เกาะม้า เกาะเชือก เกาะกระดาน (วันที่สาม)
วันที่ 2 เราออกไปเที่ยวอีก 3 เกาะ (snorkling) เกาะม้า เกาะเชือก เกาะกระดาน ที่เกาะกระดานหอยเม่นเยอะมากๆ มองลงไปเห็นแต่หนามๆ ดำๆ เต็มไปหมด ไม่กล้าขยับตัวเลย แต่ก็ค่อยๆ ลอยๆ ไปจนถึงหาดเพราะหาดทรายละเอียดสวย ตั้งใจจะนอนอาบแดดให้ตัวแดงๆ ซักนิดนึงจุดแรก ไปที่เกาะม้ากันก่อน (ที่จริงแล้วตามเส้นทาง หลังากที่ออกจากเกาะลิบง เราต้องแวะถ้ำมรกตก่อน แต่ถ่ายรูปไม่สะดวกเพราะต้องลงไปตั้งแถวในน้ำเพื่อเกาะกันลอยตัวลอดถ้ำเข้าไป ภายในถ้ำมืดมากมองไม่เห็นอะไรเลย เราต้องคอยส่งเสียงกันเพื่อไม่ให้รู้สึกกลัว แต่จริงๆ ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย เพราะช่วงที่ไปเป็นช่วง high นักท่องเที่ยวเต็มไปหมด)ถึงเกาะม้าแล้ว ทะเลใสสีเขียวอมฟ้า ฝูงปลาสลิดทะเลเยอะเต็มไปหมด และเชื่องมากๆ เลย เข้ามาว่ายใกล้ๆ เรือตลอด และเหมือนหิวตลอดเวลา โยนขนมปัง โยนข้าวลงไปก็ว่ายเข้ามารุมกินกันจนเกลี้ยงเลยกระแสน้ำค่อนข้างแรง คนนำเรือแนะนำว่าให้พยามว่ายตามแนวเชือกไว้ เพราะถ้าเผลอๆ อาจจะลอยไกลออกไปโดยไม่รู้ตัวนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติค่อนข้างเยอะ ที่เกาะนี้ดูสิ ฝูงปลาเข้ามาทักทายข้างๆ เรือเต็มไปหมด นี่ขนาดยังไม่ได้ให้อาหารนะเนี่ยเอาอาหารลงไปล่อมีเรือท่องเที่ยวมาจากรีสอร์ทต่างๆ ทั้งในตรัง เกาะมุก และจากเกาะลันตา กระบี่ ก็มาเที่ยวกันถึงที่นี่ แต่จากตรัง (เกาะลิบง) นั่งเรือออกมาเที่ยวตามเกาะต่างๆ แบบนี้ ระยะทางจะใกล้กว่ากัน คนนำเรือเล่าว่า ที่กระบี่ไม่ค่อยมีสถานที่ท่องเที่ยว ในขณะที่ตรัง ทะเลและเกาะจะสวยกว่าดูฝูงปลากันอีกที
Libong Beach Resort - - Relaxant day
มาถึงเกาะลิบงกันแล้ว ที่พักชื่อ ลิบงบีชรีสอร์ท เจ้าของเป็นคุณครูชื่อพี่อุบล ใจดีมากๆ ทำอาหารก็อร่อย ให้เต็มที่ทุกมื้อเลย แพ็คเกจที่เรามา 4 วัน 3 คืน รวมอาหาร 9 มื้อ มีทัวร์เกาะรอก 1 วัน ทัวร์เกาะม้า เกาะเชือก เกาะกระดาน อีก 1 วันห้องพักเป็นแบบพัดลม แต่อากาศสบายมาก ตอนกลางคืนนอนไม่ต้องเปิดพัดลมยังต้องห่มผ้าเลยสัญญลักษณ์ประจำเกาะลิบงคือปลาพยูนนี่บ้านพัก ด้านหน้าเป็นระเบียง เปิดประตูออกมาก็เป็นทะเล มีมุ้งด้วย เวลานอนเปิดหน้าตารับลมแมลงจะได้ไม่มากวนหน้าตาเกาะลิบงเป็นแบบนี้มีป้ายเตือน บอกทิศทางหนีทีไล่เวลาคลื่นยักษ์มามี dive shop (เจ้าของเป็นคนสิงคโปร์มาเช่าพี่อุบล) สำหรับคนชอบ scubaทานข้าวเคล้าเสียงคลื่น ลมทะเลราคายุติธรรมมากๆ ดูอาหารเย้นในแต่ละวันสิ รสชาดเยี่ยม ของทะเลสดมากๆปูผัดผงกระหรี่ปลาอินทรีย์ทอดราดพริกแกงส้ม (คนใต้เรียกแกงเหลืองว่า แกงส้ม)ปูม้านึ่งจิ่มน้ำจิ้มโอย หิวอีกแล้ว ปลาหมึกชุบแป้งทอดปลาอินทรีย์นึ่งเกี้ยมบ๊วยยำทะเลปลาหมึกกล้วยนึ่งจิ้มน้ำจิ้มปลา (อะไรไม่รู้) ทอดขมิ้น อันนี้เห็นง่ายๆ แต่หมดไม่รู้ตัวเลยกุ้งชุบแป้งทอดกะทิชาวเกาะ เอ๊ย! พี่นุ่น กะ น้องแหนม คู่ฮันนีมูนของเราเนี่ย! เจ้าถิ่นตัวจริงจ้ะ หลับอยู่ อย่าไปยุ่งกะเค้าเชียวนะ
a Day Trip to Koh Rok (วันที่สอง)
วันรุ่งขึ้น เราตื่นกันแต่เช้าเพื่อจะนั่งเรือออกไป snorkling ที่เกาะรอก เกาะรอกอยู่ไกลออกไป อีกประมาณ 2 ชั่วโมง แต่สวยคุ้มเมื่อยเลยเรือเป็นแบบ 40 ที่นั่ง แต่เรานั่งกันไปหลวมๆ แค่ 15 คน คลื่นไม่แรงเท่าไหร่ เพราะเป็นช่วงฟ้าเปิด ทะเลเปิด โชคดีมากๆ เพราะ ทะเลเพิ่งเปิดมาได้แค่วันเดียวเอง ก่อนหน้านี้มีมรสุมถึงแล้วเกาะรอกน้ำใสขนาดนี้ ดูสิจอดเรือให้ดำน้ำกัน หรือจะไปนอนอาบแดดที่ชายหาดก็ได้ ทรายขาวละเอียดเหมือนแป้งเด็กเลยเรือเราลำนี้จ่ะอาหารกลางวันบนเรือ มีน้ำพริกมะม่วงกับปลาอินทรีย์แดดเดียว ผัดผัก ไข่ดาว ปลาผัดขิง แล้วก้อแตงโมได้เวลากลับเกาะลิบงกันแล้ว เสียดายจัง bye bye Koh Rok
เที่ยวเกาะลิบง (วันแรก)
มาตรังเป็นครั้งที่ 3 ที่ 4 แล้วมั๊ง แต่ไม่เคยมีโอกาสเที่ยวเกาะซะที คราวนี้ เลยต้องลองไปดูซะหน่อย ประจวบกับอยากพา "พี่นุ่น" กับ "น้องแหนม" มาเที่ยว (ฮันนีมูน) กันแบบลุยๆ (ก็พี่เค้าบอก ปีนี้ อยากได้อะไรที่ลุยๆ)ทะเลตรังสวยจนลืมหายใจเลย น้ำทะเลใสแจ๋วมาก แค่นั่งมองจากบนเรือก็เห็นปลา เห็นปะการังบนพื้นทรายใต้น้ำแล้ว ยิ่งดำลงไปดูด้านล่าง ยิ่ง ... โห ... ต้องไปดูเอง"ลิบง" เป็นชื่อตำบลของ จังหวัดตรัง สังกัดอำเภอกันตัง เราลงเครื่อง "นก" ที่สนามบินในเมืองตอนเช้าประมาณสิบโมงกว่าๆ ก็นั่งรถไปประมาณ 40 โลก็ถึงหาดยาว แล้วก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าล่องแคนนูกันเลยมาถึงหาดยาวแล้ว มี Reception desk (เพิง) ของ Libong Beach Resort ให้เราพักทานกลางวันกันก่อน เป็นอาหารตามสั่ง อร่อยจนน่าแปลกใจ (ไม่นึกว่าครัวที่ดูมีอุปกรณ์อันน้อยนิดจะสามารถทำอะไรน่าทานและอร่อยได้ขนาดนี้)อาหารทีสั่งคือกระเพราปลาราดข้าวTransfer ของ ลิบงบีชรีสอร์ท (คือเรือหางยาว) adventure แรกของเราคือ ล่องแคนนูผ่านป่าโกงกางเพื่อเข้าไปดูถ้าเขาทวดการล่องแคนนูของเราคือ เค้าจะผูก แคนนูไว้กับเรือหางยาว แล้วเรือหางยาวจะลากเราไปก่อน (ไม่ต้องพาย สบายไป) พอเข้า "ซอย" ไปเพื่อจะไปดูถ้ำคนเรือก็จะปลดเชือกออกแล้วก็ค่อยๆ พายกันไป เรือหางยาวจะคอยอยู่ที่ "ปากซอย"ถึงปากซอยแล้ว ต่างคนต่างพาย (แคนนูลำนึงนั่งได้ 4 คน ผู้โดยสาร 3 + คนพายเรือ 1 (เป็นไกด์ไปในตัว เพราะคอยเล่าอะไรต่อมิอะไรให้เราฟัง)เริ่มพายเข้าซอยไปเรื่อยๆ (ออกกำลัง ไตรเส็ปทส์)ถึงแล้วถ้ำ เขาทวด"บัง" (ไกด์ - คนใต้เค้าเรียก บัง แทนคำว่า พี่) เล่าว่า ถ้ำนี้มีพระธุดงค์มานั่งสมาธิ บางครั้งไม่เห็นท่านฉันอะไรเลยก็อยู่ได้ปีนขึ้นไปไม่ไหวก็เลยเดินเล่นอยู่แถวปากถ้ำ มีปูตัวเล็กๆ สีจี้ดจ้าดมาก จริงๆ ตัวเล็กแค่ปลานิ้วก้อยเอง เลยซูมมาได้แค่เนี๊ยะเดินทางกันต่อไปที่อีก "ซอย" (จริงๆ ที่ถูกต้องคงจะเรียกว่า "คุ้งน้ำ" ละมั๊ง?) คราวนี้ไปลอดใต้ถ้ำ ตื่นเต้นจริงๆ เราต้องเอนตัวลงนอนไปกับท้องเรือเพราะเพดานถ้ำเตี้ยมากๆ คนที่นั่งหน้าสุดต้องสวมไฟฉายไว้ที่หน้าผากด้วยลอดผ่านใต้ถ้ำออกมา หันหลังกลับไปดู สวยจนหายเหนื่อยเลยแคนนูกันเสร็จแล้วก็ได้เวลาเข้าที่พักซะทีเรานั่งหางยาวกันไปอีกประมาณ 40 กว่านาทีก็ถึงแล้ว