Once in a life time experience

ไกลกว่าดูไบ



"จะไปเที่ยวดูไบ" บอกใครๆ แบบนี้ทุกคนก็บอกว่าอย่าลืมซื้อทองกลับมาฝากนะ หรือ ต้องไปช้อปของแบรนด์เนมแน่ๆ เลย เพราะเค้าว่าช้อปปิ้งเด็ดมาก โดยเฉพาะแว่นกันแดด น้ำหอม นาฬิกา

จริงๆ "ดูไบ" เป็นแค่ชื่อของเมืองเมืองหนึ่งในประเทศ United Arab Emirates (UAE) หรือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เท่านั้น เพียงแต่เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่งและมีชื่อเสียงเรื่องช้อปปิ้ง คนไทยก็เลยรู้จักมากกว่าเมืองอื่นๆ เช่น อาบูดาบี (Abu Dhabi) หรือ อาเลน (Al Ain)



อาหารบนเครื่อง Etihad - พาสต้าทะเล

เรานั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปประมาณ 6 ชั่วโมง ไม่เร็ว แต่ก็ไม่นานจนเกินไป พอให้ได้งีบนิดนึงเพราะเครื่องออก 9 โมงเช้า เราก็ต้องออกจากบ้านตั้งแต่ 6 โมง ไปถึงที่สนามบินอาบูดาบีประมาณเที่ยง เพราะที่ UAE ช้ากว่ากรุงเทพฯ 3 ชั่วโมง ตั้งใจว่าต้องเป็นสนามบินที่ใหญ่โตอลังการสมกับความเป็นประเทศที่ร่ำรวยด้วยการขายน้ำมันเป็นอาชีพ และต้องเจอเจ้าหน้าที่ศุลการกรหน้าตาดุดันตามชื่อเสียงของชาวอาหรับที่ดูเหมือนจะโหดเหี้ยม แต่ที่ไหนได้สนามบินค่อนข้างกระทัดรัดทีเดียว เจอเจ้าหน้าที่ศุลกากรขอตรวจวีซ่าซึ่งอัธยาศัยดีมากเพราะคนที่ช่วยทำวีซ่าให้เราเกิดลืมส่งเอกสารมารอที่สนามบิน คือปกติถ้าจะมาที่ประเทศนี้ เราสามารถขอวีซ่าโดยให้คนรู้จักที่อยู่ใน UAE เป็นคนยื่นขอและรับรองให้ได้ (เรียกว่าสปอนเซอร์) แต่สปอนเซอร์ต้องส่งสำเนาไปให้เราที่กรุงเทพฯ เพื่อเอามายื่นที่ด่านและต้องส่งวีซ่าตัวจริงมารอไว้เพื่อประกบกัน ปรากฎว่าวีซ่าตัวจริงมาไม่ถึงด้วยความลีม เจ้าหน้าที่ผู้ใจดีก็ไม่ได้ว่าอะขอเบอร์โทรศัพท์จากเราแล้วก็เอาไปโทรติดต่อกับสปอนเซอร์ให้เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเสียค่าโทรศัพท์ทางไกล เสร็จสรรพก็บอกให้เราออกไปเดินเล่นรอแถวๆ ร้านขายของในสนามบินซัก 1 ชั่วโมงถ้ามวีซ่ามาถึงแล้วจะเดินไปเรียกเอง ความประทับใจครั้งแรกไม่รู้ลืมเลยจริงๆ ตอนแรกก็กลัวๆ เหมือนกันว่าจะเอาเราไปรอที่ไหน หน้าตาคุณพี่ก็ออกจะเหี้ยมอยู่สักหน่อยเพราะมีครบทั้งหนวดทั้งเครา

แต่ก็อย่างที่บอกแหละค่ะ สนามบินเล็กกว่าที่คิดเดินอยู่สองรอบก็ทั่วแล้ว เล็กจริงๆ ก็เลยนั่งดูโน่นดูนี่ ซึ่งก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ดูมากเพราะคนไม่เยอะ ก็เลยถ่ายรูปเล่น




Boarding area



ในที่สุดก็ผ่านด่านศุลกากรออกมาได้ เราใช้เวลาอีกกว่าชั่วโมงครึ่งเพื่อนั่งรถไปที่เมือง อาเลน (Al Ain) เลือกที่จะได้ไปในที่ที่คนยังไม่ค่อยรู้จักในฐานนะเมืองท่องเที่ยว อาเลนอยู่เข้ามาทางด้านในแผ่นดินมากกว่าดูไบหรืออาบูดาบีที่อยู่ริมทะเลอาหรับ เป็นเมืองเล็กที่ไม่เล็ก อย่าเพิ่งงง ที่ไม่เล็กหมายถึงขนาดของพื้นที่ แต่ เล็ก ในเชิงของความพลุกพล่านและความโด่งดังในเชิงท่องเที่ยว ให้ความรู้สึกเหมือนต่างจังหวัดที่ชุมชนคนท้องถิ่นจะให้ความเป็นกันเองกับคนแปลกหน้ามากๆ เวลาไปเดินห้างหรือไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นต้องเจอคนรู้จักอย่างน้อย 1 คน ซึ่งจริงๆ ถ้าคนที่ไม่ได้ตั้งใจจะมาช้อปปิ้ง หรือต้องเที่ยวตามเส้นทางทัวร์เป๊ะๆ และพอมีเวลา ก็ขอแนะนำให้แวะมาเมืองนี้ด้วย เป็นความโชคดีของเราที่ได้มีคนรู้จักอยู่ที่นี่ ทั้งสองคนเป็นชาวอังกฤษที่มาทำงานที่อาเลนนานแล้ว ชื่อคุณ Steve กับ คุณ Sherrie เราเลยได้มาพักที่บ้านในแบบของคนท้องถิ่น

บ้าน Steve ใน Al Ain



X5 พาหนะพาเราเที่ยว



พูดถึงบ้าน ทุกพื้นที่ใช้สอยไม่ต้องกระเบียดกระเสียนกันเลยทีเดียว ข้อแรก อาจจะตามไซส์ของคนที่นี่เพราะตัวโตเหลือเกิน และข้อสองก็อาจจะเป็นเพราะฐานะอันร่ำรวยของประเทศ ทุกอย่างใหญ่ไปหมด รถยนตร์ที่วิ่งกันอยู่บนท้องถนนก็มีแต่รุ่นใหญ่ๆ อย่าง X5, Cayenne, หรือพวก 4W ทั้งหลาย รุ่นก็แทบจะไม่ซ้ำกันเลยเพราะราคารถและค่าน้ำมันถูกมากๆ ลิตรละแค่ 10 กว่าบาทเท่านั้นเอง เมื่อเทียบกับค่าครองชีพด้านอื่นๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าแท๊กซี่ (ตอนที่เรามาคือเดือน พ.ค. 2008 ค่าเงินของ UAE 1 เดียแร่ห์ม = 8.83 บาท) แต่คนที่นี่เค้าก็ไม่ได้รู้สึกว่าค่าครองชีพสูงอะไรมากมาย เพราะขนาดป้ายรถเมล์ยังติดแอร์เลยอ่ะ บ้านทุกหลังก็ติดแอร์และเปิดแอร์ทั้งวันกันเป็นเรื่องปกติ ทั้งๆ ที่บ้านใหญ่และเพดานสูงมากๆ แต่ถ้าไม่เปิดก็ไม่ไหวแน่ เพราะอุณหภูมิประมาณ 42 องศาเซลเซียสและแดดแรงสุดๆ


ป้ายรถเมล์ติดแอร์ ด้านหลังจะเป็น Burj Al Arab โรงแรม 7 ดาวอันเลื่องชื่อ


เราตัดสินใจจะเข้าไปเที่ยวที่ดูไบกันก่อนในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันศุกร์ วันหยุดราชการของคนเอมิเรตส์ คุณพ่อบ้านแม่บ้านใจดี (Steve & Sherrie) ขับรถพาไปชมเมืองดูไบ เลียบชายหาดเพื่อดูตึก Burj Al Arab อันโด่งดังก่อน Burj เป็นโรงแรม 7 ดาว ที่มีสนามเทนนิสอยู่ชั้นเกือบๆ บนสุด สูงเสียดฟ้าเหมือนตีกันอยู่กลางอากาศ ตั้งใจว่าจะไปทำดัดจริตนั่งจิบน้ำชายามบ่ายกันซักหน่อยปรากฎว่าโต๊ะเต็มหมด ก็เลยได้แต่ขับรถรอบๆ ย่าน Jemairah beach และแวะเที่ยวห้างโน้นห้างนี้ไปเรื่อยๆ จะว่าไปแล้วที่เค้าว่าช้อปปิ้งที่นี่ดีอาจจะเป็นเพราะว่าสินค้ามีค่อนข้างหลากหลายมีให้เลือกมากกว่าห้างในประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะพวกแบรนด์เนม แต่ถ้าเทียบราคากันจริงๆ แล้ว อาจจะไม่ต่างกันมากนัก บางอย่างถ้าซื้อที่ Duty free เมืองไทยมีบัตรลดก็อาจจะราคาพอๆ กัน แต่ถ้าเป็นของทั่วๆ ไปที่น่าตื่นตาตื่นใจก็คงเป็นเพราะมีห้างของอังกฤษเข้ามาหลายยี่ห้อทั้งแบบแพงและแบบกลางๆ พื้นที่ของห้างก็ใหญ่เดินกันจุใจทีเดียว เงินนี่สามารถเนรมิตได้ทุกอย่างจริงๆ จะมีใครคิดบ้างว่าประเทศที่เมื่อก่อน แม้กระทั่งอาหารและน้ำก็ยังหายากหาเย็น ผู้คนต้องอยู่กันกลางทะเลทราย แต่เดี๋ยวนี้หลังจากที่เจอบ่อน้ำมันแล้ว ไม่เพียงแต่ห้างใหญ่กลางทะเลทรายที่รวมทุกอย่างเท่าที่จะหามาได้จากทุกทิศทั่วโลก ที่นี่ ร้อน แห้งแล้งขนาดไหนหิมะก็ตกได้

ย่าน Jemirah Beach








Madinat ห้างเก๋ๆ กับของเก๋ๆ









ห้างหรู Emirates Mall
2 ห้างนี้จะต่างกันอย่างสิ้นเชิง The Madinat จะออกแนวบูติคมีสไตล์ ไม่เน้นของยี่ห้อ ออกแนวอาร์ตๆ หน่อย ส่วน Mall of the Emirates ก็แนวไฮโซไปเลย ใน Mall มีห้างดังของอังกฤษอยู่ 2 ห้าง และ fashion brand จากทุกมุมโลก





หิมะตกกลางทะเลทราย






 

Create Date : 18 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 27 มิถุนายน 2552 10:43:12 น.   
Counter : 4007 Pageviews.  

Egypt



Finally, we're here. One of the World's Greatest Wonders - - The Pyramid.

This is the first pyramid ever built, Step Pyramid.





come to greet Ramses King




and the Sphinx



then experience the Greatest Pyramid in Giza.



The museum in Cairo. Too bad, photographs're not allowed. There, we got to meet the mummies.



Karnak Temple







Luxor Temple

















This is where they demonstrated how to make paper out of "PAPYRUS", u know, the pulp.



Cairo traffic at dawn


The Market in Cairo.




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2549   
Last Update : 20 ตุลาคม 2549 13:10:49 น.   
Counter : 386 Pageviews.  

Hanoi & Halong Bay - - World Heritage


visit Vietnam, got to try PHO (เฝอ), their local noodles



look at their seasoning, they use ส้มจี๊ด for the sour taste. everything is fresh.





This is where we stayed in HALONG BAY. It's a new hotel (in 2005).



ready to take off





farmer's cap











it's the boat we're on. just realised that it's 2 stars



HALONG BAY
It's what they say, "Vietnamese' Guilin"







their way of life





similar to our floating market





where they sell fresh seafood



look at the food they served on a "2 star" boat. not bad at all, wasn't it?

and this is for 2 people only.



another angle of the boat


it's a half day trip which was good enough. The whole day or an over night trip would be too long. Nothing much to see, really.



On the way from Halong to Hanoi, we stopped by a handycraft centre, all made by handicapped people.



the market in HANOI



ทะเลสาปคืนดาบ The Legendary Tortoise




Interesting local vietnamese food. They served the rice noodles with melted shrimp paste and fresh local vegetables. The main dish was fish fried in tumeric oil. Yummy and Healthy!!





The name of the restuarant.



Another "Must See" attraction, water puppet show.



This is the hotel in Hanoi. It was previously some prince's residence. Unique!








 

Create Date : 15 ตุลาคม 2549   
Last Update : 20 ตุลาคม 2549 13:14:39 น.   
Counter : 466 Pageviews.  

Myanmar : World Heritage


NOVEMBER 2005

เจดีย์ชเวดากอง



พระสี่พี่น้องจ่ะ





อาหารพม่านะเนี่ย






พระราชวัง



ตลาด


มุมเดิ้นๆ เค้าก็มีนะ







ศาสนาพุทธที่พม่ากับไทยเหมือนกันนะคะ (นิกายเดียวกัน)
คนพม่าใสซื่อ อัธยาศัยดีนะคะ แก้มผ่อง (ทา "ทานาคา") ยิ้มทั้งวันเลย
ตอนก่อนไป ยังกลัวว่าประเทศปิดแบบนี้ผู้คนจะแร้นแค้นรึปล่าวน๊า แล้วจะชอบเอาเปรียบนักท่องเที่ยวรึปล่าว ปรากฎว่าตรงกันข้าม ออกไปในทางสุภาพ มากกว่า





นี่คือ War Memorial ระหว่างทางไป หงสาวดี
ใครจะโชคดีเหมือนคนไทย ไม่ต้องผ่านประสบการณ์เลวร้ายจากสงคราม



เณรน้อย ข้ามถนน












เจดีย์ชเวดากอง สวยสมคำร่ำลือจริงๆ ทองอร่ามมากๆ เหมือนมีคนมาคอยเช็ดถูให้งามอร่ามตาอยู่ตลอดเวลา เข้าวัดทุกครั้งก็ต้องถอดรองเท้า แต่เชื่อไม๊ว่าเท้าไม่สกปรกเลย

ที่ตลาด เหมือนเมืองไทยเลยมะ?


นี่คือไม้ทานาคา ที่สาวพม่าเค้าเอาไว้ทาแก้สิว (ที่เค้าว่ากันไง ผู้หญิงสวยต้อง "ผิวพม่า นัยตาแขก" สาวพม่าสวยด้วย ทานาคา นี่แหละ







มาดูพระนอนกันดีกว่า งามมากๆ ค่ะ






ดูความงดงามและความสมบูรณ์ของการตกแต่งสิคะ ราวกับว่าเพิ่งทำเสร็จเมื่อวาน







ดูสิ อาหารไทย ที่ หงสาวดี หน้าตาเหมือนอาหารไทยบ้านเราเด๊ะ


คนพม่า นึกๆ ไปก็เหมือนคนญี่ปุ่นเลย ที่ยังใส่ชุดพื้นบ้านเดินกันตามท้องถนนเป็นเรื่องธรรมดา ผู้ชายก็นุ่งโสร่งนะคะ


สวยไม๊? นี่ก็เจดีย์ชเวดากองนะคะ





สังเกตอะไรไม๊? พระของพม่า สีจะสวยมาก หน้าสวยมาก ขนตายาวเฟื้อยเลย

the other side of this historical destination - - war memorial









Thai restaurant @ หงสาวดี (Bago in Myanmar)






 

Create Date : 27 สิงหาคม 2549   
Last Update : 20 ตุลาคม 2549 14:01:11 น.   
Counter : 2167 Pageviews.  

Terra Cotta Worriors & Horses (April 06)


15-18 เม.ย. 2549

เรียนภาษาจีนมาก็นาน ทึ่งที่สุดก็ตรงความพยายาม และความละเอียดอ่อนในหลายๆ ด้านของชาวจีน หนึ่งในสิ่งที่แสดงถึงความละเอียดอ่อนของงานฝีมือเหล่านั้นก็คือการถ่ายทอดลงในรูปปั้นของเหล่าทหาร นักรบและม้าของจักรพรรดิจิ๋นซี



เชื่อกันว่า จีนเป็นชาติแรกที่รู้จักการใช้ "ล้อ" เป็นเครื่องทุ่นแรง ลองคิดดูสิ กี่พันปีมาแล้ว ยังไม่มีวิชา physics เลยนะ








นี่คือตั๋วเข้า สุสาน (ภาษาจีนเรียกว่า ปิ๊ง หมา หย่ง)







วัดถ้ำมังกร




อาม่าก็ยังพาหลานมาเที่ยวนะ

โปรดสังเกต อาม่าคนกลาง กำลังแสดงวิทยายุทธ พ่นน้ำลาย




หลวงจีนวัดเส้นหลินจ่ะ (เสื้อส้มเท่านั้นนะจ๊ะ)

>

เจดีย์ห่านป่าใหญ่


ดอกโบตั๋น



เรากำลังจะเข้าไปดูบ่ออาบน้ำของพระนางหยางกุ้ยเฟย





คนนี้แหละ (รูปปั้นสีขาวนะ ไม่ใช่เสื้อฟ้า) พระนางหยางกุ้ยเฟย โจษขานกันว่างามมากๆ







แวะ ปั๊ม เพื่อเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวนี้เค้าไม่ได้สกปรกเหมือนก่อนแล้วนะ (ดีขึ้นนิดนึง)



all nice memories




 

Create Date : 20 เมษายน 2549   
Last Update : 20 ตุลาคม 2549 20:07:41 น.   
Counter : 1155 Pageviews.  


โกกุลเพิ้ง
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add โกกุลเพิ้ง's blog to your web]