หมึกสีดำของไผ่สีทอง
ความโศกทั้งหลาย ย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้มีจิตมั่นคง ไม่ประมาท เป็นมุนี ศึกษาในทางปฏิบัติถึงมโนปฏิบัติ เป็นผู้คงที่ ระงับแล้ว มีสติทุกเมื่อ,, การไม่ทําบาปทั้งปวงหนึ่ง การยังกุศลให้ถึงพร้อมหนึง การชําระจิตใจของตนให้ผ่องแผ้วหนึ่ง นี่แลเป้นคําสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
26 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
ประวัติพระบุญนาคเที่ยวกรรมฐาน ๓



ลาอาจารย์เข้าป่าเที่ยวกรรมฐาน



พอรุ่งเช้าขึ้นมา ฉันแล้วก็ลาพระอาจารย์ ท่านก็ไม่อนุญาต บอกพระอาจารย์ว่าผมตกลงแล้วแต่คืนนี้ ผมเห็นจะไม่อยู่ ว่าแล้วก็ขอขมาโทษต่ออาจารย์ วางขันดอกไม้ไว้ซึ่งหน้าท่านแล้วก็หลีกไปวันแรก เดือน ๔ แรม ๔ ค่ำ ไปพักป่าช้าบ้านหนองแสง ตอนค่ำลงนึกกลัวผี ได้พิจารณาว่า “อะไรเป็นผี ได้ความว่าใจเป็นผี เพราะร่างกระดูกเขาเผาและฝังหมดเสียแล้ว ตกลงว่าไม่จริง วัว, ควาย, หมู, ไก่ ก็มีใจทั้งนั้นทำไมคนกินเนื้อมันได้ เช่นวัว ควายยิ่งตัวใหญ่ไม่กลัวผีมันหลอกหรือ ทำไมกินเนื้อมันได้ ขนเอาเนื้อเอากระดูกมันไปเก็บไว้ที่บ้านทั้งกินเสียด้วย จนกระทั่ง ปู, ปลา ก็มีใจทั้งนั้น หากว่าใจสัตว์ที่ตายแล้วเป็นผีอยู่กับซากศพที่ฝังไว้แล้วนั้นเป็นผีหลอกคน ถ้าเช่นนั้น คนที่ฝังซากวัว, ซากควายลงที่ท้องของตนก็จะไม่เป็นอันอยู่ อันนอน เพราะผีมันจะหลอก เปล่าทั้งนั้น ไม่ปรากฏเลยว่าค่ำมาคนนั้นคนนี้ถูกผีวัวหลอกหรือผีหมูผีไก่หลอกก็เปล่าทั้งนั้น ตกลงว่ามนุษย์นี้หลอกกันทั้งนั้น สิ่งใดกินเนื้อมันเห็นว่าไม่มีผีมันหลอกดังนี้ มนุษย์ที่ตายแล้วฝังอยู่ป่าช้าเช่นนี้ยิ่งแล้ว เพราะมันกลัวป่าช้า ตายแล้ว ที่ไหนมันจะมา ถ้าใจของคนยังมีติดอยู่ที่กายทำไมมันจะตาย ใจคนหนีแล้วแต่อยู่เรือนขณะมันตายทีแรก นั้นมิใช่หรือ มันจึงตาย”




เดินธุดงค์เข้าในป่าดงพงไพร




เมื่อพิจารณาเช่นนี้ แต่วันนั้นมา ขึ้นชื่อว่าป้าช้าอยู่ได้ทุกแห่งไป ไม่ต้องกลัวผีอีก เดินเที่ยวพักไปตามป่าช้าบ้านอื่น ๆ ต่อไปได้ ๙ คืน ถึงฝั่งแม่น้ำโขงซึ่งเป็นแดนของฝรั่งเศส (ในขณะนั้น ประเทศลาวอยู่ใต้ปกครองของฝรั่งเศส) เป็นเวลา ๕ โมงเศษ ข้ามเรือแกวคนหนึ่ง พอข้ามไปถึงฝั่งนั้นบ้านเล็กตั้งริมฝั่งแม่น้ำโขง ยังไม่มีวัด ทั้งอยู่ใกล้ริมภูเขา ชื่อบ้านแก้งกะอาก




พอไปถึงบ้านนั้นมืด พอดีผู้ใหญ่บ้านเขานิมนต์ให้ขึ้นพักจำวัดที่เรือน เพราะกลัวช้างป่า เขาบอกว่ามันเข้ามารบกวนบ้านนั้นทุกวัน เมื่อได้ยินเขาเล่าเช่นนั้น อาตมาภาพก็ยืนพักพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ได้ความว่า “บัดนี้เราเป็นบุตรของพระศาสดา เราจะเชื่อความเป็นพ่อของเราในข้อที่ว่าอย่าลุอำนาจแก่ความกลัวอันมีประจำใจมาแล้วแต่วันเกิด ทุกตัวสัตว์จะนำพาคนได้ดี (อย่างไร) เพราะความกลัว แล้วมนุษย์และสัตว์ทั้งโลกนี้มีความกลัวอยู่เช่นนี้ ตกลงว่าหัวใจเราก็จะแค่หัวใจสัตว์เท่านั้น ไม่เห็นแปลกจากสันดานสัตว์” นึกแล้วก็ตั้งใจอดทนต่อความกลัวเดินผ่านบ้านนั้นไป




คนในบ้านนั้นทักท้วงว่าพระกรรมฐานท่านไม่พักเรือนคน แต่ขณะนั้นก็มีความกลัวอยู่อย่างระส่ำระสาย แต่นึกถึงว่า ความอดทนคือขันติบารมี ก็เป็นธรรมอันจะพึงบำเพ็ญส่วนหนึ่ง ตกลงว่าเวลานั้นจำเป็นจำไป ก็คืออดทนต่อความกลัวต่อสัตว์ร้ายนั้นไป มิใช่ไปด้วยความหมดกลัวอย่างไม่กลัวผี



ช้างกระทืบกลด




พอไปถึงที่แห่งหนึ่งเป็นหนทางช้างเดิน แถบทรายภูเขา ขณะนั้นยังไม่รู้ว่าที่นั้นเป็นทางช้าง เห็นแต่ว่าที่นี้เตียนดี เมื่อเราต้องการเดินจงกรม ก็จะได้เดินตามแนวนี้ และที่นั้นมีต้นตะเคียนใหญ่ และมีเครือหวายเป็นพุ่มห้อยล้อมต้นตะเคียนดกหนาเป็นร่มดี ฝ่ายว่าอาตมาภาพจึงตรึงกั้นมุ้งลงเพื่ออาศัยในที่นั้น เสร็จแล้วก็นั่งสมาธิต่อไปในที่นั้น ต่อมาตอนดึกจวนรุ่ง เวลา ๙ ทุ่ม (ตี ๓) เผอิญมีช้างตัวหนึ่งเป็นประธานในช้างทั้งหลายเดินผ่านเชือกเผือก (เชือก) ที่แขวนกลดให้ขาดตกลงแล้ว ได้ยินเสียงช้างพับหูดังโปะ ก็นึกตกใจ ว่านี้เป็นเสียงอะไรเปิดมุ่งขึ้นดู เห็นช้างยืนเทียมกลด ก็นึกตกใจจนหายใจไม่ออก แน่นหน้าอกขึ้นมาแล้ว ก็ค่อยคลานออกจากมุ้งเข้าไปอาศัยพุ่มหวายที่รกห้อมล้อมต้นตะเคียนอยู่ ไม่ช้าช้างก็ฉวยเอามุ้งขึ้นฟาดบนศีรษะช้างเอง แล้วจับเหวี่ยงลงมาแล้วก็เอาเท้าขยี้ ไม้ช้าจับเอามุ้งขึ้นฟาดบนศีรษะของตนแล้วดึงลงมาขยี้ ทำดังนี้ จนมุ้งและกลดมุ่นสลายหยิบไม่ถูกแล้ว ช้างก็ยืนอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หันหน้าไปเข้าไปทางต้นตะเคียนแล้วก็ดึงเครือหวายที่นั้นกินเป็นอาหาร ตกลงเวลานั้น ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มหวายใต้คางช้าง



อีกไม่ช้า หมู่ของช้างเดินตามกันมาอีก ๒๑ ตัว มาทันช้างตัวที่กินหวายอยู่ก่อนนั้น ต่างตัวก็มายืนห้อมล้อมต้น ตะเคียนดึงเครือหวายลงมากินเป็นอาหาร ฝ่ายว่าอาตมาภาพ ทั้งนี้รู้สึกว่าแค้นใจอยู่ คือแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกเพราะ ควายกลัวอยู่สักครู่หนึ่ง นึกขึ้นได้ว่า “มาคราวนี้เพื่อบำเพ็ญกิจของศาสนา ฉะนั้น ขออันตรายทั้งหลายจงพินาศฉิบหายไปด้วยอำนาจคุณพระรัตนตรัย”




พออธิษฐานเสร็จแล้วก็เกิดคันตามลำคอ และแสบจมูกขึ้นมาทนไม่ได้ก็ไอ และกระแอมขึ้นด้วยเสียงอันดัง ฝ่ายว่าช้างทั้งหลายเหล่านั้น ตื่นเสียงไอพากันวิ่งแตกตื่นหนีไป ขณะนั้น ก็พอสว่าง ออกมามองดูบาตรและห่อผ้า เห็นไปอยู่ในเหวซึ่งช้างมันเหวี่ยงลงไป ก็ค่อย ๆ คลานลงไปที่เหวเอาบาตร และผ้าขึ้นมาได้ แล้วก็ครองผ้าและบาตร เข้าไปบิณฑบาตในบ้านนั้น นายดีผู้ใหญ่บ้านถามว่า คุณพักที่ไหนช้างไม่รบกวนคุณหรือ ฝ่ายว่าอาตมาภาพก็ทำดุจนิ่งอยู่ ไม่พูดและไม่ตอบว่ากระไร แกก็แปลกใจบ่นว่า พระเณรอะไรถามไม่พูด แกก็ตามออกไปดูที่อยู่เห็นรอยช้างมันขยี้กลดและมุ้งแตกสลาย แกจึงถามอีกเป็นครั้งที่สองว่าเวลาช้างมันมาทำลายของท่าน ใต้เท้าไปอยู่ที่ไหน ช้างจึงไม่ทำร้ายตัวของใต้เท้าด้วย




ฝ่ายว่าอาตมาภาพก็นั่งฉันข้าวเรื่อยไป มิได้พูดและตอบแก่โยมคนนั้นคำใดหนึ่งเลย พอฉันเสร็จแล้วก็ตะพายบาตรไต่ชายเขาไปประมาณ ๘๐ เส้น พบพึงน้ำมีบัวหลวงบัวทองจอกแหนต่าง ๆ มีร่มไม้สดชื่นหลายอย่างตามริมบึง แต่บึงนั้นมีฝั่งชันและสูง มีท่าลง ๕ แห่ง เป็นที่อาศัยแห่งสัตว์ทั้งหลาย เป็นต้นว่า เสือ, ช้าง, หมี, ลิง, กระทิง สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นในป่านั้นย่อมอาศัยมากินน้ำในบึงนั้น ฝ่ายว่าอาตมาภาพไปถึงเข้าก็พิจารณาว่า ที่นี้มีน้ำใสดีและป่าไม้ก็สดชื่น ควรแล้วอันเราผู้ต้องการความสงบจะต้องพักบำเพ็ญอยู่ที่นี้ แล้วก็หลีกไปอาศัยอยู่ร่มไทรที่จับอยู่ชายเขาห่างจากบึงประมาณ ๑๐ เส้น



ที่มา : เวป dharma-gateway

โปรดติตามตอนต่อไปครับผม


ทำนองเพลง ลาวม่านแก้ว



Create Date : 26 สิงหาคม 2553
Last Update : 26 สิงหาคม 2553 11:27:13 น. 30 comments
Counter : 1450 Pageviews.

 
เรื่องราว น่าติดตามครับ....เป็นการผจญภัย
ไปด้วยเลย...สำหรับการออกธุดงค์
......................................
สวัสดีครับพี่หมึกดำ...


โดย: panwat วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:13:48:42 น.  

 
อ่านจบ เจอคำผิดด้วยค่ะ แหะๆ ใช่ป่าวไม่รู้นะคะ ตรง "ควาย"กลัวอยู่สักครู่หนึ่ง " หลังจากที่ช้าง 21 ตัวมาน่ะค่ะ ลงตอนต่อไป ตามมิด้วยนะคะ กะลังตื่นเต้นลุ้นเลยค่ะ ว่าจะเป็นไงต่อ.......ควายกลัวอยู่สักครู่หนึ่ง


โดย: nompiaw.kongnoo วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:14:28:09 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ขอบคุณที่นำมาฝากนะคะคุณไผ่


โดย: อุ้มสี วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:14:48:12 น.  

 

..เค้าชื่อ.."อ๋อ".. มา

ตั้งแต่กำเนิด..ม่าช่าย.."อ๋อย" ..จร้า..

คุณพี่ไผ่.. เฮ้ออออ!!..ม่ายด้ายใจเร๊ยยย...




โดย: อ๋อซ่าส์ วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:16:05:24 น.  

 
สาธุ๊.....ต้นเดือนนี้ว่าจะไปซอยสายลม...ทำบุญดีกว่า เข้าเวปนี้เหมือนเตือนให้ไปบ้าง....คุณหมึกสีดำ .... มีเวลา โพสต์ เสียงหลวงพ่อ อีกนะ...แล้วจะมาฟังอีก...ขอบคุณจ๊ะ


..แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..
..HappY BrightDaY..


โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:17:54:03 น.  

 
สวัสดีตอนเย็นค่ะพี่ไผ่

สาธุ


โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:18:09:29 น.  

 
อ่านหนังสือเล่มนี้หลายครั้งแล้วค่ะ
ที่บ้านมีอยู่ 1 เล่ม ดีมากๆ ค่ะ

ขอบคุณคุณไผ่ ที่นำเรื่องราวดี มาให้อ่าน




โดย: addsiripun วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:18:48:00 น.  

 
รออ่านตอนต่อไปค่ะ
ขอบคุณที่นำกาแฟไปให้ชิมถึงที่บ้าน
รสชาติกลมกล่อมดีค่ะ

คุณไผ่ใจบุญแท้ๆ สาธุ..อนุโมทนาต่ะ


โดย: nathanon วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:18:57:39 น.  

 




พฤหัสสบายสบายนะคะคุณไผ่



โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:20:33:43 น.  

 
แวะมาอ่านครับคุณไผ่

มีความสุขมากๆนะครับ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:20:40:31 น.  

 
กำลังสนุกอยู่เลยคะ การออกธุดงค์อย่างนี้ก็เสี่ยงจริงๆนะคะ หากสัตว์ป่าต่างๆ ไม่รับรู้ถึงว่าเรากำลังมาเพื่อบำเพ็ญกิจศาสนา หละมีหวังได้อยู่ในป่าถาวรแน่เลยคะ ขอบคุณสำหรับกาแฟสวยๆหอมๆนะคะ


โดย: cengorn วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:22:46:06 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

อืม....มาแบบนี้ทุกวันครับ
.......................................
สวัสดีดึกๆครับ


โดย: panwat วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:23:42:50 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีเช้าวันศุกร์ค่ะคุณไผ่
มีความสุขกับการทำสิ่งที่ตัวเองรักทุกวันนะค่ะ


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:6:54:17 น.  

 


สวัสดีค่ะเฮียไผ่
เรื่องราวน่าติดตามมากเลย
แล้วจะแวะมาอ่านใหม่นะคะ
ช่วงนี้ฝนตก ทำให้ยูงแพร่เชื้อได้เร็ว
ที่ปราจีน มีคนเป็นหวัด2009
และ ไข้เลือดออกกันแล้วค่ะ
เฮียไผ่ก็รักษาสุขภาพด้วยเด้อค่า




โดย: ขึ้น15ค่ำ วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:8:40:28 น.  

 

วันศุกร์ ถือกระปุก..กลับบ้าน ^.^


โดย: ป้าโบราณ วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:10:00:13 น.  

 
สวัสดีตอนบ่ายค่ะ..พี่ไผ่



โดย: nootikky วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:13:13:30 น.  

 
สวัสดีตอนบ่ายค่ะ..พี่ไผ่



โดย: nootikky วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:13:13:30 น.  

 
..ก๊อก ก๊อก ก๊อก ..คุงอ๋อย..มาเยี่ยมจร้า..ฮ่า ฮ่า ฮ่า ...

</div><!-- End Comment 18-->
				  <br><br>
                  <table width=100% border=0>
                    <tr> 
                      <td width=100%>โดย: <a href=อ๋อซ่าส์ วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:18:59:51 น.
 

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: sawkitty วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:21:19:22 น.  

 



ทักทาย ตอนสายยยคะ..



โดย: แอ๊ปเปิ้ลโบราณ วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:10:43:52 น.  

 
มาส่งเทียบเชิญให้ไปฟังเพลง และอ่านกลอนย้อนอดีตที่บ้านครับ

วันนี้นำเสนอเพลง...


ลมลวง



แต่งไว้เมื่อสามสิบปีก่อนครับ...



โดย: ลุงแว่น วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:10:49:00 น.  

 
หนังสือประวัติ พระอาจารย์บุนนาค เที่ยวกรรมฐานนี้
ป้าแอ๊ดได้มาจากคุณพ่อของป้าแอ๊ดเอง
หนังสือเล่มนี้พิมพ์เป็นที่ระลึก ในงานฌาปนกิจศพคุณแม่สายหยุด บุรจรรย์
ณ ฌาปนกิจสถานวัดประยุรวงศาวาส
เมื่อวันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2512

ซึ่งคณะเจ้าภาพได้ไปขอเรื่องนี้มาจาก นายแพทย์เกิด ธนชาติ
ผู้ได้จัดพิมพ์มาก่อนหน้านี้แล้ว
และไม่มีคำบอกเล่าว่า นานแพทย์เกิด ธนชาติ ท่านไปได้ต้นฉบับนี้มาจากไหน
ทราบแต่เพียงว่า พระอาจารย์บุนนาค ท่านเขียนประวัติของท่านเอง

และคำสุดท้ายของเรื่องนี้ มีวงเล็บว่า
(จบเพียงนี้ เพราะผู้นิพนธ์ถึงแก่มรณภาพ )

แล้วไมมีคำอธิบายว่าพระอาจารย์ มรณภาพที่ไหน อย่างไรต่อค่ะ

ถ้าคุณไผ่ มีข้อความต่อจากนี้ ขอทราบด้วยนะคะ
เพราะอยากทราบว่าที่สุดแล้ว ท่านพระอาจารย์บุนนาคเป็นอย่างไร
ใครไปพบ และทำอย่างไรกับท่านค่ะ

ขอบพระคุณมากค่ะ




โดย: addsiripun วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:11:47:25 น.  

 
ป้าแอ๊ดมาเพิ่มข้อมูลที่คิดว่ายังไม่มีใครทราบด้วยค่ะ

นี่เป็นหนังสือที่บอกไว้ ตั้งแต่ พ.ศ. 2513





คำปรารภ





และหน้าสุดท้าย





ขอบคุณหมึกที่นำประวัติท่านพระอาจารย์มาเผยแพร่ด้วยค่ะ





โดย: addsiripun วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:12:34:21 น.  

 
ขอโทษลง พ.ศ. ผิดค่ะ ต้องเป็น พ.ศ. 2512 ไม่ใช่ พ.ศ. 2513 ค่ะ



โดย: addsiripun วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:12:36:17 น.  

 

อ้อมแอ้มอยากรู้เหมือนกันนะค่ะว่า..
ถ้าถูก Lottery รางวัลที่ 1 และแจ๊คพอร์ตด้วย
ไม่รู้ว่ากี่ล้านดี อาจจะเป็นสัก 10-20 ล้านบาท
จะเอาเงินนั้นไปทำอะไรบ้างค่ะ..
ถามเล่นๆเอาไว้ก่อน...
เผื่อถูกจริงๆจะได้แบ่งสรรปันส่วนถูกค่ะ..ฮิๆ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:16:24:34 น.  

 
..ต๊ะเอ๋.... คูณพี่ไผ่..

อู้ยยยย .. ม่ายมีปัญหาจร้า..
ถ้าพิมพ์เกิน..แล้วทำให้คูณพี่ไผ่
ปาย.. เขียนโน่น นี่.. บ้าง..อารายบ้าง..
ได้มากกว่าคำว่า.. สวัสดียามเช้า..สาย..บ่าย..เย็น... ก้ออนุญาติห้ายพิมพ์เกินด้ายตลอด
จร้า... ฮ่า ฮ่า ฮ่า ..

..อ้อ! ..ม่ายรู้ว่าคห.18 ทำห้ายblog
คูณพี่ไผ่เบี้ยวด้วยอะป่าว..คิก คิก ..
ก้อมือสมัครเล่นอะ..ลบด้ายนะจร้า..โอเช..

Photobucket


โดย: อ๋อซ่าส์ วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:19:07:55 น.  

 
อยากฝัน....

แต่...อยากฝันดี

ถ้าฝันเห็น...ผี

แล้ว...ต้องวิ่งหนี

แบบนี้...ม่ายอาว


โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:21:38:20 น.  

 
สวัสดีค่ะ
สุขสันต์วันหยุด

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: nathanon วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:9:38:47 น.  

 


โดย: หน่อยอิง วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:6:34:35 น.  

 


โดย: แอ๊ปเปิ้ลโบราณ วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:21:56:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมึกสีดำ
Location :
ขอนแก่น Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หมึกสีดำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.