Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
 
5 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
10 อันดับความเครียดยุคโลกาภิวัฒน์และวิธีรับมือ

       1. ความเครียดในครอบครัว 
       
       ปัญหาจากการสื่อสารที่ไม่เหมาะสมเป็นตัวการทำให้ความเครียดชนิดนี้ปะทุขึ้นมาในครอบครัว ยิ่งหากคุณเป็นคนหนึ่งที่มักมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับคู่ครองบ่อย ๆ หรือสื่อสารกับลูก ๆ ไม่เข้าใจแล้วล่ะก็ จะปฏิเสธว่าไม่เครียดก็คงเป็นเรื่องแปลก ซึ่งแนวทางแก้ไขความเครียดในจุดนี้อาจเริ่มต้นจาก
       
       - พยายามเป็นผู้ฟังที่ดี ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่พร้อมจะตำหนิคู่ครองทันทีที่เขาหรือเธอเอ่ยปากขอความคิดเห็น ก็เป็นไปได้ว่า นานไป ก็จะไม่มีใครอยากคุยกับคุณ ดังนั้น ควรเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนที่รู้จักรับฟังปัญหาอย่างชาญฉลาด และทำให้ผู้ที่คุยด้วยรู้สึกว่าคุณฟังอย่างตั้งใจ อย่าตัดโอกาสตัวเองด้วยการขัดคอ หรือต่อว่าคู่ครองว่าโง่ ไม่ฉลาด เป็นอันขาด
       
       - สร้างบรรยากาศในการพูดคุย บางครั้งมนุษย์เราก็ต้องการให้การพูดคุยมีขั้นมีตอน มีแบบแผน หรือมีช่วงเวลาที่ชัดเจน หากคุณและครอบครัวไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดคุยกัน ลองกำหนดช่วงเวลาที่ทุกคนได้อยู่กันพร้อมหน้า และให้แต่ละคนได้มีโอกาสระบายความรู้สึก ความกังวลในจิตใจออกมาให้คนอื่น ๆ ได้รับฟังโดยอิสระดูบ้างก็คงจะดี ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ต้องอย่ามองว่าปัญหาของลูกที่เล่ามานั้นเป็นเรื่องไร้สาระ หรือขัดคอไม่ให้ลูกพูดจนจบ หรือไม่เปิดโอกาสให้ลูกได้พูด แต่ตัวเองกลับเล่าเรื่องของตัวเองเสียยืดยาวด้วย
       
       2. ความเครียดในการงาน
       
       หากเป็นมนุษย์ทำงานในยุคนี้ การจะแกะพวกเขาออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ดูจะเป็นเรื่องยาก ซึ่งการเกาะติดอยู่กับคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวันแล้วไม่เครียดเลยก็คงไม่ใช่มนุษย์เดินดิน ทางแก้คือ ลองปลูกต้นไม้เล็ก ๆ หรือหาดอกไม้มาประดับโต๊ะทำงานดูบ้าง ก็สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้เกิดขึ้นได้
       
       อย่างไรก็ดี ต้นไม้ที่จะนำมาปลูกที่โต๊ะทำงาน หรือในออฟฟิศ ไม่ควรเป็นพืชที่ต้องการแสง - น้ำมากนัก และควรหลีกเลี่ยงการวางต้นไม้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ริมหน้าต่างที่โดนแดดช่วงบ่าย หากเป็นไปได้ หาโอกาสเปลี่ยนสถานที่วางต้นไม้ไปยังจุดต่าง ๆ ของออฟฟิศบ้างเพื่อให้มันได้รับแสงแดดที่แตกต่างกัน
       
       3. ความเครียดจากเพื่อนร่วมงาน
       
       เพราะเพื่อนในที่ทำงานมีหลายแบบ แต่ถ้าคนที่นิสัยไม่ค่อยดีบางคนก็ชอบชี้นิ้วสั่งคนอื่นให้ทำตามที่ตนเองต้องการ บ้างก็ชอบโวยวาย ก้าวร้าว บ้างก็ขี้บ่นขี้นินทา บ้างก็ชอบยืมเงินแต่ไม่คืน วิธีรับมือคือ หากคุณรู้สึกโกรธ หรือโมโหกับพฤติกรรมของเพื่อนร่วมงาน แทนที่จะตอบโต้ออกไป ขอให้หันมามุ่งสังเกตใจของตัวเองแทน และพยายามหาทางรับมือกับใจของตัวเองที่กำลังโกรธ แทนการไป "จัดการ" เพื่อนร่วมงานตัวแสบ นั่นจะทำให้คุณสงบลงเร็วขึ้น และทำให้เพื่อนร่วมงานคนดังกล่าวไม่สามารถทำอะไรคุณได้ด้วย
       
       นอกจากนั้น การนั่งสมาธิสักวันละ 5 นาทีในตอนเช้าก่อนออกมาทำงาน หรือก่อนนอนก็ดีต่อจิตใจของคุณเช่นกัน เพราะเป็นการฝึกตัวเองให้มีสติ และสามารถรับมือกับความโกรธที่จะเกิดขึ้นในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี
       
       4. ความเครียดจากการไม่ได้ออกกำลังกาย
       
       พ่อแม่ส่วนมาก ตื่นเช้าขึ้นมาก็ต้องรีบอาบน้ำล้างหน้า เตรียมอาหารสำหรับลูกน้อย และพาเด็ก ๆ ขึ้นรถฝ่าการจราจรอันติดขัดเพื่อมาส่งโรงเรียนให้ทันเข้าแถวเคารพธงชาติ จากนั้นก็ต้องรีบเดินทางไปทำงานต่อ กว่าจะเลิกงานกลับบ้านมารับลูกก็เย็นย่ำ แล้วจะให้หาเวลาไปออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีตอนไหนกัน
       
       ทางแก้คือ ขอให้ลองบริหารเวลาให้ดีอีกสักนิด แทนที่จะมองว่าทุกวันช่างยุ่งเหยิง ลองจัดตารางให้ครอบครัวเลยว่า เราจะไปออกกำลังกายกันทุกวันจันทร์ กับวันพฤหัสตอนเย็น หากสามารถทำได้เช่นนี้ ครอบครัวคุณก็จะมีเวลาได้ออกกำลังกายร่วมกันทุกคน และสามารถมีความสุขกับการใช้ชีวิตในเมืองได้ด้วยเช่นกัน
       
       5. ความเครียดจากปัญหาจราจร
       
       คนเมืองคงเจอความเครียดข้อนี้กันแทบทุกวัน ยิ่งวันไหนฝนตก วันนั้นรถยิ่งติด การนั่งอยู่ในรถเฉย ๆ รอดูสัญญาณไฟว่าเมื่อไรจะเขียว เมื่อไรคันหน้าจะขยับบางทีก็เป็นเรื่องน่าเบื่อพอดู แต่ความเบื่อนี้สามารถขจัดได้ง่าย ๆ ด้วยการ "ร้องเพลง" เพราะมีการศึกษาวิจัยชี้ว่า การร้องเพลงช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกในแง่บวกได้ และสามารถช่วยลดความดันโลหิตลงได้ด้วย ที่สำคัญการร้องเพลงในรถ ไม่มีกรรมการมาคอยตัดสินให้คะแนนเสียงร้องของคุณอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นจะร้องเสียงหลง เสียงหลบก็ร้องได้อย่างสบายใจ หายเครียดในวันรถติดได้เลยค่ะ

       6. ความเครียดเรื่องการเงิน
       
       ปัญหาการชักหน้าไม่ถึงหลัง รายได้ไม่พอรายจ่าย ทำให้หลายครอบครัวเกิดความเครียดได้ง่าย ดังนั้น การรับมือกับความเครียดข้อนี้ วินัยทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณไม่อยากให้ครอบครัวต้องอดมื้อกินมื้อในช่วงสิ้นเดือน ก็ควรใช้เงินอย่างฉลาด รู้จักเก็บออม แบ่งสันปันส่วนเงินให้เหมาะสม อย่าสร้างหนี้ที่ไม่จำเป็น และไม่มองบัตรเครดิตเป็นที่พึ่งอันดับต้น ๆ
       
       7. ความเครียดเรื่องการกินอยู่
       
       แม่บ้านส่วนใหญ่ที่รับหน้าที่นี้มาเป็นสิบ ๆ ปี คงรู้สึกเบื่ออยู่ในใจ ว่าเย็นนี้จะทำเมนูอะไรดี ทางแก้คือ การเขียนเมนูเป็นสัปดาห์ และไปจ่ายตลาดสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งคุณอาจไม่ต้องคิดเมนูคนเดียว อาจให้ลูก ๆ และสามีหรือภรรยามาช่วยคิดด้วยกัน ไปซื้อของด้วยกัน เตรียมหั่นผักหั่นหมูด้วยกัน ก็จะช่วยลดเวลาในการเตรียมอาหารลงได้อีกมาก
       
       8. ความเครียดจากการขี้ลืม
       
       การขี้หลงขี้ลืมทำให้มนุษย์เราเกิดความเครียดได้ง่าย เพราะต้องเดินเข้าเดินออกหยิบของกันไม่มีวันจบสิ้น ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ลืมของบ่อย ๆ ลองจดรายการสิ่งที่ต้องทำดูก็อาจช่วยได้ เช่น รายการสิ่งของที่คุณต้องนำไปด้วยก่อนออกจากบ้านมีอะไรบ้าง 1 - 2 - 3 แปะเอาไว้หน้าประตูบ้าน ข้อดีคือมันจะช่วยให้คุณออกจากบ้านได้ด้วยความรู้สึกพร้อมมากขึ้น
       
       9. ความเครียดเพราะไม่มีเวลาให้ตัวเอง
       
       การหาเวลาให้ตัวเองเป็นสิ่งจำเป็น และทำให้คนได้รับการเติมเต็มทางจิตใจมากขึ้น หากคุณมีครอบครัวและมีลูกที่ต้องดูแล ลองหาเวลาว่างหลังลูกนอนหลับนั่งทำงานที่ชอบ เช่น อ่านหนังสือ ดูแลตัวเอง ฯลฯ สัก 30 นาที ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
       
       10. ความเครียดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ
       
       มนุษย์ทำงาน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเมืองใหญ่มักมีเรื่องเครียดมากมายให้คิด หลายคนกว่าจะคิดจบก็เกือบเช้า ทำให้ตื่นเช้ามาทำงานด้วยความไม่สดชื่น คนทำงานจึงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมเครียด ๆ ก่อนนอน เช่น การทำงาน มาเป็นการอ่านหนังสือเบา ๆ หรือฟังเพลงสบาย ๆ แทนเพื่อให้จิตใจพร้อมสำหรับการนอนหลับอย่างมีความสุข
       
       เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก ivillage.com



Create Date : 05 กรกฎาคม 2555
Last Update : 5 กรกฎาคม 2555 12:20:55 น. 0 comments
Counter : 752 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ยี่สิบห้าเดือนเจ็ด
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Friends' blogs
[Add ยี่สิบห้าเดือนเจ็ด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.