คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น








แอปเปิลเปิดตัว iPad Air 2 พร้อมฟีเจอร์ความสามารถที่ครบครัน ด้วยหน้าจอเรตินาความละเอียด 2K พร้อมรองรับ Apple Pay ด้วยฟีเจอร์เด่น Touch ID อันลือลั่น อัดแน่นด้วยฟีเจอร์การถ่ายภาพทั้งภาพนิ่งและวิดีโอด้วยคุณสมบัติป้องกันการสั่นไหว และฟีเจอร์ HDR ช่วยเพิ่มความคมชัดให้ภาพได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยราคาเปิดตัวเริ่มต้น 499 เหรียญสหรัฐ เริ่มเปิดจองในสหรัฐ 17 ตุลาคมนี้ และวางจำหน่ายจริงในสัปดาห์ถัดไป พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัว Mini iPad3, iMac with Retina Display และ Mac mini รุ่นใหม่และเผยตัวชุดพัฒนาสำหรับแอปเปิล ว็อตช์ ตลอดจนความน่าสนใจของ iOS8 ในคราวนี้อีกด้วย

       งานเปิดตัวเริ่มต้นด้วยการปรากฏตัวของ ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิล บนเวที ที่กล่าวถึงความก้าวหน้าในเทคโนโลยีระบบจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ชื่อว่า Apple Pay ที่คาดว่าจะเริ่มใช้งานได้จริงในวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม 2557 ที่สหรัฐอเมริกา ด้วยการใช้งานที่ง่าย ปลอดภัย และมีความเป็นส่วนตัวสูงในการใช้จ่าย โดยมีธนาคารเข้าร่วมกว่า 500 แห่งทั่วโลก ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การจ่ายเงินเพียงการสัมผัสเดียว ไม่ต้องใช้หมายเลขเครดิตการ์ด ไม่ต้องพิมพ์ที่อยู่ และไม่ต้องส่งข้อมูลสำคัญของเครดิตการ์ดให้ร้านค้า

       ด้านแอปเปิล ว็อตช์ ซึ่งเริ่มปรากฏให้เห็นรายละเอียดชัดเจนมากขึ้นในนิตยสารของประเทศจีน โดยคาดจะพร้อมออกวางจำหน่ายในช่วงปี 2015 นี้อย่างแน่นอน ขณะที่ชุดพัฒนา SDK Apple Watch จะเริ่มปล่อยในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้

*** iOS8 ไม่ธรรมดา

       ทั้งนี้สถิติผู้ใช้ไอโอเอสระหว่างปี 2013 ถึงปี 2014 นี้มีผู้ใช้ iOS7 อยู่ราว 46% และใช้ iOS8 อยู่ราว 48% ที่เหลือเป็น IOS อื่นๆ อีก 6% เท่านั้น โดยสถิติการติดตั้งหลังจากปล่อยให้ดาวน์โหลด ช่วงปี 2013 ใช้เวลาการเปลี่ยนผ่านทั้งหมด 313 วัน ขณะที่ปี 2014 ใช้เวลาการติดตั้งทั้งหมดเพียง 26 วันเท่านั้น นับว่ามีความรวดเร็วในการเปลี่ยนผ่านมากขึ้น สะท้อนให้เห็นความน่าสนใจในตัว iOS รุ่นใหม่

ด้วยประสิทธิภาพของ iOS8 ที่รองรับการใช้งานด้านโปรแกรมสุขภาพที่ดีกว่า มีการเรียกใช้ทรัพยากรของเครื่องที่ดีกว่าเดิม ตลอดจนได้รับการยืนยันจาก John Ponzo ผู้เชี่ยวชาญจากไอบีเอ็มว่า “ภาษา Swift มีประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างไม่น่าเชื่อและง่ายในการใช้งานเป็นอย่างมาก ช่วยให้ทีมนักพัฒนากว่าพันชีวิตของเขา มีพลังในการสร้างแอปพลิเคชันใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้จะเป็นเครื่องมือสู่การเปลี่ยนผ่านองค์กรธุรกิจรูปแบบใหม่มากขึ้น”

       โดยใน iOS8.1 ได้รับการพัฒนาให้การจัดการด้านภาพและวิดีโอมีขนาดและความละเอียดในการส่งต่อตามต้นฉบับมากขึ้น และยังเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บบน iCloud ให้ 5GB แรกฟรี และสามารถซื้อเพิ่มได้ในราคา 0.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือนสำหรับ 20GB และ 3.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน สำหรับ 200GB และมีพร้อมให้บริการได้สูงสุดอีกกว่า 1TB ต่อ 1 ไอดี

*** OSX ตัวใหม่ล่าสุด Yosemite พร้อมแล้ว

       และยังกล่าวถึง OSX ตัวใหม่ล่าสุด Yosemite ที่สามารถจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถเพิ่มการใช้งานเบราว์เซอร์ได้นานขึ้นกว่า 2 ชั่วโมง เพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงผลภาพได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ขณะที่ iCloud Drive ยังสามารถใช้งานได้บนทุก iOS ตอบสนองการใช้งานได้ในทุกอุปกรณ์ ตลอดจนรองรับการโทรศัพท์ผ่าน OSX โดยเปิดให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้ฟรี นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

*** เริ่มเปิดตัว iPad รุ่นใหม่แล้ว

       นับตั้งแต่อดีต แอปเปิลมียอดขาย iPad ไปแล้วทั่วโลกกว่า 225 ล้านเครื่อง โดยมีแอปพลิเคชันที่เข้ามารองรับการใช้งาน iPad แล้วมากกว่า 675,000 แอปพลิเคชัน

และไอแพดรุ่นใหม่ของวันนี้ที่ชื่อว่า Ipad Air 2 ก็มาพร้อมความบางเพียง 6.1 มิลลิเมตร บางลงจากเดิม 18% และเป็นแท็บเล็ตที่บางที่สุดในปัจจุบันและหนักเพียง 437 กรัม ด้วยนวัตกรรมภายในใหม่ช่วยลดแสงสะท้อนได้น้อยลงกว่า 56% ด้วยสารเคลือบชนิดพิเศษ และลดช่องว่างระหว่างระบบสัมผัสและหน้าจอลง ช่วยตอบสนองการสั่งงานผ่านหน้าจอได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น และเพิ่มสีสันที่ดีขึ้นบนจอภาพขนาด 9.7 นิ้ว ความละเอียด 2K ขนาด 2,048x1,536 พิกเซล ความหนาแน่นของพิกเซลกว่า 264 พิกเซลต่อนิ้ว ทรงประสิทธิภาพด้วยชิป A8X สถาปัตยกรรมแบบ 64 บิตรุ่นที่ 2 ที่รวบรวมทรานซิสเตอร์ไว้ประมวลผลกว่า 3 ล้านชิ้น ช่วยเพิ่มความเร็วให้หน่วยประมวลผล (CPU) มากขึ้นกว่าเดิม 40% และเพิ่มประสิทธิภาพให้หน่วยประมวลผลภาพ (GPU) ขึ้นกว่า 2.5 เท่า

       ภายในยังติดตั้ง Track Motion เพื่อการใช้งานที่ครบครัน ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพให้ Calibrates Sensor ให้สามารถตอบสนองการสัมผัสได้ดียิ่งขึ้น และยังเพิ่มระบบเข็มทิศ Barometer เพื่อตอบรับการใช้งานระบบแผนที่และการนำทาง ขณะที่การใช้งานแบตเตอรี่ยังสามารถใช้งานได้กว่า 10 ชั่วโมง ด้วยผลจากการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

       ด้านการถ่ายภาพ IPad Air 2 มาพร้อมกล้องขนาด 8 ล้านพิกเซลแบบ iSight เทคโนโลยีใหม่ของการถ่ายภาพ ชนิดเดียวกับที่ติดตั้งอยู่ในไอโฟน 5s โดยมีเซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้นกว่า 15% เมื่อเทียบกับ iPhone 5 แต่จำนวนพิกเซลยังเท่าเดิม ทำให้ตัวรับแสงของแต่ละพิกเซลในเซนเซอร์ใหญ่ขึ้น สามารถรับแสงได้ดีขึ้นถึง 33% โดยจำนวนพิกเซลที่อยู่ภายในเซ็นเซอร์มีขนาด 1.12 ไมครอน ขนาดรูรับแสงกว้างถึง f.2.4 รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด FullHD (1080p) พร้อมฟีเจอร์การถ่ายภาพพาโนรามาขนาดใหญ่ได้ถึง 43 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอแบบเร็วและสโลว์โมชันได้ มีการพัฒนาระบบการจับภาพใบหน้าที่ดีขึ้น พร้อมเพิ่มระบบป้องกันการสั่นไหวขณะถ่ายภาพเซลฟีในตัว และฟีเจอร์การถ่ายภาพย้อนแสง (HDR) สำหรับการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอให้มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น

ประสิทธิภาพการเชื่อมต่อไวไฟที่มากขึ้น ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม 2.8 เท่า เพิ่มความเร็วได้มากกว่า 866 MB ต่อวินาที และรองรับการใช้งาน 4G และที่สำคัญ iPad Air 2 ยังมีระบบ Touch ID ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น รองรับการใช้งาน Apple Pay แบบสั่งซื้อออนไลน์ได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังรองรับการแต่งภาพผ่าน iPad Air 2 ได้ทันที และสามารถทำสไลด์วิดีโอด้วยแอปพลิเคชัน Replay เวอร์ชันใหม่ที่ติดตั้งมาภายในเครื่องได้อย่างสวยงาม โดย Replay เวอร์ชันใหม่จะเปิดให้ดาวน์โหลดให้ลูกค้าทั่วไปได้ใช้งานในช่วงเดือนตุลาคมนี้

       ทั้งนี้ ภาพรวมของ iPad Air 2 ที่ได้รับการพัฒนามากขึ้นกว่าเดิมมีให้เห็นนับตั้งแต่ จอเรตินาที่มีการแสดงผลที่สวยงามมากยิ่งขึ้น ด้วยประสิทธิภาพของชิป A8X เจเนอเรชันที่ 2 แบบ 64 บิต พร้อมเทคโนโลยีกล้องรุ่นใหม่อย่าง iSight และ FaceTime Cameras ประสิทธิภาพของไวเลสที่รับ-ส่งข้อมูลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมระบบ Touch ID ที่มีอยู่ใน iPhone 5s

โดยราคาเปิดตัว iPad Air 2 รุ่นไวไฟจะอยู่อยู่ที่ 16GB ราคา 499เหรียญสหรัฐ, 64GB ราคา 599 เหรียญสหรัฐ และ 128GB ราคา 699 เหรียญสหรัฐ ขณะที่รุ่น ไวไฟและเซลลูลาร์จะอยู่อยู่ที่ 16GB ราคา 629 เหรียญสหรัฐ, 64GB ราคา 729 เหรียญสหรัฐ และ 128GB ราคา 829 เหรียญสหรัฐ เริ่มเปิดสั่งจองในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ในสหรัฐฯ และวางจำหน่ายจริงในสัปดาห์ถัดไป

**** เปิดตัว Mini iPad3

       Mini iPad3 มาพร้อมคุณสมบัติจอเรตินาที่มีการแสดงผลที่สวยงามมากยิ่งขึ้นขนาด 7.9 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยีกล้องรุ่นใหม่อย่าง iSight และ FaceTime Cameras ขนาด 5 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ FullHD 1080 พิกเซลและสามารถ FaceTime ด้วยความละเอียดระดับ HD พร้อมประสิทธิภาพของไวเลสที่รับ-ส่งข้อมูลได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี 802.11n ชนิด MIMO พร้อมระบบ Touch ID เช่นเดียวกับที่มีอยู่ใน iPad Air 2 เช่นกัน โดยราคาเริ่มต้นเครื่องไวไฟอยู่ที่ 399 เหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ Mini iPad 3 จะเริ่มเปิดให้สั่งจองได้ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ในสหรัฐอเมริกาและอีกหลายๆ ประเทศ ก่อนจะวางจำหน่ายจริงในอีกสัปดาห์ถัดไป

*** iMac with Retina Display พร้อมวางจำหน่ายแล้ว

       iMac with Retina Display มาพร้อมจอความละเอียดที่มากที่สุดในโลกขนาด 5K ด้วยความละเอียด 5,120x2,880 พิกเซล ขนาด 27 นิ้ว ละเอียดมากกว่า HD ถึง 7 เท่า ประหยัดไฟเพิ่มขึ้น 30% ทรงพลังด้วยประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผล intel core i5 ความเร็วนาฬิกา 3.5 GHz อัปเกรดเพิ่มได้สูงสุดเป็น Core i7 4GHz พร้อมการ์ดจอ REDEON R9 Graphic ประสิทธิภาพเยี่ยม และรองรับพอร์ต Thunderbolt2 ช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว

ด้วยราคาเปิดตัวขนาดจอ 21.5 นิ้ว เริ่มต้นที่ 1,099 เหรียญสหรัฐ ขนาดจอ 27 นิ้ว เริ่มต้นที่ 1,799 เหรียญสหรัฐ และขนาดจอ 27 นิ้ว แบบเรตินาเริ่มต้นที่ 2,499 เหรียญสหรัฐ โดยเริ่มวางจำหน่ายทันทีวันนี้

*** เปิดตัว Mac mini รุ่นใหม่ เล็กสุดประหยัดจริง

       Mac mini รุ่นใหม่ มาพร้อมหน่วยประมวลผลรุ่นที่ 4 จากอินเทล Intel Core Processsors พร้อม Intel Iris และหน่วยประมวลผลภาพแบบ HD Graphics 5000 รวดเร็วด้วยหน่วยความจำแบบ PCle- based flash storage รองรับการใช้งานไวไฟ 802.11 ac มีพอร์ต Thunderbolt 2 พอร์ต ประหยัดพลังงานมากที่สุดสำหรับการใช้งานแบบคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โดยราคาเริ่มต้นที่ 499 เหรียญสหรัฐ เริ่มเปิดขายแล้ววันนี้

Company Related Link :
Apple