Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2559
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
7 ธันวาคม 2559
 
All Blogs
 
เวียดนามนำไทยทุกด้านในการสอบวัดระดับ PISA

.
.

==================================

ที่มา ..
//www.bbc.com/thai/thailand-38223294?SThisFB

==================================

การประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment) หรือ PISA ซึ่งริเริ่มโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือโออีซีดี เน้นประเมินสมรรถนะของนักเรียนอายุ 15 ปี เกี่ยวกับการใช้ความรู้และทักษะในชีวิตจริง ปัจจุบันมีประเทศจากทั่วโลกเข้าร่วมโครงการมากกว่า 70 ประเทศ โดยไทยเข้าร่วมโครงการวิจัยนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 การประเมินมีขึ้นทุก ๆ สามปี

สำหรับการประเมินผลในโครงการ PISA 2558 พบว่าไทยยังตามหลังเวียดนามในทุกด้าน และทำคะแนนได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโออีซีดี

โดย
การรู้เรื่องวิทยาศาสตร์

เวียดนามอยู่ในอันดับ 8 จาก 70 ประเทศ เวียดนามได้คะแนน 525 คะแนน
ไทยอันดับ 54 จาก 70 ได้ 421 คะแนน
ขณะที่สิงคโปร์เป็นอันดับ 1 ได้คะแนน 556 คะแนน
สาธารณรัฐโดมินิกัน อันดับที่ 70 ได้คะแนน 332 คะแนน

การรู้เรื่องคณิตศาสตร์

เวียดนามอยู่ในอันดับ 22 จาก 70 ประเทศ
ไทย 54 จาก 70 ประเทศ
สิงคโปร์อยู่ในอันดับ 1
สาธารณรัฐโดมินิกัน อันดับที่ 70

การรู้เรื่องการอ่าน

เวียดนามอันดับที่ 32 จาก 70 ประเทศ
ไทยอันดับที่ 57 จาก 70
สิงคโปร์ อันดับ 1
และเลบานอน อันดับที่ 70

ข้อมูลที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ PISA Thailand ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) อ้างอิงข้อมูลจากธนาคารโลกว่า ความแตกต่างทางวัฒนธรรมและการลงทุนทางการศึกษา เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เวียดนามประสบความสำเร็จ

โดยความขยันของนักเรียน การทำงานหนักของครู และบทบาทสำคัญของพ่อแม่ที่มีต่อการศึกษาของลูก ล้วนเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จ

ครูเวียดนามต้องทำงานภายใต้สิ่งแวดล้อมทางระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด ทำงานหนัก รับผิดชอบงานสอนเป็นสำคัญ และได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากครูใหญ่และองค์กรอื่น ผลรวมของความขยันของนักเรียนและครูจึงลงตัว

นักเรียนเวียดนามนั้นมีความขยันเรียน ทุ่มเทกับการเรียนอย่างจริงจัง และเห็นว่าความสำเร็จทางการศึกษาของแต่ละคนคือสิ่งสำคัญมากในชีวิต เด็กเวียดนามเรียนหนังสือหนักมากภายใต้วัฒนธรรมที่มีความขยัน โดยนักเรียนเวียดนามมีวินัยสูงกว่านักเรียนไทย

ข้อมูลในเว็บไซต์ของ สสวท.ระบุด้วยว่าพ่อแม่เวียดนามนั้น แม้จะมีการศึกษาไม่สูงมากนัก แต่กลับมีความคาดหวังสูงในด้านการศึกษาของลูกหลาน และมีส่วนร่วมในชีวิตทางการศึกษา ติดตามผลการเรียนอย่างใกล้ชิด ร่วมมือกับครู และมีส่วนช่วยงานของโรงเรียน เช่น ช่วยในการระดมทุนเพื่อให้โรงเรียนจัดหาทรัพยากรการเรียนให้โรงเรียน เป็นต้น

รายงานยังระบุด้วยว่า แม้เวียดนามจะมีเศรษฐกิจด้อยกว่าประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ต่ำอื่น ๆ แต่เวียดนามมีการลงทุนทางการศึกษาในอัตราส่วนที่สูงมากเมื่อเทียบกับค่าจีดีพี แม้ว่าเม็ดเงินจะไม่สูงมาก แต่การศึกษาของเวียดนามก็ประสบความสำเร็จสูงกว่า

ในส่วนของไทยนั้น รายงานผลการประเมิน PISA เมื่อปี 2555 ของ สสวท. บทสรุปสำหรับผู้บริหาร ระบุว่า การศึกษาของไทยมีบางส่วนที่ถือได้ว่าประสบความสำเร็จ นั่นคือ ระบบโรงเรียนในกรุงเทพฯ มีการกระจายของคะแนน PISA เกือบจะไม่ต่างจากนักเรียนในสหรัฐ ฯ ขณะที่นักเรียนที่อื่น ๆ นอกกรุงเทพฯ ยังมีผลสัมฤทธิ์ต่ำกว่ามาก

ดังนั้นถ้าระบบโรงเรียนไทยสามารถจัดการศึกษาให้มีคุณภาพทั่วถึงทั้งประเทศ คุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียนก็จะสามารถยกระดับสูงขึ้นได้

รายงานระบุด้วยว่า ในระบบโรงเรียนของไทย เมื่อพบว่าคุณภาพการศึกษาไม่เป็นไปตามที่หวังก็มักจะพุ่งเป้าไปที่การเปลี่ยนแปลงหลักสูตร โดยเน้นเปลี่ยนแปลงเนื้อหาสาระ และเปลี่ยนหนังสือเรียน โดยองค์ประกอบอื่น ๆ ยังคงเดิม ทั้งยังเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน มิใช่ค่อยเป็นค่อยไป

ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าจากการทดสอบ PISA 2546 และ 2549 ซึ่งเป็นช่วงหลังการปฏิรูปการศึกษาคะแนนตกลงอย่างน่าตกใจ และมีแนวโน้มตกลงอย่างต่อเนื่อง และเริ่มคงที่ หรือเริ่มกระเตื้องขึ้นในอีกสามปีต่อมา (PISA 2552) และแนวโน้มเริ่มดีขึ้นชัดเจนใน ค.ศ. 2555 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าต้องใช้เวลามากกว่าสิบปี ระบบจึงสามารถปรับตัวเข้าสู่เส้นทางปกติได้

=======================================


หมายเหตุ


สงครามกลางเมืองเวียดนามสิ้นสุดลงเมื่อ พศ.2518 ก่อนเหตุการณ์ล้อมฆ่านักศึกษาในธรรมศาสตร์ปีเดียว ..

เป็นสงครามการต่อสู้ทางลัทธิการปกครองคือ คอมมิวนิสต์เวียดนามเหนือภายใต้อิทธิพลสหภาพโซเวียต กับ เสรีนิยมเวียดนามใต้ภายใต้อิทธิพลของสหรัฐอเมริกา

ผลลัพธ์คือ กองทัพเวียดกงภายใต้การสนับสนุนของเวียดนามเหนือรบชนะยึดเวียดนามใต้ได้ และรวมเป็นสาธารณะรัฐสังคมนิยมเวียดนามตั้งแต่นั้นมา ..

การปกครองระบบนี้นั้น อยู่ภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเพียงพรรคเดียวที่มี คณะกรรมการประจำกรมการเมือง 19 คน (หรือโปลิตบูโร) เป็นกลุ่มชี้นำทิศทางของประเทศ

หลังการโค่นล้มระบบชนชั้นแบบเดิมไปจนหมดสิ้น นับ 1 กันใหม่เมื่อปี พศ.2518 .. เพียงชั่วอายุคนเดียว 41 ปีต่อมา เมื่อระบบเข้าที่ - เริ่มแสดงผลจากการทำงานทางความคิดของกลุ่มผู้ปกครองเหนือกว่ากลุ่มผู้ปกครองไทย ..

เทียบกับสิงคโปร์ ก็จะคอยแก้ตัวว่า ประเทศเล็ก คนน้อย จัดการง่าย
มาดูจำนวนพลเมืองของไทยกับเวียดนามกัน


จาก .. วิกิพีเดีย


รวมทั้งประชาชนไทยที่ยังทะเลาะตบตีกันไม่จบ จากพันธุกรรมเชื่อข่าวลือ ข่าวปล่อย ใช้ความใคร่ครวญด้วยตนเองไม่ได้ ต้องคอยถามความเห็นผู้อื่น หรือแบบถ่ายทอดพันธุกรรมเชื่อ-เชื่อง มาอย่างไม่กลายพันธุ์แม้แต่น้อย

พม่าเองเริ่มนับ 1 ไปแล้วอีกชาติ ..
เรามาดูกันว่าจะแซงไทยได้เมื่อไรอีกประเทศ .. !






ผลงานต่อเนื่องมาจาก Shutdown Bangkok ...
จนถึง Shut Up ! !




Create Date : 07 ธันวาคม 2559
Last Update : 7 ธันวาคม 2559 16:03:53 น. 1 comments
Counter : 1460 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะ

หลาย ๆ ประเด็นน่าสนใจมาก


โดย: t IP: 124.120.207.45 วันที่: 10 ธันวาคม 2559 เวลา:0:51:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.