bloggang.com mainmenu search

📌 Fukushima Japan

🍁🍂🍁🍂 11 Nov 2018 🍁🍂🍁🍂

เราอยากจะบอกว่า การเดินทางล่าใบไม้แดงวันที่ 3 ของเราที่ฟุกุชิมะในวันนี้แหละพีคสุด อิ่มเอมสุดสำหรับเราเลยก็ว่าได้

ได้เห็นใบไม้แดงเต็มตาที่สุด ได้ไปเยือนหลายสถานที่ และวันนี้ก็เป็นวันที่ได้ถ่ายรูปเยอะที่สุดในทริปเลยก็ว่าได้ค่ะ 555


เริ่มต้นของวันที่ 3 เราพักอยู่โรงแรม  IL Regalo | Ktashiobara-mura

หลังจากเจอฟ้าหม่น ฟ้าเน่ามาสองวันแล้ว วันนี้เปิดม่านหน้าต่างโผล่มาดู ฟ้าเปิดแล้วจ้าาา กรี๊ดดดดดด

เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมมาตอนสายๆ โรงแรมไม่มีอาหารเช้าให้นะคะ ข้างโรงแรมมีร้านแฟมิลี่มาร์ทฝากท้องให้อิ่มได้เหมือนกัน

สรุปการเดินทางทริปวันที่ 3 ของเราคือ 

🍁โกชิคินุมะ (Goshiki-numa) หรือ บึงน้ำ 5 สี

🍁Bandaisan Gold Line

🍁Bandai-azuma lake line

🍁วัดเอ็นโซจิ Enzoji Temple

🍁ถ่ายรถไฟมุมมหาชน Tadami line first bridge

พร้อมแล้วใช่มั้ย  เดินทางไปล่าใบไม้แดงกับเราได้เลยค่าา


เพี้ยนปักหมุด






วิ๊งๆๆๆ ใบไม้แดงมาแล้วจ้าา คราวนี้เจอใบเมเปิ้ลเต็มๆ ตากันเลยเชียว
หลังจากเมื่อวานเราได้มาเซอร์เวย์ที่ โกชิคินุมะ (Goshiki-numa) หรือ บึงน้ำ 5 สี ตอนเย็นๆ มาแล้ว
เช้านี้จึงมาอีกครั้ง นี่ก็ยังกลับมานั่งถ่ายภาพมุมเดิมอีกนะคะ แบบว่ามุมนี้ไร้คน และอยู่ข้างๆ ที่จอดรถด้วย 555

และมุมมหาชนของ บึงน้ำ 5 สี เป็นต้นเมเปิ้ลแดงกับฉากบึงและเรือด้านล่าง
หากไม่ได้เดินทางด้วยรถยนต์ สามารถนั่งรถมาเองดังนี้ค่ะ

นั่งรถไฟ JR Ban-Etsusai Line  ไปยังสถานี Inawashiro 
จากนั้นนั่งรถบัส To To Bus จากสถานี JR Inawashiro มาลงที่ป้าย Goshikinuma Iriguchi (ปากทางเข้าบึงห้าสี)
 ค่ารถบัส 770 เยนต่อเที่ยวค่ะ

และเมื่อมาถึง สถานี Inawashiro ก็เดินเข้าข้ามมาด้านหลังสถานีรถบัสต่อ คนละ 770 เยนต่อเที่ยว 
ลงที่ป้าย Goshikinuma Iriguchi (ปากทางเข้าบึงห้าสี) และเดินเข้ามาเลยจ้าาาา








ปีก่อนเรามาตอนฝนตกค่ะ ชุมฉ่ำมากกก และเดินทางด้วยรถสาธารณะสนุกไปอีกแบบ แต่เราว่ามันเหนื่อยอ่ะ
แต่่ก็สวยมาก ว๊าวมาก แม้ฝนจะตก ใบไม้เปลียนสีก็ยังสวยงาม
ปีนี้จึงเลือกมาอีกครั้งหนึง และเดินทางด้วยรถยนต์ สะดวกกว่ามาก
แม้มาในช่วงที่ใบร่วงบ้างแล้ว แต่บอกเลยว่าบึงน้ำ 5 สี ในเวลานี้ ยังสวยและมีเสน่ห์เหมือนอย่างเคย

เพี้ยนดีออก







แม่เจ้าโว้ยยยย นี่คือต้นเมเปิ้ล ที่เหลือเพียงต้นเดียวที่ยังเด่นเป็นสง่าที่บึงน้ำ 5 สีค่ะ
บึงน้ำ 5 สี มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก อย่าลืมมาชิมไอติมพร้อมเช็คอินกับใบเมเปิ้ลสีแดงๆ ด้วยนะคะ
ฉากหลังตรงนี้งามจริงๆ 

เพี้ยนปักหมุด




และก่อนออกจากบึง 5 สี เราก็เก็บภาพกับฉากสำคัญๆ ไว้ห่น่อย
หากใครมีเวลาเยอะๆ อยากเห็นมุมอื่นๆ ของบึงน้ำ 5 สี แนะนำให้เดินเทรลในระยะสั้นๆ
กับเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งมีจุดแวะชม View Point ด้วยกัน 9 จุด ในระยะทาง 3.6 กิโลเมตรค่ะ
มุมถ่ายรูปเยอะมาก คนที่มาด้วยรถสาธารณะเดินเทรลจากจุดนี้ ก็จะไปโผล่อีกจุดหนึ่ง
และขึ้นรถกลับปลายทางได้เลย โดยไม่ต้องวกกลับทางเดิม
ส่วนใครมีรถ ขับไปไว้ที่ปลายทางแล้วเดินย้อนเข้าไปชมก็ได้อีกเช่นกัน


เพี้ยนชอบ


Bandaisan Gold Line หรือที่เรียกว่า เส้นทางทองคำบันไดซัน 

ที่นี่เขาทั้งลูกมีสีทองเหลืองสลับกับก้านใบไม้เปลียนสี แล้วเราก็มาที่นี่กันต่อ

ภูเขาทั้งลูก ที่เต็มไปด้วยทีทองเหลืองอร่าม ในช่วงใบไม้เปลียนสี





Bandaisan Gold Lake Line ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางนิยม ที่นักท่องเที่ยวนิยมกันขึ้นมาชมใบไม้เปลียนสีที่นีกันมาก

แต่ในความคิดเราว่าตอนที่เรามามันไม่ว้าวแล้วอ่ะ เพราะใบร่วงเยอะมากแล้ว หรือเรียกว่า มาช้าไปนั่นแหละค่า 555

 อีกอย่างหามุมภาพแลนด์ไม่ได้เลย จึงมีแต่ภาพตัวเอง แฮร่







Bandai-azuma Lake Line
แล้วเราก็มาต่อกันที่นี่  ในบรรยากาศบนเขาที่ไร้ใบแห้งมาก
เวลานั้นมีแต่ลมพัดอย่างหนาวสั่น





ฉากหลังที่เห็นแหลมๆ นันจะเป็นยอดเขา Mt. bandai 





Bandaisan Gold Lake Line กับเส้นทางสีทองขับรถเพลินๆ วิวสวยตามสองข้างทาง
แนะนำขับรถชมจะสนุกมาก สามารถจอดรถได้ตามจุดจอดเพื่อถ่ายรูปได้อย่างใจที่ต้องการ 
แค่นี้ได้ได้มุมสวยๆ ภาพโปรไฟล์ใหม่ๆ เก็บไว้ลงโซเชียลได้แล้วน้าา



มื้อเที่ยงของเราแวะทานข้าวกันที่  ลานจอดรถและร้านค้า Nakatsugawa George



ภายในจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร บริการนักทองเที่ยว ร้านขายนม ของที่ระลึก
โดยเฉพาะขนม อร่อยมากๆ เลยค่าที่นี่ เราติดใจซื้อโดรายากิแบบมีไส้มากิน โดตรอร่อย กินกันบนรถหมดในพริบตา
อาหารมื้อเทียงของเราจะเป็นแบบหยอดเหรียญในตู้เมนูสั่ง แล้วร้านค้าจะทำตามสั่งให้เรา
ยกมาที่โต๊ะให้เลยค่า ทำกันใหม่ๆ น้ำดื่ม และชาเขียว แบบร้อนเย็น สามารถกดได้ฟรีจากตู้กดน้ำ
มื้อนี้เราสั่งชุดแกงกะหรี่ญี่ปุ่น เรากินได้นะเมนูนี้ เพราะเคยกินที่เมืองไทยบ่อยๆ 555
เลยชินกับเมนนี้พอสมควรค่ะ

ด้านหลังร้านจะเป็นทางเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ Nakatsugawa George
โดยทางลงจะมีท่อนไม้ทำขันบันไดไว้ให้เดิน
ช่วงที่เรามามันก็แห้งๆ แล้วอ่ะนะ เลยเลือกเดินไปทีสะพานเพื่อดูใบไม้เปลียนสี




ด้านบนเป็นต้นไม้แห้งๆ ที่ไร้ใบ ไม่ต้องสงสัยแล้วนะคะ ว่่าเบื้องลางจะเป็นสภาพไหนกัน 555
ด้านล่างจะเป็นฉากไหลผ่านสองข้างทางเต็มไปด้วยกิ่งก้านต้นไม้
และแน่นอนว่า จุดนี้ ก่อนหน้าที่ใบไม้จะร่วงหมด จะเต็มไปด้วยสีสันสวยมากแค่ไหนกันน้าา
เพราะฉะนั้นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่แนะนำให้ขึ้นมาชมใบไม้เปลี่ยนสีของ Bandaisan Gold Lake Line
คือตั้งแต่กลางตุลาคมเป็นต้นไป ถึงสิ้นเดือนตุลาคมค่ะ เรามั่นใจว่า สวยงามแน่นอน

เพี้ยนปักหมุด




เป้าหมายต่อไปในวันนี้ยังไม่จบนะคะ ขับรถกันไปต่อที่ วัดไม้สุดคลาสิควัดเอ็นโซจิ Enzoji Temple 



เราเลือกเดินทางมาด้วยรถยนต์เช่นเคยค่ะ เพราะมีเป้าหมายไปถ่ารถไฟกันต่อ
หากเดินทางด้วยรถสาธารณะ รถไฟเริ่มต้นที่ Aizu Wakamatsu ต่อรถไฟสาย JR Tadami Line
 มาลงที่สถานี Aizu Yanaizu (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง)
 เมื่อออกจากสถานี ให้เดินไปทางซ้ายตรงไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงวัด Enzoji

วัดไม้โบราณสุดคลาดสิค วัดเอ็นโซจิ Enzoji Temple
หลังใหญ่เด่นสง่า ไม้ทั้งหลัง ที่มีอายุมากกว่า 1,300 ปี !!




และพลาดไม่ได้กับอ่างน้ำดื่ม โดยมีความเชื่อว่า ใครก็ตามมาดื่มน้ำภายใน วัดเอ็นโซจิ Enzoji Temple ที่นี่
จะช่วยบรรเทาและ รักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ 

และรอบๆ วัดเอ็นโซจิ Enzoji Temple ยังมีต้นใบไม้เปลียนสีอยุู่บ้าง
วัดนี้จะมีปลูกกันหลายโซน แม้โซนแรกร่วงไปแล้ว ยังมีโซนสองสามให้เราได้แวะเก็บภาพกันต่อค่ะ




ใบเมเปิ้ลสีแดง ยามโดนแสงพระอาทิตย์สาดส่อง
กับใบเมเปิ้ลช่วงเปลียนสีจาก เหลืองเป็นแดง



โซนท้ายวัด เราไปดูมาอีกครั้ง จำได้วาปีก่อนตรงนีจะสวยมาก แต่ปีนี้เรามาช้าไป
ใบร่วงหล่นไปเยอะมากแล้ว

แต่ยังมีอีกโซนหนึ่ง ที่เหลืองอร่ามทั่วทุกพื้นที นั่นคือโซนด้านขวามือของวัด
ทีเพิ่งเปลียนสีเป็นสีเหลือง และกำลังจะเป็นสีแดงในช่วงต่อไป โซนนี้ปีก่อนเราไมไ่ด้แวะมา
แต่ปีนี้ เราเดินมาเห็นสีเหลืองเด่นมาแต่ไกล จึงไม่พลาดที่จะเข้าไปเก็บภาพเป็นทีระลึกกันหน่อยค่า




และพื้นดินจะเต็มไปด้วย ใบไม้ที่ร่วงหล่นไป
เมื่อแสงสาดส่องมา ก็สามารถเก็บภาพถ่ายได้หลายช็อต
บวกกับวันนี้เป็นวันเริ่มต้นอากาศดีดี ที่ไม่มีฝนตก

เราจึงสนุกกับการท่องเที่ยวฟุกุชิมะกันอีกครั้ง




เพี้ยนชอบ

เดินทางกันต่อไป เป้าหมายสุดท้ายของวันนี้แล้วค่า ไปตามถ่ายรถไฟทาดามิ กับจุดแลนมาร์คสำคัญๆ ของฟุกุชิมะ
ก็ต้องขับผ่านสะพานแดงกันก่อน ซึ่งอยุ่ตรงข้ามวัด เอ็นโซจิ Enzoji Temple นั่นเอง


จากวัดเอ็นโซจิ Enzoji Temple เราขับรถใชเวลา  15-20 นาทีเท่านั้น 
ก็มาถึงที่จอดรถของ Tadami Line ที่เป็นร้านอาหารและขายของที่ระลึกด้วย
ปีก่อนเรามาซื้อแอปเปิ้ลุงละ 500 เยน จำได้ว่ามันอร่อยมาก แอปเปิ้ลทีนี่หวานกรอบสุดๆ ปีนีเราจึงไม่พลาดที่จะแวะซื้ออีกครั้ง
เอาไว้กินระหว่างทางก็ได้เนอะ แนะนำเลยค่ะ แอปเปิ้ลที่ฟุกุชิมะ อร่อยมากๆ 


รถไฟสายทาดามิ (Tadami Line) 
ที่เชื่อมต่อกันระหว่างสถานี Aizu-Wakamatsu จังหวัดฟุคุชิมะ และสถานี Koide จังหวัดนีงะตะ 

เส้นทางรถไฟสายนี้ มีชื่อเสียงมากเรื่องวิวที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงหิมะ และใบไม้เปลี่ยนสี 
เรียกได้ว่าถ้ามีการจัดอันดับความสวยงามของทิวทัศน์ รถไฟสายนี้มักจะอยู่ในอันดับต้นๆ เสมอค่ะ




แต่ละวัน แต่ละช่วงจะมีนักท่องเที่ยว และนักถ่ายภาพขึ้นมารอถ่ายรถไฟกันจำนวนมาก ที่ Tadami line first bridge มีจุดถ่ายด้วยกัน 3 จุด
ปีก่อนเรายืนถ่ายจุดแรกด้านล่างสุด ปีนี้เราจึงเดินแบกกล้องมารอถ่ายชั้บนสุด ของจุดถ่ายรถไฟทาดามิ ที่ต้องซูมเลนส์ไปสุดกระบอก

เวลาที่รถไฟวิ่งผ่านคือ
6:03 /7:22 / 7:39 / 9:04 / 9:17 / 13:05 / 14:22 / 15:59 / 18:13 

เวลาที่เราถ่ายคือ รอบ 15.59 ค่ะ เย็นมากแล้ว ภ่าพบนภาพล่างไม่เหมือนกันภาพสีสันสดๆ นั้นถ่ายด้วยมือถือค่ะ และภาพด้านล่าง
ตอนรถไฟวิ่งผ่านนั้นถ่ายด้วยกล้องมิลเลอร์เลสต่อเลนส์เทเลอีกที ระหว่างรอนั้น
ยืนหนาวสั่นน้ำมูกไหล  เพื่อทีรอรถไฟวิ่งผ่านแค่นาทีเดียว

แล้วเราก็ได้ภาพมาสมใจ ไม่ได้กลับมามือเปล่า ^^



สมใจแล้วสำหรับการท่องเที่ยวในฟุกุชิมะในวันที่ 3 ของเรา ยอมรับว่าวันนี้ได้ไปเยือนหลายที่มากจริงๆ
และเป็นวันที่ได้เห็นใบไม้เปลียนสีเยอะสุดในทริปนี้
และที่พักของเราค่ำคืนนี้ก็เป็นเรียวกังเล็กๆ ในหมู่บ้านใกล้ๆ Tadami line first bridge  นี่ด้วยเช่นกันค่ะ
แล้วเราจะกลับมาเล่าต่อว่า การเดินทางวันที่ 4 นั้น มีอะไรให้ชมกันต่อบ้าง
ที่ ฟุกุุชิมะ 


ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ

Create Date :11 ธันวาคม 2561 Last Update :11 ธันวาคม 2561 0:00:29 น. Counter : 2000 Pageviews. Comments :21