space
space
space
<<
มิถุนายน 2564
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
space
space
25 มิถุนายน 2564
space
space
space

Uberturbine wheel replacement and the shipping logistics
หลังจากตาม tracking เรือบรรทุกรถยนต์ชื่อ Hyperion Ray ที่ขนรถ Tesla model 3 ออกเดินทางจากเซี่ยงไฮ้ประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. 2564 เดินเรือผ่านคลองสุเอซ ไปยัง Southampton UK ถึงในวันที่ 10 มิ.ย. 2564 ใช้เวลาไม่ถึงเดือนดี มีเสียเวลา 1 วันก่อนถึง Southampton เพราะต้องไปแวะจอดที่ Le Havre วันที่ 9 มิ.ย.  ตอนที่ไปจอดที่ Southampton UK ถึงกับมี live video feed ให้ดูด้วยเป็นตัวบ่งชี้ระดับความตื่นเต้นของผู้คนที่รอคอยการส่งมอบรถอย่างใจจดใจจ่อในอังกฤษ  ถือได้ว่าเดินทางได้ค่อนข้างรวดเร็ว มีช่วงตื่นเต้นก็คือช่วงเดินทางเข้าใกล้ Somalia มีการหยุดส่งสัญญาณ (AIS) บอกตำแหน่ง เพื่อความปลอดภัย ก็ได้แต่ลุ้น ผ่านไปประมาณ 7 วันถึงเพิ่งจะมาอัพเดตตำแหน่งอีกทีตอนเข้าคลองสุเอซ การติดตามดูตำแหน่งเรือในทะเลนับว่าเป็นอะไรทำแก้เหงาได้ไปวัน ๆ

ลำพังจำนวนรถ Tesla Model 3 ที่มากับเรือ Hyperion Ray ลำเดียวรอบนี้มีถึง 7,618 คัน นอกจากนี้ยังมีเรือลำอื่นที่ขนมาก่อนหน้านี้ ทั้งที่ขนมาจาก Fremont และที่ขนจากเมืองจีน รวม ๆ กันสำหรับไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ทั้งสิ้น 67,327 คัน (มาจาก Fremont 33,085 คัน มาจากจีน 34,242 คัน)  อันนี้หมายถึงการส่งมอบรถ Tesla model 3 ไปยังยุโรปทั้งหมดของไตรมาสที่ 2 ก็จะเห็นว่า Tesla เค้าเร่งส่งมอบรถยนต์ทีละไตรมาส และก็ดูเหมือนว่าของไตรมาสนี้จะขายหมดแล้ว เนื่องจากถ้าใครเข้าไปกดสั่งผลิตรถยนต์ใหม่ตอนนี้ ต้องรอรถเดือนสิงหาคม ซึ่งจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ก็จะพบว่าเทสล่าโกหกประจำ ถ้าบอกว่าสิงหาคมก็คือจะได้เดือนกย. เพราะอันนั้นจะปิดไตรมาสที่ 3 ถ้ามัวแต่ชักช้า อาจจะหลุดไปไตรมาส 4 เลย คือ พ.ย. (เทสล่าแจ้ง) แต่กว่าจะได้รถจริงก็คือ ธ.ค. และเมื่อหมดไตรมาสที่ 2 ก็มีรายงานออกมาเรียบร้อยว่าเทสล่าก็ทำสถิติใหม่ตามเคย คือจำนวนยอดส่งมอบรถยนต์ของ Q2 2021 ปาเข้าไป 201,250 คัน ก็เป็นยอดที่เพิ่มจาก Q1(184,800 คัน) ดูเหมือนว่าปีนี้ทั้งปีคงจะได้สถิติใหม่ ๆ ทุกไตรมาสเพราะยอดผลิตและส่งมอบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้หุ้น TSLA ก็ค่อย ๆ ขึ้นไปเรื่อย ๆ เช่นกัน ถ้ายังผลิตขายไม่ทันเยี่ยงนี้ โอกาสที่จะได้เข้ามาในเมืองไทยก็คงต้องรอไปก่อนเลย ต้องดูว่าพอเปิดโรงงานที่เบอร์ลินแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป

ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาก็มีข่าวมากมายเต็มไปหมด เป็นต้นว่ามีชาวอเมริกันโวยวายว่ารถยนต์ใหม่ส่งมอบไม่มี lumbar support เบาะหน้าผู้โดยสาร แต่ของเบาะคนขับยังมีอยู่ เอ..นี่ก็แปลกมาก เกิดมาก้อไม่เคยเห็นรถยนต์ยี่ห้อไหนจะตัดสเปคออกแบบนี้ มีแต่เทสล่านี่แหละ ตัวพ่อคุณอีลอน มัสก์อ้างเหตุผลว่าเนื่องจากสถิติพบว่าไม่มีการใช้งาน เลยเอาออก เปลือง  ตอบได้ตรงมาก ไม่น่าเชื่อ ปรากฎการณ์นี้ทำให้เราต้องไปสำรวจรถตราดาว C350e ของเราว่าเบาะหน้าที่เรานั่งประจำมี lumbar support กะเค้าไหม ปรากฎว่ามี นั่งมาตั้ง 5 ปี ไม่ค่อยรู้ด้วยซ้ำว่ามี ตอนนี้รู้แระก็เลยต้องกดเล่นเพื่อใช้สักหน่อย ถ้าไม่ได้ใช้เด้วมันเอาออกอีก

เราก็ตามอ่านฟอรั่มก็พบว่ากลุ่มคนที่ได้รถที่ผลิตก่อน May 3rd (ส่วนใหญ่เป็น LR/SR+) เค้ายังมี passenger seat lumbar support อยู่ แต่รถที่ผลิตหลังจาก May 3rd รวมถึงรุ่น PF ด้วย ไม่มีแล้ว... ฮือ ๆ T T

อยากจะโวยวายแต่คนขับเค้าก็บอกว่าที่นั่งอยู่ตอนนี้ (น้องสโนว์ ตราดาว C350e) มีก็ไม่เห็นจะใช้นิ พอมีข่าวก็มาทำกด ๆ แหม แหม แหม มีแล้วไม่ได้ใช้ กับไม่มีมันก็ไม่เหมือนกันนะ  จริง ๆ แล้วถ้าให้เราเลือกได้ เรายอมไม่เอา heated stearing wheel or heating seat แต่เอา lumbar support จะดีกว่า heated seat/steering wheel ในประเทศไทยนี่มันเหมือนให้มาประชดสภาพอากาศยังไงไม่ทราบ

ก่อนหน้าที่เรือจะจอดประมาณ 2 สัปดาห์ ชาวอังกฤษที่เค้าสั่งรถ M3P กันเค้าก็เริ่มได้ text จากทาง Tesla รวมถึง VIN number เราก็ให้คนขับเค้าลองถามคุณ จ. แห่ง W ดู คุณ จ. เค้ายังไม่ได้ VIN นู่นแน่ะ กว่าจะได้ VIN ก็ปาเข้าไปวันที่ 18 มิ.ย. หลังเรือจอด 8 วัน ได้มาเสร็จก็ทำอะไรไม่ได้ เอาไปคีย์เช็คบนเว็บก็พอว่ายังไม่ได้ลงทะเบียนอะไร รู้แต่ว่าเริ่มต้นด้วย LRW... เป็นรถจากเมืองจีน ซึ่งอันนั้นก็รู้อยู่แล้วก็ตามดูมาตั้งแต่เรือออกจากท่าที่เซี่ยงไฮ้  คือเราก็ไม่ได้คุยกับคุณจ.โดยตรง เป็นคนขับรถเราส่วนใหญ่เค้าคุยกันทางไลน์ มีอยู่วันนึงเค้ากำลังไลน์คุยกับคุณจ. อยู่ แล้วก็เกิดเสียสติอะไรมิทราบ อยู่ดี ๆ ก็หัวเราะอยู่คนเดียวเป็นงอเป็นหงาย นึกภาพคนขับรถเรานั่งบนโซฟาที่บ้านเล่นไลน์ (คุยกับคุณจ.) แล้วอยู่ดี ๆ ก็หัวเราะงอหงายอยู่คนเดียว เราก็ถามว่าเป็นอะไร... เค้าตอบว่า เค้าถามคุณ จ. ว่ามีลูกค้าคนไหนเคยถามเรื่องเรือไหม  คุณจ. เค้าบอกว่านี่เป็นรายแรกเลยคร๊า

ใช่สิ เราถามเอง เราให้คนขับรถเราถามคุณจ.ว่าเรือที่จะคุณจ.จะว่าจ้างให้ขนรถมาให้เราชื่ออะไร เพราะเราจะ track การเดินทางของเรือ

กว่าคุณจ.จะเอาชื่อเรือมาให้ได้ ปาเข้าไปวันที่ 23 มิ.ย. ตอนแรกเค้าส่งข้อความก๊อปแปะมาว่า "มากับ YANG MING ครับ ETA LCB : 23-24/07/2021 NOT CONFIRM ครับ " เราก็ไปค้นหาชื่อเรือ Yang Ming ปรากฎว่าไม่มีเรือชื่อ Yang Ming แต่มีบริษัทขนส่งทางเรือของไต้หวันชื่อ Yang Ming กว่าคุณ จ. จะบอกชื่อเรือเรามาได้ก็ปาเข้าไปอีก 1 วัน สรุปว่าเค้าเป็นเรือบรรทุกสินค้า shipping container vessel (สมัยเรือ Hyperion Ray อันนั้นเป็นเรือสำหรับขนส่งรถโดยเฉพาะ - vehicle carrier or RORO -roll on/roll off) ชื่อ One Eagle เป็นเรืออายุ 5 ขวบ ขนาด 145,251 Ton บีม 51 เมตร ยาว 364 เมตร ติดธงญี่ปุ่น ซึ่งเรือขนาดนี้เรียกว่าเป็น Ultralarge container vessels ใหญ่กว่าเรือที่จะลอดคลองปานามาอันเก่าได้ (Panamax - beam 32 m) ต้องไปลอดคลองปานามาอันใหม่เท่านั้น (New Panamax) แต่ก็ยังไม่ใช่เรือที่ใหญ่ที่สุด (ใหญ่สุดคือHMM Algeciras 23,964 TEU maximum) พอได้ชื่อเรือมาเราก็ track เค้าทันที ปรากฎว่าเรือลำนี้เค้าออกมาจากที่อังกฤษ (ออกจากท่าเรือ London Gateway port, Thames, UK ซึ่งห่างจาก Southampton -ที่รถไปลง 118 ไมล์ แสดงว่าต้องมีขนส่งรถทางบกจาก Southampton ไปที่ Thames เด้วจะคอยดูว่าตัวเลขไมล์ขึ้นมา 100 กว่าไมล์รึเปล่า) เรือออกจาก Thames, UK มาตั้งแต่ 23 มิ.ย. แล้วก็ไปจอดนิ่งสนิทอยู่ที่ Antwerpen Belgium ตั้งแต่ 24 มิ.ย. เป็นเวลา 8 วัน เพิ่งจะเริ่มออกเดินทางจริง ๆ ออกจากเบลเยี่ยมก็วันที่ 2 ก.ค.นี้เอง เลยไม่แน่ใจว่าที่คุณจ.อุตส่าห์บริการอย่างดี ชิปรถของเราออกมาก่อนของคนอื่นๆ (รอบ Q2 ที่อังกฤษทาง W เค้ามีออร์เดอร์ 8 คัน เราก็นึกว่าคุณ จ. เค้าจะรอชิปออกมาด้วยกัน แต่คุณจ. เค้าให้ชิปของเราคันเดียวออกมาก่อน เพราะได้รถก่อนคนอื่น จริง ๆ เราก็คิดว่าเรารอได้ แค่ 1-2 สัปดาห์ แต่คุณ จ. เค้าก็อยากให้ลูกค้าได้รถเร็ว ก็เลยไม่ได้รอชิปพร้อมกัน แต่เราก็ไม่รู้ว่าความพยายามให้รถมาถึงเมืองไทยได้เร็ว ๆ มันได้สูญเปล่าไปที่เบลเยี่ยม 7 วันฟรี ๆ รึเปล่า ไม่แน่ใจ อย่างไรก็ต้องขอชื่นชมทางร้าน W ที่พยายามบริการ)  ตอนเรา track เรือแบบมือสมัครเล่น เราก็ไม่เห็นรายการ Port calls ของเรือ ทำให้เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะออกจากเบลเยี่ยม เห็นแต่ไม่ขยับ จนกระทั่ง Mr Miserable เจ้าพ่อ track เรือที่อังกฤษเค้าช่วยดูให้ ตอนหลังเราถึงเพิ่งมาพบว่าเข้าไปใน yangming.com แล้วคีย์ชื่อเรือ ก็จะเห็น Port calls เหมือนกัน สรุปว่าตอนนี้ (วันที่ 4 ก.ค. ละ เรือก็ขยับมาจวนจะถึงโปรตุเกสแระ) มีกำหนดจะจอดที่ Jeddah port ที่ซาอุ วันนึงแล้วก็มาจอดที่ Singapore อีกวันนึง แล้วถึงจะมาที่แหลมฉบังตามกำหนดการคือ 23 ก.ค. ก็เด้วต้องรอลุ้นว่าจะไปแอบจอดที่อื่นเพิ่มไหม จะติดคลองสุเอซรึเปล่า จะโดนโจรสลัดโซมาเลียปล้นไหม ? มีความเป็นไปได้สารพัด ไม่อยากจะนึก

ก็ไม่น่าเชื่อว่ารถเราจะเดินเรือข้ามสมุทรจากจีนไปอังกฤษและยังต้องเดินทางจากอังกฤษกลับมาประเทศไทย ผ่านคลองสุเอซและโซมาเลีย 2 รอบ นับว่าเดินทางทรหดมาก ไม่รู้ว่า carboon offset จะหักไปกับการที่รถไม่ใช้น้ำมันในเวลากี่ปี?

ในเมื่อรถออกเดินทางมาแล้ว ก็คงต้องถึงเวลาสั่งของ accessories ต่าง ๆ ซึ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สั่งไปเกือบหมดแล้ว ถึงตอนนี้เหลือแต่ของใหญ่ ก็คือสั่งล้อใหม่

ล้อ Uberturbine 20 นิ้วที่มากับ Tesla Model 3 Performance ก็เป็นอะไรที่เลือกออกไม่ได้ เราไปดูตัวจริงของล้อนี้แล้ว หน้าตาก็โอเค ไม่ได้น่าเกลียดอะไร แต่ปัญหาไม่ใช่ที่หน้าตา เป็นปัญหาเรื่อง fuel efficiency และอื่น ๆ

แต่เดิม Tesla M3P ก่อนปี 2020 เค้าจะมากับล้อ 20 นิ้วที่เรียกว่า sport wheel ซึ่งล้อเก่าก็จะมีปัญหาเรื่องคนบ่นว่าบุบเวลาขับไปตกหลุม (potholes) ตกบ่อ  เนื่องจากความที่น้ำหนักรถหนักกว่า 1800 กก. แถมล้อเป็น aluminum cast wheel (มีความไม่แข็งแรงมาก มันเป็นอัลลอยด์อลูมิเนียมธรรมดา) และแถมด้วยล้อใหญ่แก้มยางบาง ไม่สามารถซึมซับแรงกระแทกได้

น้องสโนว์ (Mercedes C350e) ที่เราใช้อยู่เค้าใช้ล้อ 19 นิ้ว เป็นแบบ staggered คือความกว้างของล้อหลัง กว้างกว่าล้อหน้า ซึ่งทำให้ไม่ต้องมานั่ง rotate wheels เหมือนตอนสมัยใช้น้องเล็ก (Lexus CT200h) ล้อใหญ่ ๆ มักจะดูสวย (คงแล้วแต่ความชอบด้วย) น่าจะเหมาะกับรถกลุ่ม performance เพราะการเข้าโค้งจะดีกว่า car handling น่าจะดีกว่าล้อ+ยางที่มีแก้มยางหนา ๆ ย้วย ๆ ได้  ดังนั้นเราก็จะเห็นรถซิ่ง รถ performance ทั้งหลายเค้าก็จะใช้ล้อใหญ่ ๆ กัน แล้วยางบาง ๆ นิดเดียว  พวกล้อใหญ่ ๆ พวกนี้ แม้จะดูสวย แต่จะต้องแลกมาด้วย 1) ราคายางแพงกว่า  2) หาร้านปะยางยากกว่า ลำพังล้อ 19 นิ้ว ของน้องสโนว์นี่กว่าจะหาร้านปะยางได้ก็ไม่ใช่ง่าย  3) สูญเสียความนุ่มนวลในการขับขี่ -กรณีน้องสโนว์เค้าเป็นช่วงล่างถุงลม เลยไม่รู้สึกเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่ใช่นี่ คงจะต้องสัมผัสผิวถนนกันอย่างเมามันส์  4) ก็ปัญหาที่กล่าวไปนั่นแหละ พอน้ำหนักรถมันเยอะ แก้มยางบาง ๆ เจอหลุ่มบ่อที ก็ล้อบุบ

การที่ล้อจะบุบได้จากการตกหลุมบ่อ แสดงว่าโลหะที่มาทำล้อไม่แข็งแรงพอ อันนี้ก็ถูกต้องอีก เนื่องจากล้ออัลลอยด์ที่มากับรถทั่ว ๆ ไปมักจะเป็น cast aluminum alloy wheels ก็คือการผลิตล้อโดยการเทอัลลอยด์ (ส่วนผสมหลักคืออลูมิเนียม) ลงไปในเบ้าแม่พิมพ์แล้วรอเค้าแข็งตัวแล้วแกะออก วิธีนี้เป็นวิธีการผลิตที่ถูกที่สุด และจะได้มาซึ่งวัสดุอัลลอยด์ที่มีความโปร่งพรุน ไม่แข็งแรงทนทานมาก ทำให้ล้อแบบ cast wheels ทั้งหลายจะมีลักษณะหนา ๆ มีโครงสร้างที่เทอะทะ เพื่อชดเชยกับความไม่แข็งแรงของอัลลอยด์ที่หล่อในแม่แบบ ส่งผลให้น้ำหนักล้อค่อนข้างเยอะ

น้ำหนักล้อ + ยาง + เบรค + น็อตสกรูล็อคล้อ และอะไรก็ตามที่อยู่ต่ำกว่าช่วงล่างของรถ เค้าเรียกเหมารวมว่า unsprung weight ซึ่งถ้ารวมกันเยอะ ๆ ยิ่งส่งผลกระทบต่อ performance ของรถ  ส่งผลให้รถซิ่งรถ performance ทั้งหลายเค้าจะไปใช้ล้อที่เบา ๆ กระทั่งน็อตที่ขันล็อกล้อก็ยังต้องใช้ titanium lug nut  วัสดุอะไรที่จะมาทำล้อแล้วให้น้ำหนักเบาแต่ยังแข็งแรง ถ้าเงินมิใช่ปัญหา ก็จัด carbon fiber wheel sets เซ็ทนึง 4 ล้อ ก็สนนราคาประมาณ USD 15,xxx - 20,xxx กว่า อย่าลืมบวกค่าขนส่ง + ภาษีโหดของรัฐไทย ซึ่งของสิ้นเปลืองประเภทนี้จะต้องโดนที่อย่างต่ำ 30% และที่เจ็บปวดคือรัฐไทย จะเอาค่าขนส่งไปบวกเวลาคิดภาษีด้วย ไม่ใช่เฉพาะค่าของอย่างเดียวที่เอามาคิด เรียกว่าราคาอาจจะกลายเป็นคูณ 2 ขึ้นมาทันทีเมื่อเทียบกับราคาตอนเป็น USD (เด้วคิดให้ดูตอนท้าย)

จะว่าไป Uberturbine wheels เค้าก้อออกมาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องล้อบุบเวลาตกบ่อ ตกหลุม เพราะเค้าทำให้มันดูหนาขึ้น มีซึ่ล้อ support เยอะเลย ซึ่งเราสงสัยว่าลักษณะการออกแบบของเค้าที่มีซี่ล้อที่ถี่ขึ้นและยังมีลักษณะช่วยเรื่อง aerodynamic ของล้อเวลาวิ่งเร็วทำให้รถมี efficiency ได้ดีกว่า 20" sport wheels เดิมรึเปล่าเพราะพอเทียบสเปคกันจะพบว่า 2021 Tesla M3P เรตระยะทางไว้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 2018/2019 Tesla M3P ที่ใช้ล้อ 20" sport wheels แต่การที่ท่านเพิ่มเนื้ออัลลอยด์เข้าไปเยอะ ๆ เพื่อให้ล้อมันแข็งแรงขึ้น ก็เท่ากับว่าไปทำให้น้ำหนักล้อมันเพิ่มขึ้น ซึ่งน้ำหนักล้อ + ยางนี้ทาง Tesla ไม่เคยบอก แต่ก็มีคนเค้าไปลองชั่งดูพบว่าล้อ 20" Uberturbine + ยาง Pirellia P-Zero หนัก 54.5 lbs (24.7 กก) อันนี้ถือว่าเบากว่า 21" Uberturbine+ยางของ Model Y (64.8 lbs or 29.39 kg) อยู่ก็ล้อเล็กกว่ากันนิ้วนึง แต่เวลาเอามาคิดเรื่อง unsprung weight ก็ต้องคูณ 4 เข้าไปเพราะมันมี 4 ล้อ ซึ่งของ Model Y นี่เป็นล้อแบบ staggered ด้วย ดังนั้นล้อ+ยางหลังจะหนักกว่าล้อหน้า ทำให้ unsprung weight จะต้องเป็น x 4 plus เลย

ทีนี้ถ้าอยากให้ล้อมันแข็งแรง แต่ไม่ใช้ carbon fiber เพราะมันแพงเกินเหตุ จะทำให้มันแข็งแรงและน้ำหนักเบาได้อย่างไร  เค้าก็ไปปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตล้อโดยเอาอัลลอยด์มาอัดบีบด้วยแรงดันสัก 10,000 ตันให้เป็นก้อนสี่เหลี่ยมตัน ๆ เพื่อให้เนื้ออัลลอยด์เค้าแน่นที่สุด มีโพรงอากาศอยู่น้อยที่สุด หลังจากนั้นเค้ากะจะขุด แกะสลัก (CNC milling or waterjet) เฉือนส่วนที่ไม่ต้องการออก เพื่อให้ก้อนอัลลอยด์อัดดังกล่าวออกมาเป็นล้อรถยนต์ กลม ๆ มีซี่ มีดุมล้อ ก็เลยเรียกว่า forged wheels ดังนั้นจะเห็นว่าการผลิตจะเสียเวลามากกว่า ต้นทุนก็จะแพงกว่า แต่จะได้ล้อที่เนื้ออัลลอยด์มีความแข็งแรง เนื้อแน่น ทำให้เค้าสามารถออกแบบให้ล้อมีลักษณะบาง เบา มีซี่ล้ออยู่ไม่กี่ซี่ และได้ล้อที่ม่ีน้ำหนักเบาแต่ยังแข็งแรงอยู่  พวกล้อรถแพง ๆ supercar ทั้งหลายที่เราเห็น ๆ อยู่ที่มีซี่ล้ออยู่ไม่กี่ซี่ ดูบาง ๆ  มักจะเป็นล้อพวกนี้  การที่ล้อมีซี่ล้อไม่กี่ซี่นี้เป็นสิ่งที่เราชื่นชอบมาก ไม่ใช่ในแง่ performance หรืออะไรอย่างอื่นนอกจากความง่ายในการล้าง มันล้างง่ายกว่าเยอะเลย เมื่อเทียบกับล้ออย่าง Uberturbine

ล้อ forged wheel ก็มีราคาที่แพงกว่าล้อ cast wheel อยู่พอควร ถึงจะถูกกว่า carbon fiber wheel ก็ตาม ราคาก็จะปาเข้าไปตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลาย ๆ แสนต่อชุด ขึ้นกับยี่ห้อ ขึ้นกับความสวยงาม หรือรสนิยม จิปาถะ  

ในโลกนี้มักจะมีทางสายกลางให้เลือกเสมอ สำหรับคนที่ไม่อยากใช้ cast wheel อยากได้ forged wheel แต่งบไม่ถึง หรือไม่เห็นความจำเป็นขนาดนั้น (แบบว่าไม่ได้เอาไปซิ่ง) ก็อาจจะพิจารณาทางสายกลางได้แก่ Flow forged wheel/rotary forged ซึ่งจริง ๆ แล้วคงต้องเรียกให้ถูกต้องที่สุดว่า flow-forming wheel โดยกระบวนการผลิตก็จะคล้าย ๆ กับ cast wheel แต่พอได้ล้อออกมาจากเบ้าตอนร้อน ๆ เค้าจะไปลนไฟแล้วปั่นล้อหมุน ๆ เหมือนการทำ centrifuge แล้วก็รีดเนื้อล้อเพื่อให้โลหะอัลลอยด์มันยืดออกและเนื้อแน่นขึ้น ทำให้ล้อตรงส่วนที่กลมโดยรอบจะแข็งแรงมากขึ้น แต่ตรงส่วนที่เป็นซี่ล้อโดยเฉพาะตรงดุมล้อตรงกลาง อาจจะไม่ได้อานิสสงค์จากการปั่นแน่นเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม การที่เนื้ออัลลอยด์มีความแน่นมากขึ้น ก็ทำให้ล้อพวกนี้ออกแบบมาทำให้ดูบางได้คล้าย ๆ กับล้อ forged wheel และเนื่องจากเค้ารู้ว่าคนคงอยากได้ล้อ forged wheel มากกว่า ก็เลยมีการพยายามตั้งชื่อให้มันดูคล้าย ๆ forged wheel เช่น เรียกว่า flow forged บ้าง rotary forged บ้าง  แต่ความแน่นของโลหะมันคนละเรื่องกับการเอาอัลลอยด์ไปอัดบีบกระทืบภายใต้แรงดัน ดังนั้นพวก flow-forming wheel ราคาก็จะถูกกว่า forged wheel ของจริง น้ำหนักถึงจะเบากว่า cast wheel แต่ก็ยังจะหนักกว่า fully forged wheel ตัวจริง  ความแข็งแรงในส่วนที่เป็นซี่ล้อกับดุมล้อ ก็ยังสู้ไม่ได้ ก็มีรูปบนเน็ตให้ดูที่เห็นล้อพวกนี้ไปใช้ในสนามแข่ง เบรคกันจนไฟลุกแล้วล้อมันก็ขาดหลุดตรงดุมล้อเลยนี่แหละ น่ากลัวดี (https://www.streetmusclemag.com/tech-stories/wheels-tires/the-strength-difference-between-cast-flow-formed-and-forged-wheels/)

ขนาดของล้อก็มีผลต่อความเฉิ่มเบ๊อะ เป็นต้นว่าล้อใหญ่ ๆ พวก 19 นิ้ว 20 นิ้ว 21 นิ้ว (ใหญ่มาก) มักจะดูเท่ ดูซิ่ง แต่ว่าเปลืองน้ำมัน (กรณี Tesla ก็คือ เปลืองไฟฟ้า) ถ้ายอมใช้ล้อลุง ๆ ถอยความใหญ่ลงมาเป็น 19 นิ้ว หรือ 18 นิ้ว (17 นิ้ว ไม่มีใครทำ คงใส่ไม่ได้ล่ะมัง เพราะ Model 3 SR+ เค้าใช้ 18 นิ้ว) ก็จะได้ fuel/electricity efficiency เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ หลังจากคิดไปคิดมากันหลายตลบ เราคิดว่าไอเดียเดิมที่เราอยากได้รถไฟฟ้าคือต้องการลด carbon footprint เราคงไม่ได้ไปซิ่ง ไปเข้าโค้ง ไป drag mode อะไรที่สนามแข่งแน่เลย  เราอยากได้ล้อที่มันหาร้านปะง่าย ๆ หน่อย ยางไม่ต้องแพงมาก นั่งแล้วนิ่ม ๆ ไม่ต้องกระแทกแรง ๆ  ท้ายสุดก็เลยยอมเป็นลุง คือเอาล้อ 18 นิ้วละกัน (อันนี้กล่อมคนที่บ้านอยู่พักนึง ตอนแรกเค้าจะเอา 19 นิ้ว เท่าน้องสโนว์) หลังจากเราโชว์คลิปยูทุปที่เค้าเปรียบเทียบ efficiency ให้ดู เค้าถึงยอมเปลี่ยนใจ

เรื่องเสียตังค์ซื้อล้อใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เรื่องการหาเจ้าของใหม่เค้าให้ล้อ Uberturbine นี่สิ อาจจะไม่ง่าย ก็เลยปรึกษาคุณ จ.  คุณ จ. แกไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมเราสองคนจะไปเปลี่ยนเป็นล้อเล็กลง คุณ จ. บอกว่าที่ผ่านมาเห็นเค้ามีแต่จะเปลี่ยนเอาล้อใหญ่ขึ้น คุณ จ.งงมาก ว่าจะซื้อรุ่น performance ไปทำไมเนี่ย ถ้าจะเปลี่ยนล้อเล็กลง  ก็เลยต้องบอกคุณจ.ไปว่าเราสองคน จะเอาทั้ง performance และ efficiency - all in one จ้า  คุณ จ. ก็ตกปากรับคำว่าจะช่วยหาเจ้าของใหม่ให้ ปรากฎเมื่อเดือนที่แล้วคุณจ.ก็มาแจ้งว่ามีลูกค้าท่านนึงสนใจค่ะ เค้าจะขอซื้อแสนนึง  เราสองคนกดเครื่องคิดเลขบวกลบคูณหารแล้ว ก็บอกเค้าไปว่ารถยังไม่มาเลย ไว้รอรถมาก่อนละกัน แล้วเค้าก็เงียบไปเลยค่า

มันก็มีเรื่องน่าปวดหัวเล็กน้อยสำหรับการเปลี่ยนล้อ นอกจากจะต้องหาเจ้าของใหม่ให้เค้า ปรากฎว่าอุปกรณ์ TPMS ที่มากับ 2021 Model 3 ตอนนี้เปลี่ยนจากระบบ RF เป็นระบบ bluetooth เหมือนกับที่ใช้ใน Model Y เนื่องจากเป็นอะไหล่ค่อนข้างใหม่ ยังไม่มี 3rd party ขายทั่วไป การสั่งซื้อต้องซื้อจาก Tesla โดยตรงและต้องใช้ VIN number ที่สำคัญคือตัวละ USD100 ต้องใช้ 4 ชิ้น ตอนแรกก็ว่าจะซื้อต่างหาก เพราะการแกะเอายาง Pirelli ออกมาเพื่อถอดเอา bluetooth TPMS เพื่อใช้กับล้อใหม่ยางใหม่ แล้วต้องใส่กลับเข้าไป พอได้เจ้าของใหม่ที่จะซื้อต่อก็ต้องแกะยางกันอีกรอบนี่มันดูน่าปวดหัว  แต่ครั้นปรึกษาคุณ จ. คุณ จ. บอกไม่ต้องซื้อหรอกค่ะ เพราะคนที่เค้าจะเอาล้อ Uberturbine ไปใส่รถ Model 3 รุ่นก่อน 2021 เค้าต้องใช้ RF TPMS อันเดิมอยู่ดี ยังไงๆ ก็ต้องแกะ  สรุปว่าประหยัดไปได้อีก $400

เรื่องล้อใหม่ก็ช็อปปิ้งกันจนปวดหัว ตอนแรกก็กลับ ๆ กลับมาระหว่าง forged wheel vs flow-forming wheel ท้ายที่สุดก็ไปเลือก Martian wheels (www.martianwheels.com) ด้วยเหตุผลที่สำคัญคือเรื่องราคาย่อมเยา อันนี้น่าจะเป็น forged wheel ที่ราคาย่อมเยาที่สุด แล้วเค้าก็ทำเฉพาะ Tesla เท่านั้นไม่ได้ทำสำหรับรถอื่น  มีคนหลายคนที่คิดจะเอา Tesla aerowheels 18" ไปติดตั้งบน M3P ปรากฎว่า brake caliper ของ M3P (อันสีแดงที่เราชอบน่ะ) มันใหญ่กว่าเบรกแบบปกติ แถมยังมีขอบด้านใน (lip) ที่เราเข้าใจว่า Tesla ทำขึ้นมาเพื่อป้องกันคนเอาไปใส่บน M3P แล้วเกิดปัญหา ก็เลยติดไม่ได้ แต่พวก third party wheels ทั้งหลายที่เค้าเป็นผู้ผลิตที่จำเพาะเจาะจงหน่อยเค้าจะให้ลูกค้าแจ้งว่าจะซื้อล้อเค้าไปใส่รถอะไร รุ่นไหน ปีไหน แล้วเค้าก็จะบรรจงทำให้มันติดตั้งได้บนรถรุ่นนั้น ๆ ไปเลย (custom made) ส่วนของ Martian wheels ความที่เค้าทำเฉพาะล้อสำหรับ Tesla เค้าก็จะเน้นด้านนี้อยู่แล้ว ดังนั้นบนเว็บไซต์เค้าตรงสเป๊คเค้าก็จะระบุไว้ชัดเจนว่าล้อ 18" ของเค้าสามารถใส่กับ M3P ได้ และของเค้าก็น้ำหนักเบาที่สุด (ล้อละ 7.94-9.53 kg) จบข่าว ราคาเค้าก้อถูกกว่าเจ้าอื่นที่เป็น forged wheels เหมือนๆ กันซึ่งส่วนใหญ่จะราคาเกิน $3,000 (ต่อ 4 ล้อ) ขึ้นไป ถ้าเป็นของ tsportline.com ซึ่งเป็น flow formed wheel ก็จะถูกหน่อย แต่น้ำหนักก็จะเยอะกว่า ถ้าชอบความสวย เราว่าของ BC Forged น่าจะสวยสุด แต่ตั้งสั่งผลิตรอ 5 สัปดาห์ ราคาเกิน $3,000 (ดูรูป) 


ช็อปรอมาตั้งนาน เราก็ไม่ได้สั่งของกะเค้า ทั้ง ๆ ที่ตัดสินใจได้แล้ว เพราะปัญหาคือรถยังไม่ได้ ก็ไม่รู้จะรีบเสียเงินไปใย เราก็ได้แต่รอวันที่รถมันส่งมาถึงอังกฤษ รอจนกระทั่งคุณ จ. เค้าแจ้งวันชิปปิ้งออกมา ก็จะเข้าไปสั่ง ปรากฎว่า out of stock จ๋อยไปเลย กะเลยสงสัยว่าล้อใหม่คงจะมาไม่ทัน ที่กะว่าจะได้ขาย Uberturbine wheels + Pirelli แบบ brand new ก็คงต้องขายแบบ used ซะแล้ว แต่ถึงจะขาย new or used ก็โดนเค้ากดราคาอยู่ดีนั่นแหละ

โชคดีตอนที่เราเข้าไปสั่งล้อเค้ามี mother day sale พอดี ได้ลดราคาอีกประมาณ $150 ถ้าจะให้เค้าชิปมาเมืองไทยเลยเค้าจะคิดค่าส่งอีก $529.79 ซึ่งก็เป็นราคาค่าส่งที่ไม่เกินเหตุ เราก็เคยเสียค่าส่งของมากกว่านี้มาแล้ว แต่ปัญหาไม่ใช่ค่าส่งแพง เป็นวิธีคิดภาษีซึ่งเรารู้สึกว่าขูดรีด คือการคิดอาการขาเข้าประเทศไทยจะใช้ค่า C.I.F. (Cost + Insurance + Freight) ไม่ได้คิดเฉพาะราคาสินค้า ขนาดไม่มี insurance อีก็ยังบวกไปให้เราอีก 1% หรือแม้แต่กรณีที่เราได้โปรฯส่งฟรี อีก็ยังอุตส่าห์คิดบวกค่าส่งให้โดยการเปิดตารางสมุดของเค้าคิดตาม zone ดังนั้นถ้าให้เค้าส่งมาเมืองไทย ซื้อ 4 ล้อก็จะกลายเป็นว่าถูกคิดภาษี 5 ล้อ ที่สำคัญคือเราไม่รู้ว่าจะโดนเรตใด ล้อแม็กซ์น่าจะถูกจัดเป็นของฟุ่มเฟือย น่าหมั่นไส้ มีโอกาสโดนอัตราอากร 30% สูง  ราคาล้อปกติขายอยู่ที่ $499 ต่อล้อ ถ้าเราให้เค้าส่งเมืองไทย เค้าคิดค่าส่ง ถ้าตีกลม ๆ ก็ $500 สั่ง 4 ล้อก็จะกลายเป็นยอด $2,496 สมมุติว่าเค้าใจดีไม่แถม 1% ค่า insurance ศุลกากรเค้าก็จะเอาก้อนนี้ไปแปลงเป็นเงินไทย น่าจะออกมาที่ 79,872 บาท ถ้าโดนเรต 30% ก็เป็นอากรขาเข้าอีก 23,961.6 บาท รวมกับยอดเดิมเป็น 103,833.6 บาท (79,872 + 23,961.6) โดน VAT อีก 7% ของก้อนนี้คิดเป็น 7,268.352 เท่ากับจ่ายให้ศุลกากรทั้งสิ้น 31,229.95 บาท  นอกจากนี้บริษัท FEDEX/DHL/UPS/TNT มักจะมีการชาร์จค่าดำเนินการอีกประมาณ 214 บาท (200 + VAT 14 บาท) ดังนั้นยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็จะปาเข้าไป 6 หลักอยู่ดี ต้องทำใจ ค่ารักษ์โลกมันแพง ดังนั้นสำหรับท่านผู้สนใจล้อ Uberturbine wheels + Pirelli ใหม่ๆ หรือเกือบใหม่ (ขึ้นกับว่าอีจะส่งมาทันเรือ One eagle รึเปล่า) ที่อยากจะขอซื้อต่อจากเรา ก้อกรุณาอย่ามากดราคาเรามากนะ เราเองก้อต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกะล้อใหม่ยางใหม่เช่นกัน

 


Create Date : 25 มิถุนายน 2564
Last Update : 22 สิงหาคม 2564 7:40:35 น. 0 comments
Counter : 1734 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

gollygui
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]






space
space
[Add gollygui's blog to your web]
space
space
space
space
space