สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนปรารถนา คงอยากให้ลูกฉลาด เป็นคนดีและสุขภาพแข็งแรง หลายคนคงอาจสงสัยว่าทำไมลูกของเพื่อนบ้านถึงแข็งแรงไม่ต้องพาไปหาหมอ ทำไมเพื่อนของลูกที่โรงเรียนถึงมีสุขภาพดี ไม่เป็นโรคภัยไข้เจ็บ วันนี้ผู้เขียนมีเคล็ดลับดี ๆ 8 ประการ มาฝากท่านผู้อ่านดังนี้ 1. ล้างมือให้สะอาด ให้กฎข้อนี้ถือเป็นกฎเหล็กของบ้าน คือทุกคนต้องล้างมือให้สะอาด ล้างมือทุกครั้งหลังออกไปทำธุระนอกบ้าน ล้างมือหลังจากการใช้ห้องน้ำ ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร การล้างมืออย่างสม่ำเสมอช่วยลดการเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจและระบบลำไส้รวมทั้งการย่อยอาหารได้ ฝึกให้ลูกล้างมือให้สะอาดจนเป็นนิสัย เมื่อกลับจากโรงเรียน หลังจากการเล่นเครื่องเล่นที่สนาม การเล่นกับสัตว์เลี้ยงในบ้าน โดยให้ลูกร้องเพลงช้าง 2 จบก่อนการล้างด้วยน้ำสะอาดครั้งสุดท้าย การขัด ถู ทั้งซอกเล็บ ง่ามนิ้วมือ ฝ่ามือ หลังมือเป็นเวลา 15-20 วินาทีถือเป็นเรื่องที่จำเป็น 2. หลีกเลี่ยงการจับบริเวณใบหน้า หวัดและ Flu สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางปาก จมูก ตาและส่วนของบริเวณใบหน้า ดังนั้นให้เด็ก ๆ หลีกเลี่ยงการจับบริเวณดังกล่าว อาจเป็นการยากที่จะควบคุมในเรื่องเหล่านี้ แต่การล้างมือถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยป้องกันสิ่งเหล่านี้ได้ ฝึกเด็ก ๆ ที่จะไม่ใช้ช้อน ส้อม หลอด แก้วน้ำ หรือแปรงสีฟันร่วมกับคนอื่น ๆ และฝึกเด็ก ๆ ให้ใช้ช้อนกลางในการตักอาหารด้วย 3. แปรงฟันให้สะอาด สุขภาพของช่องปากถือเป็นสิ่งที่สำคัญสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม หากแบคทีเรียมีการสะสมตัวกันมากขึ้นจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้ รวมทั้งโรค มือ เท้า ปากในปัจจุบัน ดังนั้นควรรักษาสุขภาพฟันให้สะอาดอยู่เสมอ ให้เด็กมีโอกาสแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และหากแปรงหลังรับประทานอาหารกลางวันด้วยจะดีมาก 4. นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอและการพักผ่อนในระหว่างวันช่วยให้เด็กฉลาดและมีสุขภาพแข็งแรง โดยมีอัตราการนอนตามวัยดังนี้ เด็กทารกจะนอนหลับเกือบตลอดทั้งวัน เมื่ออายุ 1 ขวบอัตราการนอนจะเท่ากับเวลาตื่นคือ 12 ชั่วโมง เมื่อโตขึ้นอัตราการนอนจะลดลงคือ 10 ชั่วโมง และในวัยรุ่นและผู้ใหญ่จะมีความต้องการในการนอน 7-8 ชั่วโมง 5. ออกกำลังกายเป็นประจำ จากการศึกษาพบว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและทำจนเป็นนิสัย ช่วยลดอัตราการเป็นหวัด หรือ Flu ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่าง ๆ ในระหว่างปีได้ถึง 25-50 % เพราะเชื้อโรคเหล่านี้มีการแพร่กระจายอยู่ทั่วไป การออกกำลังกายเป็นเสมือนสิ่งมหัศจรรย์ในการรักษาโรค 6. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในมื้อหนึ่ง ๆ ควรมีอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน เกลือแร่ วิตามินและน้ำอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อาหารเป็นเหมือนภูมิคุ้มกันของร่างกาย อาหารที่ให้วิตามิน C เช่น บล็อกโคลี ส้ม สตอเบอรี่ และวิตามิน D ในนม ไข่ เนย ควรรับประทานเป็นประจำด้วย 7. พูดคุยเรื่องตลก ๆ กับลูก ๆ ข้อนี้ช่วยทางด้านอารมณ์ เพราะความเครียดทางอารมณ์ในเด็ก อาจส่งผลต่อร่างกายได้ การพูดคุยเรื่องตลก การหัวเราะ ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทสมองที่ทำให้เกิดการหลั่งสารที่ชื่อว่า endorphin ทำให้เกิดความสุข ส่งผลให้อารมณ์ดี สมองได้รับการกระตุ้นทำให้เกิดความคิดเชิงบวก สร้างสรรค์ และมีจินตนาการ มีผลทำให้ร่างกายและจิตใจได้รับการฟื้นฟู 8. ไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนตามกำหนด มีวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ( Flu) อีสุกอีใส ไข้สมองอักเสบ และอื่นๆ ควรให้ลูกฉีดวัคซีนให้ครบตามกำหนด กรมควบคุมโรคติดต่อของสหรัฐอเมริกากล่าวว่า การป้องกัน Flu ได้ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีน หากลูกมีสุขภาพดี คุณพ่อคุณแม่คงสบายใจและมีความสุข เคล็ดลับ 8 ข้อนี้คงไม่ยากเกินไป และเป็นการสร้างสุขนิสัยที่ดีให้แก่ลูก ๆ ด้วย ข้อสำคัญคุณพ่อ คุณแม่ต้องทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เด็ก ๆ เรียนรู้จากการกระทำมากกว่าคำพูด เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรงค่ะ | |