กันยายน 2562

1
2
3
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
17
18
19
21
22
23
24
26
27
28
29
 
 
All Blog
เมื่อสามีเธอเป็นแต๋ว บทที่ 1 หน้า 4
วันก่อนวันงานที่บ้านมีญาติๆมาเตรียมงานกันเต็มบ้าน

กลุ่มผู้หญิงมีอายุ นำใบตองมาทำบายศรี

ส่วนสาวๆ แรกรุ่นก็เตรียมเครื่องครัว ทำขนมหวาน ขนมต้ม ทำความสะอาดบ้าน

ฝ่ายช่ายหนุ่มๆ เตรียมลานบ้าน เอาโต๊ะจีนมาวาง

พี่สะไภ้เอาดอกดาวเรืองที่ปลูกใส่ถุงไว้ขายมาเรียงหน้าทางเข้าและตรงซุ่มถ่ายรูป

ทุกคนช่วยงานกันสนุกสนาน

พ่อกับแม่ต้นข้าวที่เคยอยู่แต่กรุงเทพ ยังไม่เคยสัมผัสบรรยากาศบ้านนอก กินอาหารอีสาน ลองกินข้าวเหนียวกับต้มเนื้อ จิ้มน้ำพริกคั่ว อร่อยติดใจนัก


ส่วนแม่ก็สนุกกับงานใบตองบานศรีพานใหญ่สวยงามมาก
ข้าวหอมวิ่งวุ่นกับเตรียมชุดและผ้าประดับงาน


ต้นข้าว ก็ช่วยอีกแรง


ตกเย็น เมื่อทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ที่ขาดที่เหลือก็ช่วยกันหาแก้ไข

ทุกคนนั่งล้อมวงทานอาหารเย็นกัน สาวๆ กับแม่ครัวยังคุยกันเรื่องกับข้าวในครัวพลางกินข้าวดูหม้อต้มไปด้วย บางคนก็จัดชุดตักบาตรเช้า


ผู้ใหญ่นั่งคุยกันไป ดื่มบ้างเล็กน้อย


พี่ชายทำสาโทไว้ดื่ม พ่อกับต้นข้าวลองกับเขาทำเอามึนหัว
พอตกดึกทุกคนแยกย้ายกลับบ้าน

แม่บอกข้าวหอมให้เข้านอน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่ดึกเพื่อเตรียมตัว


ข้าวหอมไม่ได้ตื่นเต้นที่ได้แต่งงาน เธอตื่นเต้นที่ได้จัดงานแต่งตัวเอง


ต้นข้าว ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ


เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้นอนทั้งคู่ เมื่อบ้านเจ้าสาวมีงานดนตรี ข้าวหอมก็แอบมาส่อง และหาของกินทั้งคืน


 
รุ่งเช้า เจ้าบ่าวมาตักบาตรเช้ากับเจ้าสาว ร่างสูงโปร่งใส่เสื้อแขนกระบอกสีครีมสวมผ้าสะโหร่งลายตารางใหญ่

ส่วนเจ้าสาวสวมเสื้อสีเดียวกันสวมผ้าซิ้นสีสดใสสีเดียวกันกับสะโหร่งเจ้าบ่าว


เมื่อเสร็จพิธีเช้า คณะเจ้าบ่าวมาถึงจอดรถบัส

แล้วให้ชาวคณะได้ยืดเส้นยืดสายหลังจากที่จอดรถปั้มน้ำมันเพื่อให้ทุกคนได้ล้างหน้าล้างตาและทำกิจกรรมให้เรียบร้อย ทางเข้าหมู่บ้านซึ่งเป็นโรงเรียนมีลานกว้าง

เจ้าบ่าวกับพ่อแม่ไปสมทบ เขาเปลี่ยนชุด เป็นเสื้อราชปแตนสีงาช้าง โจงกระแบนผ้าสะโสร่งสีสวย พาดไหล่ด้วยผ้าขาวม้า ลายพลาสเทล

เมื่อตั้งขบวนขันหมากเรียบร้อยแล้ว


นำขบวนโดยอากงผู้อาวุโสสุดของฝ่ายชาย ที่ชาวอีสานจะเรียกว่าเจ้าโคตร เป็นคนถือสินดอง บายศรี ถือโดยสาวน้อยแรกรุ่น

แม่เป็นคนถือ  ขันเงิน 3 บาท

พ่อถือขันหมากขันพลู ขันเหล้า แต่ละขันมีผ้าสีสวยคลุมเอาไว้ หาบขนมมงคล 9 หาบ ต้นกล้วย ต้นอ้อย

และ ที่ขาดไม่ได้เลยคือ กลองยาวที่ต้นข้าวได้นำมาด้วย เพื่อสร้างความสนุกให้กับขบวนขันหมาก


ได้กฤษ์ 9 โมงเช้า ขบวนขันหมากก็เริ่มขบวนด้วยเสียงโห่ เป็นการแสดงให้รู้ว่าจะมีงานมงคล

เสียงกลองดังอึกทึกไปตามถนนจากโรงเรียนถึงบ้านประมาณ 500 เมตร ทุกคนต่างมารำกับกลองยาวกันอย่างสนุก เสียงโห่ หิ้ว รับกันมาตลอดสาย


ฝ่ายเจ้าสาวเองก็สนุกไปด้วย เด็กๆ ออกมาเตรียมกั้นประตูเงินประตูทอง

เสียงกลองยาวยิ่งใกล้เข้ามา ก็ยิ่งทำให้ตื่นเต้น ข้าวหอมเปลี่ยนชุด เป็นเสื้อแขนกระบอกสีงาช้าง

กับผ้าซิ่นสีและผ้าเบี่ยงเดียวกับเจ้าบ่าว ม้วนผมมวยตกแต่งด้วยดอกไม้ และปิ่นห้อยติ้ง เธอไม่ได้จ้างช่างแต่งหน้า

เพราะเธอทำงานโรงแรมหัวหน้าสปา เข้าคอร์ทอบรมแต่งหน้าให้กับพนักงานบ่อย มีฝีมือการแต่งหน้าเองอยู่บ้าง

เพียงแค่แต่งแบบเบาบางให้ดูเรียบง่ายก็เพียงพอแล้ว


เมื่อขบวนขันหมากมาถึงหน้าบ้าน ต้องผ่านด่านประตูเงินประตูทอง มีการต่อรองค่าผ่านด่านจากเด็กๆ และญาติฝ่ายหญิง

ต้นข้าวยิ้มแย้มส่งซองสีชมพูให้ทุกคน เด็กๆ ได้ซองกันทั่วหน้า ก็ดีอกดีใจ ปล่อยประตูให้ผ่าน มาด่านสุดท้าย

เด็กน้อยน่ารักลูกสาวพี่ชายเพิ่งจะ 3 ขวบ ใส่โจงกระแบนเสื้อคอกระเช้าสีชมพูมัดผมจุก


“เป็นตัวแทนเจ้าสาวล้างเท้าเจ้าโครตกับเจ้าบ่าวนะคะ”

เสียงพี่สะไภ้บอก


เด็กน้อยตักน้ำลาดให้ทั้งสองคนแล้วเอาผ้าขนหนูนั่งเช็ดให้อย่างน่าเอ็นดู อากงอดลูบหัวอย่างเอ็นดูไม่ได้

เมื่อต้นข้าวเอาซองให้ อากงก็ล้วงแบงค์พันให้อีกใบ ญาติๆ พากันโห่หิ้วอย่างยินดี

พี่สะไภ้อุ้มลูกสาวหลีกทางเจ้าบ่าวและขบวนขันหมากเข้าบ้าน
เด็กสาวแรกรุ่นคนเชิญพายบายศรี วางพานลงตามตำแหน่งที่ผู้ใหญ่บอก

พร้อมสิ่งที่จัดเตรียมไว้เทียนเล่มใหญ่ยาว 1 ศอก ไข่สาวต้มสุก 1 ใบ ข้าวมัดต้ม 5 มัด เหล้า 1 ขวด แก้วเปล่า 1 ใบ ขันน้ำมนต์ใบใหญ่ 1 ใบ กล้อวยสุข 5 ลูก ไข่ต้ม 5 ฟอง ดอกไม้ขัน 5 ใส่จาน 1 ใบ

พร้อมเงินปัจจัยให้พรามณ์ เมื่อทุกคนมานั่งพร้อมหน้ากันแล้ว พ่อเจ้าสาวไปพาเจ้าสาวออกมาจากห้อง

ต้นข้าวลอบมองหน้าเล็กที่แต่งตัวด้วยชุดที่เขาหามาให้ แล้วยิ้ม ดูวันนี้เธอสมเป็นหญิงกว่าทุกวัน


พ่อพรามณ์มาถึงงาน พ่อแก้วผูกแขนด้วยสายสิญจน์แล้วพูดเชิญให้พ่อพรามณ์ทำพิธีให้


พ่อพรามณ์นั่งตรงข้ามกับคู่บ่าวสาว เจ้าบ่าวนั่งซ้าย เจ้าสาวนั่งขวา


พ่อพรามณ์เอ่ยนำถามก่อนเริ่มพิธีการ ถึงงานแต่ง


“วันนี้วันดี กฤษ์งาม วันออกเรือน แม่มาสู่ขอลูกสาว บ้านเรา ลูกสาวเจ้าเป็นเนื้อนาบุญ เป็นลูกที่ดี เป็นแม่ศรีเรือน แม่มาขอ สินดองเท่าไหร่?”


“สินสอด 5 แสน ทอง 30 บาท ค่ะ พ่อพรามณ์”


แม่เอาพานสินสอด มาวางลงตรงข้างบายศรี


“สินดองทองมั่น 5 แสนกับทอง 30 บาท เป็นค่าน้ำนมเงินก้นถุง แม่เจ้ายินดีจะยกลูกสาวให้ออกเรือนบ่”


“ยินดีค่ะ พ่อพรามหณ์”


พ่อพรามณ์ส่งสายสิญจน์ให้ทุกคนในวงพาขวัญ่ถือ


“เอาล่ะบันนี้กะได้เวลาอันควรแล้ว จะขอเข้าพิธีพาขวัญ ขอให้ทุกผู้ทุกคนมาโฮมมาตุ้ม”

พ่อพรามณ์พูดเกริ่นนำเข้าพิธี


พ่อพรามณ์จุดธูปเทียนบูชาพระ สวดมนต์ไหว้พระเสร็จ


“ศรี ๆ สิทธิพระพรบวรแว่นวิเศษ  อดิเรกกะเตโช ชัยยะตุภะวัง ชัยยะมังคะลัง  ตะโต โลมัง สุขัง พะลัง อาวาหะวิวาโห  ชัยยะมหามุงคุล ดังนี้เป็นเค้า ซุมผู้เถ่าว่ามื้อนี้เป็นมื้อสรรค์วันดี  วันดิถีอมุตตะโชค  โตกใบนี้แม่นโตกไม้จันทน์  ขันใบนี้แม่นขันไม้แก้ว เถ่าแก่ปุนแม่นแล้วจึงได้แต่งพาขวัญ..............”


พ่อพรามณ์เริ่มทำพิธี ท่านทวดไปเรื่อยๆ ด้วยถ้อยคำมงคล บางคำต้นข้าวก็ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่เขารู้ว่าเป็นคำอวยพรและสอนสำหรับคู่สามีภรรยาใหม่ เขาฟังแล้วก็ขนลุกด้วยความขลัง


“บัดนี้แหล่วข้อยจักเชิญเอาขวัญ  ให้เจ้ามานำกันเทียมคู่  ให้มาอยู่ทัดดอกขุมฟูม  บานจูมเจือแม่นดอกคัดเค้า  ทัดดอกข้าวกวนตา  เกศางามตั้งไหล่ เทียมท้าวใหม่วันดี  ขวัญโฉมศรีสองเจ้า  ให้มาเต้าในคีงในมื้อนี้วันนี้เด้อ  มาเยอขวัญเอย……..”


“มาเยอขวัญเอ่ยยยยย”

เสียงญาติขานรับ


ชาวกรุงนั่งพนมมือเห็นญาติฝ่ายเจ้าสาวร้องรับก็ร้องตามอย่างสนุก


พ่อพรามณ์ยังสวดต่อ ซึ่งเป็นคำสอนสำหรับคู่สามีภรรยาใหม่
 
“บัดนี้แหล่วข้อยจักเชิญเอาขวัญ  ให้เจ้ามานำกันเทียมคู่  ให้มาอยู่ทัดดอกขุมฟูม  บานจูมเจือแม่นดอกคัดเค้า  ทัดดอกข้าวกวนตา  เกศางามตั้งไหล่ เทียมท้าวใหม่วันดี  ขวัญโฉมศรีสองเจ้า  ให้มาเต้าในคีงในมื้อนี้วันนี้เด้อ  มาเยอขวัญเอย……..


เมื่อทุกคนร้องรับบทสุดท้ายแล้ว

 



Create Date : 25 กันยายน 2562
Last Update : 25 กันยายน 2562 10:03:33 น.
Counter : 717 Pageviews.

1 comments
  
ตามต่อตามต่อ สนุกดีค่ะ

โดย: หอมกร วันที่: 26 ธันวาคม 2562 เวลา:12:01:41 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]