bloggang.com mainmenu search

📌 Fukushima Japan
大きないちょうが紅葉して美しい黄色になる

ฟุกุชิมะปี 2 ของเราที่ไปเยือนมาล่าสุด และเป็นครั้งที่ 2 ในประเทศญี่ปุ่นด้วยค่ะ

2 ครั้งที่ไปมา ก็ได้มาเยือนจังหวัดเดิมคือ ฟุกุชิมะ และได้มาเยือนช่วงฤดูกาลใบไม้เปลียนสี
แต่ครั้งที่สองของเรานี้ เดินทางเมื่อวันที่ 8 – 15 พฤศจิกายน 2561 ต่างจากครั้งแรกที่มาวันที่ 26 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน ปีก่อน
ซึ่งครั้งแรกที่เราได้มาเยือนฟุกุชิมะนั้น ยอมรับว่าพีคมากกกก สวยมากกกก ประทับใจมากและมีความรู้สึกว่าอยากกลับมาอีกครั้ง
และความฝันเราก็เป็นจริง แต่กว่าจะหาวันเวลาให้ลงตัวได้ ก็เลทไปกว่า 2 อาทิตย์จากเดิม 555 
และแล้วเราก็ได้มาเยือนอีกครั้งหนึ่ง กับฤดูกาลล่าใบไม้เปลี่ยนสีปีสอง ที่ฟุกุชิมะ

ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้เราไป 6 คืน ทริปนี้เน้น Road Trip ขับรถเที่ยวในจังหวัดนี้
สะดวกกว่ามาก เพราะอยากจอดที่ไหนก้ได้จอดตามใจเราเลย จะมีบางที่ที่เที่ยวซ้ำกับปีก่อนบ้าง
จึงเก็บภาพบรรยากาศมาฝากกันค่ะ ว่าฟุกุชิมะนั้น สวยงามทุกฤดูกาลจริงๆ แม้ตอนที่เราไปนั้นใบไม้จะเริ่มร่วงโรยลงแล้วก็ตาม
เพี้ยนออกทริป


เจอกันที่สนามบินนะ ทริปนี้เน้นๆตัวเบา เอ้ยเน้นเอาเสื้อผ้าเบาๆ ไปค่ะ อย่างขนเป็ดไรงี้ เพราะปีก่อนเราเอากระเป๋าลาก 29 นิ้วไป
สาหัสมาก ต้องลากขึ้นลงสถานีรถไฟหลายต่ออีก รอบนี้จึงคิดใหม่ เปลี่ยนกระเป๋าใบเล็กที่คล่องตัวกว่าใบเดียวพอ
เน้นๆ สรรพคุณกระเป๋าล้อลากที่ดีๆ ทริปก็ไม่สะดุดแล้ว เราเลือกกระเป๋าสีม่วงลาเวนเตอร์ ขนาด 24 นิ้ว เดินทางใบเดียว 
จากเพจ Moof49 Luggage กระเป๋าเดินทาง อุปกรณ์ท่องเที่ยว
เราไม่ได้เพิ่งมาใช้ทริปแรกนะ แต่เราผ่านการใช้งานจากทริปย่าติง จีนมาแล้วด้วยการลากระเป๋าตามทางเดินกว่า 2 กิโลเมตรมาล่ะ
สรุปว่า ผ่านค่ะ อิอิ พร้อมด้วยสายรัดสวยๆ ที่เป็นแบรนด์เราเองด้วย ทางร้านนี้รับทำหมดชอบเลย ขอบอกๆ
ทำให้ทริปนี้คล่องตัวกว่ามาก  

เรานั่งสายการบิน TG เวลา 23.45 น. ถึงสนามบินนาริตะ เวลา 07.20 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5.30 ชั่วโมง





ไม่พลาดทุการติดต่อข่าวสาร และเช็คเส้นทางกับ GPS  เราเลือกใช้พ็อคเก็จ WiFi จากเพจ Samurai Wifi by BS mobile

ที่มีออกโปรอย่างเร้าใจสำหรับใช้ที่ญี่ปุ่นเพียงวันละ 150 บาทเท่านั้น รับ-ส่งคืนเครื่องได้ที่ชั้น 4 สนามบินสุวรรณภูมิ ประตู 7 
ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สะดวกอย่างมาก ทริปนี้ก็ไหลลื่นได้แล้ว 
เพี้ยนขอใจแลกเบอร์





หลับต่อไม่รอแล้วนะ บินดึกขึ้นเครื่องแล้วหลับเลย ถึงสนามบินนาริตะ ตอนเช้าๆ
จากนั้นก็แลก JR Pass นั่งรถไฟ 3 ต่อเพื่อไปยังเมือง เมือง Aizu Wakamatsu 

เริ่มจาก ขบวนแรก คือใช้ JR Pass ที่ซื้อมาเดินทางสู่  東京駅 (Tokyo Station)
ต่อที่ 1 ใช้รถไฟด่วนพิเศษ NEX ( Narita Express ) เข้าสถานีโตเกียว ใช้เวลา 59 นาที





ต่อที่ 2 ต่อรถไฟความเร็วสูงที่ 東京駅 (Tokyo Station) ด้วย JR Tohoku Shinkansen ใช้เวลา 1:20 ชม. ลงสถานี Koriyama ค่ะ
ลงสถานีโคริยามะนี่แหละ แวะทานข้าวเช้า+เที่ยงกันก่อนเลย หิวแล้ว หน้าก็ยังไม่ได้ล้างด้วย 555
ปีก่อนยืนกินราเม็ง ปีนี้ขอมาหาร้านนั่งกินแบบสบายๆ หน่อย เป็นร้านซิลเลอร์มีไก่ย่างด้วย
อาหารกินได้หน่อย เพราะเราเป็นคนกินไรของตางชาติยากจริงๆ นะเออ

และต่อสุดท้าย นั่งรถไฟไปยังเมือง Aizu Wakamatsu จังหวัด Fukushima
 รถไฟสายสีน้ำตาล Ban-Etsu west Line เข้าสู่ปลายทางที่ Aizu Wakamatsu ใช้เวลา 1:14 ชม. ค่ะ

สรุปรวมเวลาในการเดินทางจากสนามบินนาริตะมายังเมือง Aizu Wakamatsu ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 5 ชั่วโมง
ออกมาจากชานชลาแล้ว ฟ้าเน่ามากกก เวลานั้นบ่ายสามแล้วค่ะ
โน่นเลย ที่พักของเราในคืนนี้  Toyoko inn ห่างจากสถานีรถไฟเพียงแค่ 200 เมตร สะดวกมาก ลากกระเป๋าได้สบายๆ





พอไปเช็คอินโรงแรมก็ยังเข้าพักไม่ได้เพราะที่นี่เปิดให้เช็คอินกันตอน 4 โมงเย็น โอ้วววว 
จากที่เราพักมาหลายโรงแรมแต่ละที่จะเปิดให้เช็คอินเวลาไม่เหมือนกันนะคะ ต้องสอบถามกันก่อน

เมื่อยังเช็คอินไม่ได้ จึงฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อบบี้แล้วออกไปเดินเล่นกันเหอะ
ข้างๆ โรงแรมจะมีสวนสาธารณะเล็กๆ อยู่ด้วย ไปกันๆๆ เห็นใบไม้สีสันมานิดนึง แต่ไม่ใช่ใบเมเปิ้ลนะ 555




เรียบๆ ง่ายๆ กับสวนสาธารณะเล็กๆ ในเมือง Aizu Wakamatsu
ทำให้เราลุ้นว่า ใบไม้เปลียนสีในเมืองเป็นแบบนี้ แล้วบนเขา
ที่เราจะไปกันในวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรน้าาา 



เมื่อฟ้าไม่เป็นใจในวันแรก ความจริงเราตั้งใจจะไปยังปราสาทนกกระเรียนอีกครั้งค่ะในวันแรก 
แต่ก็ยกเลิกไปเพราะเห็นว่าฟ้าไม่สวย ขอพักผ่อนกันดีกว่า เหนื่อยล้าจากการเดินทางมาเยอะแล้วด้วย 
มื้อค่ำวันแรก เราจึงฝากท้องไว้กับเซเว่นข้างๆ โรงแรม ของกินเพียบ อร่อยทุกครั้งเมื่อเข้าเซเว่น 555 

เพี้ยนดีออก

Day 2  10  Nov 2018

มื้อเช้าเราฝากท้องไว้ที่อาหารบฟเฟต์โรงแรมเลยค่า มีไลน์อาหารให้นิดหน่อย 
เราจะมารีวิวที่พักโรงแรมทั้งหมดในทริปนี้อีกครั้ง 1 ตอนให้ชมกันเลยนะคะ

ทริปนี้ของเราจะเน้นเป็น Road trip ขับสู่เส้นทางวนรอบ Yanaizu - Mishima - Kaneyama - Minamiaizu - Shimogou – Aizuwakamatsu 
โดยเช่ารถ โตโยต้า คันเล็กๆ จำนวน 5 วัน ค่าใช้จ่ายในการเช่ารถทั้งสิ้น 38,880 เยน 
ศูนย์เช่ารถจริงๆมีอยู่หลังโรงแรมด้วยแต่ไม่รู้ นี่เช่าจากเวปออนไลน์ล่วงหน้ามา
ห่างจากโรงแรมราวๆ 200 เมตรเดินไปรับรถได้สบายๆ 



จากนั้นรับรถแล้วขับมารับกระเป๋า เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมเลยค่า
ทริปนี้วนรอบย้ายที่นอนทุกคืน แต่ไมใช่ปัญหาอะไรเพราะการมีรถ คือสะดวกทุกสิ่ง
ยกเว้นต้องมาเก็บข้าวของย้ายที่ในแต่ละวันนี่แหละ 555




 วันนี้ขับรถเที่ยว เริ่มตั้งแต่ สวนสาธารณะระหว่างทาง เราเห็นสีสันใบไม้เปลียนสีต้นแปะก๊วยที่เด่นสง่ามาก
แต่ไมมีคนจอดรถกันที่นี่ คาดว่า ลมแรงหนาวหรือป่าวไม่รู้นะ ไม่มีคนเลยจริงๆ เราจึงไปจอดลงสำรวจกันค่ะ
ต้นใบแปะก๊วยที่นี่เตี้ยชนิดที่ทำให้เราไปยืนซุ่มเป็นฉากหลังได้อ่ะ คิดดูว่าเตี้ยแค่ไหน  555

อ่ะ เราให้ไป 1 ใบ




ข้างๆ ต้นใบแปะก๊วยที่เรายืนอยู่เป็นสวนเล็กๆ ที่มีรั้วรอบ ที่เต็มไปด้วยสีสันของต้นไม้ที่เปลี่ยนสี
ก็ยังไม่ใช่ใบเมเปิ้ลอ่ะนะ นี่เราตามล่าหาใบเมเปิ้ลหรอกเหรอเนี่ย แฮร่
แต่เห็นสีสันของการเปลียนสี ต้นนี้มีครบเลย ทั้งเขียว เหลือง ส้ม แดง





วันนี้ท้องฟ้าไม่เป็นใจอีกแล้วค่ะ นอกจากจะไม่เห็นพระอาทิตย์แล้ว ฝนยังตกอีกด้วย
ฝนตกไม่พอ ลมแถมมาด้วยนี่สิ โอ้ววว




เมื่อฝนตก ก็ไม่ใช่ปัญหาการท่องเที่ยวของเราไม เราก็ยังเดินทางกันต่อไปได้
ยังออกมายืนถ่ายภาพกลางถนนเล้กๆ ได้ด้วยเช่นกันค่ะ 555

พิกัดของเราคือ ทะเลสาปอินาวาชิโระ (猪苗代湖)
ระหว่างทางไปยังทะเลสาป เราได้ขึ้นมาบนเขาแล้ว มองเบื้องล่างเป็นเมือง Aizu Wakamatsu 




ระหว่างทางกับใบไม้เปลียนสีของบนภูเขา 
สองข้างทางจะเป็นสีส้ม แดง และไร้ใบสลับกันที่เรามาเจอในสภาพฝนตกปรอยๆ ด้วยเช่นกัน
อยากจอดที่ไหนก็จอดลงเก็บภาพเป็นที่ระลึกกันหน่อยคา 



ทะเลสาบอินาวาชิโระ (猪苗代湖) ที่ได้จัดอันดับว่าเป็น 10 สุดยอุดสถานที่ท่องเที่ยวใน “ฟุกุชิมะ” ที่ไม่ไปไม่ได้‼️
รอบๆ ทะเลสาป จะมีจุดชมวิว จุดแวะให้ถ่ายภาพตามจุด พร้อมที่จอดรถข้างทาง
ที่เขาทำไว้ให้อย่างดี แม้เวลานั้น ฝนตกเป็นระยๆ เราก็ยังขับรถวนไปดูเรื่อยๆ 

ทะเลสาบอินาวาชิโระ (猪苗代湖) ถ้ามาเยือนที่นี่เราแนะนำให้เช่ารถขับดีที่สุดค่ะ เพราะจุดชมวิว แต่ละจุดนั้นอยู่ห่างกันพอสมควร
แต่หากต้องการนั่งรถไฟมาก็ย่อมทำได้เหมือนกัน นั่นคือ นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Inawashiro (อินะวะชิโระ) จากนั้นก็นั่งรถบัส ราคา 450 เยน/คน/เที่ยว หรือนั่ง Taxi  จากหน้าสถานีไปยังหาดนากาฮามะ (Nagahama) ซึ่งเป็นจุดที่มีหงส์และเป็ดน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก 
จะราคาเที่ยวละประมาณ 2,800 เยน หารๆ กันหลายคนก็คุ้มล่ะ



บรรยากาศสองข้างทางกับนักท่องเที่ยวชาวญีปุ่น
เรามาเที่ยวที่เมืองนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเลย แทบจะเป็นศูนย์เลยก็ว่าได้
แนะนำ ช่วงเวลาที่เที่ยวทะเลสาปอินาวาชิโระ (猪苗代湖) ที่จะสวยที่สุด ก็คือ
ช่วงไร้ฝนคะ ตั้งแต่ เดือน พฤศจิกายน - เมษายน และเป็นช่วงที่หิมะตกด้วยนี่สิ สวยอลังการมาก
เราเจอรูปในกูเกิ้ลที่นี่ อย่างสวย ช่วยพาเราวาร์ปไปเวลานั้นหน่อยได้มั้ย 555





ทะเลสาปอินาวาชิโระ (猪苗代湖)  เป็นทะเลสาปน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศญี่ปุ่นค่ะ
 ตั้งอยู่บริเวณภูเขาบันได ซึ่งทะเลสาปแห่งนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟข้างๆ ภูเขาบันได ทำให้น้ำในทะเลสาบยังคงความเป็นกรดอ่อนๆ อยู่ 
แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ ว่าจะเป็นอันตรายต่อร่างกายรึเปล่า เพราะน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ค่ะ
ทะเลสาบแห่งนี้ยังมีปลาเล็กปลาน้อยอาศัยอยู่จำนวนมาก รวมทั้งน้ำสายนี้ยังเป็นหลักสำคัญในการชลประทานให้กับเมือง Aizu Wakamatsu อีกด้วย




นอกจากการเที่ยวชมทะเลสาบนี้แล้ว เรายังสามารถสนุกกับกิจกรรมได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกีฬาทางน้ำ เล่นเรือใบ ปั่นจักรยาน 
ปีนภูเขา หรือแม้แต่ในช่วงฤดูหนาวก็สามารถเล่นสกี และสโนว์บอร์ดได้ด้วย

 ทะเลสาบแห่งนี้ เราจะได้พบกับ ฝูงหงส์กว่า 3,000 ตัว ที่อพยพมาอยู่ทะเลสาบแห่งนี้ 
รวมทั้งสามารถเห็นภาพสะท้อนของภูเขาบันไดสะท้อนกับทะเลสาบ ทำให้ที่นี่เป็นที่รู้จักกันอีกชื่อว่า กระจกแห่งสวรรค์ ด้วยนั่นเอง

แต่ช่วงเวลาที่เราไปเยือน ก็เดือน พฤศจิกายนนะคะ  แต่ตอนเราไปนี่ นอกจากฝนตกฟ้าเน่าแล้ว 
เราไม่เจอฝูงหงส์อ่ะ แต่เราเจอแต่ฝูงเป็ด

งงในงงจริงๆ 🤣🤣

เพี้ยนเพลีย








มื้อเที่ยงวันนี้เรากินเลทหน่อย กินราเม็งชามละ 800 เยน
แถวๆ ทะเลสาบนี่แหละค่า ภายในร้านมีที่นั่ง ทั้งโต๊ะอาหารปกติ และโต๊ะแบบญี่ปุ่น


อาหารญี่ปุ่นเราไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร เพราะไม่แซ่บ แต่ชามนี้ทำไมไม่่รู้ กินเกือบหมด
ไม่แปลกใจเพราะเราหิวนัั่นเอง 555 ร้านอาหารที่นี่ มีน้ำชาร้อนๆ ฟรี และน้ำดื่มเย็นๆ ในกระติกฟรีอีกด้วย


แล้วเราก็เดินทางไปกันต่อ
💢 ทุ่งดอกไม้ #inawashiro สาวๆ กับดอกไม้นั้นคู่กั้น คู่กัน 🌼🌷🌻🌺



ไร่ดอกไม้สวยงามเหล่านี้ ตั้งอยู่ที่หน้าโรงแรมลิสเทลอินะวะชิโระ(Hotel Listel Inawashiro)

ปีนี้เป็นปีแรกที่ทางโรงแรมได้ปลูกทุ่งดอกไม้ขึ้นมาให้ทุกคนได้เข้าชมฟรีๆ 

ซึ่งอยู่ที่ช่วงเวลาด้วยนะคะว่า แต่ละช่วงเวลาที่ไปนั้นดอกไม้อะไรจะเติบโตเห็นได้ชัดเจน

ตอนที่เราไป ก็ไม่เจอ ทุ่ง kochia และดอก Cosmos นะคะ เพราะได้แห้งและเปลียนสีไปแล้ว

ดีที่ยังมีสีสันจากดอกไม้อื่นๆ อีกเพียบนี่สิ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวลงมาถ่ายภาพกันได้






📍พิกัด Inside Listel-Park, Kawageta, Inawashiro Town, Yama-gun, Fukushima 969-2696 JAPAN

การเดินทาง ลงสถานี Inawashiro จะมีบริการ Shuttle Bus ไป-กลับโรงแรม
Shuttle Bus จากสถานี Inawashiro ให้บริการตั้งแต่เวลา 09.15 – 17.30 น.
Shuttle Bus จากโรงแรม ให้บริการตั้งแต่เวลา 08.55 – 17.05 น.

ที่นี่บอกได้เลยว่า สาวๆ ที่รักดอกไม้และ สำหรับคนที่ชอบการถ่ายรูปกับดอกไม้ ต้องชอบ แบบเรานี่แหละ
สวยเหมือนดอกไม้เลยเห็นมั้ย ที่ได้ถ่ายภาพกันเพลินๆ  





สิ้นสุดพิกัดสุดท้าย ของการเดินทางวันที่ 2 ด้วยการไปเซอร์เวย์ 🍁โกชิคินุมะ (Goshiki-numa) หรือ บึงน้ำ 5 สี 
ที่พักคืนนี่ของเราอยู่ตรงข้ามบึง 5 สีด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นทำเลที่ดีมาก โรงแรมเล็กๆ ห้องกว้างและสวยมากด้วย 
ชื่อ IL Regalo | Ktashiobara-mura

บึง 5 สีในช่วงแสงเย็น ในช่วงที่ใบไม้ร่วงหล่น และในช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวน้อยลง




บึง 5 สี ที่ไม่ได้เน้นแต่สีสันของใบไม้เปลี่ยนสี และบึงน้ำสีสดใสเท่านั้น แต่ข้างๆ บึง 5 สีนั้นมีสวนสาธารณะเล็กๆ
ให้เราได้เดินเล่น ให้เราได้นั่งพัก ให้เราได้ถ่ายรูป ณ จุดนี้ ก่อนฟ้าจะมืดมิดกลับเข้าที่พัก
และได้ลุ้นกันอีกวันค่ะว่า ฟุกุชิมะ วันที่ 3 ของเราจะสดใสเพียงใด



ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ

Create Date :05 ธันวาคม 2561 Last Update :5 ธันวาคม 2561 22:44:52 น. Counter : 2282 Pageviews. Comments :22