|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
นิราศสุพรรณ...พระสุนทรโวหาร(ภู่) ๑
นิราศสุพรรณแต่งขึ้นในราวปี พ.ศ.๒๓๗๔ ในระหว่างที่ท่านสุนทรภู่บวชพระและจำพรรษาอยู่ที่วัดสระเกศ เป็นนิราศเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องเดียวของท่านสุนทรภู่ที่แต่งเป็นโคลง สันนิษฐานว่าท่านสุนทรภู่จะลบคำสบประมาทว่าท่านแต่งได้แต่เพียงกลอน
ในนิราศเรื่องนี้ ท่านสุนทรภู่แต่งโคลงกลบทไว้หลายต่อหลายรูปแบบ และโคลงที่มีสัมผัสในเหมือนอย่างกลอนที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย นอกจากนี้ยังพบว่า ท่านสุนทรภู่ใช้คำเอกโทษ โทโทษ เปลืองที่สุด คงจะคงความหมายดังที่ต้องการ ส่วนการรักษารูปโคลงเป็นเพียงเรื่องรองเท่านั้น ทำให้ได้รสชาติในการอ่านโคลงไปอีกแบบหนึ่ง
ในการคัดลอกโคลงนิราศสุพรรณมาลงไว้ที่นี้ ขอดัดแปลงคำบางคำจากต้นฉบับของกรมศิลปากร เพราะมีหลายคำที่สะกดผิดเพี้ยนไปจากคำในปัจจุบัน จนกระทั่งการอ่านครั้งแรกจับคำไม่ได้ ทั้งนี้จะแปลงเฉพาะคำที่ผิดเพี้ยนมากจริงๆ เท่านั้น ส่วนคำที่ผิดเพี้ยนเพียงเล็กน้อย และคำที่แปรรูปไปในตำแหน่งเอกโทษ โทโทษ จะคงไว้ตามเดิม ด้วยมุ่งหมายให้ผู้อ่านสามารถติดตามเรื่องราวได้อย่างสนุกสนานและราบรื่น
นิราศสุพรรณนี้ มีทั้งสิ้น ๔๖๒ บท ซึ่งจะได้ทยอยนำมาวางไว้ที่นี้ เพื่อยกย่อง เชิดชูครูกลอนพระสุนทรโวหาร (ภู่)
๑ ๏ เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า...............ดาดาว จรูญจรัดรัศมีพราว....................พร่างพร้อย ยามดึกนึกหนาวหนาว................เขนยแนบ แอบเอย เย็นฉ่ำน้ำค้างย้อย....................เยือกฟ้าพาหนาว ฯ ๒ ๏ มหานากฉวากวุ้ง..................คุ้งคลอง ชุ่มชื่นรื่นรุกขีสอง....................ฝั่งน้ำ คุกคิดมิศหมายครอง................สัจสวาดิ ขาดเอย กล้าตกรกเรื้อซ้ำ.....................โศกทั้งหมางสมร ฯ ๓ ๏ ขอฝากซากสวาดิสร้อย..........สุรธร ไว้ที่ท่าสาคร...........................เขตนี้ ศาลาน่าวัดภร..........................พี่ฝาก มากเอย ใครที่พี่เป็นผี้...........................พี่ให้อไภยเจริญ ฯ ๔ ๏ จำร้างห่างน้องนึก.................น่าสวน สองฝ่ายชายหญิงยวน...............ยั่วเย้า หวังชายฝ่ายหญิงชวน...............ชื่นเช่น เหนเอย กลเช่นเล่นซักเสร้า...................เสพเผื้อนเฟือนเกษม ฯ ๕ ๏ เลี้ยวลัดวัดษเกษก้ม..............คมลา กุฏศพนบมานดา.....................เกิดเกล้า เดชะพระกุศลภา......................พ้นโลก โอกฆเอย เสวยศุกทุกค่ำเช้า.....................ช่องชั้นสวรรยางค ฯ ๖ ๏ เชิงเลนเปนตลาดสล้าง...........หลักเรือ โอ่งอ่างบ้างอิดเกลือ.................เกลื่อนกลุ้ม หลีกล่องช่องเล็กเหลือ..............ลำบาก ยากแฮ ออกแม่น้ำย่ำถุ้ม......................ถี่ฆ้องสองยาม ฯ ๗ ๏ แซ่เสียงเวียงราชก้อง............กังสดาน หง่งหงั่งระฆังขาน...................แข่งฆ้อง สังแตรแซ่เสียงประสาร............สังขีด ดีดเอย ยามดึกครึกครื้นก้อง................ปี่แก้วแจ้วเสียง ฯ ๘ ๏ วัดเลียบเงียบสงัดหน้า...........อาราม ขุกคิดเคยพญายาม.................แย่งน้อง รวยรินกลิ่นสไบทราม..............สวาดร่วง ทรวงเอย สูรกลิ่นสริ้นกลอนพร้อง...........เพราะเจ้าเบาใจ ฯ ๙ ๏ เจริญบุญสุรธรไว้................ให้สมร สืบสวัสสัฐาภร.......................ผ่องแผ้ว เชิญทราบกาพกลกลอน..........กล่าวกลิ่น ถวินเอย จำขาดชาตินี้แล้ว....................คลาดน้องของสงวน ฯ ๑๐ ๏ วัดแจ้งแต่งตึกตั้ง.................เตียงนอน เคยปกนกน้อยคอน.................คู่พร้อง เคยลอบตอบสารสมร..............สมานสมัคร รักเอย จำจากพรากนุชน้อง.................นกน้อยลอยลม ฯ ๑๑ ๏ สาวแก่แม่ม่ายแม้น...............มีคุณ ขอเดชะพระวรุณ.....................ราชรู้ ยามดึกนึกส่งบุญ.....................แบ่งฝาก มากเอย วัดช่วยอวยสวัสดิขู้..................คิดพร้องสนองเพลง ฯ ๑๒ ๏ ยนฉนวนหวนนึกน้ำ..............เนตรนอง พระธินั่งบันลังทอง..................ที่เฝ้า ชำระพระนิพนสนอง................เสด็จสนิด ชิดเอย สริ้นแผ่นดินปกเกล้า................กลับร้างห่างฉนวน ฯ ๑๓ ๏ แบ่งบุญสุรธรเชื้อ................ชิณวง สืบซ่างทางพุทพง...................ผ่องแผ้ว ถวายพระหริรักทรง.................สารภิเศศ เสวตรเอย ลุโลกโมฆเมืองแก้ว................กิจร้ายหายสูร ฯ ๑๔ ๏ อีกองมงกุฎิเกล้า.................เขากรุง สืบกษัตรขัติยบำรุง................รอบแคว้น ถวายพระอนิสงพดุง...............พเดชเฟื่อง กเดื่องเอย สิ่งโศกโรคเรื่องแค้น..............ขจัดผ้ายวายเขน ฯ ๑๕ ๏ ท่าช้างหว่างค่ายล้อม...........แหล่งสถาน ครั้งพระโกฏิโปรฐประทาน........ที่ให้ เคยอยู่คู่สำราน.....................ร่วมเย่า เจ้าเอย เหนแต่ที่หมีได้......................ภบน้องครองสงวน ฯ ๑๖ ๏ วังหลังครั้งหนุ่มเหน้า...........เจ้าเอย เคยอยู่ชูชื่นเชย....................ค่ำเช้า ยามนี้ที่เคยเลย.....................ลืมภัก พี่แฮ ต่างชื่นอื่นแอบเคล้า...............คลาศแคล้วแล้วหนอ ฯ ๑๗ ๏ คิดคำลำฦกไว้....................ใคร่เตือน เคยรักเคยร่วมเรือน.................ร่วมรู้ อย่าเคืองเรื่องเราเยือน.............ยามแก่ แม่เอย ใครที่มีชู้ชู้.............................ช่วยช้ำคำโคลง ฯ ๑๘ ๏ เลี้ยวทางบางกอกน้อย..........ลอยแล บ้านเก่าเย่าเรือนแพ.................พวกพ้อง เงียบเหงาเปล่าอกแด...............ดูแปลก แรกเอย ลำฦกนึกรักร้อง......................เรียกน้องในใจ ฯ
ภาพ : จาก //study.eduzones.com/middleschool/2009/10/22 เพลง : ปฐมดุสิต
Create Date : 27 มิถุนายน 2553 |
|
23 comments |
Last Update : 27 มิถุนายน 2553 15:55:57 น. |
Counter : 1848 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: นายปลาดาว .. (yjam ) 27 มิถุนายน 2553 21:19:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: is_ninja 27 มิถุนายน 2553 21:20:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: มนุษย์กินเห็ด... (เป็ดสวรรค์ ) 27 มิถุนายน 2553 22:05:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 28 มิถุนายน 2553 7:34:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 28 มิถุนายน 2553 11:17:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: panwat 28 มิถุนายน 2553 12:18:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: SongPee 28 มิถุนายน 2553 20:46:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 มิถุนายน 2553 7:23:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: กลิ่นดอย 29 มิถุนายน 2553 12:34:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 29 มิถุนายน 2553 13:29:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 29 มิถุนายน 2553 19:01:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: อาลีอา 29 มิถุนายน 2553 20:02:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: กลิ่นดอย 29 มิถุนายน 2553 20:46:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมึกสีดำ 29 มิถุนายน 2553 21:14:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) 29 มิถุนายน 2553 22:21:02 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
สมุทรสงคราม Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
มากกว่าได้ยิน
"Pacta Sunt Servanda-สัญญาต้องเป็นสัญญา"
|
|
|
|
|
|
|
|
|