Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
1 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
เก็บตกเรื่องไร้สาระจาก Bangkok Film Festival 2552

งานเทศกาลภาพยนตร์เป็นของคู่กันกับนักดูหนังไปแล้ว หากคุณไม่นับรวมว่าสมัยนี้เริ่มหาโหลดหนัง และซื้อหนังแผ่นผีได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน

ย้อนไปเมื่อช่วง 8-9 ปีก่อน ที่ผมเริ่มเข้ากรุงเทพฯ เทศกาลหนังเหล่านี้ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิต อาจจะดูปีละเรื่อง สองเรื่อง และก็มากขึ้นตามตัว ตามความอยาก จนในที่สุดเมื่อทำงานกับนิตยสารภาพยนตร์เล็กๆ ก็เลยได้โอกาส "ดูฟรี" ในฐานะสื่อมวลชน ผมซื้อตั๋วอยู่เรื่อยๆ เพราะต้องพาแฟนมาดูด้วยหลายๆ เรื่อง ไม่อย่างนั้นชีวิตผมจะหมกอยู่แต่โรงภาพยนตร์ และโลกของเราอาจไกลห่างกันออกไป

อย่างไรก็ตามเมื่อปลีกตัวมาจากนั้น เมื่อปีที่แล้วหลังได้มาทำงานที่ใหม่ ผมยังแวะเวียนไปเทศกาลหนังเหล่านี้ ดูน้อยเรื่องลง และมายืนในตำแหน่งของคนดูหนังขาจรทั่วไปมากขึ้น

ปีนี้ก็เช่นกันสำหรับเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ หรือ Bangkok Film Festival ปี 2552 ซึ่งผมนับแล้วได้ดูแค่ 6 เรื่องเท่านั้น(เดี๋ยวจะนำมาเล่าตอนหลัง)

ต่อไปนี้คือข้อสังเกตไร้สาระส่วนใหญ่เกี่ยวกับการไปเทศกาลครั้งนี้

- วันเสาร์ที่เริ่มทำการดู (วันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นวันเปิด ฉายเพียงเรื่องเดียวคือหนังเปิดเทศกาล ที่ผมไม่มีโอกาสดู และวันศุกร์ติดงาน) ผมเข้าช้าไปประมาณ 5-10 นาที เนื่องจากงมหาที่ขายบัตร Voucher อยู่นานในพารากอน ซีเนเพล็กซ์ แต่สารภาพว่าไม่รู้จริงๆ จนเมื่อมีพนักงานประกาศจุดขายบัตร แต่ประโยคแรกที่เมื่อเดินไปขอซื้อคือ "อ๋อ ! พี่ซื้ออีกที่ก็ได้ครับ(ที่ไหนก็ไม่ทราบ) โอเค...(ทำมือห้ามไม่ให้เดิน) ซื้อตรงนี้ก็ได้" หลังจากซื้อเสร็จ ก็ต้องรอเงินทอนอีกประมาณ 5 นาที

เท่านั้นยังไม่พอระหว่างเข้าคิวซื้อบัตร ซึ่งพารากอนเปลี่ยนร่างพนักงานให้กลายเป็นตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ ทำให้ช้ายังไม่พอ มีลูกค้าท่านหนึ่งเกิดสงสัยถามเรื่องสิทธิพิเศษของบัตรอะไรสักอย่างว่าคุ้มค่าหรือไม่ พนักงานท่านก็อธิบายต่อโดยไม่เห็นใจคนซื้อเลยสักนิด

พอมาซื้อบัตรยิ่งช้าไปอีก เมื่อพนักงานขายไม่รู้ว่า Voucher สำหรับงานเทศกาลต้องเลือกตัวไหน มันสั่ง Print ไม่ได้

แต่เอาเถอะครับ ถือว่าเป็นความผิดของผมกึ่งหนึ่งที่ไปจวนเจียนเวลาจะฉาย

- อ้อ วันเดียวกันนี้ยังเป็นวันที่ห้างเซนทรัล เวิลด์ มีจัดมีตติ้งดาราเกาหลีสักคน(ใครไม่ทราบ เดาว่า ลี จุนกิ) คนเยอะกว่ามางานเทศกาลนี้รวมกันเสียอีกแน่ะ

- Voucher หรือบัตรส่วนลดพิเศษในงานเทศกาลภาพยนตร์ปีนี้ตลกมาก โรงพารากอน ซีเนเพล็กซ์ ขายอย่าง (500 บาท 6 ใบ) โรง SF World ขายอย่าง (900 บาท 10 ใบ) ว่ากันซื่อๆ สร้างบัตรส่วนลดแบบนี้ขาจรส่วนใหญ่ที่มาดูคนเดียวคิดจะมาซื้อก็หมดสิทธิ์ เพราะเท่ากับว่าถ้าคุณอยากจะได้ส่วนลดจากหนังที่ฉายทั้งสองโรง ต้องดูหนัง 16 เรื่อง !

นับเป็นข้อเสียที่แตกต่างจากบัตรส่วนลดทุกปีที่เห็นได้ชัด นอกเหนือจากปัญหาการฉายโรงที่เหมือนๆ จะใกล้ แต่ลองเดินทางแล้วก็เหนื่อยเอาการระหว่าง ห้างพารากอน และเซ็นทรัลเวิลด์

- Maid ในห้องน้ำห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ต้องพูดขณะมีคนเข้าใช้ว่า "สวัสดีค่ะ เซ็นทรัลเวิลด์ยินดีให้บริการค่ะ" ไม่ทราบว่าใครเป็นคนอบรมให้พวกเธอต้องพูดแบบนั้น งานก็หนักอยู่แล้ว ยังต้องโดนบังคับให้ทำอะไรเหมือนหุ่นยนต์ และที่นี่มันห้องน้ำชายนะครับ จะให้บริการอะไร ?

- รอบที่ผมไปดูเรื่อง Shirin หนังอิหร่าน ของผู้กำกับ อับบาส เคียรอสตามี่ หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องกึ่งทดลองด้วยการจับภาพผู้หญิง 14 คนที่ดูอยู่ตัดสลับกันระหว่างดูหนังเรื่องเดียวกัน โดยไม่มีการจับภาพไปในฉากอื่นๆ เป็นเวลา 90 นาที แต่รอบที่ผมดูก็ยังอุตส่าห์มีท่านที่เอาป๊อปคอร์น กับน้ำดื่มมากดูไปกินไป (มีเขย่าน้ำด้วยแน่ะ) แลกๆ ก็ไม่คิดอะไร แต่ท่าทางพี่ท่านเบื่อครับ หนังดูยากครับ เลยกดมือถือสว่างโร่อยู่นานสองนาน(5 นาทีได้) สุดท้ายขอเถิบหนีโลด

- ส่วนตัวเล็กน้อย Eccentricities of a Blond Hair Girl หนังอีกเรื่องที่ตีตั๋วไปชม ป้าฝรั่งคนที่นั่งด้านข้าง กลิ่นปากแรงมากกก ยาดมยังเอาไม่อยู่

- วันแรกหรือวันเสาร์ที่ไปชม งดตั้งโหมดชมหนังต่อเนื่อง เนื่องจากต้องไปทำธุระให้ภรรยาแถววัดเสมียนโน่น

- Antichrist หนึ่งในหนังที่แรงที่สุดของเทศกาล มีฉากโหดและสยอง หลอน ติดตาหลายฉาก คนดูเต็มโรง แถมพอหนังจบระหว่างเดินออกจากโรงทุกคนคุยหัวเราะกันอย่างออกรสออกชาติ ดูแล้วให้บรรยากาศเหนือจริงมาก(แต่ความเป็นจริงเข้าใจได้ว่าคล้ายๆ การดูหนังสยองขวัญ หรือเล่นรถไฟเหาะนั่นแหละ)

- ระหว่างฉาย Antichrist บางฉากภาพมันเลื่อนจากเฟรมด้วยแน่ะ(ท่าทางจะเฮี้ยนจัดจนเกิดอาถรรพณ์) กว่าจะกลับเข้าที่ได้ก็นานพอดู เดาได้สองกรณีว่าคนฉายไม่ทันสังเกตเพราะหายไป หรือเห็นแล้วแต่แก้ปัญหาไม่ได้ต้องไปตามคนอื่นมาแก้ เพราะเห็นเวลาเกิดปัญหานี้ในโรงมัลติเพล็กซ์ทีไร จะแก้ช้าอยู่บ่อยๆ

- A Prophet หนังเด่นอีกเรื่องประจำเทศกาล คนเต็มโรงทุกที่ ผมนั่งแถวหน้าสุดจริงๆ แต่พอหนังเรื่องถัดมา I Killed My Mother เต็มมากกว่า เพราะแม้แต่บันไดทางเดินก็มีคนมานั่งดู บทตัวหนังเรื่องที่ดังคนมันจะเยอะ ก็เยอะจริงๆ ครับ บทเรื่องไหนจะน้อยก็น้อยจนน่าใจหาย

- น่าเสียดาย หนังแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผมไม่ได้ดูเลย (เสียดายจริงๆ)

- ช่วงที่ไปชม ฝนตกหนัก เนื่องจากพายุเข้า สยามน้ำท่วมเจิ่งนองจนเบื่อกันไปข้าง

- วันจันทร์ตั้งใจว่าจะไปชมตอนเย็น ฝนตกหนัก เป็นหวัด และเมื่อวานมีเรื่องเครียดๆ ให้ปวดขมอง เลยขอพักหนึ่งวัน

- วันอังคารไปชมอีกเรื่องคือ Dogtooth ซึ่งนับเป็นหนังต่อจาก Antichrist ที่มีการตรวจบัตรเนื่องจากได้เรต 20+ และโรงภาพยนตร์ทำดีครับที่มีการถามคนซื้อก่อน และตรวจบัตรก่อนเข้าชม นับเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับการริเริ่มทำ

- หนังสือพิมพ์ประจำเทศกาลปีนี้ จัดอาร์ตเวิร์คสวยดี เนื้อหาก็ฉีกออกมาพอสมควร เพราะมีแนะนำกันแบบจริงๆ จังๆ (ไม่ได้สักแต่ชมกันท่าเดียว) ถือว่าทำได้ดีจากปีก่อนๆ ที่เรามักเห็นการถ่ายภาพจากหนัง หรือไม่ก็คนในงานแบบซ้ำๆ ซะเยอะ รวมถึงเนื้อหาที่เน้นพึ่ง Q&A อยู่เสมอ

- แรกๆ โรงพารากอนซีเนเพล็กซ์ โฆษณาน้อยกว่า SF World ผิดคาดครับเพราะปรกติก็รู้กันว่าที่นี่โฆษณานานเป็นชาติ แต่หลังๆ กลับเพิ่มโฆษณาแถมซะงั้น

- โฆษณาปิดมือถือ หลินห้อย ของ SF World ตลกครับ แต่มันไม่ได้ช่วยสื่อให้คนอยากปิดมือถือเล้ย

- เทศกาลภาพยนตร์ปีนี้ มีคำบรรยายไทยทุกเรื่อง จากที่ตนเองดูมาแปลดีกว่าปีก่อนๆ และใช้วิธีให้คนควบคุมมีที่นั่งของตนเองเปิดจากโน้ตบุ๊ค ซึ่งดีกว่าเดิมที่นำ LCD มาตั้งกลางโรง นับเป็นการปรับปรุงที่ดียิ่งขึ้นเช่นกัน


Create Date : 01 ตุลาคม 2552
Last Update : 1 ตุลาคม 2552 18:02:16 น. 7 comments
Counter : 1572 Pageviews.

 
ปีนี้ดูไป 8 เรื่อง เลือกดูแต่ที่ SFW เพราะความที่จอดรถสะดวก แล้วก็ชอบเดินเซนทรัลเวิลด์มากกว่า

บ่น1 - พวกมั่วที่นั่ง ไม่เจอแค่ 2 เรื่อง (เรื่องไม่ฮิต) เพราะเลือกที่นั่งริมทางเดินทุกเรื่อง กะว่าเข้าช้าหน่อย ขี้เีกียจดูโฆษณา จะได้ไม่ลำบากคนอื่น ปรากฏว่ามันต้องมีคนมานั่งแทนที่สิน่ะ พอเข้าไปอ้างสิทธิ์ก็ทำมึนๆ เดินไปนั่งที่อื่น หรือนั่งกับพื้นไป มีอยู่รอบนึง ประทับใจมาก คุณผู้ชายที่นั่งข้างๆ ช่วยด่าไล่หลังให้ด้วย "หน้าด้าน มานั่งอยู่ได้ตั้งนาน ที่ตัวเองก็ไม่ใช่!" เย้!!! ได้ใจมากฮ่ะคุณพี่ ขอบพระคุณอย่างสูง

บ่น2 - ไม่ชอบโฆษณาหลินห้อย+หลินปลอม ดูแล้วรำคาญอ่ะ ไม่ขำด้วย ขออันเดิมที่คุยโทรศัพท์กันหงึกหงักนั่นดีกว่านะ

บ่น3 - พนักงานไม่ค่อยใส่ใจกับการฉายเลย เจอหนังเลื่อนครึ่งจอไป 4 เรื่อง คิดว่าพอเริ่มฉายปุ๊บก็เห็นแล้วนี่นาว่ามันตรงมั้ย ทำไมไม่รีบจัดการฟะ

ชม - subtitle จัดว่าโอเคมากๆ


โดย: jimkong วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:18:38:20 น.  

 
^
^
ทฤษฎีที่ผมว่านั่นแหละ ใช่เลยครับ เรื่องหลุดเฟรม


โดย: yuttipung วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:18:48:34 น.  

 
ห่างไกลจากโรงหนังมากว่า 2 ปี (ตามอายุลูกสาว)
แต่ก่อนหน้านั้นก็อดทน อดกลั้น กับการไปดูหนังที่โรงพอสมควร

หนังเทศกาลเป็นวาระที่อยากไปดูที่สุด อย่างน้อยก็เหมือนคนใจเดียวกัน ไปดูหนัง แบบดูหนังจริงๆ ไม่ได้ไปกินป๊อบคอร์นกับคุยโทรศัพท์

เนื่องจากห่างจากเทศกาลหนังและโรงหนังไปนาน จึงมาอ่านเพื่อเก็บบรรยากาศของความเป็นโรงหนังที่บล็อคค่ะ

ปอลอ จะบอกว่าแม้แต่คุยเรื่องโฆษณาในโรงหนังเนี่ย เค้าก็อ่านด้วยความยินดีนะ เพราะไม่รู้แล้วว่าเดี๋ยวนี้มีโฆษณาอะไรบ้าง (เห็นมั้ยว่าชีวิตห่างโรงหนังจริงๆ)


โดย: Shallow Grave วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:19:08:28 น.  

 
ห่างโรงหนังมาสิบปี (จริง) ถ้าใครทำงานหนักต้องผ่อนอะไรต่ออะไรที่จำเป็น ปัจจัยสี่+5 จะรู้รสนี้แบบผม....
เดี๋ยวนี้ทำได้แค่ตามซื้อหนังแผ่นดูทำได้ดีที่สุดในสิ่งที่รักมาแต่วัยรุ่น .....


โดย: RageMachine วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:20:33:24 น.  

 
คุณ Shallow Grave - แต่ที่เทศกาลสมัยนี้คนที่มากินป๊อปคอร์น คุยโทรศัพท์มือถือ หรือคุยกันเสียงดังก็มีหมดครับ

เรื่องลูก ผมก็ตั้งใจว่าถ้ามีก็คงต้องเลิกอาชีพเขียนเกี่ยวกับหนังไปเลยครับ

คุณ RageMachine - ต่อไปผมก็คงต้องทำอย่างนั้นเหมือนกันครับ เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่มีภาระมากขึ้นตามชีวิต ตอนนี้ก็ใกล้แล้วล่ะ


โดย: yuttipung IP: 125.24.104.126 วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:12:14:01 น.  

 
ชะตา ไม่ค่อยสมพงษ์กับเทศกาลหนังเอาซะเลยครับ

แต่ว่าได้ Anti-Christ มาแล้ว เหลือแต่ว่าจะกล้าดูเมื่อไหร่...


โดย: trufa วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:0:05:21 น.  

 
^
^
^
เปิดดูเลยครับ เดี๋ยวก็กล้าดูเอง ผมว่ามีฉากแรงๆ จริงๆ อยู่ 4-5 ฉาก แถมฉากที่แรงที่สุด 1 ฉาก ลาร์ส ฟอนทริเยร์ เขามีด้านที่นุ่มนวล และหดหู่รวมๆ กันครับ หนังของเขาไม่ได้เย็นชามากหลังจากดูจบ

ขนาดแฟนผมไม่ได้รับรู้เรื่องราวอะไรเลยก่อนไปดู ก็สามารถดูจบได้นะ โดยไม่ได้เดินออกจากโรง


โดย: yuttipung IP: 202.176.160.144 วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:0:16:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yuttipung
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เป็นคนไม่เป็นโล้เป็นพายคนหนึ่งที่ติดอินเตอรเน็ต จนได้งานพอประทังเลี้ยงชีพ Blog นี้มอบให้แก่หญิงสาวที่ให้กำลังใจสำหรับความฝันอันริบหรี่ของผมมาตลอด ปัจจุบันเรียนโทจบแล้ว ทำงานหลายที่ หลักๆ ตอนนี้เพิ่งเริ่มเป็น Webmaster นิตยสารแห่งหนึ่ง ส่วนงานพิเศษคือลงข่าว และข้อมูลหนัง ดูแลเว็บให้กับ Popcornmag กับ เครือข่ายคนดูหนัง และเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ให้กับ Filmax

Friends' blogs
[Add yuttipung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.