Happiness depends upon ourselves.....
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
3 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 

ตามหาแดจังกึม โสมชั้นดี กิมจิรสเยี่ยม ที่เกาหลีใต้ ตอนที่ 1

21-24/10/2006

ทริปนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ได้ไปเที่ยวเกาหลีแดนกิมจิ หนแรกไปมาเมื่อ 3 ปีก่อน ภารกิจครั้งก่อนคือการไปตามหาใบไม้เปลี่ยนสีที่เค้าว่ากันว่าสวยนักสวยหนา แต่คราวนั้นกลายเป็นแห้วไป เพราะช่วงที่ไปเป็นช่วงหลังที่เกาหลีมีพายุเข้าพอดี ทำให้ใบไม้ยังเขียวขจีเป็นป่าหน้าฝนอยู่เลย เลยแอบตั้งใจเอาไว้คนเดียวว่า ถ้ามีโอกาสขอกลับมาตามหาใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ อีกซักครั้ง

เหมือนสวรรค์ได้ยินคำขอร้อง คราวนี้มีโอกาสได้ไปแก้ตัวอีกที แถมได้ไปฟรีอีกตังหาก.....โฮะ โฮะ โฮะ งานนี้เลยไม่มีพลาด แถมครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เราจะได้ใช้บริการสนามบินใหม่ของบ้านเราอีกด้วย สนามบินสุวรรณภูมิ ไงคะ อลังการงานสร้างสมคำร่ำลือจริงๆ โดยเฉพาะด้านใน Duty Free เค้าใหญ่จริงๆ แอบลืมตัวไปเหมือนกัน นึกว่ามาเดินเล่นในห้างอยู่ซะอีก

สภาพ Duty Free ด้านในค่ะ มีใครเห็นภาพนี้แล้วแอบน้ำลายไหลบ้างมั้ยเนี่ย



ครั้งนี้เราจะเหิรฟ้าไปสู่ประเทศเกาหลี โดยสายการบิน Korean Air ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง เครื่องออกประมาณเที่ยงคืน เราไปถึงเกาหลีก็เช้าพอดี เวลาที่นั่นจะเร็วกว่าบ้านเราประมาณ 2 ชั่วโมงจ้า ช่วงที่นั่งไป เราได้นั่งด้านขวาของตัวเครื่อง ซึ่งบินขึ้นเหนือ ทำให้เราได้มีโอกาสเห็นภาพสวยๆ แปลกตา ที่หาโอกาสดูได้ไม่ง่ายนัก สวยดีเนอะ



พอลงมาถึงที่สนามบิน Inchoen พวกเราก็ต้องมาลุ้นกันละค่ะว่าจะได้ออกไปเที่ยวกันครบมั้ย หรือว่าจะมีใครโชคดีได้นั่งเครื่องกลับเมืองไทยก่อนเพื่อน ก็ต.ม.ที่เกาหลีเนี่ยเค้าขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวดมากๆเลยค่ะ มาเที่ยวเกาหลีเนี่ย ไม่ต้องขอวีซ่านะคะ แค่มาลุ้นเอาที่นี่ละกันว่าเค้าจะให้เข้าประเทศหรือเปล่า ถ้าต.ม.ที่นี่เค้าเห็นท่าไม่ดี เห็นว่าเราจะเข้าไปทำงานบ้านเค้าละก็ เค้าก็จะส่งเรากลับบ้านทันที.....ง่ายมั้ยคะ ดังนั้นไกด์จึงต้องเตือนเราตั้งแต่ก่อนเดินทางเลยค่ะว่า ถ้าพอจะมีทองหยองอะไร ก็ใส่ๆ มาประดับบารมีซะหน่อย มันพอช่วยได้ค่ะ และนี่คือหน้าตาของ ต.ม. ที่บอกค่ะ ลุ้นค่ะ ลุ้น



เย้!! ในที่สุดก็ผ่านออกมาได้ คณะเราประมาณ 100 กว่าคน ผ่านฉลุยค่ะ ดีมาก ไม่ต้องเสียเวลาดี แล้วเราก็เริ่มเที่ยวกันเลย ไปค่ะ ลุยยยย....

เหยียบแผ่นดินเกาหลีปุ๊บ น้ำท่าไม่ต้องอาบ บางคนฟันยังไปแปรงเลย เราก็ต้องเริ่มเที่ยวกันแล้วค่ะ ที่แรกที่พวกเราไปกันก็คือ Dae Jang Geum Theme Park หรือ โรงถ่ายละครเรื่องแดจังกึม ที่แสนจะโด่งดังที่บ้านเรากันค่ะ

ตรงนี้เป็นทางเดินเข้าไปยังโรงถ่าย คราวนี้ไม่ต้องตามหาใบไม้เปลี่ยนสีแล้วค่ะ เพราะมีทั่วไป หาได้ง่ายมาก สวยดีจริงๆ เลยค่ะ



แล้วเราก็เข้าด้านในโรงถ่ายกันค่ะ ถ้าใครได้ดูละครเรื่องนี้ มาที่นี่ต้องสนุกแน่ๆ ส่วนเรา ดูบ้าง ไม่ดูบ้าง ยังสนุกเลยค่ะ ภายในเค้าจะมีฉากต่างๆ และมีป้ายบอกไว้ด้วยค่ะว่าเป็นตอนไหนของละคร



เดินวนไปวนมา ก็จะรู้ว่า ฉากมากมายที่เราเห็น มันวนๆ อยู่แค่ไม่กี่ที่เองค่ะ แต่สิ่งที่ต้องเห็นอีกอย่างคือ ไหกิมจิค่ะ



แล้วพอเดินมาเรื่อยๆ ก็จะมาเจออาคารตรงกลาง ตรงนี้จะมีการให้เช่าชุดแบบในละครให้เราใส่ถ่ายรูปด้วย ราคาค่าเช่าก็ประมาณ 5,000 วอน หรือประมาณ 200 บาท จะใส่นานแค่ไหนก็ได้ พวกเราเลยขอแปลงร่างเป็นแดจังกึม และมเหสีกันซะหน่อย ถ่ายรูปกันซะคุ้มเชียวค่ะ



หลังจากแปลงร่างกลับมาเป็นคนเดิม เราก็เดินมาต่อที่เป็นบริเวณทำอาหาร ก็หันไปเจอหนูน้อยคนนึง หน้าตาน่ารัก แถมยังใส่ชุดน่ารักอีกด้วย เลยขอถ่ายรูปด้วยซะเลย น่ารักมั้ยคะ



มาเที่ยวเกาหลีคราวนี้ เราสังเกตว่า เด็กที่นี่เค้าไม่ค่อยกลัวคนนะคะ ถ้าเราขอเค้าถ่ายรูป ทั้งตัวเค้าทั้งพ่อแม่เค้าจะยินดีให้เราถ่ายเลยค่ะ เด็กที่นี่ก็แก้มแดงน่ารักกันทั้งนั้นเลยด้วย ชอบ ชอบ

ออกจาก แดจังกึม พาร์ค ท้องก็ร้องแล้วค่ะ อยากทานอาหารเกาหลีเต็มแก่แล้ว อาหารเกาหลีนับเป็นอาหารอีกชาตินึงเลยที่เราชอบมากๆ แถมวิธีการกินก็สนุกดีด้วยค่ะ เพราะว่าอาหารเกาหลีเนี่ยเค้านิยมให้ช่วยๆ กันทำค่ะ ทำไปกินไป อร่อยและสนุกดี มื้อแรกของพวกเราเป็นเมนูหมูกระทะ หรือที่เรียกว่า พุลโกกิ ค่ะ มาดูกันซิ ว่าหน้าตาเหมือนที่บ้านเราหรือเปล่า



อาหารเกาหลีเนี่ย อย่างที่บอกว่าต้องช่วยกันทำ ทำไปกินไป สนุกดีแท้ แถมยังมีเครื่องเคียงมากมายให้เลือกกินแกล้มแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนด้วย แต่ละมื้อ เพลินไปเลยค่ะ ....... ที่เกาหลีเนี่ย เค้าก็กินข้าวเป็นอาหารหลักเหมือนเรานะคะ แต่ข้าวของเค้าจะเม็ดสั้นๆ เหนียวนิดๆ คล้ายๆ ข้าวญี่ปุ่น อร่อยดีค่ะ ส่วนอีกอย่างนึงที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือ ซอสพริกแบบเกาหลี ลักษณะจะเป็น Paste สีแดงๆ เค็มๆ นิดๆ อร่อยดีค่ะ ส่วนตัวแล้ว ชอบซอสตัวนี้มากๆ พิมพ์ไปน้ำลายเริ่มสอแล้วอ่ะ

ออกจากอาหารกลางวัน ความจริงเราจะต้องไปเที่ยวล่องเรือกันก่อน แต่เนื่องจากเรา late กันมากแล้ว พวกเราก็เลยตรงไปยังเมืองสวนโบกันเลยค่ะ เมืองนี้มีชื่อเสียงมากๆ เรื่องของน้ำแร่ค่ะ

ที่โรงแรมที่เราไปพัก เค้าก็มีบริการให้อาบน้ำแร่ด้วยนะคะ แต่การอาบน้ำแร่แบบเกาหลี เค้าจะแยกห้องหญิง-ชาย แล้วคนที่เข้าไปอาบจะต้อง ถอดทุกชิ้น จึงจะลงไปอาบน้ำแร่ได้ คนไทยอย่างเราก็อายสิคะ แต่คุณไกด์ก็แนะนำซะดีเลยค่ะว่า อย่าไปอาย อย่าคิดว่าเราจะขาดทุน ให้คิดว่า เราเอา 1 ไปแลก 10 คุ้มจะตาย......... (ไม่รู้จะมีคนเข้าใจมุขนี้ไม๊เนี่ย) ส่วนเรามีโอกาสได้เอาคุ้มหรือเปล่า ..... ขอเก็บเป็นความลับละกันนะคะ

มาดูที่อาหารมื้อค่ำกันเลยดีกว่าค่ะ มื้อนี้เราได้ลิ้มลองเมนูชาบู ชาบู แบบเกาหลี ก็อร่อยดีนะคะ แต่เราว่าสู้ พุลโกกิ เมื่อตอนกลางวันไม่ได้ค่ะ หน้าตามื้อนี้ เป็นแบบนี้ค่ะ



วันต่อมา พวกเราก็ไปเที่ยวกันที่ หมู่บ้านใต้น้ำเชิงพุง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เค้าทำการย้ายออกมาจากที่เดิม เนื่องจากเค้าจะสร้างเขื่อน ทำให้หมู่บ้านไม่ต้องจมลงไปอยู่ใต้น้ำ คนรุ่นหลังจะได้มีโอกาสมาศึกษาดูได้ว่า สมัยก่อนคนเค้ามีวิถีชีวิตเป็นแบบไหนกัน

ลงรถปุ๊บก็เจอกับกลุ่มของแท่งไม้เหล่านี้ คอยต้อนรับพวกเราเลยค่ะ



เดินไปด้านใน ก็จะได้เจอกับอาคารต่างๆ ที่เค้าย้ายขึ้นมา ศาลาสวยๆ ก็มี



สภาพบ้านเรือนสมัยโบราณก็มีให้เห็น



มุมสวยๆ ภายในหมู่บ้าน เราชอบอาคารของเกาหลีมากๆ เพราะสีสวยเหลือเกิน ใช้สีเขียวเป็นหลัก สบายตาดีค่ะ



เดินเล่นกันที่หมู่บ้านใต้น้ำกันซักพัก เราก็เคลื่อนพลไปล่องเรือกันต่อที่ ทะเลสาบชุงจู พวกเราจะไปล่องเรือดูหินกันค่ะ หินที่นี่จะมีรูปร่างเป็นสัตว์ หรือรูปทรงต่างๆ แล้วแต่เราจะจินตนาการค่ะ ที่เห็นชัดๆ ก็จะเป็นหินรูปเต่า ซึ่งเป็นสัตว์มงคล เพราะหมายถึงการมีอายุยืนยาว และที่เป็นไฮไลท์สำคัญอีกย่างคือ หินที่เป็นรูป ไผ่สวรรค์ ซึ่งเป็นจุดที่สวยที่สุดของการล่องเรือด้วย เลยขอนำภาพมาฝากกันซะหน่อยค่ะ



เสร็จจากล่องเรือ เราก็จะตรงกลับมาที่กรุงโซลกันเลยค่ะโดยจะแวะทานอาหารกลางวันระหว่างทาง แต่เนื่องจากเราค่อนข้าง late (อีกแล้ว) แถมยังเจอกับฝนตก และรถติดมากๆ บนไฮเวย์ด้วย ทำให้เราได้ทานมื้อกลางวันกันตอน บ่าย 3 โมง มื้อนี้เลยกลายเป็นมื้อที่อร่อยที่สุดไปเลยค่ะ

เมนูนี้เป็น เมนูคาลบิ หรือ หมูย่างเกาหลี ซึ่งวิธีการกินก็ต้องช่วยกันปิ้งอีกแล้ว เค้าจะให้เนื้อมาเป็นกาละมังเล็กๆ (ขอเปลี่ยนเป็นชามใหญ่ๆ แทนกาละมังละกัน กินจากกาละมัง มันแหม่งๆ ไงไม่รู้) แล้วเราก็ปิ้งหมูบนเตา พอหมูเริ่มสุก ก็ใช้กรรไกรตัดให้เป็นชิ้นพอดีคำ เวลาจะทานก็เอามาวางบนใบผัก วางเครื่องเคียงลงไป กินคล้ายๆ เมี่ยงคำ อร่อยม๊ากกกก แถมมื้อนี้เครื่องเคียงยังมีสาหร่ายทะเลแบบเติมไม่อั้นด้วน ชอบมากเลยอ่ะ ก็แหมสาหร่ายพวกนี้ สั่งกินที่ฟูจิเนี่ย ถ้วยละเป็นร้อยเลยนะคะ หน้าตาของ คาลบิ เป็นดังนี้ค่ะ



เมื่ออิ่มจากคาลบิแสนอร่อย เราก็มุ่งหน้าเข้าเมืองหลวงกันเลยค่ะ ระหว่างทางคุณไกด์ผู้น่ารักก็เล่าโน่นเล่านี่ให้ฟังตลอด แต่เนื่องจากเราเป็นเด็กเลี้ยงง่าย เจอคาลบิเข้าไปเต็มพุง ก็เลยต้องขอซ่อนตาดำเอาแรงไว้ shopping ก่อนละกันค่ะ

มาถึงโซล เค้าก็พาพวกเราไปปล่อยที่แหล่ง shopping แหล่งใหญ่ของโซล เรียกว่า ย่านโทงแดมุน ซึ่งเป็นย่านที่มีห้างมาอยู่รวมกันหลายๆ ห้างค่ะ สินค้าน่าสนใจแถวนี้ก็จะเป็นพวกเสื้อผ้าต่างๆ กระเป๋า รองเท้า ของที่ระลึก ขอเอาบรรยากาศภายในห้างแถวนี้มาฝากละกันนะคะ



ออกจากโทงแดมุน ก็ได้เวลาอาหารค่ำกันอีกแล้วค่ะ เมนูนี้ก็เป็นเมนูห้ามพลาดเวลามาเที่ยวที่เกาหลีเช่นกันค่ะ นั่นก็คือ ซัมเกทัง หรือ ไก่ตุ๋นโสมเกาหลี นั่นเอง เมนูนี้เค้าจะเสิร์ฟไก่ให้เราคนละตัวเลยค่ะ มาในหม้อดินร้อน น้ำเดือดพล่านมาเลยค่ะ ภายในตัวไก่ก็จะถูกยัดไส้ด้วย ข้าวเหนียว รากโสม พุทราแดง ทานกับกิมจิ พริกไทยดำ เกลือ และเหล้าโสม ตอนที่กินฝนตก อากาศกำลังหนาวๆ อร่อยดีทีเดียวค่ะ แต่เห็นคุณไกด์เค้าบอกว่า เมนูนี้ชาวเกาหลีเค้านิยมทานกันตอนช่วงหน้าร้อน เพราะเค้าเชื่อว่าหน้าร้อนร่างกายจะเสียพลังงานง่าย จึงต้องบำรุงกันด้วยไก่ตุ๋นโสมเนี่ยแหล่ะค่ะ หน้าตาของซัมเกทังเป็นแบบนี้ค่ะ



อิ่มจากมื้อค่ำ เค้าก็พาเราเข้าที่พักเลยค่ะ เราจะพักกันที่ Novotel ค่ะ โรงแรมสวยใช้ได้เลย พอเข้าห้องพักแอบเห็นปลั๊กไฟที่เค้าซ่อนไว้ เลยขอเอามาฝาก เผื่อใครจะไปเที่ยวเกาหลี จะได้เตรียม Adaptor ไปให้เหมาะนะคะ



ทริปเกาหลีนี้ยังไม่จบนะคะ ขอให้ติดตามต่อภาค 2 ละกันค่ะ

บ๊ายบายก่อนนะคะ





 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2549
10 comments
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2549 14:42:06 น.
Counter : 1936 Pageviews.

 

เคยไปปีที่แล้วช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนี่แหละ....
ตอนนั้นเพิ่งเริ่มฤดู...แต่สีก้อแดงๆเหลืองๆ...สวยมากๆ...
ไปสกีรีสอร์ทก้อสวยมาก...แต่ยังไม่มีหิมะ...
และได้กินอาหารทุกอย่างทีคุณบอก....อร่อยครับ...
ยังมีไก่ผัดข้าวอีก...จำชื่อไม่ได้...แต่อร่อยทุกอย่างจิงๆ...
อยากไปอีก...ชอบครับ....

 

โดย: cascade 3 พฤศจิกายน 2549 15:36:37 น.  

 

โอ้โห้ เที่ยวกระจายเลยนะ อาทิตย์หน้าถึงทีเราบ้างหล่ะ

 

โดย: poloja IP: 58.10.146.5 3 พฤศจิกายน 2549 17:41:05 น.  

 

กำลังจะไปช่วงปีใหม่นี้ค่ะ เลยขอเก็บข้องมูลหน่วยค่า

 

โดย: wow IP: 124.157.169.37 3 พฤศจิกายน 2549 22:35:37 น.  

 

โอโห ทำไมแดจังกึมตัวใหญ่จังเลย แดจังกึม นะ เป็นคนเกาหลี แต่ อ้วนจังแก นะเพี่อนใครหว่า
เคยไปเมื่อนานมากแล้ว หนาวดี หมูเกาหลีที่เคยไปกิน ชิ้นใหญ่และก็ยาวกว่านี้เยอะ เอากรรไกรตัดผ้าสีดำๆ ตัดด้วย เตาย่างเหมือนเตาบารบีคิวอันหย่ายๆๆๆ ไม่มีน้ำจิ้ม แต่ไกด์เราไปหาน้ำพริก + น้ำปลา + มะนาว แซบหลายเด้อ

 

โดย: แดจังกึม (ฝันถึงวันพรุ่งนี้ ) 3 พฤศจิกายน 2549 23:44:00 น.  

 

ชุดแดจังกึม ข้างหลังมียางยืดด้วยเหรอ

ว่าแล้ว ก็ไปหาอาหารเกาหลีกินกันเหอะ

 

โดย: hibarbies IP: 202.28.9.74 4 พฤศจิกายน 2549 10:19:28 น.  

 

มีแต่ของกินนะแก
รอภาค 2 อยู่

 

โดย: iowatrumpet IP: 61.47.104.68 6 พฤศจิกายน 2549 13:35:37 น.  

 

ตอนแรกก็ไม่ทันสังเกต แต่พอเพื่อนๆ ทักว่ามีแต่ของกิน ก็ เออ จริงด้วยอ่ะ..... ก็แหม มันมีแต่ของอร่อยนี่หว่า ไว้ภาค 2 จะเน้นเรื่องเที่ยวแล้ว รอหน่อยนะ

 

โดย: Snoopy in BKK 6 พฤศจิกายน 2549 14:31:46 น.  

 

Oh Ho...แดอะไรเนี่ย ใหญ่จัง ดีดีสวยดี ต้นไม้สีสวย

 

โดย: Jaiko IP: 202.95.86.246 7 พฤศจิกายน 2549 10:22:32 น.  

 

ชอบกินกิมจิค่ะ

 

โดย: Aisha 10 พฤศจิกายน 2549 23:20:44 น.  

 

เพิ่งไปมาเหมือนกันคับ กลับมาก่อนที่เค้าจะรบกันวันนึง รอดไป
เที่ยวคล้ายๆกันเลยคับ คนไทยเยอะมาก ขอบอก...อิอิ อบอุ่นเลย

 

โดย: อาท IP: 192.168.255.130, 203.153.181.194 26 พฤศจิกายน 2553 11:03:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Snoopy in BKK
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ก็แค่อยากจะเล่าสู่กันฟัง ....
Friends' blogs
[Add Snoopy in BKK's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.