มเพาะมาตั้งแต่คราวกระโน้นจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีทีท่าว่ามันจะจบลง
จริง ๆ เล่มนี้ผมจดๆ จ้อง ๆ มาหลายหนแระ คราวนี้ตัดสิ้นใจซื้อด้วยประโยคนี้เลยครับ
....ความผันผวนทางการเมือง ด้วยเพลิงอำนาจ ความโลภ ตัณหา ความเห็นแก่ตัว และความทะยานอยากไม่รู้จบของคนกลุ่มหนึ่งพรากเขาไปจากทุกอย่าง ดอกไม้ต่างถิ่นที่เป็นปิ่นปักเกล้าของคนทั้งปวงอย่างเธอจะทำอย่างไร ?
เล่มนี้ยังอ่านไม่จบเล้ย อ่านได้สัก 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะหลัง ๆ เพื่อนฝูงมาพักค้างถี่ขึ้น เวลาของการอ่านหนังสือก่อนนอนจึงถูกแทนที่ด้วยการ เม้าท์ 555
อืมม์ เล่มนี้ พิมพ์ครั้งที่ 3 แล้วนะ เหตุผลหนึ่งในการตัดสินใจซื้อหนังสือที่ง่าย ๆ คือดูครั้งที่พิมพ์จะช่วยบอกความนิยม และคุณภาพของหนังสือได้ทางหนึ่ง สนนราคาอยู่ที่ 220.- ผมใช้แสตมป์ส่วนลดลดได้มาโข จ่ายจริงสักประมาณ 150.-
เล่มล่าสุด เล่มที่ 4 มาช้าแต่อ่านจบก่อนวางไม่ลงจริง ๆ ครับ น่าจะอ่านแค่สองคืนก็จบ ดีจนต้องหยิบไปให้พี่อีกคนที่ชอบพอกันอ่านต่อ
จริง ๆ หนังสือหนึ่งเล่มถ้าอ่านคนเดียวมูลค่าก็เท่าราคาปก
ผมจึงมักจะแบ่งปันพรรคพวก คอหนังสือให้ได้อ่านเสมอเพื่อเป็นการเพิ่ม
มูลค่าให้หนังสือ สองเท่า สามเท่าก็สุดแล้วแต่
ชื่อหนังสือคือ "ที่เกิดเหตุ : บันทึก 1 ปีในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้"
เขียนโดย วรพจน์ พันธุ์พงศ์ ซึ่งลงไปใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับประชาชนทหาร ตำรวจ ชาวบ้าน และโดยเฉพาะอิหม่าม ทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
หาใช่เพียงการนั่งเขียนภายในห้องสี่เหลืยมไม่
เล่มนี้หนังสือที่ผมสะดุดตาเพราะภาพปกของเด็กหญิงสามคนที่คลุมฮิหญาบพร้อมกับส่งแววตาที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา...
จริง ๆ แล้วผมเป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งครัด แต่ชีวิตมักจะต้องเกี่ยวข้องกับเพื่อนพ้องชาวมุสลิมเสมอ ทั้งชีวิตเล้ยนะ ตั้งแต่อ.ที่ปรึกษาโปรเจคป.ตรี
หัวข้อที่สีสป.โทที่เกี่ยวกับภาษาอาหรับ หรือแม้แต่โรงเรียนที่สอนก็คือโรงเรียนสุเหร่าแห่งหนึ่งในเขตบางกะปิ กรุงเทพ ฯ
ผมจึงค่อย ๆ ซึมซัมและเข้าถึงวิถีชีวิตของชาวมุสลิมที่ละนิด
จนเข้าใจว่าในความต่างของมุสลิมกับศาสนาอื่น ๆ
อิสลามคือศาสนาที่แยกไม่ออกจากชีวิตประจำวัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
เป็นอัตลักษณ์ที่มีระเบียบยิ่ง และเข้มแข็งมากที่สุดในบรรดาศาสนาที่ผมเคย
รู้จัก
และแน่นอนครับอัตลักษณ์และความงามของวิถึชีวิตเหล่านี้หาอ่านได้ในเล่ม
ในเล่มจะสะท้อนสองด้านคือ เรื่องที่ชวนหดหู่ของเหยื่อความไม่สงบของไฟใต้ เช่นเรื่องของครูสาวสองคนที่ถูกฆ่าตายหมู่ และเรื่องราวของพระที่ถูกปาดคอคากุฎิ และอีกด้านที่ขาดไม่ได้คือชีวิตของโต๊ะอิหม่ามคนหนึ่งที่ถูกจับขังคุกฟรี ๆ โดยปราศจากความผิดใด ๆ ถึงสิบกว่าวันโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ จากรัฐ...
ความหมายระหว่างบรรทัดของเล่มนี้จะทำให้ผมเข้าใจปัญหาไฟใต้ได้
แต่ไม่มีคำตอบหรอกครับว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง จากใคร และจะจบอย่างไร
อ่านแล้วให้รู้สึกชื่นชมผู้เขียนที่มีความเป็นกลางมาก ไม่มีอคติ เข้าข้างใดข้างหนึ่งนอกจากนี้ยังมีการเขียนถึง วิถีชีวิตของพี่น้องมุสลิม เช่น ชีวิตหนุ่มสาวชาวปอเนาะ การทำสุนัตของเด็กชาย ฯลฯ อันเป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตที่งดงามของสามจังหวัดชายแดน เป็นความงามท่ามกลางเสียงปืน กลิ่นคาวเลือด และเสียงระเบิด !!!
ข้อสรุปที่ได้จากเล่มนี้คือ ในทุกสังคมมีทั้งคนดีและไม่ดี และคนเราต้องเคารพในความต่าง อ่านแล้วนึกถึงคำว่า "ดอกไม้หลากสี"
ของพ่อใหญ่ชวลิต ที่กำลังตกเป็นจำเลยสังคมอยุ่ในขณะนี้ จริงจริ๊งง 555
จุดเด่นของเล่มมีสองอย่างคือ
อย่างแรกคือการตั้งชื่อเรืองและภาษาง่าย ๆ ที่ใช้ดูน่าติดตามเช่น
ปืนกับปลา กาแฟกับเบียร์ เดือนดาวในคาวเลือดสุนัต บัญชาของพระเจ้า
อีกอย่างคือ ภาพขาวดำประกอบที่เป็นเสน่ห์ของเล่มนี้เป็นฝีมือของ
ธวัชชัย พัฒนาภรณ์ ช่างภาพอิสระ ที่ก้าวพ้นคำว่า "กลัวตาย" มาแล้ว
ภาพแสงเงา ดูมีพลัง และรู้สึกว่าหนึ่งภาพของเค้ามันแทนคำอธิบายได้เป็นร้อยเป็นพันคำจริง ๆ
เล่มนี้ราคาถูกมาเมื่อเทียบกับเนื้อหาในเล่ม
ที่กว่าจะสรรหาข้อมูลมาได้ต้องเสี่ยงชีวิตอยู่ท่ามกลางกระสุนปืน ควันไฟ และลูกระเบิด ราคา แค่ 195.- เท่านั้นเอง
Create Date : 12 กรกฎาคม 2553
Last Update : 12 กรกฎาคม 2553 11:01:02 น.
0 comments
Counter : 1062 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Gia Huy - Peeradol
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ให้ทิปเจ้าของ Blog
[
?
]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [
?
]
Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
Friends' blogs
i_am_np
นายแว่นธรรมดา
qu-up
กุมภีน
ไกลนั้น
กิ่งไม้ไทย
lazymetal
kruaun
รัชชี่
บ้าได้ถ้วย
ถั่วงอกน้อยค่ะ
มิสเตอร์ฮอง
ผู้หญิงชื่อส้ม
zerxiustor
อุ้มสี
กะว่าก๋า
tiensongsang
fondakelly
ชีวิตจริง
anchesa
เอื้องสามปอย
kun_isara
soponkub
สุริยาอัสดง
aoigata
nakornthong
วรบรรณ
may_intania
โนโบะ
mungkood
atomdekzaa
ziinnuf
SawasdeeKrab
p_tham
พ่อระนาด
Dr.Manta
วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส
Pheam
มัยดีนาห์
สีฟ้าใส
tuk-tuk@korat
Mega-Batt
ร่มไม้เย็น
สกุลเพชร
ไลเดเลีย
sdayoo
aston27
kimmybangkok
ppth
glindoy
mambococonut
iammac
Insignia_Museum
aimanun
newenter
hs2zfo
Webmaster - BlogGang
[Add Gia Huy - Peeradol's blog to your web]
Links
BlogGang.com
MY VIP Friend
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.