Silver Blade: ความรัก เวทมนตร์ ความแค้น และการปฏิวัติ
อันที่จริงเล่มนี้อ่านจบไปได้พักนึงแล้ว แต่สถานการณ์ในหนังสือกับในชีวิตจริงมันใกล้กันเกินไปจนไม่มีอารมณ์รีวิว
Silver Blade: Sally Gardner (312 pages)
เล่าเรื่องย่อเล่มแรกกันสักหน่อย
หนังสือเล่มแรกของชุดสองเล่มจบนี้เล่าถึงความเป็นมาของ Yann Margoza เด็กหนุ่มยิปซีผู้มีความสามารถในการอ่านใจและมองเห็นเส้นสายสีทองซึ่งใช้บังคับสิ่งต่างๆได้ Count Kalliovski ผู้ชั่วร้ายต้องการอำนาจนั้นจนทำให้ Yann ต้องหนีไปอังกฤษ ก่อนจะกลับมายังฝรั่งเศสอีกครั้งในช่วงการปฏิวัติเพื่อช่วยเหลือ Sido ลูกสาวมาร์ควิสซึ่งเคยช่วยเขาไว้ และเป็นคู่แท้ของเขา เรื่องในเล่มแรกจบลงตรงที่ Yann เลือกกลับไปปารีสเพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆที่ตกเป็นเหยื่อความบ้าคลั่งของการปฏิวัติ แทนที่จะกลับไปเรียนต่อที่เคมบริดจ์
เรื่องย่อเล่มสอง
ท่ามกลางความโกลาหลและป่าเถื่อนที่เกิดจากการปฏิวัติฝรั่งเศส Yann Margoza ใช้อำนาจของเขาในการช่วยเหลือผู้คนที่เสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของกิโญตินด้วยการลักลอบพาพวกเขาข้ามไปยังเกาะอังกฤษ ที่ซึ่ง Sido คนรักของเขาถูกส่งไปอยู่กับลุงและป้า ซึ่งต้องการให้เธอแต่งงานกับหนุ่มตระกูลดีสักคนแทนที่จะเป็นยิปซี และ Yann ซึ่งได้รู้ความลับเรื่องชาติกำเนิดของตัวเองก็เลือกที่จะตัดขาด Sido
แต่แล้ว Count Kallivoski ศัตรูของ Yann ที่น่าจะตายไปแล้วกลับฟื้นขึ้นมาเดินดิน ทั้งยังมีสมุนเป็นเด็กหนุ่มรูปงามทว่าจิตใจเย็นชา ท่าน Count ลักตัว Sido มาเพื่อบังคับให้ Yann ถ่ายทอดเวทมนตร์ให้ แต่ความชั่วร้ายย่อมแพ้ให้ความดีงามและความบริสุทธิ์ และเหล่าบุตรธิดาแห่งการปฏิวัติก็เป็นอิสระดุจดังนกบนท้องฟ้า
ตัวละครทั้งหลายในเรื่องนี้ออกแนวตามขนบ พระเอกหล่อเท่เก่งเทพ นางเอกอ่อนหวานทว่าเด็ดเดี่ยว ตัวร้ายโฉดแบบขุดมาจากนรกขุมไหนฟะ แถมยังมีมุก Darth Vader อีกแน่ะ ซึ่งปกติเราจะเซ็งเรื่องแนวนี้มาก แต่ภาษาที่สวยงามของคนเขียน และบทบรรยายก็ทำให้เราเชื่อว่าตัวละครพวกนี้เป็นแบบนี้จริงๆ และเอาใจช่วยมากกว่าจะหมั่นไส้ (ท้ายเล่มคนเขียนเธอบอกว่าตั้งใจเขียนเรื่องแบบนี้อยู่แล้วค่ะ คือความรักความแค้นแบบโรแมนติกดราม่า)
ส่วนเวทมนตร์ในเรื่องนี้ออกแนวไสยศาสตร์จิตวิญญาณหน่อยๆ มีการปลุกเสกหุ่นรับใช้ มีการกักขังวิญญาณ ซึ่งก็เข้ากับเซ็ตติ้งที่เป็นเรื่องของชาวยิปซีดี
คนเขียนบรรยายความวุ่นวายหลังการปฏิวัติได้ชวนขนลุกเอามากๆ ในเล่มแรก ประชาชนทั้งหลายคิดว่าการปฏิวัติจะนำมาซึ่งอิสรภาพและความเท่าเทียม แต่มันกลับดึงส่วนที่เลวร้ายที่สุดของมนุษย์ออกมาแทน เหล่าชนชั้นสูงถูกฆ่าราวกับผักปลา เพื่อนบ้านหวาดระแวงกันเอง ผู้คนพากันสะใจกับความตายของคนอื่น และส่งเสียงโห่ร้องยินดีเมื่อมีดกิโญตินร่วงลงบั่นคอนักโทษ การปล้นฆ่ากลายเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งเป็นการฆ่าในนามของ "la revolution" ด้วยแล้ว
แต่คนอ่านคนนี้ก็รู้สึกว่าเล่มสองด้อยกว่าเล่มหนึ่งนิดนึง ซึ่งคิดว่าเป็นเพราะตัวละครรองไม่เด่นเท่าเล่มก่อนหน้า และแทนที่จะอ่านแล้วรีวิวเลย ดันไปอ่านหนังสือที่ตัวละครเจ๋งเทพอีกหลายเล่มติดๆกันก่อน (ดังเช่นเฮีย Kvothe ในบล็อกก่อน และเจ้า Miles ในบล็อกถัดไป) ซึ่งพวกนั้นเป็นหนังสือผู้ใหญ่จึงเข้มข้นกว่า พอเทียบกันแล้วก็เลยรู้สึกเบาไปหน่อยน่ะค่ะ แต่สำหรับ YA แล้ว Silver Blade ก็ถือว่าเข้มข้นและหม่นทึมมากทีเดียว
สรุปก็คือจัดอยู่ในกลุ่มแนะนำให้อ่านค่ะ ^^
แถมด้วยเกร็ดประวัติศาสตร์
ยุคสมัยแห่งความหวาดผวา (The Reign of Terror, The Terror) คือช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความรุนแรงซึ่งกินเวลา 1 ปีกับ 1 เดือน นับตั้งแต่การปฏิวัติฝรั่งเศสเริ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลพวงมาจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มการเมืองต่างๆ และมีการสังหารผู้ที่ถูกเรียกว่า "ศัตรูแห่งการปฏิวัติ" ไปมากมาย ไม่มีใครทราบจำนวนผู้ที่ถูกสังหารแน่ชัด โดยตัวเลขที่ประมาณการกันนั้นมีตั้งแต่ 16,000 ถึง 40,000 คน
Create Date : 08 มิถุนายน 2553 |
|
5 comments |
Last Update : 8 มิถุนายน 2553 22:58:32 น. |
Counter : 1066 Pageviews. |
|
|
|