สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
Group Blog
ตาพรานบุญ
<<
พฤศจิกายน 2550
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
4 พฤศจิกายน 2550
ปราชญ์ ณ ริมเล
All Blogs
ประชากรแฝงในโลกบ้าใบ้
บาดแผลบนแผ่นหลัง
ฝนหลงฟ้า
จ่าเพียร...วีรบุรุษแห่งบันนังสตา
คิดถึงไอ้มดแดงและสหาย
เดินช้าๆ
ฤดูร้อนของทะโมนไรเดอร์
สีน้ำยาใจ ขนมยาไส้...ไข่ดำ
ก่อนการจากลา
เ ง า - เ ข ล า
ดวงดาวของนักแสวงหา
คาราวานแห่งเวลา
นิทานในคืนคริสต์มาสจากหมู่บ้านเล็กๆริมฝั่งอันดามัน
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากพระเจ้าที่ท่านเรียก
รหัสลับจากหอคอยวิปลาส
ตื่นเถิด...อับดุลเราะห์มาน
อดัมกับเดินทางสู่ดินแดนไร้นิยาม
โศกนาฏกรรมของดอกไม้/๑๑๔
โกแกง : วินเซนต์... ฉั้นจะตัดหูนาย
สนทนาในความเงียบ
การหายไปของคนในพื้นที่
๑๔กรกฎาคม (ตีลังกาในท้องแม่้)
ผีตากผ้าอ้อมกลางป่า
ต้อยตีวิด
ดอกไม้และทะเลที่ไม่มีอยู่จริง
ข้าวต้มน้ำขุ่น
พีพี...โลกคู่ขนาน
เศษไม้ลอยน้ำ
ฉันหายไป
นกในใจ
ฝนแรกกลางกุมภาพันธ์
หญิงสาวบนถนนแห่งอดีต
ก่อนการมาถึงของนกแสงตะวัน
............(แทน)
มานิตย์ ภู่อารีย์ อาจารย์ผู้อารี
ดอกไม้จันทน์
ยาม+นรสิงห์+ว.2...เปลี่ยน
ช้าง...ในหน้าหนังสือพิมพ์
แค็ปซูล ป.2 ในกลุ่มดาวเพชรเกษม
ไกลกังวล
บวงสรวงดวงวิญญาณช้างแคระ
ใบลาออกด้วยเหตุทุจริตจากผู้ที่อาสารับใช้ประชาชน
กรณีีพิพาทเขาพระวิหาร
มองมุมสูง
คนเล
หัวล้านห่มเหลือง
หญิงสาวกลางสายฝน
ข่าวเช้าที่เมืองไทย
แนวรบด้านตะวันตกเฉียงใต้...เหตุการณ์เปลี่ยนแปลง
รถเมล์สายมิตรภาพ
กูคือชาวนา
ลีลาวดีสถาน
ทะเลอารมณ์
เหตุเกิดในห้องนั้น
เจ้าขมิ้น...กลับมาแว้้ววววววว
บัวผุด
คืนฝนโปรย
ฉันแบกบ้าไปทิ้งที่ขอบฟ้า
บันทึกเจ้าผีเสื้อ
แววตาพ่อ...(ที่มองพระพี่ยา)
มาลัยดอกไม้ป่าบนหาดทราย
พรานบุญโภชนา
ข้าพเจ้า...ขออาสา
ฉันคือ...นกป่า
แค่นี้...แค่นั้น
รันตี,ดนตรี, กวี
ได้โปรดเถิด...นางฟ้า
ฤา แค่ฝันร้ายกลางวันที่บ้านกระรอก
ที่รัก...
บัว= เยื่อใยสุดท้ายภายใต้กงจักร
น้ำค้าง
ความคิดถึงในสายลมหนาว
รายงานสีชมพู เรื่อง"บ้านของฉัน"
วันนี้ที่รอคอย
ปราชญ์ ณ ริมเล
เริงระบำใต้แสงจันทร์
เหวย...เทวดาเหวย
"ผีพุ่งไต้"
เมื่อพรานบุญเข้าเครื่องจับเท็จ
ห้วงเวลาที่เรียกว่า...เหงา
อิทธิพลจากพายุลูกนี้...
มายาพระจันทร์
"ตถตา" เป็นเช่นนั้นเอง
ปฐมบท...ชีวิต
ปราชญ์ ณ ริมเล
สีอะครีลิคบนผ้าใบ ขนาด 100*100ซ.ม.
เรื่องมีอยู่ว่า...
ยามสายๆที่สะพานปลาแห่งหนึ่ง นักเศรฐศาสตร์จบจากอ๊อกซ์ฟอร์ดเอ่ยถามชาวประมงที่กำลังนำเรือเล็กๆเข้าจอดว่า
"ท่านใช้เวลากี่ชั่วโมงจึงจับปลาได้ขนาดนี้"
"แค่สองสามชั่วโมงเอง"ชาวประมงตอบ
"แล้วเวลาที่เหลือล่ะท่านทำอะไร"นักเศรฐศาสตร์ถามต่อ
"ข้าก็อยูกับลูกกับเมีย ตอนเย็นก็ไปเดินเล่นในหมู่บ้าน เล่นดนตรี ร้องรำทำเพลงสังสรรค์กับเพื่อนฝูงแล้วก็กลับบ้านนอน
ชีวิตก็เป็นอยู่อย่างนี้"ชาวประมงตอบ
นักเศรฐศาสตร์แนะนำตัวพร้อมเสนอแผนพัฒนาธุระกิจให้
"ทำไม่ท่านไม่ใช้เวลาหาปลาให้มากขึ้นล่ะ ทำงานหนักขึ้น เพื่อที่จะได้ปลามามากๆ แทนที่จะเอาเวลาที่เหลือไปเดินเที่ยว"
ชาวประมงทำท่าทางสงสัย "ข้าจะหาปลามากๆไปเพื่ออะไร"
นักเศรฐศาสตร์อธิบายความคิดของเขาต่อ
"เมื่อท่านหาปลามาได้มากๆแล้ว ท่านก็นำไปขาย ท่านก็มีเงินมากขึ้น เมื่อมีเงินมากขึ้น ท่านก็ซื้อเรือเพิ่ม เมื่อท่านมีเรือเพิ่มขึ้น จากนั้นท่านก็จ้างลูกน้องให้เขาทำงานแทนท่าน ท่านก็มีเงินเพิ่มขึ้น ท่านก็สามารถนำปลาใส่เรือไปขายในเมืองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ท่านก็รวยขึ้น"
ระหว่างนั้นชาวประมงคอยถามว่าเพื่ออะไรตลอด
"เมื่อท่านมีเงินมากขึ้น ท่านก็เปิดแพปลา รับซื้อปลาซะเอง ท่านก็จะรวยขึ้น ท่านก็ตั้งเป็นบริษัทค้าปลาครบวงจร
จากนั้นท่านก็ย้ายบริษัทไปอยู่ในเมือง ท่านก็นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน ท่านก็เปิดขายหุ้น
จากนั้นท่านก็ย้ายบริษัทไปเปิดที่ลอนดอนรึนิวยอร์ค เมื่อมาถึงจุดนี้..."
นักเศรฐศาสตร์ยิ้มกับแผนการที่ลอยว่อนอยู่ในอากาศแล้วพูดต่อ "ท่านก็เทขายหุ้นที่มีทั้งหมด ท่านก็จะได้เงินมหาศาล"
แต่ชาวประมงฟังด้วยท่าทีสงสัยแล้วก็ถามต่อว่า
"เพื่ออะไร"
นักเศรฐศาสตร์กล่าวต่อ
"อ้าว...ท่านก็จะกลายเป็นมหาเศรฐีนะซิ เมื่อท่านมีเงินแล้ว ท่านก็ย้ายกลับมาที่หมู่บ้าน หาซื้อบ้านริมทะเล
ใช้ชีวิตสงบๆ อยู่กับลูกเมีย ออกหาปลาบ้างเล็กๆน้อยๆ ตอนเย็นก็ออกไปเดินเล่นในหมู่บ้าน
ร้องรำเล่นดนตรีสังสรรค์กับเพื่อน หาความสุขใส่ตัว"
ชาวประมงถามด้วยความสงสัย"แล้วต้องใช้เวลาซักกี่ปีล่ะกว่าที่ข้าจะไปถึงจุดนั้น"
นักเศรฐศาสตร์คิดคำนวนแล้วตอบ"อาจจะต้องใช้เวลาสักสาม-สี่สิบปีล่ะ น่าจะประสพความสำเร็จ"
ชาวประมงยิ้มแล้วพูดว่า
"โห...ถ้านานอย่างงั้นผมขออยู่อย่างนี้ดีกว่า เพราะทุกวันนี้ผมก็มีบ้านริมทะเล มีเวลาอยู่กับลูกเมีย
มีเวลาหาปลาเล็กๆน้อย มีเวลาเล่นดนตรีสังสรรค์กับเพื่อน และขอบใจในความคิดของท่าน"
แล้วชาวประมงก็เดินผิวปากเข้าหมู่บ้านไป...
ข้อเขียนข้างต้นนี้กระผมได้ฟังจากรายการวิทยุขณะขับรถบนเส้นทางบายพาส
ผ่านห้างเซ็นทรัล บิ๊กซี อินเด็กซ์ โลตัส(จริงๆนะไม่ได้โม้) รายการวิทยุท้องถิ่นเห็นว่าน่าสนใจเลยเอามาเผยแพร่ ซึ่งกระผมเห็นว่าเป็นประโยชน์ในยุคที่คนชอบพูดว่าเศรฐกิจพอเพียง แต่จะมีกี่คนที่เข้าใจว่าเศรฐกิจพอเพียงคืออะไร
ลุงนัน เพลงประกอบจากวงด้ามขวาน บอกเล่าวิถีชีวิตสบายๆของชายคนหนึ่งที่สามารถพบคนเช่นนี้ได้ทั่วไปในสยามประเทศนี้ แปลกันเอาเองนะขอรับ
ภู เชียงดาว แนวคิดการเขียนเรื่องนี้เชื่อมโยงมาจากข้อเขียนในบล็อกของเขา ขอบคุณมาก
เรื่องที่กระผมเขียนอาจผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับเดิมต้องขออภัยมานะที่นี้ กระผมเขียนมาจากความทรงจำอาจมีความคิดเห็นของผมแฝงอยู่บ้าง ต้องขออภัยหากใครเคยได้รู้มาก่อนจากต้นฉบับเดิม
ภาพประกอบหาได้เท่าที่มีแหละขอรับ หวังว่าพอกล้อมแกล้มไปได้บ้าง
ขอบคุณที่ใช้บริการ รับขนมจีบ ซาละเปาเพิ่มไหมขอรับ
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2550 2:09:12 น.
43 comments
Counter : 1339 Pageviews.
Share
Tweet
เขาเรียกกลอนแบบนี้ว่าอะไรล่ะท่าน เปิดตาอันมืดมนของข้าด้วยเถิด
เพราะพริ้งเสียนี่กะไรรอยคำ
โดย: พรานเจ้าปัญหา (ตาพรานบุญ ) 3 พฤศจิกายน 2550 19:48:46 น.
ไม่อยากเชื่อเลยค่ะว่าพรานไม่ทราบ
เรียกกาพท์ฉบัง ๑๖ ค่ะ
เขียนง่ายกว่าอย่งอื่นนะคะ
มักใช้คำคู่ เช่น
กลีบบาง/คว้างร่วง/ลานโศก
ละลิ่ว/ปลิวโบก
ปลดปลิด/ริดก้าน/รานร้าว
สายฝน/แรงไล่/ให้หนาว
กระหน่ำ/เมินคราว
ไร้เยื่อ/ใยร้าว/อาลัย
วรรคแรก ๖ พยางค์
วรรคสอง ๔ พยางค์
วรรคสาม ๖ พยางค์
เอาลิ้งค์ฉันทลักษณ์ให้นะคะ //www.st.ac.th/bhatips/gabpglon_16.htm
.....................................................................
อ่านเรื่องเล่าของคุณตาพรานฯข้างบนแล้ว.. ก็คิดไม่ออกค่ะ ว่า อะไรคือ สื่งที่ควรจะเป็นมากกว่า...จริงๆนะคะ
ความเรียบง่าย คือ ความพอเพียงจริงหรือ?
ขณะที่แผนแสนฉลาดวิเคราะห์มาด้วยมันสมองระดับ ๑ ใน ๑๐ จากฮาร์วาร์ด ฯลฯ...นำมาใช้ได้ดีจริงอีกหรือเปล่า??
เห้อ.. ตอนนี้ คิดอะไรก็ออกมาแบบนี้ทุกเรื่องเลย
จริงหรือ ๆๆๆๆ???
โดย:
รอยคำ
วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:3:46:18 น.
ฟื้นแล้วน้อง....
คนมันตายยาก...ไม่ต้องไปสาบแช่ง หรือด่าทอร๊อก
ยังไงก็ฟื้น...ฟื้นเป็นก้างขวางชาวบ้านไงล่ะพรานเจ้าเอ๋ย
อากาศกำลังเปลี่ยนเข้าต้นหนาว
ฝนเลยมาร่ำลาฟ้าเพื่อบอกว่าปีหน้าเจอกัน
ฉันก็เลยร่ำๆจะตามน้องฝนเขาไป
ดีที่มีคนมาโวยวายข้างหู
เลยทอดถอนใจ....สู้หนาวก็ได้นิ
คิดถึงทะเลอยู่ตะหงิดๆ....
แค่นิดเดียว.....
เอ...วันนี้สุภาพไปไหมเนี่ย
เดี๋ยวตาพรานจะหาว่าคนละคนกันแวะมาเยี่ยมบ้าน
ไปดีก่า....เดี๋ยวบ่ายๆมาเยี่ยมใหม่นะถ้าไม่เซ็งขี้หน้ากันซะก่อน
โดย: ปลายแปรง ณ ปลายดอย IP: 222.123.215.194 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:51:13 น.
ท่านพรานฯ หาเรื่องแนวนี้มาลงเล่าบ่อย ๆ น๊ะ ให้ข้อคิดดี
คนมักชอบมองฝันตระการข้างหน้าโน้นนนน....แล้วลืมปัจจุบันอ่ะนะ...ความสุขจึงหายไป...สัมผัสไม่ได้ ที่สัมผัสได้คือความเครียด ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น...แล้วใช้ความรู้สึกนี้ต่อกัน ปะทะ เบียดเบียน แย่งยื้อ....กรรมเกิด...เฮ้อ! สังสารวัฏฏ์ช่างยาวนาน...
เริ่มพูดมากแล้วเรา..คิๆ
โดย: ตาลาย (
jdfoxbat
) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:02:24 น.
เป็นข้อคิดที่ดีจริงๆ ค่ะ เราอยู่ได้อย่างมีความสุขแล้ว ไยจะต้องขวนขวายในสิ่งที่ไกลตัวเรานัก แค่มีความสุขกับสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็น เท่านี้ก็เกินพอแล้ว
สวัสดีวันอาทิตย์ค่ะ ไปเที่ยวที่ไหนรึเปล่าคะ
โดย:
Kitsunegari
วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:14:55 น.
เคยอ่านเรื่องนี้มาหลายรอบแล้วค่ะ ได้แง่คิดดี..
ว่าแต่...
ห้างเซ็นทรัล--> บิ๊กซี -->อินเด็กซ์ -->โลตัส....
มันเรียงลำดับกัน..เหมือนที่บางนาเรยนี่นา...
โดย:
ซซ
วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:32:54 น.
เห็นด้วยกับเรื่องที่เล่าอย่างที่สุดเลยคะ..
ปล. รูปสวยจังคะ
โดย:
ชมพู่น้อย
วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:40:54 น.
ตาพราน... นั่นซีคะ จะเดือดร้อนไปทำไม ในเมื่อตอนนี้ก็มีความสุขอยู่แล้ว
ปล.คนขี้เกียจก็คิดอย่างนี้แหละค่ะ
โดย:
แซนด์ซี
วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:52:06 น.
มาอ่านเจ๋ยๆ ไปแย้ว
โดย: ~(-_x)~ IP: 124.120.5.153 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:46:02 น.
หลังจากที่ได้รับคำตอบจากท่านเทวดา พรานบุญเลยถือโอกาศถวายไก่แก้วให้เทวดาไว้เลี้ยงเล่น....
เทวดาจึงได้มอบคันเบ็ดไม้ไผ่ให้พรานบุญแบกหลบบ้านเป็นการตอบแทน....((อันนี้นึกไปตามรูป..อิอิอิ))
ว่าแต่ว่า...แล้วก็สงสัยว่า...ตอนที่พรานบุญได้ฟังเรื่องนี้ขณะขับรถผ่านห้างต่างๆบนถนนบายพาสนั้นนะ..คงจะนานโขแล้วนะ...ตอนนั้นห้างคอนเซ็บต์ คงยังไม่สร้าง...อิอิ
ว่างๆเขรถไปนับใหม่เน้อ...
โดย: หุหุหุ... IP: 222.123.44.193 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:35:48 น.
อยู่อย่างมีความสุข อยู่อย่างพอเพียง..แจ่มเนอะ
โดย:
คุณหนูทานตะวัน
วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:08:16 น.
พรานบุญสวัสดีค่ะ
เรื่องคล้ายๆ แบบนี้เคยได้ฟังเหมือนกันค่ะ ทำไมคนเราเดี๋ยวนี้ใครๆ ก็อยากรวย อยากทำธุรกิจเนาะ จะได้มีเงิน มีทองเยอะๆ พอมีเงินเยอะๆ จะได้ไปเที่ยวไหนๆ ไปทำอะไรก็ได้ ใช่มั๊ยคะ....
ปอไม่มีหัวอย่างแรง เรื่องธุรกิจ ทำอะไรคิดหากำไรไม่เป็น ชีวิตนี้คงเป็นได้แค่ลูกจ้าง เลี้ยงตัวเองไปวันๆ ตอนนี้เลยคิดว่า อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปเที่ยวไหน ก็เที่ยว....เดี๋ยวกลับเมืองไทย แล้วในไกล มาลำบาก เหล้าก็หากินยาก จริงๆ นะ...
โดย: ปอ (
O_Sole_mio
) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:07:03 น.
ท่านพรานฯ วันนี้ข้าน้อย ขอเมนท์เบิ้ล...
ขอ แอดเป็น friend blog หน่อยเน้อ...จะได้ไปมาหาสู่ง่ายๆ
โดย: ปอ (
O_Sole_mio
) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:28:06 น.
เคยอ่านที่ไหนน้า..กำลังนึกอยู่ คุ้นจัง
มุขเยอะมากๆนะคะ คุณพรานบุญ
อ่านที่ไร ขำจริงๆ ภาพสวยมาก
ชอบสไตล์การวาดของคุณพรานจัง
ดูคนมีชีวิตชีวาน่ารักทุกที ชอบจริงๆนะคะ
ปล.เศรษฐศาสตร์ -สังสันทน์นะคะ
อย่าโกรธอย่าเคืองกันเลย อยากได้บุญน่ะ
รับขนมจีบ-ซาลาเปาเพิ่มไหมคะ...อิอิ....
โดย:
ยิปซีสีน้ำเงิน
วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:31:32 น.
ขอบคุณมากที่เข้ามาเยี่ยมชม กำลังเพิ่งเปิดบล๊อกและกำลังหาทางปรับปรุงให้มีหลากลายบล๊อกเช่นของคุณ ตอนนี้เลยไม่มีอะไรมาก ขอบคุณอีกครั้งที่จะแวะมาเยี่ยมชมในคราวต่อไป
สมนิมิต -- 5 พ.ย.50
โดย:
สมนิมิต
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:44:26 น.
ตื่น....
ตื่น....
ฝะหรั้งมารอวาดรูป.....ตื่น
โดย:
ปลายแปรง
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:59:35 น.
หวัดดีวันจันทร์ค่า..
ขยันทำงานนะคะ"ทั่นประธานชมรมคนเข้อิจฉาแห่งชาติ"
โดย:
ซซ
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:31:28 น.
ไม่มีอะไรหรอกท่าน แค่คุณตาลายเธอตั้งฉายาให้ฉันมา ว่าฉันชอบวางระเบิดเวลาให้เธอ
โดย:
วรมุทา
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:19:45 น.
ชอบลวดลายปรายภู่กันนี่จังเลย....
มีเรื่องดี ๆ มาฝากอีก.....
มาบลอคนี้ทีไร ได้ใจกลับไปทุกที
โดย:
cybern
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:44:44 น.
หวัดดีค่ะ
วันนี้อย่าลืมดู พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน
โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค นะคะ
โดย:
มณีไตรรงค์
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:45:14 น.
คุณตาพรานบุญคะ โมกไม่ค่อยมีความรู้ เกี่ยวกับวาดๆ เขียนซักเท่าไหร่ ไม่ขอคอมเม้นท์ นะคะ
แต่ขอขอบคุณที่แวะไปแชร์ กันนะคะ
แต่ถ้าจะแวะมาเพื่อเก็บเกี่ยวเรื่องราว ดี ดี อย่าว่ากันนะคะ
ขออนุญาต add นะคะ
เดี๋ยวมาอ่านค่ะ
โดย:
โมกสีเงิน
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:09:09 น.
โดย:
printcess of the moon
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:18:34 น.
แหมท่านว่าไปนั่นท่านพรานก็ว่าฉันมือระเบิดอีกนะ/ ไปComment คุณตาลายหน่อยนะะว่าเพลงที่ฉันใส่ไปเหมาะกับเธอไหม
โดย:
วรมุทา
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:32:57 น.
สายัณห์สวัสดีจ๊ะตาพรานบุญ
---------------------------------------------------
ขอให้ค่ำคืนนี้หลับฝันดีนะ
โดย:
สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:44:16 น.
รูปสวยเพลงจ๊าบบบบ...อีกแล้วจ้ะ
ว่าแต่ท่านพรานน่ะ..ทูพีซ(หน้ากากกับกางเกง)ตลอดนะ
ใจคอจะไม่ใส่เสื้อบ้างเลยเหรอ
โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.59.237 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:07:19 น.
เศรษฐกิจพอเพียงจ้า
โดย: พราน IP: 117.47.200.157 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:19:00 น.
พี่พรานคะ..
มาเก็บตังค์ที่ฝากทำบุญด้วยพันดอลล่าร์ เร๊ว ห้ามติดด้วยนะเออ ตังค์ทำบุญเนี่ย ม่ายยย งั้น บาปน๊ะ พี่พราน
อ้อ บังเอิญองค์กฐินคนละคณะกับพี่ปลายแปรงน่ะ อิอิ คณะองค์กฐินที่บ้านนก คนรำหน้าขบวนแห่องค์กฐินสวยนะ จะบอกให้
โดย: น้องนก (
Nok_Noah
) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:28:01 น.
เคยอ่านเรื่องชาวประมงแบบนี้เป็นเรื่องที่สองแล้วล่ะค่ะ
ในที่สุด นัก... นัก... ทั้งหลาย ก้อพ่ายแพ้ต่อวิถีชาวบ้านแบบเพียงพอ ง่ายๆสบายๆแบบนี้ทุกคนเลย
โดย:
ดาวทะเล
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:48:02 น.
เคยอ่านมาจากในพันทิพนี่แหละค่ะ
โดย: filmgus IP: 222.123.206.5 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:28:49 น.
พี่พรานคะ..
หาเจอมั้ยล่ะคะ คงเจอหรอกมั้ง อิอิ ก็คุณ 9A เค้าไปทอดกฐินที่ราชบุรี ส่วนนกไปนครพนมเนี่ยนะ
โดย: น้องนก (
Nok_Noah
) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:54:13 น.
วันนี้แดดออก...
มาช่วยซักผ้าหน่อยสิ...
เสื้อแขนยาวสิบกว่าตัวเอง
หรือว่าโดนฝะหรั้งขย้ำไปแล้วหว่า....
พรานเอ้ย...พรานไพร
อยู่ไหนในป่าดง
โดย: ปลายแปรง ณ ปลายดอย IP: 222.123.23.247 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:14:27 น.
พอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชปณิทานที่ปวงชนชาวสยามควรเทอดไว้ด้วยเกล้า....
โดย:
วรมุทา
วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:34:46 น.
เคยอ่านจากไหนมาก่อนเช่นกัน ชอบมากๆ แถมเจอใครก็มักจะเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ จนวันหนึ่งได้เล่าให้ผู้ใหญ่ที่น่ารักมากๆท่านหนึ่งฟัง ท่านถามเรากลับว่า .....
แล้วคุณว่าชาวประมงคนนี้ กับชาวประมงของเศรษฐศาสตร์คนนั้นต่างกันตรงไหน ????????....
เรานั่งคิดสักพัก...
ท่านผู้ใหญ่คนนั้นก็ยิ้มและตอบเราว่า "ชาวประมงคนนั้นจะต้องหาปลาทุกวัน แต่คุณประมงของนักเศรษฐศาสตร์นั้นจะหาปลาวันไหนก็ได้ ไม่หาปลาวันไหนก็ได้".....
เราก็นั่งอึ่งอีกสักพัก...ท่านก็ยิ้ม แล้วถามว่าจริงไหม????
เราค้านอยู่ในใจว่ามีข้อแตกต่างกันน่ะใช่ แต่ไม่ใช่อันนี้นะ!!!!
แต่วันนั้นคิดไม่ออกว่าจะตอบว่าอะไร ก็จึงยิ้มๆ...เพราะเล่าให้ใครฟังทุกคนไม่มีคำถามๆเราให้คิดต่อเลย...
จนวันนี้เรารู้แล้วว่าเราจะตอบว่าอะไร .... ขอบคุณสำหรับคำถามของท่านผู้นั้นจัง
ท่านพรานคิดว่าอย่างไรค่ะ
โดย: ช่อชบา IP: 58.9.156.148 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:42:38 น.
แวะมาเยี่ยม"คุณตา"ค่ะ
หุ หุ หุ
โดย:
เริงฤดีนะ
วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:08:17 น.
ช่อชบา
"เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด"
สวัสดีคุณช่อชบา ยินดีมากเลยที่มีความคิดเห็นต่างกันออกไป เรื่องที่ผมเล่ามาอาจเป็นเพียงตุ๊กกะตาที่วางไว้คร่าวของความคิดคนละขั้ว ชาวประมงอาจถูกมองว่าขี้เกียจ ชึ่งมันไม่ยุติธรรมเลย ในรายละเอียดของชีวิตจริงเขาอาจมีวิถีที่ซับซ้อนกว่านั้นไม่ใช่แค่หาปลาเสร็จกลับมานอน มาเที่ยวหรือว่าแค่อยู่ไปวันๆ ส่วนหนึ่งที่เห็นได้คือ เขารักครอบครัว เขามีเพื่อน เขามีสุนทรีย์ในการใช้ชีวิต เขารู้จักพอและเขาเลือกที่จะทำตามกำลัง เขาเลือกที่จะทำในสิ่งที่เขาถนัด เขารัก
นักเศรษฐศาสตร์ อาจจะรุนแรงเกินไปหากจะมองว่าเขาละโมบ เรารู้จักกันน้อยเกินไป เป็นความคิดที่ดีที่จะนำการพัฒนาอย่างที่ว่ามาใช้ แต่เขาอาจไม่ได้ใช้เวลาศึกษาวิถีชีวิตของชาวประมงผู้นี้ว่าจริงๆแล้ว
เขายังมีรายละเอียดอื่นใดในชีวิตบ้าง
ที่บอกว่าหากชาวประมงคนนั้นทำตามและสำเร็จตามแผนนั้น แทนที่จะต้องหาปลาทุกวันมาเป็นหาปลาวันไหนก็ได้ แต่ระยะเวลาที่จะต้องกรำงานหนักล่ะ อีกกี่ปีกว่าจะไปถึงจุดที่บอกว่าหาปลาวันไหนก็ได้ แล้วระหว่างช่วงเวลาที่จะไปถึงจุดนั้นล่ะ เมื่อมีเงินเยอะปัญหาทุกอย่างก็จะโถมทับเข้ามา ทั้งเรื่องดีและไม่ดี ตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่เนืองๆ
ท่านผู้ใหญ่ที่เล่าเรื่องให้ฟังก็อาจมีความคิดไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าถูกรึไม่ถูก จากการที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันหลายทางทำให้ผมต้องถามใจตัวเองเหมือนกันว่าประมาณไหนดี ก็นำส่วนที่ดีของแต่ละความคิดมาปรับใช้แล้วกัน
การที่ได้ทำในสิ่งที่รักที่ตนถนัดและตามกำลังนั้นดูจะเป็นทางที่น่าจะดีที่สุดแล้ว คุณล่ะว่าไง
HOME&DECCOR ฉบับนี้รีบมีไว้เป็นเจ้าของ ขอบอกๆ พบกับช่อชบาและงานน่ารักๆ
โดย:
ตาพรานบุญ
วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:21:52 น.
เหตุผลของคนขี้เกียจ กับเหตุผลของชาวประมงในเรื่อง มองเผินๆ อาจคล้ายกัน แต่ที่จริงแล้วมันก็ยังมีตัวแปรระหว่างคำว่าขี้เกียจกับพอเพียงนะคะ นึกถึงเพลงดีใจที่มีวันนี้ท่อนหนึ่งที่บอกว่า
"ไม่ต้องไปฟุ้งเฟ้อ ไม่ต้องใช้ฟุ่มเฟือย
ชีวิตแม้จะเหนื่อยแต่ไม่อ่อนล้า"
โดย: Kitsunegari IP: 124.120.174.239 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:51:06 น.
มาอ่านอีกครั้ง ก่อนแอบเซฟภาพไปด้วยเน้อ...ได้อารมณ์ดีครับ...ขอบคุณครับ
โดย:
pu_chiangdao
วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:15:42 น.
ขอบคุณคร้าบที่แวะไปเยี่ยมกัน
แล้วไปถูกได้ยังงัยนะ ??
....รู้จักพอก่อสุขทุกสถาน .....
....การได้ทำในสิ่งที่เรารักถือเป็นโชค...
....ทำมันให้ดีที่สุดแล้วทุกอย่างจะตามมาเอง....
เคยคิดว่าประโยคต่างๆเหล่านี้เป็นประโยคสวยงาม จรรโลงโลก เฉยๆ ฟังดูเพราะดี...จนวันนี้เราอยากจะบอกและ ตะโกนดังๆว่า มันเป็นเรื่องจริง จริง คอนเฟริ์มจากประสบการณ์ตรง
หากพระเจ้ามาบอกว่า คุณมีเวลาเหลืออีก 5 วันคุณจะต้องตาย.. คุณอยากและต้องการจะทำอะไรบ้าง
???? แตละคน คงมีคำตอบต่างๆ นาๆ....
จะมีผู้โชคดีสักกี่คนที่จะตอบว่า ฉันต้องการตื่นขึ้นมาและทำในสิ่งที่ฉันทำอยู่ทุกวันนี้แหละ ;)
แต่ใครจะรู้ได้เล่า ว่าเราจะอยู่ได้อีก 5 วัน... 5 เดือน หรือ 5 ปี ??????????
ชาวประมงผู้โชคดีคนนั้น เขาได้ตื่นขึ้นมามีความสุขกับสิ่งที่เขาเลือกกับงานที่เขารักทุกวัน ...เขาอาจจะทุกข์...หากมีวันใดที่เขาไม่ได้ออกเรือไปคุยกับทะเลก็ได้นะ ;P
ชาวประมงผู้โชคดี ยังมีเวลาเหลือเฟือที่จะแบ่งปัน ให้คนที่เขารัก คนที่รักเขาและมีคุณค่ากับเขาอย่างแท้จริง
เพียงเพราะเขาเข้าใจคำว่า " พอ "
กิเลสมาร มีอำนาจ น่ากลัว แต่บางครั้งก็แปลงกายเข้ามาหาเราอย่างสวยงามและปราณีต กว่าจะรู้ตัวว่าถูกครอบงำ ก็อาจถูกกลืนกินเวลาแห่งความสุข หรือจิตวิญญาณ จนเป็นทาสแห่งกิเลสมารไปเลย... แต่กิเลสมารจะไม่สามารถตื่นขึ้นมาทำอะไรเราได้เลย... หากเรามิได้ดำริและอนุญาติให้มันเข้ามาหา..
หากคุณต้องการเป็นผู้โชคดีบ้าง... คุณได้สิทธินั้น เดี๋ยวนี้ ..
ท่านผู้ใหญ่ท่านนั้น ท่านมิได้มีความคิดไปอีกแบบหรอก เพียงแต่ท่านคงต้องการให้เราเข้าใจนิทานเรื่องนี้ให้ซึ้งกว่านี้ จึงตั้งคำถามให้เราคิด แต่วันนั้นเราปากแข็งไม่ถามท่านเองแหละ
มิฉะนั้นท่านคงจะให้คำตอบเช่นเดียวกับที่เราเข้าใจตอนนี้
ภาพสวยมาก คงรู้อยู่แล้วไม่ต้องบอกซินะ เพราะตอนทำก็คงทำไปด้วยความสุขใจ....เป็นคนโชคดีจังนะ !!!
แค่อยากบอกว่า มีอีกหนึ่งคนนะที่ชื่นชมงานสวยๆที่ ตาพรานตั้งใจทำออกมาด้วยความรัก ....
ถือเป็นโชค ชั้นที่ 2. ไหมนะ ???
โดย: `ช่อชบา IP: 58.9.96.192 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:19:16 น.
สวัสดีตอนเช้าค่ะ ตาพรานบุญ
เอากาแฟ กับ จะโก้ยมาฝาก
แอบไปแซวเราที่บลอค
ทำเอาเขินเก้อไปหลายนาที อิอิ
ว่าแต่อยู่ภูเก็ตแต่ไงรู้จักบางนายสีด้วยอะ
เป็นช่างวาดรูปด้วยเหอคะดีจัง มีงานหลักที่ชื่นชอบทำ
และวาดรูปก็เป็นความสุขอย่างนึง
มาอ่านนิทานพอเพียงเรื่องนี้ รู้สึกดีจัง เหมือนเคยฟังมาบ้าง เศรษฐีบอกให้ทำมากๆ เพื่อจะได้มาตกปลาและพักริมทะเล แบบเขา ..
แต่ชาวประมงบอกเขาก็เป็นของเขาอย่างนี้มานานแล้ว...
แจ๋วกว่าไหม ไม่เห็นต้องงานหนักแล้วค่อยกายเป็นเศรษฐี เพราะเขาเป็นเศรษฐี ความสุขเหลือเฟือมานานแล้ว..
โดย:
วีดวาด
วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:26:16 น.
มาแล้ว.....ไม่รู้จะเขียนอะไรแฮะ
กำลังพอกหน้า ดูดสิวอยู่....เดี๋ยวบ่ายๆจะเข้าเฮลท์คลับไปลดลอนพุงหน่อย
เตรียมนั่งกระทงปีนี้.....เซ็งจัง
ปฏิเสธเขามาหลายปีแล้วเนี่ย....ปีนี้ไม่สามารถจริงๆ
แต่สงกรานต์น่ะอาจจะอยู่ไม่ถึงหรอกพรานเอ๋ย....
แต่ถ้าตาพรานอยากมาสาดน้ำสงกรานต์ที่นี่ล่ะก้อ ค่อยพามาอีกทีก็ได้
มันส์สุดๆ...ตานุยังติดใจเลย
เตรียมรถ เตรียมถังไปกว้านเด็กขึ้นรถ
(ก้อ...ถ้าไปคนเดียว เด็กมันไม่สาดน้ำน่ะ ต้องเอาเด็กสาวๆ เอ๊าะๆไปล่อ....ก็อาศัยเปียกไปกะเขา)
ปีหน้ามาไหม.....มีสาโทเจ๋งๆชนิดที่ตาพรานลืมเบีนร์เลยล่ะน้องเอ๋ย....สนป่าว
แต่....เอาให้พ้นหนาวก่อนดีกว่านะ
โดย:
ปลายแปรง
วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:36:07 น.
ลืมเบียร์จ๊ะ....พิมพ์มันไปหน่อย ลืมดูหน้าจอ
เพราะอิชั้นพิมพ์ระบบสัมผัสที่แป้นตาต้องเล็งไว้ แล้วค่อยเงยดูจอ....
อย่าว่ากันเลยนะ.....หน้ามันตึงๆ พอกหน้าน่ะ
โดย:
ปลายแปรง
วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:37:24 น.
หวัดดีค่ะพราน
หนังสือผ่านพบไม่ผูกพันถ้าร้านไหนหมด ก็แวะไปสั่งซื้อที่ซีเอ็ดได้ค่ะ อยากบอกว่าเล่มนี้อ่ะ โดนใจเป็นที่สุดเลย
ลองอ่านดูนะ
โดย: รุ้งสีที่แปด IP: 125.24.145.127 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:50:38 น.
สวัสดีครับตาพรานบุญ
แวะมาอ่านรื่องที่เอามาเล่าต่อ
เคยได้ยินได้ฟังมาแล้วเหมือนกัน
ตามประสาคนอายุมากแล้ว
มีความสุขดีนครับ
โดย: พ่อพเยีย IP: 203.172.199.254 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:58:05 น.
อ่านมาก ตาลาย มีรูปอีกป่ะ มาลงเร็วๆ อย่าช้า
โดย: ~(-_-)~ IP: 58.136.68.20 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:32:01 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ตาพรานบุญ
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
?
]
ให้งานแนะนำตัวเอง
Friends' blogs
ตาพรานบุญ
พ่อพเยีย
ปลายแปรง
Nok_Noah
แพรจารุ
ปางหวัน
นกแสงตะวัน
shadow-of-art
kerrie
ยิปซีสีน้ำเงิน
คุณม้าม
แซนด์ซี
สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น
สีน้ำฟ้า
lukkongpoka
O_Sole_mio
ซซ
วรมุทา
มณีมรกต
jdfoxbat
ratikorn
มะลินะ
pu_chiangdao
โมกสีเงิน
HHG
ธารเมฆ
ม่วนน้อย
ชำ-อนัตตา
Ninniko
วีดวาด
เป้ สีน้ำ
นายขนมตาล
เงาตะวันฉาย
Childcraft
กวิสรา
ค่ำคืนหน้าหนาว
big onion
Kala_mydog
บุปผาลีลาวดี
อันต้า
benjarong9
ทากชมพู
discipula
Webmaster - BlogGang
[Add ตาพรานบุญ's blog to your web]
Links
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
เพราะพริ้งเสียนี่กะไรรอยคำ
โดย: พรานเจ้าปัญหา (ตาพรานบุญ ) 3 พฤศจิกายน 2550 19:48:46 น.
ไม่อยากเชื่อเลยค่ะว่าพรานไม่ทราบ
เรียกกาพท์ฉบัง ๑๖ ค่ะ
เขียนง่ายกว่าอย่งอื่นนะคะ
มักใช้คำคู่ เช่น
กลีบบาง/คว้างร่วง/ลานโศก
ละลิ่ว/ปลิวโบก
ปลดปลิด/ริดก้าน/รานร้าว
สายฝน/แรงไล่/ให้หนาว
กระหน่ำ/เมินคราว
ไร้เยื่อ/ใยร้าว/อาลัย
วรรคแรก ๖ พยางค์
วรรคสอง ๔ พยางค์
วรรคสาม ๖ พยางค์
เอาลิ้งค์ฉันทลักษณ์ให้นะคะ //www.st.ac.th/bhatips/gabpglon_16.htm
.....................................................................
อ่านเรื่องเล่าของคุณตาพรานฯข้างบนแล้ว.. ก็คิดไม่ออกค่ะ ว่า อะไรคือ สื่งที่ควรจะเป็นมากกว่า...จริงๆนะคะ
ความเรียบง่าย คือ ความพอเพียงจริงหรือ?
ขณะที่แผนแสนฉลาดวิเคราะห์มาด้วยมันสมองระดับ ๑ ใน ๑๐ จากฮาร์วาร์ด ฯลฯ...นำมาใช้ได้ดีจริงอีกหรือเปล่า??
เห้อ.. ตอนนี้ คิดอะไรก็ออกมาแบบนี้ทุกเรื่องเลย
จริงหรือ ๆๆๆๆ???