Happiness depends upon ourselves.....
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
8 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
ตามหาแดจังกึม โสมชั้นดี และกิมจิรสเยี่ยม ที่ เกาหลีใต้ ตอนที่ 2

21-24/10/2006

วันนี้ตื่นมาตามกฎ 6-7-8 คือ ตื่น 6 โมงเช้า กินข้าว 7 โมง และพร้อมออกเดินทาง 8 โมงเช้า พวกเราก็มายืนรอพร้อมไปเที่ยวกันที่ด้านหน้าของโรงแรม ซึ่งรถบัสก็ได้มาจอดรอพวกเราอยู่แล้ว วันนี้กรุงโซลต้อนรับพวกเราด้วยอากาศที่หนาวเป็นพิเศษ.......

จุดหมายแรกของวันนี้ เราจะไปไหว้พระกันที่ วัดโชเกชา วัดนี้เป็นวัดของพุทธศาสนานิกายโชเก ทางไกด์บอกว่าวัดนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก พวกเราเลยเตรียมคิดคำอธิฐานกันไว้เพียบตั้งแต่บนรถ

ด้านหน้าตรงประตูทางเข้าวัด



เข้ามาถึงด้านใน เข้าไปไหว้พระกันก่อนค่ะ วิธีการไหว้พระคือจุดธูป 1 ดอก แล้วอธิฐานขอพร พอขอเสร็จ ก็ให้ปักธูปที่กระถางแล้วเดินวนรอบๆ เจดีย์ 3 รอบ โดยหยุดไหว้เจดีย์ให้ครบทั้ง 4 ทิศ เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ เจดีย์คืออันที่สูงๆ ขาวๆ นี่แหล่ะค่ะ



เดินไปดูตรงศาลาหลังใหญ่กลางวัด ก็จะได้เจอกับคนที่นี่เค้ากำลังสวดมนต์กันอยู่เลยค่ะ ดูเค้ามีสมาธิและก็เลื่อมใสในพระพุทธศาสนามากๆ เลยนะคะ



รอบๆ ศาลาตรงบานประตูหน้าต่าง ก็จะแกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ สวยดีค่ะ บางบานแกะเป็นภาพพระพุทธประวัติด้วยนะคะ แต่ขอเอาต้นไผ่ ไม้มงคลมาฝากละกันค่ะ



ออกจากวัดโชเกชา ที่ต่อไปที่เราจะไปเที่ยวกัน เป็นจุดยอดนิยมอีกจุดหนึ่งของการมาเที่ยวที่โซล นั่นก็คือ บริเวณใกล้ๆ กับ ทำเนียบประธานาธิบดี หรือ ที่ชาวเกาหลีเค้าเรียกกันว่า Blue House ค่ะ ซึ่งเป็นที่พักของท่านประธานาธิบดีของเกาหลีเค้า แต่บริเวณทำเนียบเค้าห้ามจอดรถ ให้แค่ขับผ่านแถมยังห้ามถ่ายรูปอีกด้วย เราเลยไปแวะกันที่ตรงอนุสาวรีย์นก Phoenix แทนค่ะ

ตรงอนุสาวรีย์นก Phoenix ก็สวยดีค่ะ จะมีน้ำพุที่มีนก phoenix อยู่ด้านบน ที่เค้าใช้นก phoenix ก็เพราะว่านกชนิดนี้เค้าเป็นอมตะค่ะ ส่วนรอบๆ จะเป็นรูปปั้น พ่อ แม่ ลูก อยู่รอบๆ แสดงให้เห็นว่าคนเกาหลีเค้าให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัวค่ะ นอกจากนี้ตรงบริเวณนี้ถือเป็นจุดที่ฮวงจุ้ยดีมากๆ เพราะภูเขาด้านหลังเค้าถือว่าเป็นภูเขามังกรค่ะ ถ้าดูดีๆ จากรูปจะเห็นหินกลมๆ 2 ก้อนบนเขานั้น เค้าบอกว่านั่นเป็นตาของมังกรค่ะ



พวกเราแวะถ่ายรูปกันตรงนี้ ก็ได้หันไปเห็นชายหนุ่มหลายคนแต่งตัวแปลกๆ ถามไปถามมาได้ความว่าหนุ่มหล่อเหล่านี้ เค้าเป็นตำรวจค่ะ เค้าจะคอยกันไม่ให้คนที่มาถ่ายรูปเดินลงไปบนถนนเกินเส้นขาวที่เค้ากำหนด เคล็ดลับนะคะ ใครอยากใกล้ชิดกับหนุ่มๆ เหล่านี้ ให้ลองเอาเท้าเหยียบเกินเส้นขาวออกไป แค่นิดเดียว เค้าก็จะเป่านกหวีด ปี๊ดๆๆๆๆ แล้วก็รีบบึ่ง Roller blade มาหาในทันทีเลยค่ะ อันนี้ขอยืนยัน เพราะได้ลองแล้ว อิอิ



ออกจากตรงน้ำพุ พวกเราก็ไปเที่ยวกันต่อ ที่ Korean Folk Museum หรือ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเกาหลีกันค่ะ ตรงหน้าทางเข้า พวกเราก็เจอนักท่องเที่ยวเกาหลีตัวน้อยกำลังมาทัศนศึกษากันด้วย ครูเค้าจะให้เดินจูงมือกันเป็นคู่ๆ น่ารักมากๆ แต่ละคนแก้มใสเชียวค่ะ



เห็นเด็กเกาหลีเค้ามีระเบียบน่ารักซะขนาดนั้น คณะของพวกเราก็เลยเอาเป็นตัวอย่าง เดินกันไปเป็นคู่ๆ เหมือนกัน แต่ความน่ารักคงไม่เท่า เพราะคณะเรามีตั้งแต่คนอายุ 7 ขวบ ไปจนถึง 60 กว่าก็ยังมี

เดินผ่านเข้ามาจากประตูซักหน่อย ก็จะพบกับของสำคัญ 3 อย่างนี้ ซึ่งเค้าบอกว่าถ้ามาเที่ยวที่เกาหลีจะต้องพบแน่ๆ ไม่ว่าจากที่ใดก็ที่นึง นั่นก็คือ รูปปั้นคุณตา เสาไม้หน้าคน และกองหิน พอดีไม่ค่อยได้ฟังคุณไกด์เพราะมัวแต่วุ่นวายงัดอุปกรณ์กันหนาวมาประดับกายอยู่ เลยจับใจความได้แค่ว่า กองหินเนี่ย คนเกาหลีเค้านิยมเอาหินมาวางซ้อนๆ กันเวลาจะอธิฐานขอพรจากสิ่งต่างๆ หน่ะค่ะ ส่วนรูปปั้นคุณตาเนี่ย เค้าบอกว่าจะพบมากที่เกาะเชจู ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาหลี รูปปั้นนี้คนเค้านิยมมาขอลูกกันค่ะ ถ้าอยากได้ลูกชายให้ลูบที่จมูกของรูปปั้น แต่ถ้าอยากได้ลูกสาว ก็ให้ลูบที่บริเวณหน้าอก มิน่า รูปปั้นเหล่านี้ มักจะจมูกไม่ค่อยโด่งและอกแบนกันแทบทั้งนั้น สงสัยจะโดนคนมาลูบขอลูกเยอะไปหน่อย



แล้วเราก็เข้ามาสู่ด้านในของพิพิธภัณฑ์กันค่ะ ที่นี่จะดีอย่างคือ เค้าไม่ได้แค่เอาสิ่งของ ถ้วยชาม หรือ อาวุธต่างๆ มาวางไว้แล้วติดป้ายให้อ่าน แต่เค้าจะจำลองเหตุการณ์รูปแบบต่างๆ หรือ จำลองวิธีการทำสิ่งของนั้นๆ ทำให้พวกเราเห็นภาพได้ง่ายขึ้น ส่วนตัวคิดว่ามันทำให้สนุกและน่าสนใจมากขึ้นด้วยค่ะ

อันนี้เป็นแบบจำลองลักษณะเมืองและรูปแบบของกองทัพในสมัยก่อนค่ะ



อันนี้แน่นอนขาดไม่ได้ เป็นวิธีการทำกิมจิค่ะ ในรูปเนี่ยคุณผู้ชายเค้ากำลังขุดดินเตรียมฝังไหกิมจิอยู่ค่ะ



อันนี้เป็นการตั้งสำรับอาหารแบบเต็มที่ โอ.... เห็นแล้วน้ำลายไหล น่ากินทั้งนั้นเลย



อิ่มจากของคาวแล้ว มาต่อกันด้วยวของหวานแบบต่างๆ กันค่ะ หน้าตาดีเนอะ



พอออกจากพิพิธภัณฑ์ ก็มาผจญกับลมแรงๆ ที่หอบเอาอากาศหนาวๆ มาด้วย ทำเอาคนเมืองร้อนอย่างพวกเราปากสั่นไปเหมือนกัน เหมือนกัน เราก็เคลื่อนขบวนไปยัง พระราชวังเคียงบก ซึ่งอยู่รั้วติดๆกันเลยกับพิพิธภัณฑ์ค่ะ

พระราชวังเคียงบก นี้เป็นวังหลวงที่สำคัญที่สุดของเกาหลี อารมณ์คงเป็นประมาณพระบรมมหาราชวังบ้านเราหน่ะค่ะ วังนี้สร้างมาได้ 600 กว่าปีแล้วค่ะ ด้านในก็จะมีพระที่นั่งต่างๆมากมายเลย

ตรงนี้ถ่ายตรงระหว่างทาง ที่พวกเราเดินมาจากพิพิธภัณฑ์ค่ะ



ซุ้มประตูงามๆ แบบเกาหลีค่ะ



พระที่นั่งสวยๆ ภายในพระราชวังเคียงบก



ตรงหลังคาของแต่ละพระที่นั่ง เราจะสังเกตเห็นรูปปั้นเล็กๆ หลายตัว มันเป็นรูปปั้นของลิงค่ะ เค้าบอกว่าลิงเหล่านี้จะทำหน้าที่คุ้มครองพระที่นั่งเหล่านี้ค่ะ



เดินมาเรื่อยๆ คณะเราโชคดีมากค่ะ มาพอดีกับช่วงที่เค้ามีการแสดงพอดี จะเป็นตอนที่จักรพรรดิจะออกไปเดินตรวจวังค่ะ และจะมีเหล่าทหารคอยอารักขาเต็มไปหมด อลังการดี



ไกด์พาพวกเราเดินจนทั่ววัง แล้วก็มาจบที่พระที่นั่งองค์ใหญ่ที่สุด ซึ่งด้านในจะมีบัลลังก์ไม้ของจักรพรรดิสีแดงใหญ่มากๆ และเพดานจะเป็นรูปแกะสลักรูปมังกร สวยดี เราก็เลยขอเก็บรูปหมู่กันซะหน่อย ตรงด้านหน้าพระที่นั่งองค์นี้แหล่ะค่ะ



เป็นอันเสร็จพิธีเที่ยววัง แต่ทริปเกาหลีเรายังไม่จบนะคะ ยังมีต่ออีกหนึ่ง ภาค รอชมต่อไปนะคะ

ตอนนี้ บ๊ายบาย ก่อนค่ะ




Create Date : 08 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2549 11:00:36 น. 2 comments
Counter : 1486 Pageviews.

 
อันนี้น่าสนใจ ตำรวจเกาหลีแต่งตัวชุดแนบเนื้อ หวิวมากเลย อิ ๆ


โดย: iowatrumpet IP: 61.47.123.114 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:20:20 น.  

 
ขอตามมาเที่ยวด้วยนะคะ
ประสาคนไม่เคยไปเกาหลีค่ะ


โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 9 พฤศจิกายน 2549 เวลา:2:16:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Snoopy in BKK
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ก็แค่อยากจะเล่าสู่กันฟัง ....
Friends' blogs
[Add Snoopy in BKK's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.