ไปเดินสวนอาภากรเกียรติวงศ์กันเถอะ
          ชุมพรเป็นจังหวัดที่ได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่ภาคใต้เพราะเป็นจังหวัดแรกของภาคใต้ตอนบนที่ต่อจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ด้วยลักษณะดินแดนทางภาคใต้ที่คอดยาวเหมือนด้ามขวาน  สมัยเล็กๆ ที่ยังต้องนั่งรถขึ้นล่องระหว่างภาคใต้และอีสานเพื่อไปเยี่ยมเยียนญาติทางฝั่งพ่อ  จำได้ว่าเมื่อเดินทางผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มันช่างนานแสนนานเหลือเกิน  จนกระทั่งเห็นป้ายบอกทางว่าเข้าเขตจังหวัดชุมพรนั่นแหละ  จึงจะดีใจว่าถึงภาคใต้เสียที  แปลว่าใกล้จะถึงบ้านเราแล้ว

          คำขวัญประจำจังหวัดชุมพรมีอยู่ว่า  “ประตูภาคใต้ ไหว้เสด็จในกรม  ชมไร่กาแฟ  แลหาดทรายรี  ดีกล้วยเล็บมือ  ขึ้นชื่อรังนก”


            เมื่อก่อนก็แค่ได้ยินผ่านๆ หู ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่  จำได้แค่เมื่อแวะซื้อกล้วยเล็บมือนางลูกเล็กๆ ที่ชุมพร  ขนาดและรสชาติถูกใจ  จึงเป็นกล้วยที่จำชื่อได้แม่น  เมื่อหนุ่มชุมพรพาเพื่อนฝูงญาติพี่น้องไปถึงอุบลราชธานี  เขารู้ว่าเราชอบกล้วยเล็บมือนางก็พยายามขนไปฝากกันหลายครั้งหลายหน  แต่เหมือนมีกรรมบังไม่ค่อยจะได้กินดีเท่าไหร่  เอาไปฝากแล้วเราต้องเดินทางไปที่อื่นบ้าง  กล่องกล้วยปลิวตกจากรถกระแทกพื้นก่อนถึงมือ  ทำให้ช้ำต้องรีบกินก่อนจะเสียบ้าง  เมื่อคราวเดินทางไปหลังสวนได้ไปเดินตลาด  พยายามเมียงมองหา  จะได้ซื้อกล้วยเล็บมือนางไปกิน  ก็ไม่เห็นสักหวี  แต่ถ้าทุเรียนนี่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ด้วยความนิยมชมชอบทุเรียนของชาวต่างชาติ  โดยเฉพาะคนจีน  ทำให้สองข้างทางแถบหลังสวนมีโกดังรับซื้อทุเรียนหรือที่เรียกกันว่าล้งสุดลูกหูลูกตา  มองไปทางไหนก็เห็นสวนทุเรียนเยอะแยะไปหมด  จะหาทุเรียนกินง่ายกว่ากล้วยเล็บมือนางเยอะ


          และแล้วเมื่อได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่จังหวัดชุมพร  คุณหมีขาวพาไปเดินตลาดสดแต่เช้ามืดตามคำขอ  ฉันก็ได้เห็นกล้วยเล็บมือนาง  แม้จะยังไม่แน่ใจแต่ก็เลือกหวีถูกใจซื้อกลับบ้านทันที  จากนั้นกล้วยเล็บมือนางก็มักจะปรากฏตัวอยู่ในถาดผลไม้ของบ้านอยู่เป็นประจำ 

            สิ่งหนึ่งที่พ่อเป็นห่วงเมื่อลูกสาวย้ายมาอยู่ชุมพรคือ  จะไปเดินออกกำลังกายที่ไหน  เพราะว่าตอนอยู่อุบลหากไม่ติดธุระอะไร  ก็จะไปเดินออกกำลังกายที่อุทยานบึงบัวห้วยวังนองทุกเช้า  หายไปแต่เช้ามืดกลับมาตอนสายๆ จ่ายตลาดมาพร้อมเป็นเรื่องปกติ  พ่อถึงขั้นออกปากบอกลูกเขยว่าต้องหาที่ออกกำลังกายให้ด้วยนะ  ฤกษ์งามยามดีคุณหมีขาวก็พาไปเดินออกกำลังกายที่สนามกีฬาประจำจังหวัดชุมพร  อธิบายเสร็จสรรพว่าเดินรอบนอกสนามระยะทางประมาณเท่าไหร่  เดินในลู่วิ่งระยะทางเท่าไหร่  จากนั้นตัวเองก็ขี่จักรยานยนต์กลับบ้านค่อยกลับมารับอีกทีตอนหกโมงครึ่ง  เอ่อ...ไม่คิดจะมาเดินด้วยกันเลยใช่มั้ย


          ฉันเริ่มจากการเดินรอบนอกก่อน  ปรากฏว่าคนชุมพรที่มาออกกำลังกายทั้งวิ่งและเดินมีเยอะมาก  แต่เพราะยังเช้ามืดทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยยามที่ต้องเดินผ่านตึกมืดๆ รอบๆ   จึงย้ายไปเดินบนลู่วิ่งในสนามกีฬา  ข้างในคนหนาแน่นยิ่งกว่าข้างนอกอีก  นี่แปลว่าเขารักสุขภาพกันมากด้วยรึเปล่านะ  ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงวัย รองลงมาเป็นวัยกลางคน  วัยยี่สิบหรือสิบกว่ามีน้อยมาก  คงจะจริงที่ว่าต้องรอให้เกิดปัญหาก่อน  คนเราถึงจะเริ่มรักและดูแลสุขภาพตัวเอง  ไม่ได้ว่าใครนะคะ  เพราะฉันเองก็มาเริ่มเดินออกกำลังกายเมื่อรู้สึกว่าตัวเองชักจะอ่อนแอเกินไปแล้ว


          แม้จะได้รับคำรับรองจากหลายคนว่าเดินในสนามกีฬาน่ะดีแล้ว ลู่วิ่งมันซัพพอร์ตข้อเท้า  แต่ฉันกลับรู้สึกว่าบรรยากาศมันแห้งแล้งไม่ชวนชื่นใจสักเท่าไหร่  คงเป็นเพราะความรักต้นไม้ใบหญ้าของตัวเองนั่นแหละ  เมื่อตอนเดินที่อุทยานบึงบัว  ได้ดูน้ำ  ดูบัว ดูนก  ดูต้นไม้และบ้านเรือนข้างทาง  บรรยากาศมันโปร่งโล่งสบาย  พอมาเดินในสนามกีฬา  มองไปขวาซ้ายก็อัฒจันทร์  เจอแต่เก้าอี้กับราวเหล็กกั้น  ทำให้รู้สึกอึดอัด  แม้จะมีเสียงจิ้งหรีดร้องเสียงใสมาจากสนามหญ้ากลางวงลู่วิ่งบ้างก็ตาม


          เมื่อครั้งยังจำเส้นทางไม่ได้  คนนั่งหน้าเคยชี้ให้ดูประตูทางเข้าตรงหัวมุมโค้งถนน  บอกว่าตรงนี้เป็นสวนสาธารณะ  เผื่อคุณจะมาเดินเล่น  ปรากฏว่าแม้จะมีทางเข้าแยกกัน  แต่ภายในนั้นมีถนนเชื่อมต่อกับสนามกีฬา  สามารถเดินทะลุถึงกันได้  บ่ายวันหนึ่งฉันมาลองสำรวจเส้นทางและพบว่าภายในนั้นมีแหล่งน้ำและทางเดินคดเคี้ยวเหมาะแก่การมาเดินเล่น  และมีคนเลือกมาเดินออกกำลังกายกันที่นี่ไม่ใช่น้อย  สวนสาธารณะแห่งนี้มีชื่อว่า “สวนอาภากรเกียรติวงศ์”


          ตอนแรกฉันก็ยังงงๆ ว่า อาภากรเกียรติวงศ์เป็นชื่อของใคร  เพราะว่าในเขตจังหวัดชุมพรนั้น  ไม่ว่าจะไปแห่งหนไหนมักจะได้ยินชื่อของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ทั่วไปหมด  จนรู้สึกว่าท่านช่างเป็นที่กล่าวขวัญถึงเสียเหลือเกิน  ชื่อโรงพยาบาลที่นี่ก็ยังใช้ชื่อว่าโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  แล้วทำไมสวนสาธารณะกลับใช้ชื่อว่าสวนอาภากรซะงั้น  รู้สึกว่าชื่อคุ้นๆ อยู่เหมือนกัน  แต่นึกไม่ออกว่าเป็นใคร


          ใจกลางสวนสาธารณะมีอนุสาวรีย์ตั้งสูงเด่นเป็นสง่าให้เห็นแต่แรกเข้า  ฉันก็ยังไม่เอะใจอะไร  คิดว่าคงเป็นรูปปั้นของเจ้าของชื่อที่เขาเอามาตั้งเป็นสวนสาธารณะนี่แหละ  กระทั่งวันหนึ่งคนใกล้ตัวบอกว่า  กลางสวนสาธารณะมีรูปปั้นกรมหลวงชุมพรด้วยนะ ฉันจึงเริ่มสงสัยว่าทำไมสวนชื่อนึงแล้วเอารูปปั้นอีกคนหนึ่งมาตั้งไว้  สุดท้ายจึงไปค้นข้อมูลและพบว่ากรมหลวงชุมพรที่เราเรียกกันติดปากนั้น ท่านมีพระนามเต็มๆ ว่า “พระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์”

          กว่าจะถึงบางอ้อนะเรา


          เมื่อฉันได้เข้าไปเดินในสวนสาธารณะแห่งนี้  ก็สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นของหมู่ไม้ใหญ่  เมื่อเดินไปเรื่อยๆ ได้พบเจอพันธุ์ไม้นานา  จึงรู้สึกได้ถึงความตั้งใจสร้างสวนแห่งนี้ขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นเสาธงแบบของทหารเรือ  โคมไฟรูปลักษณ์เฉพาะ  หรือหมู่ตึกที่ออกแบบมาให้กลมกลืนในสวน  แม้แต่ห้องน้ำสาธารณะภายใน  ฉันก็เดินผ่านตั้งหลายครั้งกว่าจะรู้ว่านั่นคือห้องน้ำไม่ใช่อาคารทั่วไป  และแอบคิดถึงในหลวงรัชกาลที่เก้าขึ้นมาก็เมื่อเห็นระหัดวิดน้ำในบึงน้ำ  ชาวชุมพรที่นี่รักพระองค์ท่านมาก  ตั้งแต่ที่พระองค์ท่านพระราชทานความช่วยเหลือเมื่อคราวที่ชุมพรต้องประสบวาตภัยร้ายแรงหลายครั้งในอดีต  จนกระทั่งพระมหากรุณาธิคุณที่ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมชุมพรที่ต้องประสบมาทุกปีด้วยโครงการแก้มลิง  จนเดี๋ยวนี้หลายเสียงบอกว่า  ชุมพรไม่เคยโดนน้ำท่วมอีกเลย


          ฉันเดินชมไม้ต้นไม้ดอกอย่างสุขใจ มีทั้งต้นโพ  ต้นไทร ตะแบก  ประดู่ จามจุรี  ไม้ดอกก็ไม่ใช่น้อย เพียงแต่แยกกันอยู่หย่อมโน้นมุมนี้ ทั้งเข็ม ชบา  ต้อยติ่งเทศ พลับพลึง แก้ว เฟื่องฟ้า ชงโค  และต้นโปรดของฉันคือสายหยุดก็ยังมีตั้งสามสี่ต้น  แคนาโรยดอกบนถนนอยู่มากมาย  แปลว่าคนแถวนี้ไม่เก็บกินกัน ทางอีสานเขามัดดอกไปขายในตลาดด้วยนะ  เสียดายที่ถึงแม้จะมีคนงานดูแลสวนจำนวนมาก คอยกวาดและเก็บขยะอยู่ทุกวัน  แต่คงไม่มีคนกำกับดูแลจริงจัง  เพราะดูสภาพต้นไม้ทั้งหลายแล้ว  ถ้าตัดแต่งพุ่มทรงจะสวยงามขึ้นได้อีกเยอะ  ส่วนใหญ่สวยงามตามสภาพเทวดาเลี้ยงเสียมากกว่า  ขนาดต้นแอหนังที่ทนแล้งยังเหี่ยวยกแถวได้เลย ขนาดนั้นเขาก็ยังอุตส่าห์ออกดอกชมพูหวานให้ได้ชม  ถ้าเทศบาลชุมพรหาคนกำกับดูแลสั่งงานมาได้คงจะดี  หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นวันที่สวนสวยได้รับการดูแลอย่างดีสมกับที่ควรจะเป็น


          ตึกด้านข้างเป็นตึกสำหรับให้จุดประทัดแก้บน  ด้านหน้ามีเศษกระดาษแดงๆ ของประทัดกองเกลื่อนกลาด  ยืนยันได้ว่ายังมีคนมาแก้บนด้วยวิธีนี้อยู่  ฉันนึกไปถึงตำนานการเกิดประทัดของจีน  ซึ่งเล่ากันว่าสมัยก่อนหมู่บ้านในชนบทอยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร  เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งยามค่ำคืนจะมีปีศาจลงจากเขามากัดกินทำร้ายสัตว์เลี้ยงและผู้คน  ชาวจีนจึงได้ประดิษฐ์คิดค้นประทัดเพื่อจุดไล่ปีศาจไม่ให้มารุกรานทำร้ายชาวบ้าน  จนกลายเป็นธรรมเนียมว่าเมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญของปี  ต้องมีการจุดประทัดเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายเปิดทางให้สิ่งดีๆ ได้เข้ามา  จากจุดเพื่อขับไล่กลายมาเป็นการจุดบูชาและเป็นการแก้บนไปได้อย่างไรก็ไม่รู้  ฉันไม่ชอบเสียงดังไม่ขาดหูเวลาเขาจุดประทัด  พอจะนึกออกว่าถ้าปีศาจหรือสัตว์ร้ายที่ลงจากเขามาได้ยินเสียงดังลั่น  ก็ควรจะตกใจหนีไปตามความตั้งใจของคนสร้างประทัดได้จริงๆ  จุดประทัดในห้องที่จัดไว้เฉพาะคงลดเสียงรบกวนได้ในระดับหนึ่ง  เหลือบไปมองด้านข้าง  เห็นมีป้ายกำกับไว้ว่า ห้ามยิงปืนแก้บน  แสดงว่าเคยนิยมยิงปืนแก้บนกันมาก่อน  ดีแล้วที่ห้ามปรามกันไป  เพราะอันตรายที่จะเกิดมันไม่คุ้มเลยดังที่เราเห็นเป็นข่าว



          ฉันเดินไปบนถนนรอบอนุสาวรีย์  นอกจากถนนแล้วยังมีคูน้ำคั่นก่อนจะถึง  ในคูน้ำมีน้ำพุพ่นน้ำอยู่เป็นระยะ  ใครจะเข้าไปกราบไหว้อนุสาวรีย์ต้องเดินบนสะพานสีขาวข้ามคูน้ำไปอีกที  มีป้ายปักไว้ว่าห้ามปล่อยสัตว์น้ำลงไป  และข้างๆ ป้ายก็มีนกกินปลาตัวหนึ่งยืนจ้องไปในคูน้ำอย่างตั้งใจ  ขนาดฉันเดินผ่านมันยังไม่สนใจหันมามองสักนิด  แปลว่าน่าจะมีปลาอยู่ในนั้น  ไม่รู้ว่าเป็นปลาตามธรรมชาติหรือใครแอบมาปล่อยไว้


          ในสวนสาธารณะมีสัตว์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก  อาจจะมาอาศัยร่มเงา  หากิน หรืออาศัยอยู่  ฝูงไก่ป่า ไก่บ้าน  จับกลุ่มคุ้ยเขี่ยหากินอยู่ข้างทาง  กระรอกกระโจนจากกิ่งไม้เบื้องบนอยู่ไหวๆ  นกพิราบ นกเอี้ยง นกเขา นกกระจอก นี่ไม่ต้องห่วงมีค่อนข้างเยอะ  นอกจากนั้นก็ยังได้ยินเสียงนกดุเหว่าร้องจากบนปลายไม้  นกแซงแซวเกาะอยู่บนเสาไฟ  นกกางเขนบินโฉบหากิน  มีนกแปลกๆ ร้องเสียงแปลกๆ มาคุ้ยเขี่ยหากินอยู่อีกฟากของสวนด้วย  นานๆ ทีก็เห็นนกตัวโตเหมือนนกปากห่างบินตัดท้องฟ้าด้านบน  คนที่ชอบดูนกเพลินๆ น่าจะชอบใจ


          ด้านหน้าจากประตูทางเข้า  จะมีถนนสายยาวเลียบริมกำแพงอยู่นอกเสากั้น  เป็นลานสำหรับพอให้รถยนต์ได้มาจอด  แต่ที่มาใช้บริการอยู่เป็นประจำคือรถตู้รับส่งนักเรียนซึ่งเมื่อรับนักเรียนมาส่งในตอนเช้าแล้วก็จอดรอรับกลับในตอนเย็นอยู่ในบริเวณสวนอาภากรนี่เลย  จะได้ไม่ต้องเทียวไปมาหลายรอบ  เราเคยคุยกันเล่นๆ ว่า  ระหว่างที่คนขับรอเวลารับนักเรียนอยู่จะหาอาชีพเสริมอะไรให้เขาทำดี


          สวนอาภากรเกียรติวงศ์มีผู้คนอยู่ตลอดแต่ไม่พลุกพล่าน  เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ  ใครมาเที่ยวเมืองชุมพรแล้วลองหาโอกาสมาแวะชมบ้างนะคะ


 
เพรางาย  มณีโชติ
๕ มีนาคม ๒๕๖๓ พฤหัสบดี
         
 
 



Create Date : 05 มีนาคม 2563
Last Update : 5 มีนาคม 2563 13:19:58 น.
Counter : 2229 Pageviews.

16 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณnewyorknurse, คุณผีเสื้อยิปซี, คุณKavanich96, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณmariabamboo, คุณกะว่าก๋า, คุณkae+aoe, คุณตะลีกีปัส

  
เข้าไปในยูทุปแล้วจ้า
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 5 มีนาคม 2563 เวลา:19:38:44 น.
  
มาจองที่ก่อนนะคะ
ไว้กลับมาอ่านค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปชมดอกๆม้
และให้กำลังใจ
ช่วงนี้อ่านเยอะๆลำบาก
ไว้มาอ่านตอนกลางวันค่ะ

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 5 มีนาคม 2563 เวลา:20:10:35 น.
  
ขอบคุณครับ
มาเดินชมสวนด้วยครับ
ชุมพรได้แต่ผ่านไปผ่านมา ยังไม่ได้แวะเที่ยวจริงจังเลยครับ
เสียดายอำเภอที่ผมอยู่ไม่มีสวนสาธารณะ(ถ้าเป็น อ.เมือง จะมีหลายสวน)


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 5 มีนาคม 2563 เวลา:23:06:57 น.
  

มาชมสวนด้วยค่ะ
โดย: newyorknurse วันที่: 6 มีนาคม 2563 เวลา:4:27:28 น.
  
เราเป็นคนที่ชอบต้นไทรมากเลยล่ะ
ยิ่งถ้าเป็นต้นใหญ่ๆที่มีรากไทรห้อยลงมาแบบในสวนนี้นะ
ยิ่งอยากจะไปนั่งเล่นอยู่ใต้ต้นนานๆเลยค่ะ

ปล.จากบล๊อกนู้น...คุณเพรางาย เดาออกใช่ม๊าาาว่าเราเขียนถึงคุณเพื่อนทั้งสี่ในรูป อิอิ

โดย: ผีเสื้อยิปซี วันที่: 6 มีนาคม 2563 เวลา:11:48:35 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 7 มีนาคม 2563 เวลา:9:23:19 น.
  
สวัสดีมีสุขค่ะ

ย้ายมาอยู่ชุมพรแล้ว ดีค่ะ
ทางใต้ชุ่มชื้น อากาศดี ผลไม้แยะมาก
ชุมพรแดนผลไม้ สะตอ ผักเหมียง จำปาดะ
พูดแล้วก็อยากทันทีค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปส่งกำลังใจให้ตะพาบ หาพวกเพาะถั่วงอก นะคะ ทำเลยค่ะ ง่ายสุดๆ อุปกรณ์มีหม้อ มีตะกร้าล้างผัก ผ้าขนหนูผืนเล็กๆ แค่นี้เอง
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 9 มีนาคม 2563 เวลา:16:09:52 น.
  
ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะคะ
คุมแบบไหนก็ดีทั้งนั้น ของเราก็มีช่วง
คุมบ้างหลุดบ้าง เหอๆ
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 9 มีนาคม 2563 เวลา:17:00:28 น.
  
จากอุบลย้ายไปอยู่ชุมพรแล้ว คนละภาคเลยนะคะ
ไม่มีแมวเลยสักตัวจากที่เคยมีเยอะแยะ แล้วไม่คิดจะเลี้ยงสักตัวหรือคะ
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 9 มีนาคม 2563 เวลา:17:26:55 น.
  
เพรางาย Diarist

เถาวัลย์ที่ต้นไม้ใหญ่อบอุ่น ร่มเย็นเป็นได้ทั้งนั้นค่ะ คิดถึงต้นอย่างนี้ที่บ้านเช่นกันค่ะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ
โดย: mariabamboo วันที่: 9 มีนาคม 2563 เวลา:18:30:19 น.
  
กลับมาเดินเที่ยวแล้วค่ะ
ตกลงว่าพระนามเต็มว่า พระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์
ทรงกรมว่า กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ นะคะ
งงได้มากค่ะ แต่สวนก็น่าเดินพักผ่อนรับอากาศบริสุทธิ์มาก

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 9 มีนาคม 2563 เวลา:19:07:45 น.
  
สวัสดีครับคุณเพรางาย

ขอบคุณมากเลยนะครับที่แวะไปอ่านกลอนที่บล็อค

หนังเรื่อง “คิดถึงวิทยา” ผมดูไปสามรอบแล้วครับ
เป็นหนังที่ชอบมากเรื่องนึง ให้ความรู้สึกเหงาๆ ยังไงบอกไม่ถูก
แต่ก็มีเรื่องน่ารักๆ หลากหลายอารมณ์ในหนังนะครับ

แล้วผมก็เคยดูหนังเรื่อง il mare



เป็นหนังเกาหลีเมื่อนานมาแล้ว ก็ให้ความรู้สึกเหงาๆ
แบบหนังเรื่อง “คิดถึงวิทยา” เหมือนกันครับ
แต่เรื่อง il mare ในหนังจะมีตัวละครแค่สองคนเท่านั้น คือพระเอกกับนางเอกครับ (ไม่มีตัวละครอื่นเลย)

ที่สวนอาภากรนี่กว้างขวางดีนะครับ
เดินวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า หรือตอนเย็นสบายเลย
ขอบคุณที่พามาเที่ยวสวนอาภากรเกียรติวงศ์ อ่านเพลินไปจนจบ
และยินดีที่ได้รู้จักนะครับ

“สีเมจิก”
โดย: สีเมจิก (สมาชิกหมายเลข 5106714 ) วันที่: 9 มีนาคม 2563 เวลา:19:07:50 น.
  
เห็นแล้วอยากออกไปเดินออกกำลังกายนะครับคุณงาย
ชอบต้นไทร
รากเค้าสวยจังเลย

เชียงใหม่สองสามเดือนนี้
ควันและฝุ่นเยอะมากครับ
แทบจะออกกำลังกายกลางแจ้งไม่ได้เลย

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มีนาคม 2563 เวลา:21:11:30 น.
  
เอาโจทย์สมการไปเขียนกลอน ทำให้ผู้อ่านลำบาก
ต้องขอโทษด้วยนะครับ ทีหลังจะไม่ทำอีก
ถ้าครูมาเห็นได้โดนแน่ๆ อิอิ

ตอนเขียนก็ยังคิดอยู่นะครับว่า
หากคนที่ไม่เข้าใจเรื่องสมการเข้ามาอ่าน
คนอ่านจะเข้าใจกลอนที่เราเขียนรึเปล่า
แม้ว่ามันจะเป็นสมการอย่างง่ายก็ตาม

ขอบคุณครับที่คุณงายช่วยบอก ตอนนี้เข้าใจแล้วครับ

ขอร้องไห้แป๊บนึงครับ ....
โดย: สีเมจิก (สมาชิกหมายเลข 5106714 ) วันที่: 9 มีนาคม 2563 เวลา:22:53:58 น.
  

สวัสดียามเช้าครับคุณงาย

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มีนาคม 2563 เวลา:6:53:18 น.
  
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ ร่มรื่นดีจัง
โดย: kae+aoe วันที่: 10 มีนาคม 2563 เวลา:8:23:21 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เพรางาย
Location :
ชุมพร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]



คนที่กำลังไล่ตามความฝัน ท่ามกลางความผกผันของวันเวลา
มีนาคม 2563

1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31