เมษายน 2563

 
 
 
1
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
28
29
30
 
 
All Blog
เมื่อสามีเธอเป็นแต๋ว บทที่ 10 หน้า 3
รุ่งเช้าเมื่อเขาออกเดินทางแต่เช้าด้วยรอบบินเที่ยวแรก

เมื่อไปถึงสนามบินอุดร เขาถามร้านเช่ารถ เมื่อได้รถเรียบร้อยแล้ว มองดูนาฬิกายังเช้าตรู่ เขาโทรหาข้าวหอม


“ฮัลโหล เจ้ทำไมโทรมาแต่เช้า”

เสียงงัวเงียอีกฝ่าย


“ตื่นแต่เช้า.... ยังอยู่ที่โรงพยาบาลเหรอ”


“ใช่เจ้ รอน้องมารับไปอาบน้ำ วันนี้พ่ออาจจะได้กลับแล้ว”


“เหรอ แล้วจะกลับมาวันไหน”


“ว่าจะอยู่ต่อดูพ่ออีก 2 วัน” เธอตอบ


“อืม ได้สิ แล้วน้องจะมารับกี่โมง”

ตอบรับง่ายๆซะงั้น

“น่าจะ 7 โมงนี่แหล่ะ เจ้ อย่าลืมรดน้ำต้นแคนตาลูปนะ”


ต้นข้าวเหมือนนึกได้ เธอบอกเขาก่อนไปให้ดูแลต้นแคนตาลูปทั้ง 2 ต้นให้ดี


“จ๊ะ”

รับปากอีกฝ่าย แต่ใจก็คิดว่าต้องโทรบอกโอห์มให้ช่วยดูให้
 
 
ต้นข้าวแวะไปบ้านก่อนเพื่อหาน้องชายข้าวหอมก่อนจะมาโรงพยาบาลด้วยกัน


“ไข่ เดี๋ยวรออีก ชั่วโมงนึง หมอเขาตรวจอาการก่อนกลับ”

ข้าวหอมบอกน้อง แต่พอเห็นคนร่างสูงที่เดินตามไข่มาก็ขยี้ตาปริบๆ


“เจ้มาได้ไง ก็พึ่งโทรหานิ”

เธอถามอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา


“ก็มาดูอาการพ่อ เป็นไงบ้าง เผื่อข้าวหอมอยู่หลายวันจะได้กลับด้วยกัน”

เขาเอ่ยหาทางออก


แม่อดมองลูกเขยคนหล่อไม่ได้


“ตัดผมสั้นแล้วหล่อมากพ่อต้น”


“ครับ แม่ สวัสดีครับ”

เขาไหว้แม่ยาย


ข้าวหอมมองแปลกๆ มันชักยังไงกัน


เมื่อพ่อตรวจอาการเรียบร้อย หมอก็อนุญาติให้กลับบ้าน ได้ ไข่ทำหน้าที่เข็ญรถเข็ญพาพ่อออกมา

เปลเวรจึงมาช่วยเข็ญต่อ ไข่ไปขับรถมารับ ส่วนข้าวหอมกับแม่ไปขึ้นรถกับต้นข้าว


เมื่อกลับมาถึงบ้านเรียบร้อย


“พ่อบ่เป็นหยังแล้ว ข้าวหอมกะกลับกรุงเทพโลดลูก บ่ต้องห่วงพ่อดอก ไข่กับสามันกะดูแลพ่ออยู่ แม่กะอยู่นี่”


“จ๊ะพ่อ เดี๋ยวอีกจัก มือ สองมือกะกลับ”

ลูกสาวยังเป็นห่วงพ่อ


“บ่แมนเผิ่นมานำกลับบ้านบ่”

พ่อบุ้ยใบ้ไปทางลูกเขย


“โอ้ย บ่แมนดอกพ่อ ลาวกะสิมายามพ่อคือกันล่ะ”


พ่อหันไปยิ้มให้ลูกเขย เขาหิ้วกระเช้าผลไม้กับกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงมาฝาก


“มาจั่งไดล่ะพ่อต้น”


“นั่งเครื่องมาครับพ่อ”


“อ้อ นึกว่าขับรถมาเอง”


“เปล่าครับ ผมมาเช่ารถที่สนามบิน”


“อ้อ เดี๋ยวมืออื่นกะพาข้าวหอมกลับเลยโลด”


“ครับ”

ข้าวหอมขอตัวไปอาบน้ำ ต้นตามเอากระเป๋ามาเก็บ เขานั่งรอข้าวหอมอยู่ในห้องนอน

เพราะห้องน้ำอยู่ด้านนอก ข้าวหอมอาบน้ำเสร็จเข้ามาแต่งตัว ต้นข้าวมาช่วยทาครีม


“นิ เค้าทาเองได้ ไม่ชอบใครมาลูบตัว”

เธอเบี่ยงตัวหนีจากเขา


ต้นข้าวรู้สึกขัดใจหนักหนา คิดถึงก็คิดถึง ห่างกันแค่ 2 วัน ทำไมลืมสัมผัสจากเขาไปได้  เขาเลยรวบร่างเล็กเอาไว้


“อะไรกัน?”

อีกฝ่ายดิ้น พลางตีแขนเขา


“ทำไม แค่โดนตัวนี้ต้องหลบ ไม่ได้กอดแค่ 2 วัน ลืมแล้วเหรอ”

เสียงเขาพูดข้างหู


“ก็ ก็ มันจั๊กกะจี๋นิเจ้”

เธอบอกเขา


“จั๊กกะจี้เหรอ” เขาดึงเธอขึ้นที่นอน


ข้าวหอมมองอย่างตกใจ

“ทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้น? นี่ พี่เองนะ ”

เขากระซิบที่หู


“ห่างแค่ 2 วันลืมกันแบบนี้ต้องทำโทษ”

เขาไม่พูดเปล่า รีบประกบกับปากบางก่อนที่เธอจะเอ่ยอะไรมากไปกว่านี้


กลิ่นหอมอ่อนๆ มันยั่วยวนอารมณ์เขาให้กระเจิดกระเจิงอย่างดี เขาดึงผ้าออกจากร่างน้อย

แล้วสำรวจทุกตารางนิ้วอย่างคิดถึง  มืออุ่นนวดเฟ้นเธออย่างเบามือและถนอม

ข้าวหอมวาบหวามใจบิดกายไปมา เขาวางเธอลงนอนเบาๆ บนที่นอน มองร่างอ่อนระทวนเปือยเปล่าหายใจหมดแรงก่อนจะรีบถอดเสื้อผ้าตัวเอง


“เดี๋ยว..............ก่อนเจ้ มันอะไรกัน เจอหน้ากัน ไม่ถามอะไรสักคำเหรอ”

เธอยกมือน้อยยันอกเขาไว้


“ก็ให้ร่างกายถามเองไม่ได้เหรอ ดูสิเรารึอุตสาห์คิดถึง เจอหน้าแทนที่จะหอมแก้มเราสักฟอดก็ไม่มี”


ข้าวหอมสะดุ้งเล็กน้อย

“เดี๋ยวเจ้ เดี๋ยว”


ต่อให้ห้ามไปก็ไร้ประโยชน์


เขาบุกรุกเธออย่างกระหายหิว


ฟังเสียงข้าวหอมครางเบาๆ แทนการปฏิเสธยิ่งกระตุ้นแรงปรารถนาอย่างดี


ความต้องการเขา มันมากมายขนาดนั้นเชียวเหรอ


ห่างกันแค่ 2 วัน ถึงกับรอเวลาไม่ได้ นี่เขาเป็นกะเทยจริงๆ หรือ?


ข้าวหอมหัวหมุนติ้ว ปล่อยให้อีกฝ่ายพลิกร่างเธอไปมา ปล่อยให้เขาดูดดื่มความคิดถึงสุดใจที่เขาคิด


ต้นข้าวมองหน้านวลที่หลับตาพริ้มใต้ร่างเขา ไม่ยอมปล่อยเธอออกจากกาย อยากจะกอด อยากจูบ อย่างกับคนห่างกันมาแรมปี


“เจ้ เดี๋ยวออกไปกินข้าวนะ เข้ามานานไม่มีคนดูพ่อ”

เธอพูดเสียงเบาหวิว


เพราะดูปฏิกิริยาอีกฝ่ายไม่ยอมจบ


ต้นข้าวรู้สึกผิดที่ตัวเองทำท่าหื่นจนเกินเหตุ ทั้งที่คืนนี้ เขาก็จะได้นอนกอดเธอให้สมกับที่คิดถึงแล้วเชียว แต่ทำไมเขาอดใจไว้ไม่ได้ เขาพลิกตัวให้ข้าวหอมนอนบนอกเขา


“พี่ขอโทษ คิดถึงมากไป จนห้ามใจไม่ไหว”

“ก็ปล่อยได้แล้ว จะกอดอีกนานไหม”

เธอยันกายลุกขึ้น


“ก็ได้ คืนนี้เราค่อยมาต่อกันนะ”

เขาเสนอก่อนจะปล่อยอีกฝ่ายไป


ข้าวหอมทุบอกเขาทีหนึ่งก่อนลุกไปแต่งตัว


 
เมื่อทานข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อย ข้าวหอมก็ชวนต้นข้าวไปดูแปลงผักพี่ชาย กิจกรรมการเกษตรมีตลอดปี ที่ห่างไกลคลองก็ขุดสระขนาด เกือบ 2 ไร่ เพื่อกักน้ำไว้ใช้ตลอดปี แถมมีปลาที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ เต็มบ่อ


“เจ้ กินสลัดโรลไหม เดี๋ยวทำให้กิน”


ต้นข้าวมองใบหน้าที่มีความสุขของอีกฝ่ายแล้วก็พลอยมีความสุขไปด้วย


มองไปรอบด้าน โน้นก็สวนมัน โน้นก็ป่าอ้อย โน้นก็ทุ่งดอกดาวเรือง กับสวนผัก ปลายฤดูหนาว แดดร้อนก็จริง แต่รู้สึกเย็นกับละอองน้ำที่พี่ชายตั้งลดไว้อัตโนมัติ ธรรมชาติที่เขาไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้มาสัมผัส


“เดี๋ยวพี่คงจับปลาให้ เอาไปต้ม ในสระมีกุ้งฝอยด้วยนะ ฉันอยากเอากุ้งมาเลี้ยงจัง”


“กุ้งอะไร?”


“กุ้งแม่น้ำไงเจ้”


ต้นข้าวพยักหน้ารับทราบ


“คิดว่ามันจะเลี้ยงได้ไหม?”

เขามองหน้าน้อยๆ ที่ใช้ความคิด


“ไม่ลองไม่รู้นะเจ้”

ดวงหน้าที่ฉลาดเฉลี่ยวตอบเขา


“เคยเลี้ยงเหรอ”


“ฮืม เดี๋ยวนี้ อะไรที่ไม่เคย เขาก็ลองๆ ให้มันเคยกันหมดแล้วนะ อย่างยางพารา ปลูก อีสานไม่ได้ ตอนนี้

ป่ายางขึ้นเต็มทุกพื้นที่ทุกจังหวัด ปาล์ม ปลูกอีสานปลูกเหนือไม่ได้ ตอนนี้ มันก็สามารถเอามาปลูกได้แล้ว มะม่วงเมื่อก่อนก็ต้องรอกินปีละหน แต่ตอนนี้สิ มีกินตลอดปี”

เสียงเธอสาธยายบอกเขา


“น่าสนใจนิ”


“ใช่ ถ้าเราไม่เริ่มต้น เราจะรู้ได้ยังไง ทำได้หรือเปล่า?”


ต้นข้าวหันมามองข้าวหอมที่ก้มหน้าจัดเรียงผักใส่ถุง


“งั้นเราก็มาเริ่มต้นกันไหม?”

เขาก้มลงถาม


ข้าวหอมเงยหน้าใสซื่อเอียงคอถาม


“เริ่มต้นอะไรเจ้?”


ถ้าเป็นคิดเรื่องอะไรก็ตาม ข้าวหอมคิดได้รวดเร็วอย่างกับจรวด แต่มีแค่เรื่องเดียวนี่ล่ะน้า

ที่เขาแสนจะข้องใจ อยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะคิดอะไร ส่วนตัวเขานั้น ไม่ต้องอธิบาย ไม่ต้องพูดให้มากเยอะความ

ตั้งแต่เขาเป็นคนเริ่มต้นสตาร์ทความลึกซึ้ง การแสดงออกมามากมายที่จะถ่ายทอดให้อีกฝ่ายรับรู้ แต่ก็เหมือนว่าเธอยังคิดว่า

เขายังเป็นเพื่อนสาวเหมือนเดิมไม่ใช่สามี

เขาแค่อยากเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของข้าวหอม

เขาแค่อยากเป็นสามีแบบที่เขาเป็นได้

เขาแค่อยากมองซึ้งๆ แบบที่เป็นตัวเขาเอง

แค่อยากรู้ว่าข้าวหอมจะลึกซึ้งกับเขาแค่ไหน


 
“เริ่มต้น การเป็นสามีภรรยาจริงๆ น่ะสิ”


เขาสังเกตได้ว่าหน้าอีกฝ่ายเหมือนจะอึ้งก่อนเปลี่ยนเป็นร้อนผ่าว หน้าแดงแล้วก้มลงจัดผักต่อ


“พูดแปลกๆ” เสียงอายๆ พูดเบาๆ


ต้นข้าวอมยิ้ม



 



Create Date : 08 เมษายน 2563
Last Update : 8 เมษายน 2563 18:16:59 น.
Counter : 713 Pageviews.

4 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร

  
บทนี้กุ๊กกิ๊กน่ารักดัค่ะ

โดย: หอมกร วันที่: 9 เมษายน 2563 เวลา:9:47:08 น.
  
โดย: unitan วันที่: 9 เมษายน 2563 เวลา:13:19:28 น.
  
ต้องเปลี่ยนชื่อเป็นเมื่อสามีเคยเป็นแต๋วแล้วค่ะ

โดย: หอมกร วันที่: 12 เมษายน 2563 เวลา:9:13:46 น.
  
โดย: unitan วันที่: 13 เมษายน 2563 เวลา:8:16:02 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]