Film Genre ตระกูลของหนัง
Genre(อ่านว่า ฌอง-ร่า) เป็นคำภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ชนิด หรือ ลักษณะ ซึ่งก็หมายถึงการกำหนดคำเรียกให้กับชนิดของศิลปะแต่ละประเภท ซึ่งมองได้อย่างไม่มีขอบเขต ทั้งในแง่การวัดจาก เวลาและสถานที่(Setting), อารมณ์ที่สื่อออกมา(Mood), หรือแม้แต่รูปแบบการนำเสนอ(Format) นับเป็นคำที่มีความสำคัญในการกำหนดกลุ่มผู้เสพงานศิลปะ จนถึงขั้นสร้างตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมายนั้น เช่น คอหนังแอ๊คชั่น, ขาร็อค, วรรณกรรมโรแมนติค, หรือผู้ชื่นชอบงานศิลปะประเภทจิตรกรรม เป้นต้น
Shane และ Unforgiven หนังคาวบอยที่มีความโดดเด่นแตกต่างกัน
ในทางภาพยนตร์แต่แรกเริ่ม เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดถึงความไร้ขอบเขตของ Genre จากเดิมที่ไม่มีมีการแบ่งประเภทมากมายอะไร ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีคำเรียกประเภทหนังต่างๆ มากมาย เช่น โรแมนติค คอเมดี้(When Harry Met Sally, Notting Hill) เพื่อสื่ออารมณ์ถึงหนังรักที่มีอารมณ์ขันปนมากับเรื่อง, หนัง Western หรือ หนังคาวบอย(Shane, Unforgiven) กับหนังที่กำหนดเนื้อเรื่องที่กำหนดฉากและสถานที่ในยุคบุกเบิกตะวันตก, หนังเพลง หรือ Muiscal(Moulin Rouge, Cabaret, Singing in The Rain) ในหนังที่ดนตรี การเต้นรำและการร้องเพลง มีส่วนผสมผสานไปกับการเล่าเรื่อง เป็นต้น ซึ่งสามารถดูข้อมูลหนังประเภทอื่นๆได้จาก ที่นี่
ปัจจุบัน Genre หนังแต่ละประเภทได้มีการบิด หรือ หลอมรวมเข้าด้วยกัน(Hybrid)ค่อนข้างมาก เนื่องจากความคิดสร้างสรรค์ทางศิลปะได้ถูกคิดค้นมาร่วม 100 ปีแล้ว หนังสมัยใหม่ซึ่งความจริงก็ถูกจำกัดด้วยการตลาด และไม่สามารถหาทางสร้างความแปลกใหม่ได้อีกต่อไป การนำเสนอประเภทหนังแนวใหม่ถือเป็นเรื่องที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ดังที่เห็นได้จากคำว่าหนัง Action ซึ่งแท้จริงแล้วจุดเริ่มต้นก็มาจากหนังคาวบอย ที่มีปริมาณการต่อสู้ หรือฉากแอ๊คชั่นมากหน่อย ก็เพื่อเน้นบ่งบอกถึงส่วนสำคัญนั้นให้ผู้ที่อยากดูฉากเหล่านั้นเห็นภาพ และที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันสามารถนำไปรวมเรียกปนกับหนังกำลังภายใน(Martial Art) หรือหนังสงคราม(War Film)ที่มีฉากต่อสู้ปริมาณมากได้ ...หรือบางครั้งก็เป็นการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มคนดูก็สามารถถูกจัดเป็นประเภทหนังใหม่ได้ เช่น หนังของคนผิวดำ ที่มักเป็นหนังตลก ที่เล่นโดยคนผิวดำเป็นหลัก อาศัยมุขตลกหรือนำเสนอวัฒนธรรมของคนผิวดำในอเมริกา นอกจากนี้ยังเป้นความพยายามแหวกการเล่าเรื่องแบบเก่าๆ ให้เกิดความแปลกใหม่ เช่น หนังล้อเลียนสารคดี(Mocumentary เช่น This is a Spinal Tap, Waiting for Guffman) ที่ผสมผสานระหว่างเรื่องจริงและเรื่องแต่งเพื่อหลอกคนดู หรือเพื่อสร้างความสนุกสนานแบบใหม่ๆ
เมื่อพูดถึงการจำแนกภาพยนตร์ตามตระกูล ซึ่งเป็นการวิจารณ์หนังในอีกรูปแบบหนึ่ง ต้องพึ่ง Genre อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงและขอให้ลืมการมองหนังตามรูปแบบที่ผมได้เคยกล่าวอ้างไว้ก่อนหน้านี้ทั้ง 3 ประเภท เนื่องจากนันเป็นการมองหนังในเชิงศิลปะบริสุทธิ์ แต่ปัจจุบันหนังได้มีเรื่องการตลาดเข้ามาปะปนอยู่มาก ซึ่งการจัดประเภทหนังนั้นก็ถือเป็นการตลาดอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธได้(เช่นที่กลุ่ม Dogme 95 ได้ตั้งข้อห้ามกำหนด Genre เพื่อไม่ให้ถูกใช้ทางการตลาด) อย่างไรก็ตามสำหรับการวิจารณ์ข้อดีของมันคือการสามารถนำไปเปรียบเทียบกับหนังในตระกูลเดียวกัน ว่ามีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันอย่างไร เมื่อเทียบกับมาตรฐานของหนังดีในตระกูลนี้ และที่สำคัญกว่านั้นคือมีความสดใหม่ไม่ซ้ำซากในแนวทางของมัน และสร้างเอกลักษณ์ให้กับตัวหนังได้มากน้อยแค่ไหน เช่น Godsend หนังซึ่งมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กที่อาจเป็นปีศาจซึ่งสร้างความหายนะให้กับผู้เป็นพ่อแม่ เป็นแนวหนังสยองขวัญ ก็มักถูกเปรียบกับหนังเรื่อง The Omen ที่เป็นหนังเนื้อเรื่องแบบเดียวกัน ที่สร้างก่อนและประสบความสำเร็จได้รับการยกย่องในแง่ของการสร้างความสะพรึงกลัวแกคนดู หรือ Shane หนังคาวบอยคลาสสิคของ จอร์จ สตีเว่นส์ ซึ่งไม่อาจเปรียบเทียบกับหนังคาวบอยยุคใหม่อย่าง Unforgiven ของ คลิ้นท์ อีสต์วู้ด เนื่องจากให้ภาพวิลเลี่ยม มันนี่ คาวบอยที่มืดดำตรงกันข้ามกับ เชน ตัวละครเอกในหนังเรื่องนั้นชนิดที่เรียกได้ว่าเป็น Anti-Hero แต่อาจอ้างอิงด้วยการมองจากหนังคาวบอยสปาเก็ตตี้ ซึ่งสร้างในยุคหลัง และสร้างชื่อโดย แซร์โจ้ เลโอเน่ ซึ่งน่าจะเป็นการได้รับอิทธิพลอย่างเห็นได้ชัดของ อีสต์วู้ด ที่เป็นผู้แสดงนำอยู่หลายเรื่อง เป็นต้น
Create Date : 01 สิงหาคม 2548 |
|
4 comments |
Last Update : 1 สิงหาคม 2548 21:44:07 น. |
Counter : 1950 Pageviews. |
|
|
|
แต่ก็น้อยกว่าแนวเพลงสมัยนี้ล่ะค่ะ เยอะจนเวียนหัว