ความยิ่งใหญ่อลังการของ ภูเขาหิมะมังกรหยก
อารมณ์ของการเดินทางท่องเที่ยวประเทศจีนของ ตะลอนเที่ยว ยังไม่จบลง หลังจากที่เราได้เดินทางไปเยือนเมืองต้าลี่กันมาแล้ว เรายังขอออกเดินทางไปสัมผัสกับอีกหนึ่งเมืองโบราณที่มีชื่อเสียงก้องโลก นามว่า
ลี่เจียง (Lijiang) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาทางตอนเหนือของต้าลี่ ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ยาวนานกว่า 800 ปี และเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชนเผ่าหน่าซี (Naxi) ที่อพยพมาจากทิเบต
นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับการเดินชมเมืองเก่าซู่เหอ
แม้ว่าลี่เจียงจะเป็นเพียงเมืองเล็กๆ แต่ว่าที่นี่กลับมีเสน่ห์อันงดงาม ไม่ว่าจะด้วยเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมเฉพาะถิ่นอันมีเอกลักษณ์ โดยมีโครงสร้างทางสังคมผู้หญิงมีความเป็นใหญ่ มีภาษาภาพสัญลักษณ์ (ตงปา) เป็นของตัวเองใช้ด้วย และมีเมืองเก่าลี่เจียงที่ได้รับการอนุรักษ์ ดูแลซึ่งสถาปัตยกรรมแบบจีนไว้อย่างเป็นดี จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปีค.ศ. 1997 จากองค์การยูเนสโก
ชาวบ้านที่เมืองเก่าซู่เหอทำเครื่องเงินขาย
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นแรงจูงใจให้เราต้องขอมาเยือนเมืองลี่เจียง และมาสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันงดงามที่มีอยู่แต่ก่อนที่เราจะมุ่งหน้าไปเที่ยวเมืองเก่าลี่เจียงกัน ขอแวะเที่ยวชม
เมืองเก่าซู่เหอ ที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองลี่เจียงไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 4 กม. เป็นหนึ่งในเขตเมืองเก่าของเมืองลี่เจียงที่น่าสนใจ
แม้ว่าเมืองเก่าซู่เหอจะไม่ได้ใหญ่โตและคึกคักเหมือนเมืองเก่าลี่เจียง แต่ที่นี่ก็มีลักษณะบ้านเรือนสไตล์จีนโบราณที่สวยงามให้ได้ยล มีรูปแบบการปลูกสร้างแบบมีธารน้ำไหลผ่านหน้าบ้าน เราสามารถเดินชมเมืองได้โดยรอบ หรือถ้าใครกลัวเมื่อยก็มีรถม้าให้ได้นั่งชมเมืองแบบสบายๆ หรือจะลองขี่ม้าชมเมืองก็ได้ และยังมีจักรยานให้บริการปั่นเที่ยวชมเมืองกันด้วย
นั่งรถม้าชมเมืองเก่าซู่เหอแบบสบายๆ
ภายในเมืองเก่าซู่เห่อ ดูเงียบสงบดี ไม่พลุกพล่านมากนัก เรียกว่าได้เพลินเพลิดกับการเดินชมบ้านเรือนโบราณเก๋ๆ ที่แต่ละร้านถูกดัดแปลงเป็นร้านค้าขายของไปกันหมด มีทั้งร้านขายเสื้อผ้า ขายของที่ระลึก รวมถึงยังจะได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านออกมานั่งทำเครื่องเงินขายให้กับนักท่องเที่ยว และถ้าใครเกิดหิวขึ้นมา ก็มีชาวบ้านนำผลไม้สดๆ และอาหารการกินแบบพื้นบ้านมาวางขายให้ได้ลองลิ้มรสกันด้วย
บรรยากาศอันงดงามภายในสวนธารณะสระน้ำมังกรดำ
หลังจากได้เดินเที่ยวเมืองเก่าซู่เหอแบบพอหอมปากหอมคอกันแล้ว เราอออกเดินทางไปชมความงามของธรรมชาติกันสักหน่อย โดยมากันที่ สระน้ำมังกรดำ เป็นที่เที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเก่าลี่เจียงมากนัก เหตุที่เรียกที่นี่ว่าสระน้ำมังกรดำ ก็เพราะมีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อหลายร้อยปีก่อน ที่นี่ยังเป็นเพียงบ่อน้ำธรรมดา แต่อยู่มาวันหนึ่งชาวบ้านเห็นมังกรดำโผล่ขึ้นมาจากบ่อน้ำ ซึ่งชาวหน่าซีมีความเชื่อเรื่องมังกรอยู่แล้ว จึงตั้งชื่อบ่อน้ำแห่งนี้ว่า สระน้ำมังกรดำ
ทัศนียภาพความรื่นรมย์ของสระน้ำมังกรดำ
และที่นี่ก็เป็นสวนสาธารณะอันรื่นรมย์ชวนเดินชมธรรมชาติสวยๆ มีสระน้ำขนาดใหญ่ ที่มีน้ำใสสะอาด ถ้าหากวันไหนฟ้าเปิดสดใส จะได้เห็นภาพของภูเขาหิมะมังกรหยกที่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแห่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของลี่เจียง สะท้อนภาพลงบนสระน้ำสวยงามมาก
แต่ว่าวันที่เรามานั้นฟ้าไม่เปิดเป็นใจสักเท่าไหร่ ทำให้ไม่ ได้เห็นภาพสะท้อนของภูเขาหิมะมังกรหยกอันงดงามที่ว่านั้น แต่ทว่าการได้เดินเล่นเพลินๆ ชมบรรยากาศของสวยสวยๆ ที่มากมายไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้นานาพันธุ์ ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายๆ มีสถาปัตยกรรมสไตล์จีนสวยๆ ให้ได้ชม มีสะพานหินให้ได้เดินข้ามไปชมศาลากลางน้ำ ชมเก๋งจีนสวยๆ เพียงแค่นี้ก็รู้สึกสดชื่นใจแล้ว
กังหันวิดน้ำ สัญลักษณ์โดดเด่นตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าเมืองเก่าลี่เจียง
จากนั้นเราเดินออกจากสระน้ำมังกรดำ แล้วเดินเลาะเลียบมาตามทางเดินอันร่มรื่น ที่มีลำธารเล็กๆ ไหลเอื่อยมาตลอดทาง เพียงไม่นานเราก็พาตัวเองเข้ามาสู่เขต
เมืองเก่าลี่เจียง หรือ
เมืองโบราณต้าเอี้ยนเจิ้น กันแล้ว ซึ่งด้านหน้าจะมีกังหันวิดน้ำขนาดใหญ่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่า เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองเก่าลี่เจียง
บรรยากาศภายในเมืองโบราณลี่เจียงคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว
ตะลอนเที่ยว ออกตะลุยทัวร์เมืองโบราณอันกว้างใหญ่ และดูคึกคักไปด้วยเหล่านักท่องเที่ยวจำนวนมาก ที่พากันมาเดินชมเองโบราณลี่เจียงกันอย่างสนุกสนาน เพราะภายในเมืองเก่าลี่เจียงนั้นงดงามไปด้วยสถาปัตยกรรมบ้านเรือนสไตล์จีนเก่าแก่ที่หาชมได้ยาก และได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี บางหลังเหมือนกับโรงเตี้ยมโบราณที่เราเคยเห็นตามหนังจีนย้อนยุค
เส้นทางเดินชมเมืองเก่าลี่เจียง เมื่อมองลงไปจะเห็นหลังคาบ้านจำนวนมาก
บ้านเรือนส่วนใหญ่ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายมาเป็นร้านค้าขายของมากมาย มีสินค้าพื้นเมืองสารพัดอย่างให้ได้เดินเลือกซื้อกันอย่างเพลิดเพลิน ไม่ว่าจะเป็นผ้าทอสวยๆ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องเงิน ของฝากของที่ระลึกต่างๆ มากมาย รวมถึงยังมีบ้านเก่าที่ถูกดัดแปลงตกแต่งให้เป็นเกสต์เฮ้าส์เก๋ๆ ให้ได้เลือกพัก บ้างก็ดัดแปลงเป็นร้านอาหารสวยๆ เชื้อเชิญให้เราเข้าไปนั่งดื่มกินอาหารพื้นเมืองกัน
ภายในเมืองโบราณลี่เจียงจะมีลำธารเล็กๆ มีน้ำใสสะอาด
เราค่อยๆ เดินเข้าไปเมืองเก่าลี่เจียงเรื่อยๆยิ่งเดินเข้าไปลึกๆ ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงเมืองโบราณที่มีเอกลักษณ์และมีความสวยงาม เราเดินไปตามทางเดินที่ปูด้วยหินอัดแน่น และเดินไต่ระดับขึ้นเขาไปเรื่อยๆ เดินชมอาคารไม้แบบจีนโบราณเก๋ๆ ที่ดูเก่าแก่และมีมนต์ขลัง และเมื่อมองย้อนลงไปก็จะได้เห็นหลังคาบ้านเรือนจำนวนมากเรียงรายซ้อนกันอยู่อย่างหนาแน่นเป็นภาพที่ดูงดงามไม่ใช่น้อย
ภายในเมืองเก่าลี่เจียงนี้จะมีตรอกซอกซอยจำนวนมาก เป็นที่ตั้งของบ้านเรือนโบราณสวยๆ ให้เราได้เดินเข้าไปชมและได้ถ่ายภาพกันอย่างเพลิดเพลิน ตามตรอกเล็กๆ เป็นที่ตั้งของบ้านเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมลำธารสายเล็กๆ ที่มีสายน้ำใสสะอาดไหลผ่านบ้านเรือนอยู่โดยรอบ มีสะพานหินพาดผ่าน ซึ่งสายน้ำจากลำธารนี้เป็นเหมือนสิ่งหล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของชาวเมืองลี่เจียงมาแต่ครั้งโบราณ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงหล่อเลี้ยงเมืองเก่าลี่เจียงให้มีชีวิตชีวา และดูงดงามเป็นอย่างมาก
ยามค่ำคืนของเมืองเก่าลี่เจียง คึกคักไปด้วยร้านอาหารที่ชวนนั่งดื่มกิน
เราใช้เวลาเดินชมเมืองเก่าลี่เจียงแบบไม่รีบร้อน ค่อยๆ เดินซึมซับบรรยากาศเมืองโบราณสวยๆ และเดินชอปซื้อของไปเรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลิน เรียกว่าอยู่ในเมืองเก่าลี่เจียงกันจนพลบค่ำ ทำให้ได้เห็นอีกหนึ่งบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองเก่าลี่เจียงที่คึกคัก และมีสีสันเป็นอย่างมาก เพราะว่ามีร้านอาหารที่นำเอาบ้านเก่าสวยๆ มาดัดแปลงเป็นร้านอาหารเก๋ๆ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามากินดื่ม นั่งฟังเพลง ร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน เป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักเที่ยวยามราตรีเป็นยิ่งนัก
ตะลอนเที่ยว สนุกกับการเดินชมเมืองเก่าลี่เจียงจนหมดแรง ก็ต้องรีบกลับมาพักผ่อนที่โรงแรม ซึ่งเราต้องนอนให้เพียงพอ เพราะพรุ่งนี้เราจะไปท้าความหนาว พิชิตภูเขาหิมะมังกรหยกกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์ ที่ถ้ามาถึงลี่เจียงแล้วต้องไม่พลาดไปเที่ยวด้วยประการทั้งปวง
การแสดงโชว์ IMPRESSION LIJAING อลังการตระการตา
เช้าวันใหม่เราตื่นมาด้วยความสดชื่น เพราะที่นี่อากาศดีมาก หลังจากเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี กับเสื้อผ้ากันหนาวที่ต้องใส่ให้ความอบอุ่นแก่รางกายเต็มที่ เพราะว่าเราจะเดินทางไปสัมผัสหิมะที่
ภูเขาหิมะมังกรหยก หรือ
อวี้หลงเซี่ยซาน ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเก่าลี่เจียงกัน ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลี่เจียง ที่ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็จะสามารถมองเห็นภูเขาหิมะมังกรหยก ที่ประกอบไปด้วยยอดเขา 13 ยอด ตั้งตระหง่านสูงเด่นเห็นได้แต่ไกล ทอดตัวยาวคล้ายมังกรกำลังเลื้อย และบนยอดเขาจะมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดทั้งปี สีขาวของหิมะที่ปกคลุมอยู่นั้นดูราวกับหยกขาว ตัดกับสีน้ำเงินของท้องฟ้าอันสดใส ทำให้ดูเหมือนกับมังกรขาวบนฟากฟ้า จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อ ภูเขาหิมะมังกรหยก
แต่ก่อนที่เราจะไปพิชิตภูเขาหิมะมังกรหยกกันที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เราได้มาชมการแสดงโชว์กันก่อน เป็นโชว์ที่มีชื่อว่า
IMPRESSION LIJAING ซึ่งได้จางอวี้โหมว ผู้กำกับฝีมือเยี่ยมมีชื่อเสียงก้องโลกเป็นผู้กำกับการแสดง โดยจางอวี้โหมว ได้เนรมิตเวทีการแสดงกลางแจ้งขึ้นมา โดยมีภูเขาหิมะมังกรหยกอันยิ่งใหญ่เป็นฉากหลัง การแสดงนี้ใช้นักแสดงซึ่งเป็นชาวบ้านกว่า 600 ชีวิต มาโชว์ร้อง เต้น เล่น พร้อมแสง สี เสียง และการแต่งกายแบบสวยงาม ซึ่งเนื้อหาของการแสดงเป็นการเล่าให้ได้รับรู้ถึงเรื่องราวชีวิต ความเป็นอยู่ ของชนเผ่าต่างๆ ในเมืองลี่เจียง ถือว่าเป็นโชว์ที่ดูตระการตาดี
ภูเขาหิมะมังกรหยก มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี
หลังจากชมโชว์เสร็จก็ได้เวลาพิชิตยอดเขาหิมะมังกรหยกกันแล้ว การขึ้นสู่ยอดเขานั้นเราต้องนั่งกระเช้าใหญ่ขึ้นไป กระเช้าค่อยๆ ไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ฝ่าลมหนาวขึ้นไปแบบช้าๆ ตลอดเส้นทางที่กระเช้าขึ้นไป ก็จะได้เห็นทัศนียภาพมุมสูงอันงดงาม ได้เห็นหิมะ เห็นธารน้ำแข็งที่อยู่บนเทือกเขาสวยงามมากๆ
กระทั่งเมื่อกระเช้ามาถึงยังจุดชมวิวบนยอดเขา ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 4,506 ม. เราก็ออกจากกระเช้า ความหนาวก็มาปะทะร่างกายทันที ด้านบนยอดเขานี้มีอากาศที่หนาวเย็นมาก มีอุณหภูมิต่ำเลขตัวเดียวหรือถึงกับติดลบ และมีภาวะอากาศและออกซิเจนเบาบางกว่าปกติ
นักท่องเที่ยวสนุกสนานกับการเล่นสไลด์เดอร์หิมะ
ฉะนั้นเมื่ออยู่บนเขาหิมะแห่งนี้ เราต้องเคลื่อนไหวช้าๆ ไม่วิ่ง เพราะว่าออกซิเจนเบาบางมาก อาจทำให้เรารู้สึกมึนหัว ปวดหัว หายใจติดขัดได้ ซึ่งเป็นอาการที่อาจเกิดได้กับทุกคน ที่เมื่อต้องขึ้นมาอยู่บนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลมากๆ แนะนำว่าให้จิบน้ำบ่อยๆ อมลูกหวานๆ กินช็อกโกแลตเพื่อเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย หรือจะเตรียมออกซิเจนกระป๋องไว้คอยสูดดมเพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกายกันก็ได้
ตะลอนเที่ยว ถึงกับตกตะลึงเมื่อได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของภูเขาหิมะมังกรหยกที่ตั้งตระหง่านสูงใหญ่อยู่เบื้องหน้า มันทำให้เราแทบจะลืมความหนาวไปชั่วขณะจิต เพราะว่าความสวยงามของขุนเขาอันกว้างใหญ่ที่แสนจะอลังการ งดงามด้วยหิมะสีขาวที่ปกคลุมไปทั่วทั้งขุนเขา มันช่างเป็นภาพที่งดงามจับตาจับใจจริงๆ
ภูเขาหิมะมังกรหยก มีหิมะให้ได้สัมผัสกัน
การเดินเที่ยวภูเขาหิมะนี้ จะมีเส้นทางเดินทำเป็นสะพานไม้ๆ เลาะเลียบขึ้นไปบนภูเขา ให้เราค่อยๆ เดินไต่ระดับท้าความหนาว และความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งจะมีความสูงเป็นลำดับให้เดินขึ้นไป ตั้งแต่ 4,506 ม./ 4,571 ม. / 4,680 ม. ซึ่งตรงจุดนี้เป็นระดับสุดท้ายที่เราสามารถขึ้นไปชมวิวได้ แต่ที่จริงแล้วจุดสูงสุดของยอดเขามีความสูงถึง 5,596 ม. จากระดับน้ำทะเล
บนยอดเขาหิมะนี้เราสามารถเดินชมความสวยงามของภูเขาหิมะมังกรหยกได้ตามใจ แต่ต้องเดินไปตามสะพานไม้ที่จัดทำไว้ให้ จะมีบางจุดที่สามารถลงไปเดิน และสัมผัสหิมะขาวๆ กันได้อย่างใกล้ชิด หรือจะเล่นสไลด์เดอร์หิมะอย่างสนุกสนานก็ได้ (ถ้าเป็นช่วงต้นปีที่หิมะตกสามารถเล่นสกีหิมะกันได้เลย)
ตะลอนเที่ยว ใช้เวลาเดินเที่ยวท้าความหนาว ได้สัมผัสหิมะจริงๆ ได้ยืนชมทัศนียภาพของขุนเขาอันยิ่งใหญ่ ได้เห็นถึงความสวยงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์และงดงาม เพียงเท่านี้เราก็ต้องขอขอบคุณธรรมชาติจากใจจริง ที่ได้มอบสิ่งสวยงาม และสร้างความสุขให้กับเราทั้งกายและทางใจเป็นที่สุด ซึ่งเราก็ขอเก็บภาพความงดงามทั้งหมดของเมือง
ลี่เจียง นี้ไว้ในห้วงแห่งความทรงจำที่ดีตลอดไป
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * การเดินทางมายังเมืองลี่เจียง สามารถเดินทางมาได้โดยการนั่งเครื่องบินมาลงที่คุนหมิง แล้วนั่งสายการบินภายในประเทศ บินมาลงยังเมืองลี่เจียง ซึ่งสายการบินแอร์เอเชียมีให้บริการเที่ยวบิน ตรงจากกรุงเทพฯ-คุนหมิง 1 เที่ยวบินต่อวัน ทุกวัน สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.airasia.com โทร. 0-2515-9999 * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
//www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000052575