นี่คือเขาทำถนนกันอยู่ค่ะ มีคนยืนถือป้ายบอกว่าทำถนนด้วย ไม่ใช่ถือป้ายอย่างเดียว มีร้องตะโกนบอก แปลมั่วได้ประมาณว่า "ทำถนนคร๊าบ โปรดใช้ความระวังคร๊าบ"
ร้านกาแฟร้านโปรดของพี่สะใภ้ เรายังไม่หิวกาแฟ ก็ยืนรอข้างนอก ให้พี่สะใภ้กะเพื่อนเข้าไปซื้อกาแฟกัน
และแล้วเราก็มาถึงสถานีรถไฟโอคุโบะ (ที่ไม่ใช่ ชินโอคุโบะ) จะขึ้นรถสาย Chuō Sobuline ใช้ JR Pass ได้ ลงสถานี Kichijōji
มาดูสายรถกัน
คงเห็นเนอะ
รถไฟมาแล้ว
พี่ชายชั้นเปงอารายยยย เต็มยศ อิอิ
หล่อไม่แคร์สื่อจริงๆ
ย่าน Kichijōji คิชิโจจิ
แวะ starbuck ก่อนค่ะ ไม่ใช่ว่ามีอารมณ์อยากกินตอนนี้ แต่เพื่อนฝากซื้อถ้วย และหลังจากเดินมาร้อย starbuck แล้ว เห็นมีที่นี่ที่เดียว จัดไปตามสั่ง
แก้วที่เพื่อนสั่งซื้อ
แก้วล่างนี้ของเราค่ะ ข้างในเป็นเครื่องดื่มรสซากุระปั่น add whip ข้างบน สุโก้ยเน้ (ทุกวันนี้ปี 2022 กระบอกนี้ยังอยู่ยงคงกระพัน)
แล้วเราก็ถึงสวน Inokashira Park มีการแสดงย่อย ๆ ให้ดู เช่นหนุ่มคนนี้โชว์ trick อยู่
บรรยากาศสวน
ลุงคนนี้ สุดยอดค่ะ ขายเพลงด้วย เล่นสดด้วย แถมมีป้ายบอกเลขที่ 001 (น่าจะเป็นเลขที่ของผู้ที่เข้ามาขายของ หรือแสดง หมือนเราเช่าค่าแผงตลาดนัดน่ะค่ะ)
สามสาว สามประเทศ ค่ะ (ชอบรูปนี้มาก)
ญี่ปุ่น อังกฤษ ไทย
มีปลาด้วย อ้วนมาก ตัวใหญ่มาก ไม่เคยเห็นใหญ่ขนาดนี้ น้ำเขาดี สะอาดจริง ๆ
เงาดำ ๆ นั่นคือปลานะ โอ้โห เบ้อเร่อเลย
สวนน่าเดินมาก วันนี้อากาศดี ไม่หนาวมากค่ะ น่าจะ 10 กว่า ๆ องศา
มีน้องเป็ดด้วย
น่ากิน เอ๊ยยย น่ารัก ขนงี้เงามัน สะท้อนแสงแดด สวยจริงค่ะ
ปกติเป็นคนเฉย ๆ กับเป็ด แต่เป็ดญี่ปุ่นมันน่ารักดีนะ
เพียบ....... เป็ดมุง
ข้างล่างเป็ดก็มีปลา
ถ่ายป้ายสวนหน่อย
มีคนพาน้องหมามาเที่ยว บรรยากาศคือผ่อนคลายมาก ๆ ค่ะ
ในบริเวณสวนมีศาลเจ้าด้วยนะคะ
Inokashira benzaiten (พิกัด
ที่นี่ )
วิวสวยมากกกก......
รอบศาลเจ้าค่ะ
ขอพรกันนะคะ
ก่อนไหว้พระขอพร ต้องทำตัวให้สะอาดก่อน อ่ะล้างงงง
มีเครื่องรางต่าง ๆ ขายเป็นศิริมงคล
อยากเขียนแบบนี้มั่งอ่ะ
ไปค่ะ ซื้อุปกรณ์ ถามพี่สะใภ้เรียกว่ะ เอหมะ
ไปบอกเขา "เอ หมะ เด่ส" ได้มา 1 อัน 500 เยน หน้ามืดเลยกรู (ห้ามคิดเป็นเงินไทย --- แต่เราคิดตลอดทาง)
ปากกาเขาให้ยืมเฉย ๆ นะ
เขียนแล้วไปแขวนเลย ขออะไรก็ว่าไป
(ของเก่าขอได้แล้ว ยังไม่ได้ไปแก้เลย ---
อ่านตอนญี่ปุ่นภาคแรกโน๊นนน ปี 06)
มาชมรอบ ๆ ศาลเจ้ากันนะคะ
มุมเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาก็จัดได้ดีทีเดียวค่ะ
มีซากุระตูมจะออกมิออกแหล่
แผนที่สวนนี้ค่ะ
ในสวนมีแสดงตลกด้วยนะคะ
จากนั้นเราเดินย้อนกลับมาทางเดิมค่ะ พบคาเฟ่แมวซ่อนอยู่
ร้าน Mellow Cafe ค่ะ นั่งได้ไม่จำกัดเวลา มีแมว 6 ตัว แต่ต้องสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มค่ะ เปิดประมาณ 11 โมงถึงหนึ่งทุ่ม อยู่ซอยตรงข้ามหรือเยื้อง ๆ กับ starbuck ที่แวะตอนแรกนะคะ
กาแฟของเราค่ะ ประมาณ 780 เยนมั๊ง จำไม่ได้ ฮะกีซซซ แพงจังง่า (ก็บวกค่าเล่นแมวล่ะเนอะ)
หล่อจัง
ที่เมนูมีบอกใครชื่ออะไร แต่ อ่านไม่ออกอ่ะเนอะ มีป้ายห้ามปลุกด้วย
มีที่ตื่นอยู่มาอ้อนอีก
กลับแล้วนะจ๊ะ น้องเหมียวทั้งหลาย อ่ะไปต่อค่ะ
ไปกันต่อค่ะ สถานี นา"คา" โน่ ค่ะ (ไม่ใช่ Nagano - นางาโนะ นะคะ ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติมักสับสนตรงนี้ แม้แต่เพื่อนฝรั่งเรา บอกมันหลายครั้ง ก็ยังงงอยู่ แน่หละ คนไทยมี งองู ฝรั่งไม่มีเนอะ)
ย่านนาคาโน่นี่เป็นย่านขายอุปกรณ์คอสเพลย์ค่ะ การ์ตูน โมเดล คุณเพื่อนกรี๊ดแตก เพราะเธอชอบคอสเพลย์มาก
เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาตรงที่เขาขาย เพราะมีป้ายห้ามถ่ายรูปเต็มไปหมด แถมเจ้าของร้านหน้าฮึ่ม ๆ ด้วย ลองคิดดูว่า มีร้านขายโมเดลทั้งหมด ในตึกขนาด 4-5 คูหา 5 ชั้นน่ะค่ะ สะใจ
ทานข้าวกันที่ย่าน นาคาโน่ นี่ล่ะค่ะ
เชิญนั่งค่ะ
เมนูมา
กินอะไรสั่งเอาเลยจ้ะ ...
อ่านเอานะ เราอ่านไม่ออก 555
เมื่อคิดออกแล้ว จะกินอะไรก็กดกริ่งเรียกพนักงานจ้า
คุยกันจนเกือบลืม อาหารเรียกน้ำย่อยก็มา พี่ชายบอกที่ญี่ปุ่นถ้าเป็นร้านแบบนี้จะบังคับสั่งอาหารเรียกน้ำย่อย เพราะบางคนกินเหล้าอย่างเดียว ร้านเขาไม่คุ้ม
กับแกล้มที่มาก็ประมาณสลัดผัก ไซส์น่าเอ็นดู
บนขวาไก่เสียบไม้ปิ้ง ยากิโทริ ว่างั้น (ยากิ = ย่าง / โทริ = ไก่/นก)
ซ้ายล่างคือ ตับสด เนื้อปลาสด กินกันดิบ ๆ นี่แหละ อันนี้เราขอผ่าน
ขวาล่างคือ ต้มโอเด้ง (ใช่ไหมฟระ)
เต้าหู้ (ทรงเครื่องไหม อันนี้ไม่ทราบ แต่อร่อยอ่า เราชอบ) แล้วก็เต้าหู้ย่างค่ะ
ยังมี มันฝรั่งอบเนย (อันนี้เราชอบมาก) และสุดท้ายแฮมชีส
โอ๊ย กินเหนื่อย หมดแรง
กินเสร็จก็ออกชมตลาดสดยามดึกค่ะ ดูสิว่าย่านนาคาโน่มีอะไรกันบ้างนะ
โอ้ววว ปลา ตัวใหญ่มากและผักผลไม้นะคะ
ก่อนกลับ guest house มีการแสดงตรงสถานีนาคาโน่ ด้วยค่ะ
ติดตามตอนต่อไป
ฮาราจูกุ (อีกที) คอสเพลย์ แถมแผ่นดินไหวอีกตะหาก
ตามไปเลย
สีผม คุณเพื่อน สวยจังค่ะ