น้ำนมแม่...สุดยอดอาหารสำหรับลูก/ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล

ใกล้จะถึงวันแม่ทุกคนคงจะนึกถึงเพลงค่าน้ำนม โดยเฉพาะตอนที่ว่า “ครวญคิดพินิจให้ดี ค่าน้ำนมแม่นี้ จะมีอะไรเหมาะสม โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม เลือดในอกผสม กลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน” แสดงให้เห็นถึงคุณค่าน้ำนมของแม่ที่กลั่นออกมาให้ลูกกิน                 เมื่อลูกเกิดมาระบบการทำงานต่างๆ ของทารกนั้น ยังไม่สมบูรณ์เหมือนผู้ใหญ่ ดังนั้น การกินอาหารให้เหมือนผู้ใหญ่นั้นย่อมจะเป็นไปไม่ได้ แหล่งอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกในช่วงขวบปีแรกก็คือ น้ำนมแม่ จากการศึกษาในระยะเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมา พบว่า การที่ทารกได้รับนมแม่อย่างเหมาะสมจะช่วยให้ทารกมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดี พบว่า ทารกที่กินนมแม่จะเจ็บป่วยน้อยกว่าทารกที่กินนมวัว หรือนมผสม ในช่วงแรกเกิดน้ำนมของแม่จะมีสีเหลืองและข้น (Colostrum) ซึ่งมีประโยชน์มากต่อทารกแรกเกิดเพราะช่วยลดการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารของทารกแรกเกิดได้ (Neonatal Sepsis) เนื่องจากมีปริมาณของสารสร้างภูมิคุ้มกันสูง (IgA) และยังมีโปรตีนสูงด้วย                 หลังจากนั้น 7 วันหลังคลอดน้ำนมแม่จะเปลี่ยนไป คือ มีลักษณะขาว ใสกว่าในช่วงแรก แต่ยังคงเต็มไปด้วยคุณค่าสารอาหารที่ดีต่อลูก น้ำนมแม่จะมีสารอาหารที่จำเป็นต่อทารกซึ่งจะแตกต่างจากนมวัว ส่วนประกอบที่อยู่ในน้ำนมแม่มีกว่า 200 ชนิด เช่น สารช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันโรค ฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต เซลล์เม็ดเลือดขาว คาร์โบไฮเดรต โปรตีน กรดไขมันที่จำเป็น (โอเมก้า-3 และ โอเมก้า-6) วิตามิน (วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค) แร่ธาตุ (ธาตุเหล็ก แคลเซียม) เป็นต้น                การศึกษาระบุถึงประโยชน์เมื่อลูกได้กินนมแม่:                - ลดการเกิดโรคภูมิแพ้ จากการศึกษาพบว่าเมื่อทารกกินนมแม่ติดต่อกันมากกว่า 6 เดือน จะช่วยลดการเกิดโรคภูมิแพ้ได้ เนื่องจากนมแม่มีสารปกป้องการแพ้ โดยเฉพาะการแพ้อาหารในเด็กเล็ก                 - ลดการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียในวัยทารก ซึ่งก่อให้เกิดความเจ็บป่วย เช่น โรคท้องเสีย โรคลำไส้อักเสบ โรคทางเดินหายใจ                 - ท้องไม่ผูก เนื่องจากในนมแม่มีสาร Bifidus Growth Factor ทำให้แบคทีเรียที่ดีในลำไส้ทำงานได้ดีและทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ                - มีพัฒนาการด้านการเรียนรู้ได้ดี ทารกที่ได้รับนมแม่จะมีความสามารถในการเรียนรู้และการตอบสนองได้ดีและเร็วกว่าทารกที่ไม่ได้กินนมแม่ และยังมีผลของการเจริญเติบโตของสมองที่ดีกว่า                - มีอารมณ์ดี ใจเย็น และมีเหตุผล จากงานวิจัยระบุว่า ทารกที่ได้รับนมแม่จะมีการตอบสนองทางด้านอารมณ์ที่ดีกว่าทารกที่ไม่ได้รับนมแม่ โดยทารกที่ได้รับนมแม่จะเลี้ยงง่าย ไม่งอแง และรับฟังเหตุผลมากกว่าทารกที่ไม่ได้รับนมแม่ที่เพียงพอ                - ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรังในอนาคต เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือด โรคความดันโลหิตสูง                สิ่งที่สำคัญที่สุดของการที่ทารกได้รับนมแม่ คือ การที่แม่และลูกได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เกิดความผูกพัน การให้ความรักต่อกันและกัน การสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูก ทำให้ลูกสามารถรับรู้ได้ว่าแม่ของเขารักเขามากแค่ไหน ดังนั้นลูกทุกคนจึงควรสำนึกในพระคุณของแม่ที่ให้น้ำนมกับลูกกินจนทำให้เติบใหญ่และมีสุขภาพแข็งแรง                บทความโดย        ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล        อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

Create Date : 09 สิงหาคม 2555		1 comments
Last Update : 9 สิงหาคม 2555 8:20:38 น.
Counter : 828 Pageviews.
Share Tweet