Release my darkness to the world
<<
กุมภาพันธ์ 2566
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
8 กุมภาพันธ์ 2566

งานหนักก็ฆ่าคนได้



ภาพนี้เป็นภาพที่เห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะต้องเอามาลง

"งานหนักไม่เคยทำให้ใครตาย" หรือที่เราอาจได้ยินบ่อยๆ กับคำว่า "งานหนักไม่เคยฆ่าคน" คำพูดนี้สะท้อนถึงแนวคิดและความโลกแคบของคนที่เอ่ยคำกล่าวนี้เป็นอย่างดี

คุณทราบหรือไม่ว่าประเทศญี่ปุ่นมีโรคที่เรียกว่า โรคคาโรชิ เป็นโรคที่เกิดจากการทำงานหนักเกินไป แล้วนับวันแนวโน้มก็จะมากขึ้น ถ้านี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับคุณแนะนำให้ศึกษาเรื่องนี้ใหม่มากๆ ก่อนที่จะพูดคำว่า "งานหนักไม่เคยฆ่าคน" ออกมาจากปาก


ในมุมมองของนายจ้างอาจมองว่า จ้างมาแล้วต้องใช้งานให้คุ้ม นี่อาจเป็นนิสัยคนไทยไม่ต่างจากการทานบุฟเฟ่ต์เลยที่พยายามยัดจนแทบอ้วก แล้วก็กลับมาทรมานที่บ้าน แต่ในความเป็นจริงจุดประสงค์หลักของการทานบุฟเฟ่ต์ คือ เลือกทานได้อย่างอิสระและหลากหลายต่างหาก ไม่ใช่ยัดห่าจนเกือบอ้วก การทำงานก็เช่นกันมันไม่ใช่ใช้งานให้คุ้ม แต่ที่ถูกคือใช้งานให้เหมาะสมต่างหาก

ความบ้าของบางออฟฟิศคือ รู้อะไรมั้ย? ปกติแล้วถ้าคุณป่วยไม่เกิน 3 วันไม่ต้องขอใบรับรองแพทย์ แต่บางออฟฟิศพี่แกต้องการใบรับรองแพทย์ โดยอ้างเรื่องป้องกันพนักงานโกหก นี่คือทัศนคติของนายจ้างที่เลวร้าย และเหลวไหลมาก จากแค่นอนพักก็จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลเพื่อไปให้หมอตรวจ และเอายา ทั้งๆ ที่ยาที่บ้านก็มีอยู่แล้ว และนอนเฉยๆ ครึ่งวันไข้ก็น่าจะลด

ผลกระทบที่เกิดจากเหตุการณ์นี้คืออะไร
1. แพทย์ทำงานหนักขึ้น ในหนึ่งวันมีเคสแบบนี้สัก 20 เคสก็ชิบหายแล้ว
2. เสียทรัพยากรมากขึ้น ทั้งที่ยามีอยู่แล้วแต่เพราะต้องการใบรับรองเลยต้องไปโรงพยาบาล เพื่อเอาใยรับรอง และยา
3. เสียเวลาพักผ่อน (ป่วยหายช้าลง) โรงพยาบาลมันแหล่งรวมเชื้อโรค ไปโรงพยาบาลกลับมาป่วยหนักกว่าเดิมก็มี
4. พนักงานทำงานได้มีประสิทธิภาพลดลง เพราะหายไม่สนิทก็จำเป็นต้องมาทำงานแล้ว


หมอน่าสงสาร ทำงานหนักจนล้ม เหรอ? เออดูคลิปก็น่าสงสารจริงๆ ในคลิปคือที่ประเทศจีน แต่ในไทยก็เคยได้ยินว่างานหนักไม่แพ้กัน จริงๆ มันก็งานหนักทุกอาชีพนี่แหละ

https://twitter.com/9527kw/status/1603315196361322498

เราขอเรียกร้องแบบนี้นะ หมออยากสบายขึ้นใช่มั้ย? งั้นคุณควรให้ความร่วมมือกับเรา เราอยากให้แพทย์ทั่วประเทศ ออกมาเรียกร้องให้พวกบริษัทหัวควยทั้งหลาย เลิกให้พนักงานที่ป่วยนิดๆ หน่อยๆ ต้องใช้ใบรับรองแพทย์เสียที ถ้าคุณทำได้และประสบความสำเร็จ เราเชื่อว่างานของแพทย์และโรงพยาบาลจะลดลงมากกว่า 10% ต่อวัน คุณลองดูได้ บริษัทไทยที่ไม่เคารพกฎหมายแต่ลูกจ้างอย่างเราๆ ทำอะไรไม่ได้มันมีเยอะ กฏหมายประเทศนี้เอาไว้ใช้กับคนจนเท่านั้นแหละ พวกนายทุนคนรวยไม่เห็นกฏหมายมันจะเล่นงานพวกมันได้เลย




ล่าสุดตายคาโต๊ะ แล้วสื่อพวกคุณก็เงียบๆ ไม่กล้าพูดจนมีพวกเพจนอกกระแสออกมาพูด พวกคุณถึงกว่าพูด เฮ้ย!! เพื่อนร่วมอาชีพคุณตายน่ะเห้ย!!

สุดท้ายชีวิตคนก็มีแค่แค่เงินเดือน 24 เดือน (ได้ข่าวว่าความจริงต้องมากกว่านี้นะ แต่เขาจะให้แค่นี้)




ถ้าการเมืองดี เหตุการณ์ลักษณะนี้จะไม่เกิด หรือมันอาจเคยเกิดแล้วแต่ไม่เป็นข่าวเพราะไม่ใช่สื่อ พอเป็นพวกสื่อตาย มันถึงได้เป็นข่าว ประเทศนี้แต่ละวัน จริงๆ เลย


To voter

Political Blog 101 จัดไป เป้าหมายแลนด์สไลด์ Political Blog



Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2566
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2566 16:12:32 น. 19 comments
Counter : 582 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtoor36, คุณRain_sk, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณnonnoiGiwGiw, คุณกิ่งฟ้า, คุณnewyorknurse, คุณThe Kop Civil, คุณNENE77


 
TNN อยู่ในเครือ CP

รู้จักอภัยมั้ยไม่รู้ แต่พนักงานคนนั้นเสียสละ และเสียเปรียบแน่ๆ บางทีอาจจะเสียมากเกินไปด้วยซ้ำ

https://twitter.com/WeAre99Percentt/status/1622610890272145408


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:14:40:32 น.  

 
สวัสดีค่ะ

จริงๆมันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่คนคิดแบบนั้นค่ะ
เราต้องทำงานไป ใช้ชีวิตให้มีความสุขไปด้วยนะคะ
ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเดียว สุดท้ายสุขภาพก็แย่ไปด้วย
เงินเยอะแล้วป่วยจะมีประโยชน์อะไร (ความคิดเรา)
เคยบอกคนที่รู้จักว่า ระวังไม่ได้ใช้เงินนะ หมายถึงใช้ชีวิตสบายๆน่ะค่ะ
เขาทำงานจนไม่มีเวลาพัก พูดแต่ว่าหนี้เยอะ ก็เอ๊า! ที่มีอยู่มันก็พอที่จะไม่ต้องเดือดร้อนแล้ว
แต่คุณอยากได้อยากมีจนเกินไป ทำให้ชีวิตลำบากขึ้นไปอีก
แต่สุดท้ายนันก็ตัวเขาเนาะ เราไปยุ่งทำไมเนี่ยย

จริงเลยสำหรับบางบริษัท หรือเกือบจะทุกบริษัทแหละเนาะ
ที่คิดแบบนั้น ให้พนักงานทำแบบนั้น สุดท้ายก็ได้แต่ถอนใจ
เราเอาความคิดเราไปใส่หัวเขาได้ แต่เขาจะทำไหมนั่นอีกเรื่องนะคะ

ขอให้สุขภาพแข็งแรงๆนะคะ จะได้ไม่ต้องไปหาหมอขอใบรับรองแพทย์

โหวตหมดอ่ะ พรุ่งนี้มาใหม่ เพื่อ Political Blog 101


โดย: tanjira วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:14:43:24 น.  

 
อุ๊ยในนี้มีคำหยาบนะ
โหวตหมดเหมือนกันจ้า


โดย: หอมกร วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:15:53:08 น.  

 
ถ้าเรามองเห็นคนเป็นคน
ไม่ใช่แรงงาน
เราจะมองเห็นคนเป็นเพื่อนร่วมงาน
ไม่ใช่ทาส

เราจะไม่มีคำพูดว่าจ้างแล้วต้องเอาให้คุ้ม

คุ้มคำเดียวที่มี
คือร่วมงานกันอย่างมีความสุขตามอัตภาพ

ผมเองก็มีสถานะเป็นทั้งเจ้านายและเป็นลูกน้อง

ปิดร้านไป 3 ปี
กำลังจะกลับมาเปิดร้านอีกครั้งในเร็วๆนี้
อย่างหนึ่งที่ผมดีใจ คือ ลูกน้องทุกคนอยากกลับมาทำงานด้วยอีกครั้ง
บางคนบอกเลยว่าเรื่องเงินเดือนไม่ใช่เรื่องใหญ่
อยากกลับมาช่วยเฮียทำงาน อยากช่วยร้าน
แม่บ้านคนนึงบอกว่าหนูกลับมาช่วยเฮียไม่ได้
ขอวันนึงก็ได้ หนูขอกลับมาช่วยทำความสะอาดร้านด้วยคน
ขอไม่รับค่าแรง
ผมฟังแล้วโคตรมีกำลังใจที่จะกลับมาทำร้านเลยครับ

องค์กรใหญ่
ไม่ใช่เพียงจ่ายเงินเดือนให้เยอะ
แล้วพนักงานต้องทำงานหนักจนเกินร่างกายรับไหว
แบบนี้ก็เกินไปครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:16:00:29 น.  

 
ที่จีนก็มีลักษณะแบบนี้เหมือนกัน

过劳死 ทำงานหนักจนตาย ใครว่างานหนักไม่เคยฆ่าคนไม่จริงเลย แถมลักษระนี้มันมีมานานแล้วในต่างประเทศ เพราะงานหนักเกินไปพักผ่อนน้อยมันทำให้คนตายได้ เรื่องใบรับรองแพทย์ เจอบางออฟฟิศท้องเสีย เจอสั่งให้ถ่ายภาพให้ดูก็มีนะครับ โพสลงกลุ่มทีนี่ ใครกินข้าวแทบพุ่งเลย บ้าไปแล้ว แต่ก็ทำกันจริง บางที่บ้าหนักกว่านอนเจาะสายน้ำเกลือยังตามงาน มันคือความผิดปกติของประเทศนี้ที่ผิดปกติที่มองว่ามันเป็นเรื่องปกติ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:16:42:32 น.  

 
มาชิกหมายเลข 7115969 Political Blog ดู Blog


โดย: =[]=!!! (Rain_sk ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:2:20:25 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:5:28:00 น.  

 
อ่านเจอข่าวนี้แล้วเศร้ามากครับ
ยิ่งสุดท้ายครอบครัวได้เงิน 24 เดือน กับกระดาษแสดงความเสียใจ 1 ใบ คือไม่คุ้มค่ากับชีวิตคนหนึ่งคนเลยครับ

หลายๆ คนกำลังเจอปัญหานี้ คือเป็นคนทำงาน กุก็ทำไปเถอะ บริษัทไม่เคยคิดจะหาใครมาช่วยงาน จะขอเด็กซักคนมาช่วงแบ่งเบาก็ไม่ได้ จนวันนึงไอ่คนทำงานลาออกไป บริษัทก็ต้องจ้างคนมาเพิ่มอีก 2-3 คนเพื่อนแทนงาน อ้าวเฮ้ย! ทีแบบนี้ละจ้างได้ ทีตอนกุเหนื่อยชิฮายทำไมเมิงหาใครมาช่วยกุ
แต่นี้คือตายเลยไงครับ ...... ไม่มีใคร หรือเงินเท่าไหร่ก็เอาชีวิต 1 ชีวิตคืนมาไม่ได้

ถ้าคุณอ่านบล๊อกผมมาเรื่อยๆ อาจจะเคยเห็นผมบ่นเรื่องงานบ้าง
เช่นต้องอยู่รันโปรเจคมัน over night คือกลางวันทำงานตั้งแต่เช้า อยู่ยาวถึงกลางคืน เช้ามาก็ต้องทำต่อเลย หรือนอน 3 ชั่วโมงแล้วรันงานต่อ แล้วไม่ใช่แค่ 1 โปรโจค แต่มันมีอีกหลายๆ โปรเจคที่ต้องทำ คนทำก็ทำไป

เมื่อก่อน แผนกผมมีกฎที่นายสั่งไว้ว่า "ถ้ามีตารางงานกับลูกค้า ยังไม่ตายก็ต้องมาทำงาน"
แล้วผมคือเจนเนอร์เรชั่นที่นายลุยงานเอง แล้วห้ามหยุดจริงๆ จะไปตาย ห่านที่ไซต์ก็ได้ ยังไงก็ต้องไป ป่วยแค่ไหนถ้ายังลุกไปหาหมอได้ ก็แสดงว่ายังเดินได้ ขับรถได้ ก็ต้องไปทำงาน ผมโดนมาแล้วจริงๆ ช่วงทำงาน 3 ปีแรก
ช่วง 24-25 ผมเคยป่วยจัดๆ ก็ยังไปทำงานทุกวัน แล้วก็ไม่เคยหายเลย ป่วยอยู่ทุกวัน ดีได้ 2 วันแย่อีก 3 วัน สลับแบบนี้อยู่เป็นเดือน แต่ทนทำงานมาเรื่อยๆ จนเข้า รพ แต่วันรุ่งขึ้นมีงานเข้าไซต์ ผมต้องคาเข็มน้ำเกลือไว้ที่มือแล้วขับรถไปทำงาน ไปหน้างาน ตอนนั้นพี่ ผจก ที่อายุเท่าผมตอนนี้ คือ 30 รีบตามมาจากไหนไม่รู้ มาบอกให้ผมกลับไป แล้วเค้าจะแทนงานผมให้เอง ผมเกรงใจพี่เค้ามาก เพราะพี่เค้าไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว แต่นายไม่หาคนมาช่วยเราซักที..... วันนั้นผมก็กลับมา รพ แล้วนั่งร้องไห้ว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้องมีคนลำบากแทนเรา ทำไมเราไม่อดทน

และเมื่อซัก 3-4ปีที่แล้ว ผมป่วยแล้ววูบที่ไซต์ชลบุรี ก็พี่ผจกนี่แหละที่รู้ปั๊บขับรถจาก กทม ไปหาทันที

5ปีหลังมานี่ผมมีลูกน้อง มันป่วยมันมีปัญหาอะไร ต้องไปไหน ไม่สบายอะไร ผมให้หยุดแบบไม่ตามงาน ไม่ถามหา ไม่รบกวนอะไรทั้งนั้น เพราะคนป่วยควรได้สิทธิ์ที่จะหยุดพักผ่อนจนหาย ไม่มีใครควรต้องมาเจออะไรเหมือนที่ผมกับพี่ผจก เคยเจอมา

จนทุกวันนี้ผมรู้สึกผิดทุกครั้งที่ต้องลา แม้แต่ลาพักร้อน เพราะนายถามทุกครั้ง ลาไปไหน ไปไหนอีก ต่อให้ลาป่วยผมก็แทบไม่กล้าลา ผมยังคงทำงานทั้งที่ป่วย ซึ่งอาทิตย์ที่แล้วผมก็ป่วย ก็ยังทำงานทุกวัน

เมื่อคืนต้องพา ลูกค้าไปเอ้นเตอร์เทน ผมก็ยังป่วยและไม่อยากดื่ม นายก็ถามซ้ำไปซ้ำมา ทำไมไม่ดื่ม เอ็นฯลูกค้าหน่อย เป็นอะไรทำไมดูเงียบ ๆ ผมซึ่งไม่ชอบพูดเรื่องส่วนตัวก็แค่ยิ้มๆ แล้วทำเท่าที่ทำไหวครับ

รู้สึกมาตลอดว่าทำไมกุถึงไม่มีสิทธิ์จะลาพัก เวลาที่ป่วย

โทดทีครับ....ผมว่าช่วงนี้ผม burn out ผมเครียดเรื่องงานมาก เครียดจนอยากลาออก นี่นึกย้อนไปในช่วงที่ผมเล่าผมยังรู้สึกหดหู่เลย


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:22:15:00 น.  

 
โทษทีครับ เมื่อคืนผมน่าจะเครียด เลยพิมอะไรไม่รู้ยาวเลย

Resident evil ผมก้ชอบเล่นนะ รู้สึกว่าไอ่หมอกนี่มาเรื่อยๆ เพื่อสร้างบรรยากาศให้มองเห็นยาก เสียวสันหลังตลอดครับ 555555

ผมไม่เจอนะ ไส้กรอกแพงจัด ๆ อย่างว่า อาจจะยังเดินไปถึง เพราะเดินไปนิดเดียวคับ เดินไม่ไหวก่อน
ต้นไม่ช่วยเรื่องฝุ่นคงยังไม่ไหว แต่ดีกว่าไม่มีอ่ะเนอะ อย่างน้อยๆ ก็สบายดี

ปัญหาฝุ่นควันเป็นปัญหาการจัดการครับ ผมเห็นประกาศห้ามเผา แต่แม่มเผากันข้างๆ ทีทำการเขตเลย 555 โคดตลกอ่ะ ไม่มีใครเอาจริงเอาจัง ปล่อยให้เป็นกรรมของปชช ซึ่งส่วนตัวผมรู้สึกแย่มากนะ ที่ต้องป่วยทุกวันจากมลภาวะ


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:9:51:42 น.  

 
เห็นข่าวนี้แล้วเศร้าใจมาก ๆ
สมัยผมรับราชการตอนบรรจุใหม่ ๆ เด็กใหม่เหมือนต้องเรียนรู้งานทุกอย่าง ทำงานหนักมาก แต่ผมว่าก็หนักไม่เท่ากับคนที่ทำงานเอกชน ราชการยังมีเวลาได้อู้บ้าง ยังดีที่ราชการมีวันลาให้ได้ไปพักผ่อนอยู่เยอะเหมือนกันครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:16:05:01 น.  

 
ขอแอดเฟรนไว้ก่อนนะ จำชื่อเลขข้างหลังไม่ได้ทุกที
แวะมาเสนอหน้าก่อน แล้วเดี๋ยวแวะมาอีกนะคะ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:16:51:23 น.  

 
อ่านข่าวนี้แล้วหดหู่มากจริงๆ มีช่วงนึง
ที่เราทำงานในวงการนี้ ตอนนั้นเป็นแค่
คนขึ้น CG ในห้องออกอากาสนะ ยังแบบ
ทำงานแบบไม่เป็นเวลาเลย แบบวันนึงเข้าหกโมงเช้าออกหกโมงเย็น
อีกวันทำหกโมงเย็นออกหกโมงเช้า อีกวันเข้าเก้าโมงออกเที่ยงคืน
แต่ตอนนั้นคือ ยังเด็กไง ร่างกายมันนอนนิดเดียวมันก็เฟรชแล้ว
อาศัยอยู่หอพักไม่ไกลที่ทำงาน ก็เลยได้พักเร็ว
สมัยก่อนไม่มีบ้านมีรถอยู่ที่ไหนก็ได้ บางวันนอนที่ทำงานก็มี
งานทีวี บางทีก็หนักเกิดไปจริงๆ ดีนะ เราเปลี่ยนแนวมาแล้ว
ตอนนี้หรอ เลิกงานปั๊บ เด้งปุ๊บ แต่ออฟฟิตเราเข้าเช้าเลิกงานเย็น
กว่าจะถึงบ้านก็เปนทุ่มนึงแล้ว เฮ้อออ.. สวัสดิการออฟฟิตก็ไม่มีไรเลย
ถ้าการเมืองดี ทุกอย่างจะดีขึ้นใช่ไหม แต่มันจะมีวันนั้นไหมล่ะ

จากบล็อก
ใช่ แล้ววันนึงเราก็จะได้พบกันใหม่
บางทีเราก็คิดนะ ว่าจริงๆแล้ว
ความตายมันก็เหมือนเราโดนตัดสวิทแหละ
ช่วงนี้ มีความคิดใหม่คือ เราควรหัดท่องบทสวดมนต์ดีไหม
เผื่อว่าตายก่อนวัยอันควร จะได้นั่งปฎิบัตรธรรมได้เพราะว่าท่องบทสวดมนต์ได้
เพ้อเจ้อมะ 555+


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:17:09:40 น.  

 
แหมนึกว่าจะมีเอนทรีใหม่
อยู่ในภาคเอกชนเขาก็ใช้งานคุ้มเงินแหละ
คุณหนอน หนุ่มปริ้น สู้สู้จ้า



โดย: หอมกร วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:17:49:58 น.  

 
เดือนนี้มีงานรีวิวหนังสือเยอะเป็นพิเศษเลย
ผมตามอ่านงานของอาจารย์เสกมาโดยตลอดครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:20:10:38 น.  

 
สวัสดีค่ะ เรื่องเจ้าของหน่วยงานเอาเปรียบพนักงานมีให้เห็นไปทั่วเป็นข่าวไปแล้วก็เงียบหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะคะ

กฏหมายมีไว้ให้สวยงามแต่จะปฏิบัติหรือไม่นี้ต่างหากที่ควรจัดการ ทุกๆแห่งจะเป็นเหมือนกันหมดแหละค่ะ

กฏระเบียบของบ้านเมืองวางไว้หากไม่ฏิบัติอย่างเคร่งครัดย่อมทำให้เกิดปัญหาเดืดร้อนไปทั่ว

ผู้บังคับบัญชาเอาเปรียบลูกน้องมีให้เห็นอยู่ดาษดื่นไม่มีการจัดการ เดี๋ยวนี้ถ้าไม่จัดการกระแสความกดดันของโชเชียลทำให้เราได้รู้อะไรๆเบื้องลึกถูกตีแผ่ออกมาเยอะมาก จึงต้องรีบออกมากลบข่าวแต่ในไม่ช้าก็เงียบไปเช่นเดิม

ตอนนี้อยากรู้ข่าวของดาราสาวที่ตกลงน้ำเจ้าพระยาที่เป็นข่าวครึกโครมดังมากเมื่อปีที่แล้วตอนนี้ก็เงียบหายไปใช่มั๊ยคะ

ทุกๆเรื่องล้วนมาจากการเอาเปรียบแทบทั้งสิ้นจนตราชั่งเอียงข้างไปอยางน่ากลัว

ประชาชนคนธรรมดาต้องมีชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวงทุกๆวัน....

Political Blog

ขอบคุณที่ไปให้กำลังใจบล็อกยำถั่วพูหมูสับนะคะ ทำง่ายจริงๆค่ะ อิอิ





โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:23:55:10 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:5:25:21 น.  

 
เห็นภาพแล้ว ก็ฉุกคิดมาได้ว่า คนไปจ้างสกรีนเสื้อน่าจะพบ
ทางที่จะทำการค้าได้อีกทาง

555 จะถูกรองเท้าปาใส่เปล่าครับ.. หรือว่านายจ้างเขาเบื่อ
พนง.ของเขาที่นั่งทำงานเช้าชามเย็นชาม

..
เห็นข่าวคนทำงานด้านสื่อสารเสียชีวิต ขณะทำงาน... เราอยู่
นอกวงหรือห่างไกลยังไม่ทราบข้อเท็จ และความจริงของคน
นั้นเท่าใด.. เลยนั่งซับซึมข่าวไว้ก่อนครับ

เพราะเคยสังเกต คนที่วิเคราะห์เก่ง เขาบอกว่าต้องหาข้อความจริงก่อนที่จะ ลงความเห็น (ถ้าน่าสนใจ)

สื่อปัจจุบันบางค่ายก็เหมือนนักการเมือง.. ปลุกกระแส
น่าจะจริง(มังครับ)


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:7:11:47 น.  

 
จากบล็อก
วิ่งผ่านสะพานด้วยครับ ผมว่าบนสะพานบรรยากาศดีมากเลยครับ ถ้าเปิดไฟให้สว่างกว่านี้ปแจ๋วเลย


โดย: The Kop Civil วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:11:54:49 น.  

 
เห็นในข่าวแล้วก็น่าเห็นใจครอบครัวเขานะ
เคยได้ยินยินได้ฟังแนวนี้อยู่บ้าง
แต่แค่ไม่เป็นข่าวดังเท่านั้นเอง

มันควรมีตรงกลางนะ มากไปน้อยไปก็ไม่โอ



โดย: NENE77 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:16:30:56 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 7115969
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




การเมือง - สังคม เป็นเรื่องของทุกคน เป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด ถ้าคุณหันหน้าหนีการเมือง การเมืองจะตามไปเล่นงานคุณอย่างไม่ต้องสงสัย

active citizen!! สิ่งรอบตัวเราแท้จริงแล้วเป็นเรื่องการเมืองทั้งสิ้น แม้คุณจะไม่อยากยุ่งกับการเมืองแต่การเมืองยังไงก็จะมีผลกระทบกับคุณ


โลกคู่ขนาน เรียกเราแบบนี้ก็แล้วกัน ในเมื่อระบบสมาชิกแบบเฟสบุ๊คไม่สามารถตั้งชื่อได้ เรามีตัวตนในโลกนี้ที่เป็น "light" งั้นเราก็จะเป็น "darkness" เพื่อปลดปล่อยความรู้สึกที่มีอยู่

[Add สมาชิกหมายเลข 7115969's blog to your web]