"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 

บันทึกของผู้เฒ่า

 

เปิดใจนักเขียนชรา

เจียวต้าย


ตั้งใจจะเขียนบันทึกถึงชีวิตการเขียนหนังสือของตนเองอีกครั้ง ในวันอาสาฬหบูชา ๒๒ ก.ค.๕๖ ในหัวข้อที่ว่า จงมีความอุตสาหะว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรไป แม้จะมองไม่เห็นฝั่งเลยก็ตาม เป็นคติธรรมจากนิทานชาดก เรื่องทศชาติ ตอน พระชนก
ในขณะที่เขียนในกระทู้ เวปพันทิป ก็มีผู้สนใจเข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นแทรกเป็นระยะ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรคงตอบไปให้อยู่ในแนวทางที่ผมตั้งใจจะเขียน จึงเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ปรากฏในงานเขียนของผมในเวปพันทิป แค่คิดว่าจะเอาไปพิมพ์รวมเล่มได้ จึงคัดแยกตัวเนื้อเรื่องออกมาจากกระทู้ ให้เป็นเรื่อง เปิดใจนักเขียนชรา

แรกทีเดียวอยากให้ชื่อว่านักเขียนเฒ่า ดูขึงขังเหมือนพรานเฒ่า กลาสีเฒ่า หรือ เสือเฒ่า ซึ่งดูเหมือนเป็นผู้คงแก่เรียน หรือเชี่ยวชาญในวิชาสาชาของตน ซึ่งเรื่องของผมเป็นเพียงนักเขียนเล็ก ๆ คนหนึ่ง ที่เขียนหนังสือมาตั้งแต่วัยรุ่น จนเข้าสู่วัยชรา โดยไม่มีชื่อเสียงเด่นดังให้ใครยกย่องนับถือ นอกจากความเก๋าที่อยู่มาได้ด้วยความอดทน เยี่ยงพระชนกที่อุตสาหะว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรไป แม้จะไม่แลเห็นฝั่ง เท่านั้น

๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖ วันอาสาฬหบูชา (๑)

วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชา วันพระใหญ่วันหนึ่ง ในสี่วันของรอบปี คือ

๑. กุมภาพันธ์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ มาฆบูชา

๒. พฤษภาคม ชึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ วิสาขบูชา

๓. กรกฎาคม ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ อาสาฬหบูชา

๔. แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ (กรกฎาคม) เข้าพรรษา

วันนี้เป็นวันเสาร์ เคยไปทำบุญที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ ปากเกร็ด นนทบุรี เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๕
มาอย่างสม่ำเสมอแทบไม่เคยขาด แต่ปีนี้ไปไม่ไหวเสียแล้ว เพราะเดินไม่ไหว ระยะทางจากริมถนนปากทางเข้าวัด ถึงสถานที่ประกอบกิจกรรมในวันพระเกือบสุดอาณาเขตของวัด ขาเข้าก็พอไหว ขากลับหลังเพลมากินอาหารกลางวัน และรอขึ้นรถกลับบ้าน อยากจะลงไปนั่งกองอยู่บนขอบทางเท้า จึงกราบลาท่านหลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุ ตั้งแต่ปีที่แล้ว ขอไปทำบุญที่วัดใกล้บ้านแทน

วันนี้เดิมตั้งใจว่าจะไปตัดผมที่ร้านปากตรอกวัดราชาธิวาสก่อนไปวัดอินทรวิหาร ตั้งแต่เมื่อวาน แต่ลงจากรถแท็กซี่แล้ว จึงรู้ว่าร้านนี้เขาก็หยุด ๔ วันติดต่อกันเหมือนทางราชการ จึงตัดสินใจเดินไปจนถึงหน้าองค์หลวงพ่อโต การตัดสินใจทำบุญวันอาสาฬหบุชาปีนี้ ที่วัดอินทรวิหาร
เมื่อวาน ๒๒ ก.ค.๕๖ นั้น ก็ได้บรจาคเงินเป็นกองทุนบูรณะหลวงพ่อโตเป็นจำนวน ๔๐๐ บาท โดยใส่ชื่อ พ่อ แม่ ตนเอง และผู้มีพระคุณซึ่งล่วงลับไปแล้ว คนละ ๑๐๐ บาท และเก็บในอนุโมทนาไว้ พอถึงรอบที่ไปบริจาคเงินบำรุง มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง ก็นวมเผาไฟอธิษฐานส่งกุศลให้แก่ท่านทั้งสามทุกครั้ง ตามธรรมเนียมจีน ไม่ว่าจะถึงหรือไม่ถึงก็พอใจว่าได้ทำแล้ว

เมื่อวันก่อน เพื่อนในคลับไร้สังกัด ได้พูดถึงตวามพยายามที่จะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้สำเร็จ โดยไม่ละทิ้ง แม้ว่าจะมองไม่เห็นความสำเร็จเลย ซึ่งเป็นคติธรรมจากชาดกเรื่องพระชนก
ผมก็เป็นอีกคนที่ยึดมั่นในคติธรรมนี้มาตั้งแต่ยังไม่รู้จัดชาดกเรื่องทศชาติ ซึ่งถือว่าเป็นตำนานของพระพุทธเจ้าสิบชาติสุดท้าย ก่อนที่จะมาเกิดเป็นเจ้าชายสิทธัทถะ

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่สำคัญมากในชีวิตของผม

เมื่อต้องลาออกจากโรงเรียนมัธยมวัดราชาธิวาส ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๘๙ เพราะสอบตกชั้น ม.๖ และไม่มีค่าเทอมจะเรียนซ้ำชั้น

ขณะนั้นถือว่าชีวิตของผมอยู่ในขั้นต่ำสุด ต้องเลี้ยงชีวิตและครอบครัว ซึ่งมีแม่คนเดียว เพราะท่านผู้มีพระคุณได้เอาน้องหญิงไปอุปการะแล้ว ผมอดทนที่จะทำงานด้วยการทำขนมถ้วยตะไลขาย แทนการเรียนหนังสือ ได้กำไรจากการขายขนมวันหนึ่งเพียงพอแค่ค่าข้าวปลาอาหารในวันหนึ่งเท่านั้น ผมก็อดทนทำไปโดยไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

จนกระทั่งญาติอีกคนหนึ่งเป็นทหารขนส่งยศ ร้อยโท ทราบข่าว จึงมาพาไปสม้ครเข้าทำงานเป็นลูกจ้างใช้แรงงานของกรมพาหนะทหารบก ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น กรมการขนส่งทหารบก และทำงานระดับชุดดินดายหญ้า ขนย้ายอุปกรณ์อะหลั่ยรถยนต์ จากที่หลบภัยทางอากาศ ต่างจังหวัดมาเก็บไว้ในคลัง พน.๓ ครงข้ามวัดแก้วฟ้าจุฬามณี เกียกกาย บางซื่อ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

งานนั้นหนักมากแต่ยังไม่เกินกำลังของเด็กหนุ่มอายุเข้า ๑๕ ปีจะทำได้ แต่เจ้านายเวทนา เพราะตัวเล็กนิดเดียว น้ำหนักเพียง ๕๐ ก.ก. เผอิญเจ้านายเวทนาจึงเรียกไปทำงานเป็นภารโรง และเดินรับส่งหนังสือในปีต่อมา จนได้เปลี่ยนสภาพจากลูกจ้าง เป็นข้าราชการวิสามัญ ชั้นจัตวา ติดขีดเดียวขมวดเหลี่ยมที่อินทรธนูบนบ่า ท่านร้อยโทผู้นั้นก็กรุณาให้เงินมาตัดเครื่องแบบแต่งไปทำงานหนึ่งชุด จึงได้เปลี่ยนสภาพเป็นเสมียนเต็มตัว

เป็นเสมียนของ กองคลัง อยู่ได้สองสามปี ก็เปลี่ยนเป็นเสมียนร้านสหกรณ์กรมพาหนะทหารบกอีกสองสามปี ก็มีอายุ ๒๑ ปีบริบูรณ์ ครบกำหนดต้องไปรับการตรวจคัดเลือก เพื่อเข้ากองประจำการ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าเกณฑ์ทหาร

ขณะนั้นแม่ป่วยเป็นวัณโรคอาการหนักมาก จึงขอผ่อนผันในฐานะลูกชายคนเดียวที่ดูแลแม่ เมื่อได้รับอนุมัติก็ได้บวชหนึ่งพรรษา ตั้งแต่ ก.ค.-ต.ค.๒๔๙๕ ลาสิกขาสึกออกมาได้สามเดือน ถึงธันวาคม แม่ก็ตายอย่างว้าเหว่กับผมสองคนแม่ลูก.

(ยังมีต่อ)
 

 

 

โดย: เจียวต้าย (เจียวต้าย ) 2 สิงหาคม 2556 17:07:12 น.




 

Create Date : 02 สิงหาคม 2556
9 comments
Last Update : 2 สิงหาคม 2556 20:34:57 น.
Counter : 598 Pageviews.

 

ขอบพระคุณพี่ปู่มากค่ะ

นาถแก้ไขนิดหน่อย เติมบ้างเล็กน้อยนะคะ แต่มีที่หนึ่ง สุดจะเข้าใจได้ เลยลบออกไปก่อน พี่ปู่กรุณาดูตาม แล้วนาถ จะแก้ไขให้ใหม่นะคะ

นาถแบ่งบรรทัดอีกนิด จะได้อ่านกันสบายๆ นะคะพี่ปู่


"งานนั้นหนักมากแต่ยังไม่เกินกำลังของเด็กหนุ่มอายุเข้า ๑๕ ปีจะทำได้ แต่เจ้านายเวทนา เพราะตัวเล็กนิดเดียว น้ำหนักเพียง ๕๐ ก.ก. เผอิญเข่สยสบเวทนาจึงเรียกไปทำงานเป็น..."

หลังจาก ๕๐ ก.ก. ค่ะ

นาถเลยตัดออก เป็นแบบนี้ค่ะ

"งานนั้นหนักมากแต่ยังไม่เกินกำลังของเด็กหนุ่มอายุเข้า ๑๕ ปีจะทำได้ แต่เจ้านายเวทนา เพราะตัวเล็กนิดเดียว น้ำหนักเพียง ๕๐ ก.ก. เผอิญเขาเวทนาจึงเรียกไปทำงานเป็นภารโรง ..."


เมื่อไรจะลืมสักทีหนอ ที่มันขมๆ
แทนที่จะเอาสนุกๆ ในที่ทำงานมาเล่าบ้้าง พี่ปู่ห่อศักดิ์ขา

 

โดย: นาถศรี (sirivinit ) 2 สิงหาคม 2556 19:41:56 น.  

 

คุณลุง เขียนที่พันทิปแล้ว คัดลอกมาไว้ที่ห้องนี้อีกหนึ่งครั้งนะคะ บางทีพวกหนูก็ไม่ค่อยสะดวกเข้าในพันทิป ถือว่าเก็บบันทึกไว้อีกที่หนึ่ง ห้องนี้เป็นพื้นที่ของคุณลุงอยู่แล้วค่ะ พี่นาถเปิดบ้านรอตลอดค่ะ...

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 2 สิงหาคม 2556 19:46:14 น.  

 

น้องหนูน่ารักมาก
ขอบคุณนะคะคนเก่ง

พื้นที่นี้ ของพี่ปู่ห่อศักดิ์ค่ะ

 

โดย: นาถศรี (sirivinit ) 2 สิงหาคม 2556 19:48:22 น.  

 

.............เผอิญเจ้านายเวทนา...........

คุณนาถตัดต่อใหม่ก็ดีแล้วนี่ครับ
เรื่องในที่ทำงานไม่มีสนุกสนานเฮฮาเลยครับ
พอมีอยู่ในวงเหล้าบ้างก็ลืมหมดแล้วครับ

สมัยนั้นผมยังคุยไม่ค่อยออกเพราะประสบการณ์น้อยครับ

ความทุกข์มันขมขื่น จำง่ายแต่ลืมยากครับ.

เรื่องนี้ผมเกิดความคิดขึ้นมาเมื่อเพื่อนเขาเอ่ยถึงพระชนก ผมก็นึกขึ้นได้ว่าผมเคย มานะพยายาม เหมือนว่ายน้ำในมหาสมุทรที่มองไม่เห็นฝั่งมาแล้วเหมือนกัน ตั้งแต่ยังไม่รู้จักชาดกเรื่อง ระชนก

คุณนาถว่ามันจะน่าเกลียดไหมครับ ดูเหมือนยกตัวเอง ถ้าไม่สมควรจะได้เก็บไว้อ่านคนเดียว ไม่เผยแพร่ครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 2 สิงหาคม 2556 19:54:54 น.  

 

พี่ปู่ห่อศักดิ์ขา


ไม่น่าเกลียดดอกค่ะ
ที่จริง พี่ปู่เป็นคนเรียนหนังสือเก่งมาก อายุ ๑๕ อยู่ ม.๖ เพราะได้พาสชั้น สมัยพี่ปู่ คนอายุเท่านี้ บางคนเรียนชั้นต่ำกว่านี้นะคะ

เรื่องสนุกมีซีคะ อย่างเรื่องที่พี่ปู่นอนพักกลางวันหลังตู้ทำงาน แล้วลูกน้องสาวคุยกัน


คนเรา ลองมีความมานะพยายามบากบั่น ดีประเสริฐทั้งนั้นค่ะ

แต่ แฮ่ๆๆ นาถมีมานะ แบบในพุทธศาสนา อัสมิมานะ ค่ะ

 

โดย: นาถศรี (sirivinit ) 2 สิงหาคม 2556 20:33:53 น.  

 

พี่ปู่เรียนเร็วมากค่ะ


ป้ากุ๊ก 16 ม.6 ค่ะ แต่ก็ยังเร็วกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน เพราะเขาอยู่ ม.5 ค่ะ


ที่เรียนเลยเพื่อนรุ่นเดียวกัน 1 ชั้น เพราะป้ากุ๊กไม่ยอมเรียนชั้นเตรียม เข้าปุ๊บขอขึ้น ป.1 เลยค่ะ บังเอิญว่าพอจะอ่านจากบ้านได้บ้างแล้ว ที่บ้านขายหนังสือพิมพ์ค่ะ มีหน้าที่ต้องอ่านข่าวดังๆให้แม่ฟัง เลยโชคดีอ่านได้เร็ว

 

โดย: ร่มไม้เย็น 2 สิงหาคม 2556 21:42:05 น.  

 

พี่ปู่คะ เปิดใจนักเขียนชรา มีอะไรที่นักเขียนชราอยากจะเปิดใจก็เปิดไปเลยค่ะ เพราะเรื่องที่เขียนล้วนเป็นของจริงไม่ได้อิงนิยายแต่ประการใด


การเดินทางของทุกสรรพสิ่งล้วนมีวันสิ้นสุด และเราต่างไม่มีใครรู้ว่าจุดสิ้นสุดของเราถูกกำหนดไว้ที่ไหน อย่างไร


การพูดถึงปลายทางไม่ได้แปลว่าเราเก่ง เราไม่กลัว เพียงแต่เราเตรียมพร้อมอย่างคนไม่ประมาทมากกว่า


ที่ผ่านมามีหลากหลายเรื่องราวที่น่าจะบันทึกไว้ อาจจะเพื่อเป็นข้อคิดสะกิดใจสำหรับผู้เดินตามมาข้างหลัง ใครอ่านแล้วสนใจนำไปเป็นแนวทางก็ได้ประโยชน์ ส่วนคนที่ไม่สนใจก็ไม่เป็นไร งานนี้ทั้งผู้เขียนผู้อ่านไม่มีใครเสีย มีแต่ได้ คือฝ่ายเขียนได้เขียนตามความตั้งใจ ฝ่ายอ่านก็ได้อ่านเรียบร้อยแล้วเช่นกัน


ณ เวลานี้ โดยวัย ในกลุ่มพี่น้องเราพี่ปู่เดินนำมาหน้าสุด ป้ากุ๊กก็เดินไล่หลังมาติดๆ พี่น้องอีกห้าคนก็เดินถัดๆกันมา แต่บอกไม่ได้เลยค่ะว่าทั้งขบวนใครจะขี้เกียจเดินหยุดพักไปเสียก่อน การเตรียมตัวอยู่เสมอและพร้อมรับความจริงจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องและควรทำอย่างยิ่ง


เขียนแล้วนำมาวางไว้อีกนะคะ นอกจากพี่น้องเราได้อ่านแล้ว ใครที่บังเอิญหลงเข้ามาในห้องนี้จะได้อาศัยอ่านด้วยค่ะ

 

โดย: ร่มไม้เย็น 4 สิงหาคม 2556 14:46:09 น.  

 

เปิดใจตอนนี้เป็นตอนที่ ๑ เท่านั้น

ถ้าจะเอาตอนที่ ๒ มาวางจะต้องทำอย่างไรครับ

หรือว่าวางต่อไปข้างล่างแล้วคุณนาถยกไปตั้งในบล็อกใหม่ต่อไป

ผมลืมสนิทเลยครับ กรุณาช่วยแนะนำด้วยครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 4 สิงหาคม 2556 17:00:39 น.  

 

บันทึกของผู้เฒ่า

เปิดใจนักเขียนชรา


เจียวต้าย



๒๓ ก.ค.๕๖ (๒)

วันนี้ เป็นวันอังคาร แรม ๑ ค่ำเป็นวันเข้าพรรษา ก็คงจะมีพุทธศาสนิกชนไปทำบุญไหว้พระ เวียนเทียนที่วัดกันอีกหนึ่งวัน

ส่วนผมนั้นตั้งใจจะนอนพักผ่อนจากการเวียนศีรษะเพราะใช้แว่นสายตาอันใหม่ ที่วัดสายตาจากหมอตาของ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อ ๙ ก.ค.๕๖ หลังจากที่เปลี่ยนแว่นตาอ่านหนังสือมาหลายอันแล้ว ตั้งแต่เกษียณอายุราชการมาตั่งแต่ ๓๐ กันยายน ๒๕๓๕

ครั้งสุดท้ายไปหาหมอ โรงพยาบาลตา หู คอ จมูก ที่บางกอกน้อย เพื่อให้ดูดวงตาที่มีขนตาขึ้นผิดทิศทิ่มแยงลูกนัยตามาหลายปี ซึ่งได้ไปหาหมอตาของ รพ.นี้ดูแล ก็เสียค่าหมอครั้งละ ๖๐๐ - ๘๐๐ บาท ให้หมอวชิร พยาบาล ไม่เสียเงิน แต่รอนานเหลือเกิน เพราะคนไข้โรคตามากมาย จนออกละอายว่าผมมีเรื่องเล็กน้อยแหมือนชี้ผงเข้าตา ดันมาแทรกคิวที่เขารักษาโรตตาชนิดร้ายแรงถึงผ่าตัดกันแทบทั้งนั้น จึงไปหาร้านตัดผมให้ช่างที่อายุน้อยสายตาดี ช่วยถอนชนตาให้ หลังการตัดผม โดยมีรางวัลที่เรียกกันว่าทิป พอสมควร

ก็ปฏิบัติอยู่ได้ครั้งละเดือนสองเดือนเป็นเวลา ๓-๔ ปี ก็ไปให้หมอที่ รพ.ตาดูสักครั้งหนึ่งว่ามีอาการอะไรแทรกซ้อนหรือเปล่า ก็ปรากฎว่า มีโรคต้อกระจกบ้างยังไม่มากนักไม่น่าวิตก ส่วนต้อหินนั้นไม่มี ผมก็คิดเข้าข้างตนเองว่าอายุขนาดนี้แล้ว กว่าโรคตาจะกำเริบถึงกับบอด คงจะตายด้วยโรคอื่นก่อนเป็นแน่

แต่มาคราวหลังนี้เอาแว่นตาที่ใช้อ่านหนังสือ หลังเกษีนณอายุใหม่ ๆ มาใช้ก็ปรากฏว่าใช้ได้คงจะเป็นอย่างที่โบราณเขาว่าสายตากลับ คล้าย ๆ ตัณหากลับกระมัง แต่พอใช้มาเป็นปีก็ดูเหมือนแว่นนั้นขุ่นมัวขึ้นทุกที จึงมาหาหมอที่ รพ.ตา หูฯ นี้เมื่อ ๒๒ มิ.ย.๕๖ หมอตรวจอย่างละเอียดแล้วบอกว่า ต้อกระจกเป็นมากขึ้น สมควรจะลอกได้แล้ว แล้วก็ส่งไปให้พยาบาลวัดสายตาด้วยเครื่องเป็นตู้อีก ๔ เครื่อง เครื่องแรก มีน้ำฉีดใส่ตา เครื่องที่สอง เห็นเป็นจุดแดง ๆ เครื่องที่สามที่สี่เป็นอะไรจำไม่ได้เพราะดวงตาช้ำไปหมดแล้ว หมอก็นัดวันที่ ๓๐ มิ.ย.๕๖ มาตรวจเพื่อทำการลอกต้อกระจกที่เป็นอยู่ เนื่องจาก รพ.นี้เป็นของเอกชน จึงให้ลุกชายที่ไปด้วยแอบถามพยาบาลว่าค่าลอกต้อเขาคิดเท่าไร ได้ความว่า ข้างละสี่หมื่น ก็เล่นเอาใจหาย สองข้างเกือบแสน จะรอต่อไปก็ไม่ได้ เพราะขณะที่เล่านี้อายุ ๘๒ ปีแล้ว สมควรที่จะตายได้แล้ว แต่มันก็ยังไม่ตาย ไม่รู้ว่าจะต้องเสียอีกกี่แสนจึงจะตายได้

ความเสียดายเงินทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า ผมมีสิทธิ์อยู่ใน รพ.พระมงกุฎเกล้า ควรจะหันกลับไปหาหมอตาของ รพ.นี้ ซึ่งคงจะมีความรู้ความสามารถเท่าเทียมกัน จึงได้หาเวลาเข้ามาที่แผนกตาหู ฯอย่างเคย หมอผู้หญิงตรวจแล้วก็บอกว่า ต้อกระจกนั้นยังไม่มากพอที่จะเป็นอันตราย สมควรตัดแว่นใหม่อีกสักอันใส่ไปก่อน ถ้ายังไม่ชัด หรือมืดมัวเพิ่มขึ้น จึงควรจะผ่าตัดลอกต้อด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ทำง่ายและไม่เจ็บปวดแต่อย่างใด

ผมได้กิตติศัพท์เรื่องการลอกต้อมามากจากเพื่อนที่ใกล้ชิดจนถึงน้องสาว และแม่บ้านก็ทำมาแล้วต่างก็รับรองเหมือนกันหมดว่าไม่น่ากลัว เพราะผมมีอคติอยู่ว่า การผ่าตัเดไม่ว่าจะเล็กำน้อยอย่างผ่าไส้เลื่อนที่ผมโดนมาสองครั้งแล้วในชีวิต ซึ่งคงจะไม่มีอีก ก็เป็นการที่มองไม่เก็นเครื่องมือของหมอทุกครั้ง แต่เรื่องการผ่าตานี่ จะต้องลืมตาให้หมอผ่า แล้วผมจะไม่เห็นเครื่องมือของหมอได้อย่างไร วึ่งความคิดนี้ฝังอยู่ในหัวมาชั่วชีวิต ผมกลัวว่าจะหัวใจวายตายไปเสียก่อนจะได้ผ่าตัด

และนี่คือปฐมเหตุของการที่ไม่ไปทำบุญวันเข้าพรรษาวันนี้ เพราะตัดแว่นใหม่มาแล้วอ่านหนังสือหรือคอมพิวเคอร์แล้ว มึนหัวอยากหลับตาท่าเดียว เลยต้องเล่ามาเป็นหน้า

(ยังมีต่อ)

 

โดย: เจียวต้าย 4 สิงหาคม 2556 17:08:16 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.