hi Japan ตลาด Ameyoko-shopเหลือง ร้านดองกิโฮเต้
ออกจากวัด Asakusa มาเราจะไปหาอะไรกินกันค่ะ ระหว่างทางมีของล่อใจล่อตังค์มากมาย แถมขายดาบซามูไรก็มี แต่ของสะสมนะ ไม่รู้ฟันได้จริง ๆ หรือเปล่า
ของเล่นล่อตังค์จริง ๆ ถ้ามีลูก สาบานจะไม่เอาลูกมา กลัวมันซื้อหมดร้าน
ร้านดอกไม้ ผู้หญิงสวย ๆ ต้องคู่กับดอกไม้...หรือมันขายพวงหรีดว่ะ แหะๆ ตรงที่ถ่ายนี่เป็นหน้าโรงละคร (คนจริง ๆ แสดง) แฟน ๆ เขาซื้อมาให้นักแสดง
แผนที่ละแวกนี้ค่ะ
พอดีเดินไปถึงร้านที่พี่เป๋อว่าอร่อย ปรากฏว่าปิดวันพุธ เลยเดินวนไปวนมา ก็กลับมาหน้าวัดอาซาคุสะอีกแล้ว พี่แกบอกว่ามีอีกร้านนึง นี่มันบ่ายสองแล้วนะยะ เออ...แต่มันก็เที่ยงเมืองไทยล่ะนะ ร้านขายขนมระหว่างทาง
เดินไม่นานก็ถึงร้าน ไม่ได้ถ่ายเลยหน้าร้าน หิวโคตร กินเลยดีกว่า กินล่ะนะคร๊า... ข้าวแกงกะหรี่ทงคัตสึ Tonkutsu Curry Rice แบบแยกกับข้าว ที่ร้านจะมีซอสให้ราดตะหาก คนญี่ปุ่นจะใส่ซอสเยอะ
หลายคนบอกรูปอื่นไม่ชัดเลย ทีของกินล่ะถ่ายชัด ทำรูปใหญ่อีกตะหาก
กินเสร็จจะไปอีกที่ที่ที่มีอนุสาวรีย์ของซามูไรคนสุดท้ายของญี่ปุ่น แล้วจะไปช้อปปิงแถวนั้น เป็นตลาดสด Ameyoko มีขายปลาขายของแห้งมากมายค่ะ ตามมานะคะ ต้องนั่งรถไฟกลับไปอุเอโนะก่อน
ในรถไฟ มีทีวีให้ดูโฆษณาด้วย ตอนนั้น บีทีเอสบ้านเรายังไม่มีทีวีเลย
ที่สถานีมีหุ่นใส่กิโมโนมากมาย ต้องไปวุ่นวายซะหน่อย
ร้าน coffee shop แถวนั้น น่านั่งจังเลย
ถึงแล้วค่ะ พี่เป๋อบอกว่าที่นี่ทุกคนที่มาญี่ปุ่น นอกจากมาวัดอาซาคุสะ ถ่ายรูปตึกอาซาฮี แล้วก็ต้องมาถ่ายที่นี่ค่ะ อนุสาวรีย์ของ Saigo Takamori ที่สวนอุเอโนะ โดยในสวนก็มีนักเรียนมาทัศนศึกษากันเป็นหมู่คณะ เดินลงมาก็เข้าสู่ตลาดสด Ameyoko ออกแนวเจ๊เล้งเก่า เดินดูของก็แนวเจ๊เล้งค่ะ มีของมียี่ห้อ ประมาณว่าราคาถูกว่าในห้าง มีพ่อค้าขายปลา หน้าตาขึงขัง แปลมั่วเอาเองแนวว่า "ปลาสด ๆ คร๊าบ ชิมดูก่อนได้ ปลาหมึกแห้งก็มี ชิมก่อนได้ครับคุณแม่บ้าน....." เดินจนครบ ได้กระเป๋า 1 ใบสีเหลืองอ๋อยใบใหญ่ที่สุดในร้านราคา 1050 เยนรวมภาษี อ้อ ของที่นี่มี 2 ราคา คือรวมภาษีกับไม่รวม เวลาจ่ายต้องจ่ายรวมภาษี อย่างร้าน 100 เยน จะบอกว่า ทุกอย่างร้อยเยน แต่เวลาจ่าย บวกอีก 5 เปอร์เซ็น เป็น 105 ทุกชิ้นค่ะ กระเป๋าที่ซื้อก็ใบละ 1000 แต่ต้องจ่ายภาษีอีก 50 ที่นี่ผู้บริโภคต้องรับผิดชอบเอง ได้ข่าวว่าอีกหน่อยจะขึ้นเป็น 7-8 % ด้วย พี่เป๋อถามหิวอีกไหม ตอนนี้ราว 5 โมง เอาซะหน่อยดีกว่า ข้าวหน้าปลาดิบ..บ..(ดิบ...ดิบ..ดิบ...ทำเสียงแบบทีวีแชมเปี้ยนด้วยนะ) สงสัยว่าจะกินถี่ไปหน่อย ท่าจะไม่ไหว เราเลยสั่งถ้วยเล็ก 300 เยน พี่เป๋อถามไม่หิวแน่เหรอ...ฮือ...ตัวใหญ่แต่กินน้อยนะ (กินน้อยแต่บ่อยครั้ง) พี่เป๋อแกสั่งของแกชามใหญ่หน้าปลาซัลมอน 700 เยน ก็ยังกินหมดนะน่ะ ที่นี่มีน้ำชาบริการฟรีนะคะ หลังจากนั้นก็กลับบ้าน พี่ชิฮารุแกเลิกงานพอดี นั่งคุยนั่งเก็บของพอมืด พี่เป๋อบอก เราไปกินข้าวกันเหอะ ว่าแต่มันมื้อที่ 4 แล้วนะพี่ !! ด้านนอกเริ่มมืดค่ะ (กล้องสมัยนั้นแค่นี้ก็บุญหนักหนาแล้ว ปี 06 กล้องดิจิตอลดี ๆ หลักหมื่นนะคะ ถ้าถ่ายในโทรศัพท์นี่ไปกันใหญ่)
เป็นร้านผับแบบ ไสตล์ดั้งเดิมค่ะ เสียดายที่ไม่ได้ลองเข้าไปเลย ถึงย่านชินโอคุโบะ จะเป็นย่านเกาหลี แต่ร้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมก็ยังมีเยอะอยู่ ส่วนเมนูที่หน้าร้าน แน่นอนว่าอ่านไม่ออก เดินไปอีกหน่อยมีบาร์ผู้ชาย (บาร์โฮส) มีหนุ่มให้เลือก หน้าตาพอไปวัดตอนกลางคืนได้ คนญี่ปุ่นเขาคงชอบแบบนี้ ยังค่ะ ยังไม่กินข้าว ไปเดินห้างก่อนเดี๋ยวจุกตาย ร้านที่จะไปเรียกว่า ร้านดองกิ (donquijote) อยู่ในย่านชินจูกุนี่แหละค่ะ มีเครื่องสำอางมากมาย ลูกอมโหลละ 1000 เยน เหมาะแก่การซื้อฝาก (แล้วตอนแบกล่ะ) Power bank ใช่ไหมน่ะ (สมัยนั้นมันมีที่ไหนเล่า) หลายไซส์หลายขนาด ขายเปิดเผยกันในห้าง ซื้อเครื่องสำอางหมดนี่เลย ได้ป่าว ซื้อเสร็จก็ไปกินยากิโซบะกัน (กินอีกละ !!)
อ่านต่อตอนไป harajuku ที่นี่ ค่ะ
Create Date : 29 พฤษภาคม 2549 |
Last Update : 19 มีนาคม 2561 10:44:58 น. |
|
6 comments
|
Counter : 4258 Pageviews. |
|
|