สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
Group Blog
ตาพรานบุญ
<<
เมษายน 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
10 เมษายน 2551
กูคือชาวนา
All Blogs
ประชากรแฝงในโลกบ้าใบ้
บาดแผลบนแผ่นหลัง
ฝนหลงฟ้า
จ่าเพียร...วีรบุรุษแห่งบันนังสตา
คิดถึงไอ้มดแดงและสหาย
เดินช้าๆ
ฤดูร้อนของทะโมนไรเดอร์
สีน้ำยาใจ ขนมยาไส้...ไข่ดำ
ก่อนการจากลา
เ ง า - เ ข ล า
ดวงดาวของนักแสวงหา
คาราวานแห่งเวลา
นิทานในคืนคริสต์มาสจากหมู่บ้านเล็กๆริมฝั่งอันดามัน
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากพระเจ้าที่ท่านเรียก
รหัสลับจากหอคอยวิปลาส
ตื่นเถิด...อับดุลเราะห์มาน
อดัมกับเดินทางสู่ดินแดนไร้นิยาม
โศกนาฏกรรมของดอกไม้/๑๑๔
โกแกง : วินเซนต์... ฉั้นจะตัดหูนาย
สนทนาในความเงียบ
การหายไปของคนในพื้นที่
๑๔กรกฎาคม (ตีลังกาในท้องแม่้)
ผีตากผ้าอ้อมกลางป่า
ต้อยตีวิด
ดอกไม้และทะเลที่ไม่มีอยู่จริง
ข้าวต้มน้ำขุ่น
พีพี...โลกคู่ขนาน
เศษไม้ลอยน้ำ
ฉันหายไป
นกในใจ
ฝนแรกกลางกุมภาพันธ์
หญิงสาวบนถนนแห่งอดีต
ก่อนการมาถึงของนกแสงตะวัน
............(แทน)
มานิตย์ ภู่อารีย์ อาจารย์ผู้อารี
ดอกไม้จันทน์
ยาม+นรสิงห์+ว.2...เปลี่ยน
ช้าง...ในหน้าหนังสือพิมพ์
แค็ปซูล ป.2 ในกลุ่มดาวเพชรเกษม
ไกลกังวล
บวงสรวงดวงวิญญาณช้างแคระ
ใบลาออกด้วยเหตุทุจริตจากผู้ที่อาสารับใช้ประชาชน
กรณีีพิพาทเขาพระวิหาร
มองมุมสูง
คนเล
หัวล้านห่มเหลือง
หญิงสาวกลางสายฝน
ข่าวเช้าที่เมืองไทย
แนวรบด้านตะวันตกเฉียงใต้...เหตุการณ์เปลี่ยนแปลง
รถเมล์สายมิตรภาพ
กูคือชาวนา
ลีลาวดีสถาน
ทะเลอารมณ์
เหตุเกิดในห้องนั้น
เจ้าขมิ้น...กลับมาแว้้ววววววว
บัวผุด
คืนฝนโปรย
ฉันแบกบ้าไปทิ้งที่ขอบฟ้า
บันทึกเจ้าผีเสื้อ
แววตาพ่อ...(ที่มองพระพี่ยา)
มาลัยดอกไม้ป่าบนหาดทราย
พรานบุญโภชนา
ข้าพเจ้า...ขออาสา
ฉันคือ...นกป่า
แค่นี้...แค่นั้น
รันตี,ดนตรี, กวี
ได้โปรดเถิด...นางฟ้า
ฤา แค่ฝันร้ายกลางวันที่บ้านกระรอก
ที่รัก...
บัว= เยื่อใยสุดท้ายภายใต้กงจักร
น้ำค้าง
ความคิดถึงในสายลมหนาว
รายงานสีชมพู เรื่อง"บ้านของฉัน"
วันนี้ที่รอคอย
ปราชญ์ ณ ริมเล
เริงระบำใต้แสงจันทร์
เหวย...เทวดาเหวย
"ผีพุ่งไต้"
เมื่อพรานบุญเข้าเครื่องจับเท็จ
ห้วงเวลาที่เรียกว่า...เหงา
อิทธิพลจากพายุลูกนี้...
มายาพระจันทร์
"ตถตา" เป็นเช่นนั้นเอง
ปฐมบท...ชีวิต
กูคือชาวนา
สีอะครีลิค ขนาด 101*100 ซ.ม
๐. ดวงตะวัน ใกล้ลับ ลงหลืบฟ้า
แสงทองทา ทาบทุ่ง คลุ้งกลิ่นเหงื่อ
คมใบข้าว กรีดกาย ใช่กรีดเถือ
ฝากรอยแผล บนกายเนื้อ เนิ่นนานมา
๐. เหนื่อยกับหวัง ฟูมฟัก ทุ่งข้าวเขียว
จากแรงเป็น รวงเรียว เต็มใต้ฟ้า
ทุ่งรวงทอง ไกลลิบ ไกลสุดตา
กลั่นเหนื่อยล้า คราบไคล ให้เป็นทอง
๐. สองมือเกี่ยว ตีนย่ำ เท้าก้าวย่าง
แบกฟ่อนฟาง มัดวาง อย่างแคล่วคล่อง
ร่ายกวี ลำนำ ขับทำนอง
เป็นเพลงร้อง สวรรค์ ชาวนาไทย
๐. ตลาดโลก ให้ราคา ข้าวสูงค่า
ได้ลืมตา อ้าปากบ้าง แล้วใช่ไหม
จะปลดหนี้ เปลื้องสิน มาเป็นไท
แค่อึดใจ ได้หลุดพ้น พันธนาการ
๐. โซ่ตรวนหนี้ ผูกรัดนั้น ครั้งรุ่นปู่
รู้ทั้งรู้ ชาวนาคือ กระดูกบ้าน
กี่พ.ศ. กี่นายก กี่รัฐบาล
กระดูกบ้าน ก็ผุ กร่อนเรื่อยมา
..............
๐. ปาดเหงื่อไคล ที่ชุ่มล้า หน้าเปื้อนยิ้ม
รวงทองงาม อวบอิ่ม กองตรงหน้า
ตะวันคล้อย ลอยลับ ลงลิบตา
หวังข้าวคง ราคา นานนานเทอญ......สาธุ
Create Date : 10 เมษายน 2551
Last Update : 10 เมษายน 2551 13:30:23 น.
25 comments
Counter : 4318 Pageviews.
Share
Tweet
ข้าวแพงแล้วได้อะหยังปี้จายบ้านปลายพันวา
ชาวนากินดีอยู่ดีกว่าเดิมหรือ...ก็เปล่า
ข้าวขึ้นราคา...มันก็จะโยงให้ทุกอย่างปรับขึ้น ครั้นฤดูกาลทำนาหมุนเวียนมาอีกครา ปุ๋ยก็ขึ้น ราคาเมล็ดพันธุ์ก็ขึ้น
ได้ข่าวว่า...พากันขายข้าวจนหมดไม่เหลือเก็บไว้ทำพันธุ์
คิดง่ายๆ สมัยม.ต้น อี่น้องเคยกิ๋นปากหม้อตัวละ ๑ บาท
สองปีก่อน พาเพื่อนไปเที่ยวบ้าน เลยแวะกิ๋นปากหม้อที่ใครๆ ก็ถามหา ปรับราคาขึ้นเป็นสองตัวห้าบาท
ถ้าข้าวขึ้น ปากหม้อซึ่งมีส่วนผสมจากแป้งอันได้มาจากการแปรรูปข้าวก็ต้องปรับขึ้นราคาอีก
ถามว่า...ชาวนามีกินมากกว่าแต่ก่อนไหม
ถามว่า...แม่ค้าปากหม้อจะรวยขึ้นกว่าเดิมไหม
อี่น้องว่าบ่ไจ้...นี่บ่ไจ้การแก้ปัญหาที่ถูกต้องและยั่งยืน
ตัวเลขที่มากขึ้นของราคาขายข้าว หักลบกลบหนี้และเหลือไว้สำหรับเป็นทุนในการปลูกข้าวหนหน้าก็แทบไม่แตกต่างกับครั้งข้าวราคาตก...เชื่อน้องเต๊อะ
อี่น้องน่ะ...เกิดมาก็เห็นโรงสีของอากงแล้ว
มันเป็นภาพที่เห็นจนต้องตั้งคำถามและเลิกตั้งไปในที่สุด
วันขายข้าวโรงสีจะคึกคักมาก
หลังได้รับเงินแล้ว ชาวนาก็จะพากันไปซื้อทองหยองใส่ ซื้อนั่นซื้อนี่
ครั้นหน้านาเดินทางมา ทองนั่นบ้างขายบ้างจำนำ ส่วนค่าปุ๋ยค่ายาก็ยืมมาใช้ก่อน ขายข้าวได้แล้วค่อยหักลบออกไป
มันวงเวียนอย่างนี้ซ้ำทุกปี
ตัวเลขที่มากขึ้น ไม่ได้หมายความว่า ชาวนาจะมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นดอกหนาปี้จาย
พอล่ะ...เดี๋ยวคิดว่าอี่น้องมาชวนทะเลาะ
เอิ๊กกกกกกกกกกกก
...
เพลงไรอ่ะ...เพราะดี
แหม้...บล็อกปี้อ้ายนี่มีแต่เพลงที่ไม่เคยฟังทั้งนั้นเลยวุ้ย
โดย: คนรักของดวงดาว IP: 118.173.101.155 วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:13:49:57 น.
โดย:
นายแจม
วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:14:03:31 น.
หวัดดีจ้า ตาพราน..
วันนี้ราคาข้าว หอมมะลิ กก.ละ 18.80 บาท..
ถ้าเวลานี้ของปีที่ แล้ว กก.ละ 8.80 บาท..
ต่างกัน 10 บาท...
ฟังเสียงชาวนาบ่น ถ้าตุนไว้เมื่อหัวปี น้ำหนักข้าวลดลงไปกว่าครึ่ง เลยขายซะตอนฤดูเก็บเกี่ยว..ในราคา 8.80 บาท/ก.ก.
ผ่านไปสามเดือน ขึ้นมา 10 บาท
ชาวนาบอกไม่เคยตามพ่อค้าทัน...
ถ้าเราเป็นชาวนา จะรู้สึกอย่างไรดี บ่งบอกการบริหารของรัฐบาลหรือไม่..พี่พราน
โดย:
โมกสีเงิน
วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:15:55:21 น.
...ข้าวขึ่นราคา..
..ใครได้กำไร..
ชาวนาก้อยังเหมือนเดิม..
เฮ้อ..
โดย:
gripenator
วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:16:26:37 น.
สายัณห์สวัสดีจ๊ะตาพรานฯ
------------------------------------------------
อะคึ่ ๆ
.
.
.
.
.
.
.
ชีวิตชาวนา คือ ชีวิตที่เหนื่อย ลำบาก และยากนานตลอดชีวิต
(อาจจะยากนานตลอดชั่วโคตะระ จริง ๆ )
เพียงแต่วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลง ตามกระแสของสังคมนิยม....
แต่ไม่เคยลืมตัวว่า "เป็นลูกชาวนา" มาแต่กำเนิด
ฉันรู้ (เต็มอก).......
พ่อแม่และพี่น้องลำบากแค่ไหน กว่าจะได้ข้าวมาหุงกินกันวันละ 3 มื้อ
มีบางครั้งยังกินทิ้งกินขว้าง เพียงเพราะว่า...หาซื้อกินง่าย
หาสตางค์พอเลี้ยงชีพได้ไม่เหนื่อยกาย...เท่ากับปลูกข้าวกินเอง
และในวันนี้....ฉันหวังเพียงว่า ชีวิตชาวนาจะได้รับผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า
ถ้า...พ่อค้า (นายหน้า) ไม่ทำนาบนหลังคน ชนชั้นชาวนา
เลือดชาวนาขึ้นสมองซะแย้ว
ปล. ภาพวาดงามคม เหมือนคมเคียวเกี่ยวข้าว งามหลายเด้อ
โดย:
สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น
วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:17:42:45 น.
"เกี่ยวเถอะนะแม่เกี่ยว
เกี่ยวเถอะนะพ่อเกี่ยว
ระวังเคียวจะบาดใจเอย"
อิอิ ร้องไม่เป็นค่ะ พี่พราน มั่วเอานะคะ
ข้าวแพงขึ้น เงินเดือนเท่าเดิม เฮ้ออออ
โดย:
Nok_Noah
วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:23:19:50 น.
ไม่เอา...ขี้เกียจเกี่ยว
เดี๋ยวได้ไรมาก็ไม่รู้
ฉันไม่บ่นข้าวแพงบ้านนี้หรอก...รู้สึกไม่ค่อยจะเข้ากัน
บ่นยอดข้าวแพงน่าจะเข้าท่ากว่าเยอะนิ
โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:9:22:03 น.
อย่าดูหมิ่นชาวนาเหมือนดังตาสี
เอาผืนนาเป็นที่พำนักพักพิงร่างกาย
ชีวิตเอยไม่เคยสบาย
ฝ่าเปลวแดดแผดร้อนแทบตาย
ไล่ควายไถนาป่าดอน
เหงื่อรินหยดหลั่งลงรดแผ่นดินไทย
จนผิวพรรณเกรียมไหม้
แดดเผามิได้อุทรณ์
เพิงพักกายมีควายเคียงนอน
สาบควายกลิ่นโคลนเคล้าโชยอ่อน
ยามนอนหลับแล้วใฝ่ฝัน
กลิ่นโคลนสาบควายเคล้ากายหนุ่มสาว
แห่งชาวบ้านนา
ไม่ลอยเลิศฟ้าเหมือนชาวสวรรค์
หอมกลิ่นน้ำปรุงคลุ้งอยู่ทุกวัน
กลิ่นกระแจะจันทร์
หอมเอยผิวพรรณนั้นต่างชาวนา
อย่าดูหมิ่นชาวนาเห็นว่าอับเฉา
มือถือเคียวชันเข่า
เกี่ยวข้าวเลี้ยงเราผ่านมา
ชีวิตคนนั้นมีราคา
ต่างกันแต่ชีวิตชาวนา
บูชากลิ่นโคลนสาบควาย
เพลง กลิ่นโคลนสาบควาย
ไพบูลย์ บุตรขัน ประพันธ์เพลง
ชาญ เย็นแข ขับร้อง
โดย: ชิบุ ชิบุ IP: 118.173.64.195 วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:15:12:39 น.
เราคนเกาะแต่ปลูกข้าวกินเองนะเพ่พราน...
มีหลักฐานมาให้เบิ่งด้วย...
ถอนกล้าอ่ะ.เพ่พรานทำเป็นรึปล่าว...
ถอนไม่เป็นอายเด็กแถวนี้มันน่า...อิอิอิ
โดย: พราย..หุหุหุ IP: 125.27.161.0 วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:15:27:24 น.
สบายดีรึตา..
โดย:
สีน้ำฟ้า
วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:20:04:37 น.
มาอ่านค่ะ
เคยลงเคียวเกี่ยวข้าวเอง จึงเข้าใจหัวอกชาวนา
ว่าเหนื่อยแค่ไหน...
และ
ถึงแม้แค่ชั่วขณะ... แต่ก็ดีใจแทนชาวนา ที่มี
คนสนใจพวกเขาเหมือนกัน ไม่ใช่ละเลยแบบ
ที่ผ่านมา ..ยิ้ม..
โดย:
ปลิวตามลม
วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:22:40:31 น.
โดย:
ครูจี๊ด
วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:0:06:53 น.
ปราชญ์ท่านใดหนอเคยกล่าวว่าไว้
เหล่านักปกครองใด
มีความมั่งคั่งมีทรัพย์สมบัติมากจนเกินการ
ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี
ดื่มกินอิ่มหนำสำราญอย่างฟุ่มเฟือย
สะพายดาบแห่งอำนาจ ใช้ชีวิตอย่างฉ้อฉล
หากประชาชนนั้นท้องกิ่วหิวโหย
ไร่นารกร้าง ยุ้งฉางว่างเปล่า
เราอาจเรียกเหล่านักปกครองนั้นได้ว่า
มหาโจร!!
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ...
โดย: pu_chiangdao (
pu_chiangdao
) วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:14:52:01 น.
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่
โดย:
gripenator
วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:11:43:31 น.
อวยพร.....ปีใหม่ไทย
ร้อนนิดร้อนหน่อยนั่งนิ่ง
สรรพสิ่งเป็นจริงดั่งเห็น
โลกร้อนผ่อนคลายกายเย็น
คิดเป็นหมดร้อนรอนร้าง
สงกรานต์สานมิตรไมตรี
ชีวิตสุขขีสล้าง
แข็งแรงเจ็บป่วยหายสร่าง
พบสว่างทางธรรมทุกคน........
ระวังเล่นน้ำกลางร้อน อาจไม่สบายได้....บางอาชีพจะ(แอบ)ดีใจ...อุ๊บส์
โดย:
บังอร-บังเอิญ
วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:12:58:08 น.
สวัสดีค่ะ ตาพราน
ภาพสวยอีกแล้ว
ข้าวขึ้นราคา เป็นผลดีต่อชาวนา หรือใครกันแน่
อันนี้ปางหวันก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกันค่ะ
เพลงเพราะ คล้ายๆจะเคยฟังค่ะ
ปล.คอมเม้นด้านบน อาชีพไรน๊อ แอบดีใจ..อิอิ
โดย:
ปางหวัน
วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:14:02:52 น.
สวัสดีปีใหม่ครับ
โดย: พี่ฝน (
Childcraft
) วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:16:33:38 น.
สวัสดีปีใหม่ พี่พราน
โดย:
Nok_Noah
วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:20:55:04 น.
ตาพรานจ๋า
ชอบเพลงที่ตานำมาเสนอมาก ๆ ค่ะ ไปด้วยกันได้ดีมากจริง ๆ
พี่เพิ่งกลับมาจากบ้านใต้ค่ะ
โดย:
แพรจารุ
วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:21:08:13 น.
กลับมาแล้วก่อ้ายป๋าน
น้องกลับถึงบ้านแล้วหนา
ท่านแม่เปิ้นทำเวลาน่าดู
โดย: แม่เจ้าพีพี IP: 118.174.179.237 วันที่: 17 เมษายน 2551 เวลา:3:25:25 น.
เค้าคิดถึงเพลงเน้จ้ะ ..
เปิบข้าวทุกคราวคำ จงสูจำเป็นอาจิณ.
เหงื่อกูที่สูกิน จึงก่อเกิดมาเป็นคน.
ข้าวนี้นะมีรส ให้คนชิมทุกชั้นชน.
เบื้องหลังสิทุกข์ทน และขมขื่นจนเขียวคาว ...
............
โดย:
ซซ
วันที่: 17 เมษายน 2551 เวลา:7:16:12 น.
สงสัยม๊ะว่าทำไมข้าวแพงก็เพราะว่าเงินเดือนถูกข้าวเลยแพง เป็นอย่างไรวันนี้เอาเสียเหงาเลยนะ
เราว่าดีแล้วละข้าวแพงชาวนาจะได้มีตังมากๆเสียที่
คิดถึงนะไปเที่ยวปีใหม่ไทยที่ไหนมาหรือ
ฟังเพลงแล้วอยากไปเป็นชาวนาจัง
สุดแสนจะโรแมนติสนะ
โดย:
มุกสีทอง
วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:8:42:46 น.
นิ่งเลยวุ้ย...
ไม่ขยับหลายเพลาแล้วปี้จาย
ขอบทกวีพร้อมภาพฝีแปรงงามๆ ชิ้นใหม่ได้ล่ะเจ้า
แต่...ถ้างานมันยุ่งนักก็ยะก๋านยะง๋านไปเถิดพ่อ
โดย: แม่น้องพีพี IP: 125.27.115.196 วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:10:12:46 น.
สวัสดีครับแวะมาทักทาย และสวัสดีปีใหม่ไทยย้อนหลังครับ
โดย:
prakornpat
วันที่: 24 เมษายน 2551 เวลา:12:29:34 น.
ภาพองค์ประกอบสวยมากครับ
ได้อัธรสดียิ่ง
โดย:
k_fineart
วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:31:00 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ตาพรานบุญ
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
?
]
ให้งานแนะนำตัวเอง
Friends' blogs
ตาพรานบุญ
พ่อพเยีย
ปลายแปรง
Nok_Noah
แพรจารุ
ปางหวัน
นกแสงตะวัน
shadow-of-art
kerrie
ยิปซีสีน้ำเงิน
คุณม้าม
แซนด์ซี
สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น
สีน้ำฟ้า
lukkongpoka
O_Sole_mio
ซซ
วรมุทา
มณีมรกต
jdfoxbat
ratikorn
มะลินะ
pu_chiangdao
โมกสีเงิน
HHG
ธารเมฆ
ม่วนน้อย
ชำ-อนัตตา
Ninniko
วีดวาด
เป้ สีน้ำ
นายขนมตาล
เงาตะวันฉาย
Childcraft
กวิสรา
ค่ำคืนหน้าหนาว
big onion
Kala_mydog
บุปผาลีลาวดี
อันต้า
benjarong9
ทากชมพู
discipula
Webmaster - BlogGang
[Add ตาพรานบุญ's blog to your web]
Links
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ชาวนากินดีอยู่ดีกว่าเดิมหรือ...ก็เปล่า
ข้าวขึ้นราคา...มันก็จะโยงให้ทุกอย่างปรับขึ้น ครั้นฤดูกาลทำนาหมุนเวียนมาอีกครา ปุ๋ยก็ขึ้น ราคาเมล็ดพันธุ์ก็ขึ้น
ได้ข่าวว่า...พากันขายข้าวจนหมดไม่เหลือเก็บไว้ทำพันธุ์
คิดง่ายๆ สมัยม.ต้น อี่น้องเคยกิ๋นปากหม้อตัวละ ๑ บาท
สองปีก่อน พาเพื่อนไปเที่ยวบ้าน เลยแวะกิ๋นปากหม้อที่ใครๆ ก็ถามหา ปรับราคาขึ้นเป็นสองตัวห้าบาท
ถ้าข้าวขึ้น ปากหม้อซึ่งมีส่วนผสมจากแป้งอันได้มาจากการแปรรูปข้าวก็ต้องปรับขึ้นราคาอีก
ถามว่า...ชาวนามีกินมากกว่าแต่ก่อนไหม
ถามว่า...แม่ค้าปากหม้อจะรวยขึ้นกว่าเดิมไหม
อี่น้องว่าบ่ไจ้...นี่บ่ไจ้การแก้ปัญหาที่ถูกต้องและยั่งยืน
ตัวเลขที่มากขึ้นของราคาขายข้าว หักลบกลบหนี้และเหลือไว้สำหรับเป็นทุนในการปลูกข้าวหนหน้าก็แทบไม่แตกต่างกับครั้งข้าวราคาตก...เชื่อน้องเต๊อะ
อี่น้องน่ะ...เกิดมาก็เห็นโรงสีของอากงแล้ว
มันเป็นภาพที่เห็นจนต้องตั้งคำถามและเลิกตั้งไปในที่สุด
วันขายข้าวโรงสีจะคึกคักมาก
หลังได้รับเงินแล้ว ชาวนาก็จะพากันไปซื้อทองหยองใส่ ซื้อนั่นซื้อนี่
ครั้นหน้านาเดินทางมา ทองนั่นบ้างขายบ้างจำนำ ส่วนค่าปุ๋ยค่ายาก็ยืมมาใช้ก่อน ขายข้าวได้แล้วค่อยหักลบออกไป
มันวงเวียนอย่างนี้ซ้ำทุกปี
ตัวเลขที่มากขึ้น ไม่ได้หมายความว่า ชาวนาจะมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นดอกหนาปี้จาย
พอล่ะ...เดี๋ยวคิดว่าอี่น้องมาชวนทะเลาะ
เอิ๊กกกกกกกกกกกก
...
เพลงไรอ่ะ...เพราะดี
แหม้...บล็อกปี้อ้ายนี่มีแต่เพลงที่ไม่เคยฟังทั้งนั้นเลยวุ้ย