สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
4 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
ปราชญ์ ณ ริมเล




สีอะครีลิคบนผ้าใบ ขนาด 100*100ซ.ม.


เรื่องมีอยู่ว่า...
ยามสายๆที่สะพานปลาแห่งหนึ่ง นักเศรฐศาสตร์จบจากอ๊อกซ์ฟอร์ดเอ่ยถามชาวประมงที่กำลังนำเรือเล็กๆเข้าจอดว่า
"ท่านใช้เวลากี่ชั่วโมงจึงจับปลาได้ขนาดนี้"
"แค่สองสามชั่วโมงเอง"ชาวประมงตอบ
"แล้วเวลาที่เหลือล่ะท่านทำอะไร"นักเศรฐศาสตร์ถามต่อ
"ข้าก็อยูกับลูกกับเมีย ตอนเย็นก็ไปเดินเล่นในหมู่บ้าน เล่นดนตรี ร้องรำทำเพลงสังสรรค์กับเพื่อนฝูงแล้วก็กลับบ้านนอน
ชีวิตก็เป็นอยู่อย่างนี้"ชาวประมงตอบ

นักเศรฐศาสตร์แนะนำตัวพร้อมเสนอแผนพัฒนาธุระกิจให้
"ทำไม่ท่านไม่ใช้เวลาหาปลาให้มากขึ้นล่ะ ทำงานหนักขึ้น เพื่อที่จะได้ปลามามากๆ แทนที่จะเอาเวลาที่เหลือไปเดินเที่ยว"
ชาวประมงทำท่าทางสงสัย "ข้าจะหาปลามากๆไปเพื่ออะไร"
นักเศรฐศาสตร์อธิบายความคิดของเขาต่อ
"เมื่อท่านหาปลามาได้มากๆแล้ว ท่านก็นำไปขาย ท่านก็มีเงินมากขึ้น เมื่อมีเงินมากขึ้น ท่านก็ซื้อเรือเพิ่ม เมื่อท่านมีเรือเพิ่มขึ้น จากนั้นท่านก็จ้างลูกน้องให้เขาทำงานแทนท่าน ท่านก็มีเงินเพิ่มขึ้น ท่านก็สามารถนำปลาใส่เรือไปขายในเมืองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ท่านก็รวยขึ้น"

ระหว่างนั้นชาวประมงคอยถามว่าเพื่ออะไรตลอด
"เมื่อท่านมีเงินมากขึ้น ท่านก็เปิดแพปลา รับซื้อปลาซะเอง ท่านก็จะรวยขึ้น ท่านก็ตั้งเป็นบริษัทค้าปลาครบวงจร
จากนั้นท่านก็ย้ายบริษัทไปอยู่ในเมือง ท่านก็นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน ท่านก็เปิดขายหุ้น
จากนั้นท่านก็ย้ายบริษัทไปเปิดที่ลอนดอนรึนิวยอร์ค เมื่อมาถึงจุดนี้..."
นักเศรฐศาสตร์ยิ้มกับแผนการที่ลอยว่อนอยู่ในอากาศแล้วพูดต่อ "ท่านก็เทขายหุ้นที่มีทั้งหมด ท่านก็จะได้เงินมหาศาล"
แต่ชาวประมงฟังด้วยท่าทีสงสัยแล้วก็ถามต่อว่า
"เพื่ออะไร"

นักเศรฐศาสตร์กล่าวต่อ
"อ้าว...ท่านก็จะกลายเป็นมหาเศรฐีนะซิ เมื่อท่านมีเงินแล้ว ท่านก็ย้ายกลับมาที่หมู่บ้าน หาซื้อบ้านริมทะเล
ใช้ชีวิตสงบๆ อยู่กับลูกเมีย ออกหาปลาบ้างเล็กๆน้อยๆ ตอนเย็นก็ออกไปเดินเล่นในหมู่บ้าน
ร้องรำเล่นดนตรีสังสรรค์กับเพื่อน หาความสุขใส่ตัว"

ชาวประมงถามด้วยความสงสัย"แล้วต้องใช้เวลาซักกี่ปีล่ะกว่าที่ข้าจะไปถึงจุดนั้น"
นักเศรฐศาสตร์คิดคำนวนแล้วตอบ"อาจจะต้องใช้เวลาสักสาม-สี่สิบปีล่ะ น่าจะประสพความสำเร็จ"
ชาวประมงยิ้มแล้วพูดว่า
"โห...ถ้านานอย่างงั้นผมขออยู่อย่างนี้ดีกว่า เพราะทุกวันนี้ผมก็มีบ้านริมทะเล มีเวลาอยู่กับลูกเมีย
มีเวลาหาปลาเล็กๆน้อย มีเวลาเล่นดนตรีสังสรรค์กับเพื่อน และขอบใจในความคิดของท่าน"
แล้วชาวประมงก็เดินผิวปากเข้าหมู่บ้านไป...





ข้อเขียนข้างต้นนี้กระผมได้ฟังจากรายการวิทยุขณะขับรถบนเส้นทางบายพาส
ผ่านห้างเซ็นทรัล บิ๊กซี อินเด็กซ์ โลตัส(จริงๆนะไม่ได้โม้) รายการวิทยุท้องถิ่นเห็นว่าน่าสนใจเลยเอามาเผยแพร่ ซึ่งกระผมเห็นว่าเป็นประโยชน์ในยุคที่คนชอบพูดว่าเศรฐกิจพอเพียง แต่จะมีกี่คนที่เข้าใจว่าเศรฐกิจพอเพียงคืออะไร


ลุงนัน เพลงประกอบจากวงด้ามขวาน บอกเล่าวิถีชีวิตสบายๆของชายคนหนึ่งที่สามารถพบคนเช่นนี้ได้ทั่วไปในสยามประเทศนี้ แปลกันเอาเองนะขอรับ

ภู เชียงดาว แนวคิดการเขียนเรื่องนี้เชื่อมโยงมาจากข้อเขียนในบล็อกของเขา ขอบคุณมาก
เรื่องที่กระผมเขียนอาจผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับเดิมต้องขออภัยมานะที่นี้ กระผมเขียนมาจากความทรงจำอาจมีความคิดเห็นของผมแฝงอยู่บ้าง ต้องขออภัยหากใครเคยได้รู้มาก่อนจากต้นฉบับเดิม


ภาพประกอบหาได้เท่าที่มีแหละขอรับ หวังว่าพอกล้อมแกล้มไปได้บ้าง

ขอบคุณที่ใช้บริการ รับขนมจีบ ซาละเปาเพิ่มไหมขอรับ






Create Date : 04 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2550 2:09:12 น. 43 comments
Counter : 1339 Pageviews.

 
เขาเรียกกลอนแบบนี้ว่าอะไรล่ะท่าน เปิดตาอันมืดมนของข้าด้วยเถิด
เพราะพริ้งเสียนี่กะไรรอยคำ



โดย: พรานเจ้าปัญหา (ตาพรานบุญ ) 3 พฤศจิกายน 2550 19:48:46 น.


ไม่อยากเชื่อเลยค่ะว่าพรานไม่ทราบ
เรียกกาพท์ฉบัง ๑๖ ค่ะ
เขียนง่ายกว่าอย่งอื่นนะคะ
มักใช้คำคู่ เช่น

กลีบบาง/คว้างร่วง/ลานโศก
ละลิ่ว/ปลิวโบก
ปลดปลิด/ริดก้าน/รานร้าว


สายฝน/แรงไล่/ให้หนาว
กระหน่ำ/เมินคราว
ไร้เยื่อ/ใยร้าว/อาลัย

วรรคแรก ๖ พยางค์
วรรคสอง ๔ พยางค์
วรรคสาม ๖ พยางค์
เอาลิ้งค์ฉันทลักษณ์ให้นะคะ //www.st.ac.th/bhatips/gabpglon_16.htm

.....................................................................

อ่านเรื่องเล่าของคุณตาพรานฯข้างบนแล้ว.. ก็คิดไม่ออกค่ะ ว่า อะไรคือ สื่งที่ควรจะเป็นมากกว่า...จริงๆนะคะ
ความเรียบง่าย คือ ความพอเพียงจริงหรือ?
ขณะที่แผนแสนฉลาดวิเคราะห์มาด้วยมันสมองระดับ ๑ ใน ๑๐ จากฮาร์วาร์ด ฯลฯ...นำมาใช้ได้ดีจริงอีกหรือเปล่า??

เห้อ.. ตอนนี้ คิดอะไรก็ออกมาแบบนี้ทุกเรื่องเลย
จริงหรือ ๆๆๆๆ???





โดย: รอยคำ วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:3:46:18 น.  

 
ฟื้นแล้วน้อง....

คนมันตายยาก...ไม่ต้องไปสาบแช่ง หรือด่าทอร๊อก
ยังไงก็ฟื้น...ฟื้นเป็นก้างขวางชาวบ้านไงล่ะพรานเจ้าเอ๋ย

อากาศกำลังเปลี่ยนเข้าต้นหนาว
ฝนเลยมาร่ำลาฟ้าเพื่อบอกว่าปีหน้าเจอกัน

ฉันก็เลยร่ำๆจะตามน้องฝนเขาไป
ดีที่มีคนมาโวยวายข้างหู
เลยทอดถอนใจ....สู้หนาวก็ได้นิ

คิดถึงทะเลอยู่ตะหงิดๆ....
แค่นิดเดียว.....

เอ...วันนี้สุภาพไปไหมเนี่ย
เดี๋ยวตาพรานจะหาว่าคนละคนกันแวะมาเยี่ยมบ้าน

ไปดีก่า....เดี๋ยวบ่ายๆมาเยี่ยมใหม่นะถ้าไม่เซ็งขี้หน้ากันซะก่อน


โดย: ปลายแปรง ณ ปลายดอย IP: 222.123.215.194 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:51:13 น.  

 
ท่านพรานฯ หาเรื่องแนวนี้มาลงเล่าบ่อย ๆ น๊ะ ให้ข้อคิดดี


คนมักชอบมองฝันตระการข้างหน้าโน้นนนน....แล้วลืมปัจจุบันอ่ะนะ...ความสุขจึงหายไป...สัมผัสไม่ได้ ที่สัมผัสได้คือความเครียด ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น...แล้วใช้ความรู้สึกนี้ต่อกัน ปะทะ เบียดเบียน แย่งยื้อ....กรรมเกิด...เฮ้อ! สังสารวัฏฏ์ช่างยาวนาน...

เริ่มพูดมากแล้วเรา..คิๆ


โดย: ตาลาย (jdfoxbat ) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:02:24 น.  

 
เป็นข้อคิดที่ดีจริงๆ ค่ะ เราอยู่ได้อย่างมีความสุขแล้ว ไยจะต้องขวนขวายในสิ่งที่ไกลตัวเรานัก แค่มีความสุขกับสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็น เท่านี้ก็เกินพอแล้ว

สวัสดีวันอาทิตย์ค่ะ ไปเที่ยวที่ไหนรึเปล่าคะ


โดย: Kitsunegari วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:14:55 น.  

 
เคยอ่านเรื่องนี้มาหลายรอบแล้วค่ะ ได้แง่คิดดี..

ว่าแต่...

ห้างเซ็นทรัล--> บิ๊กซี -->อินเด็กซ์ -->โลตัส....
มันเรียงลำดับกัน..เหมือนที่บางนาเรยนี่นา...


โดย: ซซ วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:32:54 น.  

 
เห็นด้วยกับเรื่องที่เล่าอย่างที่สุดเลยคะ..

ปล. รูปสวยจังคะ


โดย: ชมพู่น้อย วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:40:54 น.  

 

ตาพราน... นั่นซีคะ จะเดือดร้อนไปทำไม ในเมื่อตอนนี้ก็มีความสุขอยู่แล้ว

ปล.คนขี้เกียจก็คิดอย่างนี้แหละค่ะ


โดย: แซนด์ซี วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:52:06 น.  

 

มาอ่านเจ๋ยๆ ไปแย้ว


โดย: ~(-_x)~ IP: 124.120.5.153 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:46:02 น.  

 
หลังจากที่ได้รับคำตอบจากท่านเทวดา พรานบุญเลยถือโอกาศถวายไก่แก้วให้เทวดาไว้เลี้ยงเล่น....
เทวดาจึงได้มอบคันเบ็ดไม้ไผ่ให้พรานบุญแบกหลบบ้านเป็นการตอบแทน....((อันนี้นึกไปตามรูป..อิอิอิ))
ว่าแต่ว่า...แล้วก็สงสัยว่า...ตอนที่พรานบุญได้ฟังเรื่องนี้ขณะขับรถผ่านห้างต่างๆบนถนนบายพาสนั้นนะ..คงจะนานโขแล้วนะ...ตอนนั้นห้างคอนเซ็บต์ คงยังไม่สร้าง...อิอิ ว่างๆเขรถไปนับใหม่เน้อ...


โดย: หุหุหุ... IP: 222.123.44.193 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:35:48 น.  

 
อยู่อย่างมีความสุข อยู่อย่างพอเพียง..แจ่มเนอะ


โดย: คุณหนูทานตะวัน วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:08:16 น.  

 
พรานบุญสวัสดีค่ะ

เรื่องคล้ายๆ แบบนี้เคยได้ฟังเหมือนกันค่ะ ทำไมคนเราเดี๋ยวนี้ใครๆ ก็อยากรวย อยากทำธุรกิจเนาะ จะได้มีเงิน มีทองเยอะๆ พอมีเงินเยอะๆ จะได้ไปเที่ยวไหนๆ ไปทำอะไรก็ได้ ใช่มั๊ยคะ....

ปอไม่มีหัวอย่างแรง เรื่องธุรกิจ ทำอะไรคิดหากำไรไม่เป็น ชีวิตนี้คงเป็นได้แค่ลูกจ้าง เลี้ยงตัวเองไปวันๆ ตอนนี้เลยคิดว่า อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปเที่ยวไหน ก็เที่ยว....เดี๋ยวกลับเมืองไทย แล้วในไกล มาลำบาก เหล้าก็หากินยาก จริงๆ นะ...


โดย: ปอ (O_Sole_mio ) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:07:03 น.  

 
ท่านพรานฯ วันนี้ข้าน้อย ขอเมนท์เบิ้ล...

ขอ แอดเป็น friend blog หน่อยเน้อ...จะได้ไปมาหาสู่ง่ายๆ


โดย: ปอ (O_Sole_mio ) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:28:06 น.  

 
เคยอ่านที่ไหนน้า..กำลังนึกอยู่ คุ้นจัง
มุขเยอะมากๆนะคะ คุณพรานบุญ
อ่านที่ไร ขำจริงๆ ภาพสวยมาก
ชอบสไตล์การวาดของคุณพรานจัง
ดูคนมีชีวิตชีวาน่ารักทุกที ชอบจริงๆนะคะ

ปล.เศรษฐศาสตร์ -สังสันทน์นะคะ
อย่าโกรธอย่าเคืองกันเลย อยากได้บุญน่ะ
รับขนมจีบ-ซาลาเปาเพิ่มไหมคะ...อิอิ....


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:31:32 น.  

 
ขอบคุณมากที่เข้ามาเยี่ยมชม กำลังเพิ่งเปิดบล๊อกและกำลังหาทางปรับปรุงให้มีหลากลายบล๊อกเช่นของคุณ ตอนนี้เลยไม่มีอะไรมาก ขอบคุณอีกครั้งที่จะแวะมาเยี่ยมชมในคราวต่อไป
สมนิมิต -- 5 พ.ย.50


โดย: สมนิมิต วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:44:26 น.  

 
ตื่น....

ตื่น....

ฝะหรั้งมารอวาดรูป.....ตื่น



โดย: ปลายแปรง วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:59:35 น.  

 
หวัดดีวันจันทร์ค่า..

ขยันทำงานนะคะ"ทั่นประธานชมรมคนเข้อิจฉาแห่งชาติ"




โดย: ซซ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:31:28 น.  

 
ไม่มีอะไรหรอกท่าน แค่คุณตาลายเธอตั้งฉายาให้ฉันมา ว่าฉันชอบวางระเบิดเวลาให้เธอ


โดย: วรมุทา วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:19:45 น.  

 
ชอบลวดลายปรายภู่กันนี่จังเลย....
มีเรื่องดี ๆ มาฝากอีก.....
มาบลอคนี้ทีไร ได้ใจกลับไปทุกที


โดย: cybern วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:44:44 น.  

 

หวัดดีค่ะ
วันนี้อย่าลืมดู พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน
โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค นะคะ



โดย: มณีไตรรงค์ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:45:14 น.  

 
คุณตาพรานบุญคะ โมกไม่ค่อยมีความรู้ เกี่ยวกับวาดๆ เขียนซักเท่าไหร่ ไม่ขอคอมเม้นท์ นะคะ

แต่ขอขอบคุณที่แวะไปแชร์ กันนะคะ

แต่ถ้าจะแวะมาเพื่อเก็บเกี่ยวเรื่องราว ดี ดี อย่าว่ากันนะคะ

ขออนุญาต add นะคะ

เดี๋ยวมาอ่านค่ะ



โดย: โมกสีเงิน วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:09:09 น.  

 


โดย: printcess of the moon วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:18:34 น.  

 
แหมท่านว่าไปนั่นท่านพรานก็ว่าฉันมือระเบิดอีกนะ/ ไปComment คุณตาลายหน่อยนะะว่าเพลงที่ฉันใส่ไปเหมาะกับเธอไหม


โดย: วรมุทา วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:32:57 น.  

 
สายัณห์สวัสดีจ๊ะตาพรานบุญ
---------------------------------------------------



ขอให้ค่ำคืนนี้หลับฝันดีนะ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:44:16 น.  

 
รูปสวยเพลงจ๊าบบบบ...อีกแล้วจ้ะ
ว่าแต่ท่านพรานน่ะ..ทูพีซ(หน้ากากกับกางเกง)ตลอดนะ
ใจคอจะไม่ใส่เสื้อบ้างเลยเหรอ


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.59.237 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:07:19 น.  

 
เศรษฐกิจพอเพียงจ้า


โดย: พราน IP: 117.47.200.157 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:19:00 น.  

 

พี่พรานคะ..

มาเก็บตังค์ที่ฝากทำบุญด้วยพันดอลล่าร์ เร๊ว ห้ามติดด้วยนะเออ ตังค์ทำบุญเนี่ย ม่ายยย งั้น บาปน๊ะ พี่พราน

อ้อ บังเอิญองค์กฐินคนละคณะกับพี่ปลายแปรงน่ะ อิอิ คณะองค์กฐินที่บ้านนก คนรำหน้าขบวนแห่องค์กฐินสวยนะ จะบอกให้


โดย: น้องนก (Nok_Noah ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:28:01 น.  

 


เคยอ่านเรื่องชาวประมงแบบนี้เป็นเรื่องที่สองแล้วล่ะค่ะ
ในที่สุด นัก... นัก... ทั้งหลาย ก้อพ่ายแพ้ต่อวิถีชาวบ้านแบบเพียงพอ ง่ายๆสบายๆแบบนี้ทุกคนเลย


โดย: ดาวทะเล วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:48:02 น.  

 
เคยอ่านมาจากในพันทิพนี่แหละค่ะ





โดย: filmgus IP: 222.123.206.5 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:28:49 น.  

 


พี่พรานคะ..

หาเจอมั้ยล่ะคะ คงเจอหรอกมั้ง อิอิ ก็คุณ 9A เค้าไปทอดกฐินที่ราชบุรี ส่วนนกไปนครพนมเนี่ยนะ


โดย: น้องนก (Nok_Noah ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:54:13 น.  

 
วันนี้แดดออก...
มาช่วยซักผ้าหน่อยสิ...

เสื้อแขนยาวสิบกว่าตัวเอง
หรือว่าโดนฝะหรั้งขย้ำไปแล้วหว่า....

พรานเอ้ย...พรานไพร
อยู่ไหนในป่าดง



โดย: ปลายแปรง ณ ปลายดอย IP: 222.123.23.247 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:14:27 น.  

 
พอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชปณิทานที่ปวงชนชาวสยามควรเทอดไว้ด้วยเกล้า....


โดย: วรมุทา วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:34:46 น.  

 
เคยอ่านจากไหนมาก่อนเช่นกัน ชอบมากๆ แถมเจอใครก็มักจะเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ จนวันหนึ่งได้เล่าให้ผู้ใหญ่ที่น่ารักมากๆท่านหนึ่งฟัง ท่านถามเรากลับว่า .....
แล้วคุณว่าชาวประมงคนนี้ กับชาวประมงของเศรษฐศาสตร์คนนั้นต่างกันตรงไหน ????????....
เรานั่งคิดสักพัก...
ท่านผู้ใหญ่คนนั้นก็ยิ้มและตอบเราว่า "ชาวประมงคนนั้นจะต้องหาปลาทุกวัน แต่คุณประมงของนักเศรษฐศาสตร์นั้นจะหาปลาวันไหนก็ได้ ไม่หาปลาวันไหนก็ได้".....
เราก็นั่งอึ่งอีกสักพัก...ท่านก็ยิ้ม แล้วถามว่าจริงไหม????
เราค้านอยู่ในใจว่ามีข้อแตกต่างกันน่ะใช่ แต่ไม่ใช่อันนี้นะ!!!!
แต่วันนั้นคิดไม่ออกว่าจะตอบว่าอะไร ก็จึงยิ้มๆ...เพราะเล่าให้ใครฟังทุกคนไม่มีคำถามๆเราให้คิดต่อเลย...

จนวันนี้เรารู้แล้วว่าเราจะตอบว่าอะไร .... ขอบคุณสำหรับคำถามของท่านผู้นั้นจัง

ท่านพรานคิดว่าอย่างไรค่ะ


โดย: ช่อชบา IP: 58.9.156.148 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:42:38 น.  

 

แวะมาเยี่ยม"คุณตา"ค่ะ
หุ หุ หุ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:08:17 น.  

 
ช่อชบา

"เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด"
สวัสดีคุณช่อชบา ยินดีมากเลยที่มีความคิดเห็นต่างกันออกไป เรื่องที่ผมเล่ามาอาจเป็นเพียงตุ๊กกะตาที่วางไว้คร่าวของความคิดคนละขั้ว ชาวประมงอาจถูกมองว่าขี้เกียจ ชึ่งมันไม่ยุติธรรมเลย ในรายละเอียดของชีวิตจริงเขาอาจมีวิถีที่ซับซ้อนกว่านั้นไม่ใช่แค่หาปลาเสร็จกลับมานอน มาเที่ยวหรือว่าแค่อยู่ไปวันๆ ส่วนหนึ่งที่เห็นได้คือ เขารักครอบครัว เขามีเพื่อน เขามีสุนทรีย์ในการใช้ชีวิต เขารู้จักพอและเขาเลือกที่จะทำตามกำลัง เขาเลือกที่จะทำในสิ่งที่เขาถนัด เขารัก
นักเศรษฐศาสตร์ อาจจะรุนแรงเกินไปหากจะมองว่าเขาละโมบ เรารู้จักกันน้อยเกินไป เป็นความคิดที่ดีที่จะนำการพัฒนาอย่างที่ว่ามาใช้ แต่เขาอาจไม่ได้ใช้เวลาศึกษาวิถีชีวิตของชาวประมงผู้นี้ว่าจริงๆแล้ว
เขายังมีรายละเอียดอื่นใดในชีวิตบ้าง
ที่บอกว่าหากชาวประมงคนนั้นทำตามและสำเร็จตามแผนนั้น แทนที่จะต้องหาปลาทุกวันมาเป็นหาปลาวันไหนก็ได้ แต่ระยะเวลาที่จะต้องกรำงานหนักล่ะ อีกกี่ปีกว่าจะไปถึงจุดที่บอกว่าหาปลาวันไหนก็ได้ แล้วระหว่างช่วงเวลาที่จะไปถึงจุดนั้นล่ะ เมื่อมีเงินเยอะปัญหาทุกอย่างก็จะโถมทับเข้ามา ทั้งเรื่องดีและไม่ดี ตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่เนืองๆ
ท่านผู้ใหญ่ที่เล่าเรื่องให้ฟังก็อาจมีความคิดไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าถูกรึไม่ถูก จากการที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันหลายทางทำให้ผมต้องถามใจตัวเองเหมือนกันว่าประมาณไหนดี ก็นำส่วนที่ดีของแต่ละความคิดมาปรับใช้แล้วกัน


การที่ได้ทำในสิ่งที่รักที่ตนถนัดและตามกำลังนั้นดูจะเป็นทางที่น่าจะดีที่สุดแล้ว คุณล่ะว่าไง

HOME&DECCOR ฉบับนี้รีบมีไว้เป็นเจ้าของ ขอบอกๆ พบกับช่อชบาและงานน่ารักๆ



โดย: ตาพรานบุญ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:21:52 น.  

 
เหตุผลของคนขี้เกียจ กับเหตุผลของชาวประมงในเรื่อง มองเผินๆ อาจคล้ายกัน แต่ที่จริงแล้วมันก็ยังมีตัวแปรระหว่างคำว่าขี้เกียจกับพอเพียงนะคะ นึกถึงเพลงดีใจที่มีวันนี้ท่อนหนึ่งที่บอกว่า

"ไม่ต้องไปฟุ้งเฟ้อ ไม่ต้องใช้ฟุ่มเฟือย
ชีวิตแม้จะเหนื่อยแต่ไม่อ่อนล้า"


โดย: Kitsunegari IP: 124.120.174.239 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:51:06 น.  

 
มาอ่านอีกครั้ง ก่อนแอบเซฟภาพไปด้วยเน้อ...ได้อารมณ์ดีครับ...ขอบคุณครับ


โดย: pu_chiangdao วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:15:42 น.  

 
ขอบคุณคร้าบที่แวะไปเยี่ยมกัน แล้วไปถูกได้ยังงัยนะ ??

....รู้จักพอก่อสุขทุกสถาน .....
....การได้ทำในสิ่งที่เรารักถือเป็นโชค...
....ทำมันให้ดีที่สุดแล้วทุกอย่างจะตามมาเอง....

เคยคิดว่าประโยคต่างๆเหล่านี้เป็นประโยคสวยงาม จรรโลงโลก เฉยๆ ฟังดูเพราะดี...จนวันนี้เราอยากจะบอกและ ตะโกนดังๆว่า มันเป็นเรื่องจริง จริง คอนเฟริ์มจากประสบการณ์ตรง

หากพระเจ้ามาบอกว่า คุณมีเวลาเหลืออีก 5 วันคุณจะต้องตาย.. คุณอยากและต้องการจะทำอะไรบ้าง ???? แตละคน คงมีคำตอบต่างๆ นาๆ....

จะมีผู้โชคดีสักกี่คนที่จะตอบว่า ฉันต้องการตื่นขึ้นมาและทำในสิ่งที่ฉันทำอยู่ทุกวันนี้แหละ ;)

แต่ใครจะรู้ได้เล่า ว่าเราจะอยู่ได้อีก 5 วัน... 5 เดือน หรือ 5 ปี ??????????

ชาวประมงผู้โชคดีคนนั้น เขาได้ตื่นขึ้นมามีความสุขกับสิ่งที่เขาเลือกกับงานที่เขารักทุกวัน ...เขาอาจจะทุกข์...หากมีวันใดที่เขาไม่ได้ออกเรือไปคุยกับทะเลก็ได้นะ ;P

ชาวประมงผู้โชคดี ยังมีเวลาเหลือเฟือที่จะแบ่งปัน ให้คนที่เขารัก คนที่รักเขาและมีคุณค่ากับเขาอย่างแท้จริง เพียงเพราะเขาเข้าใจคำว่า " พอ "

กิเลสมาร มีอำนาจ น่ากลัว แต่บางครั้งก็แปลงกายเข้ามาหาเราอย่างสวยงามและปราณีต กว่าจะรู้ตัวว่าถูกครอบงำ ก็อาจถูกกลืนกินเวลาแห่งความสุข หรือจิตวิญญาณ จนเป็นทาสแห่งกิเลสมารไปเลย... แต่กิเลสมารจะไม่สามารถตื่นขึ้นมาทำอะไรเราได้เลย... หากเรามิได้ดำริและอนุญาติให้มันเข้ามาหา..

หากคุณต้องการเป็นผู้โชคดีบ้าง... คุณได้สิทธินั้น เดี๋ยวนี้ ..


ท่านผู้ใหญ่ท่านนั้น ท่านมิได้มีความคิดไปอีกแบบหรอก เพียงแต่ท่านคงต้องการให้เราเข้าใจนิทานเรื่องนี้ให้ซึ้งกว่านี้ จึงตั้งคำถามให้เราคิด แต่วันนั้นเราปากแข็งไม่ถามท่านเองแหละ มิฉะนั้นท่านคงจะให้คำตอบเช่นเดียวกับที่เราเข้าใจตอนนี้

ภาพสวยมาก คงรู้อยู่แล้วไม่ต้องบอกซินะ เพราะตอนทำก็คงทำไปด้วยความสุขใจ....เป็นคนโชคดีจังนะ !!!
แค่อยากบอกว่า มีอีกหนึ่งคนนะที่ชื่นชมงานสวยๆที่ ตาพรานตั้งใจทำออกมาด้วยความรัก ....
ถือเป็นโชค ชั้นที่ 2. ไหมนะ ???


โดย: `ช่อชบา IP: 58.9.96.192 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:19:16 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะ ตาพรานบุญ
เอากาแฟ กับ จะโก้ยมาฝาก
แอบไปแซวเราที่บลอค
ทำเอาเขินเก้อไปหลายนาที อิอิ
ว่าแต่อยู่ภูเก็ตแต่ไงรู้จักบางนายสีด้วยอะ

เป็นช่างวาดรูปด้วยเหอคะดีจัง มีงานหลักที่ชื่นชอบทำ
และวาดรูปก็เป็นความสุขอย่างนึง

มาอ่านนิทานพอเพียงเรื่องนี้ รู้สึกดีจัง เหมือนเคยฟังมาบ้าง เศรษฐีบอกให้ทำมากๆ เพื่อจะได้มาตกปลาและพักริมทะเล แบบเขา ..
แต่ชาวประมงบอกเขาก็เป็นของเขาอย่างนี้มานานแล้ว...
แจ๋วกว่าไหม ไม่เห็นต้องงานหนักแล้วค่อยกายเป็นเศรษฐี เพราะเขาเป็นเศรษฐี ความสุขเหลือเฟือมานานแล้ว..





โดย: วีดวาด วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:26:16 น.  

 
มาแล้ว.....ไม่รู้จะเขียนอะไรแฮะ

กำลังพอกหน้า ดูดสิวอยู่....เดี๋ยวบ่ายๆจะเข้าเฮลท์คลับไปลดลอนพุงหน่อย
เตรียมนั่งกระทงปีนี้.....เซ็งจัง
ปฏิเสธเขามาหลายปีแล้วเนี่ย....ปีนี้ไม่สามารถจริงๆ

แต่สงกรานต์น่ะอาจจะอยู่ไม่ถึงหรอกพรานเอ๋ย....
แต่ถ้าตาพรานอยากมาสาดน้ำสงกรานต์ที่นี่ล่ะก้อ ค่อยพามาอีกทีก็ได้

มันส์สุดๆ...ตานุยังติดใจเลย
เตรียมรถ เตรียมถังไปกว้านเด็กขึ้นรถ
(ก้อ...ถ้าไปคนเดียว เด็กมันไม่สาดน้ำน่ะ ต้องเอาเด็กสาวๆ เอ๊าะๆไปล่อ....ก็อาศัยเปียกไปกะเขา)

ปีหน้ามาไหม.....มีสาโทเจ๋งๆชนิดที่ตาพรานลืมเบีนร์เลยล่ะน้องเอ๋ย....สนป่าว

แต่....เอาให้พ้นหนาวก่อนดีกว่านะ


โดย: ปลายแปรง วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:36:07 น.  

 
ลืมเบียร์จ๊ะ....พิมพ์มันไปหน่อย ลืมดูหน้าจอ

เพราะอิชั้นพิมพ์ระบบสัมผัสที่แป้นตาต้องเล็งไว้ แล้วค่อยเงยดูจอ....
อย่าว่ากันเลยนะ.....หน้ามันตึงๆ พอกหน้าน่ะ


โดย: ปลายแปรง วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:37:24 น.  

 
หวัดดีค่ะพราน
หนังสือผ่านพบไม่ผูกพันถ้าร้านไหนหมด ก็แวะไปสั่งซื้อที่ซีเอ็ดได้ค่ะ อยากบอกว่าเล่มนี้อ่ะ โดนใจเป็นที่สุดเลย
ลองอ่านดูนะ


โดย: รุ้งสีที่แปด IP: 125.24.145.127 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:50:38 น.  

 
สวัสดีครับตาพรานบุญ


แวะมาอ่านรื่องที่เอามาเล่าต่อ
เคยได้ยินได้ฟังมาแล้วเหมือนกัน
ตามประสาคนอายุมากแล้ว


มีความสุขดีนครับ



โดย: พ่อพเยีย IP: 203.172.199.254 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:58:05 น.  

 
อ่านมาก ตาลาย มีรูปอีกป่ะ มาลงเร็วๆ อย่าช้า


โดย: ~(-_-)~ IP: 58.136.68.20 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:32:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ตาพรานบุญ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ให้งานแนะนำตัวเอง
Friends' blogs
[Add ตาพรานบุญ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.