เข้าพรรษา พาแม่ไป แรลลี่ ที่เหนือ จ้..า..ว... (เสาร์ 28- จันทร์ 30 กรกฎาคม 2550) ก่อนวันเข้าพรรษา ได้วางแผนว่าจะไปไหนดี แม่ผมอยากไปทำบุญ แต่ผมกับพี่สาวอยากไปเที่ยว เอาไงดีละ พอดีมีบัตรเครดิต ของธนาคารแห่งหนึ่งจัดแรลลี่ ไปทำบุญ ทางเหนือ พี่สาวกับผมไม่รอช้า ยื่นข้อเสนอไปให้แม่ผม ครั้งเดียวผ่านฉลุย ถือว่า วิน-วิน ทั้งสองฝ่าย ถึงวันเดินทาง ก่อน 7 โมงเช้า ทีมผม (มี 4 คน แม่ผม พี่สาวผม แฟนผม และผม) พร้อมที่ ปั๊ม ปตท.วิภาวดี เพื่อลงทะเบียน และตรวจหมายเลขประจำรถ เป็นไงครับ เลขสวยเปล่า จากทั้งหมด 42 คัน หลังจากลงทะเบียนเสร็จ ประมาณ 7โมงครึ่ง ใครพร้อมก่อนก็ออกก่อน โดยใช้เส้นทางสายเอเชีย ผ่าน อยุธยา - อ่างทอง – สิงห์บุรี – ชัยนาท – นครสวรรค์ – แยกบายพาส เข้ากำแพงเพชร ผมมาถึง 12.00 น.พอดีครับ (ระยะทางประมาณ 350 ก.ม. จาก กทม.-กำแพงเพชร) แวะทานข้าวเที่ยงที่ร้านกำแพงโภชนา ครับ ประวัติของ จ. กำแพงเพชร หลังจากทานก๋วยเตี๋ยว อิ่มแล้ว ประมาณ 12.30 น.ก็เริ่มหา RC โดยเริ่ม จุดสตาร์ท ในที่พิพิทธภัณฑ์สถานกำแพงเพชรเฉลิมพระเกิยรติ หลังจากเราหา อาร์ซี ครบ ก็ได้เวลาไป จ.ลำพูน ต่อเพื่อหา อาร์ซี ที่วัด หริภุญไชย จาก กำแพงเพชร ถึงลำพูน ระยะทางประมาณ 310 ก.ม. ทาง 4 เลนขับสบายครับ ผมมาถึงลำพูน ประมาณเกือบ 6 โมงเย็น มาถึงแม่ผมก็นำผ้าจำนำพรรษา หลอดไฟและเครื่องไทยธรรมที่เตรียมมาถวาย ครบทั้งครอบครัว หลังจากนั้นก็ช่วยกันหา อาร์ซี กันในวัดนี้ต่อ  แม่ผมชอบมาก ไม่ใช่สถานที่ วัฒนธรรม หรือบรรยากาศ แต่เป็นการหา RC เดินไปจดไป หนุกหนาน อยู่คนเดียวในพิพิทธภัณฑ์ ประวัติอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร พระบรมธาตุหริภุญชัย สวยจริงๆ ครับ เสียดายเวลาน้อยต้องรีบไปหา อาร์ซี ที่วัดพระนางจามเทวีต่อ ส่วนมากคำถามจะเป็นชื่อ หรือประวัติภายในวัดนั้นแหละครับ ถือว่าได้สำรวจทุกซอกทุมมุมของวัด แต่เราจะไม่ได้สัมผัสอย่างละเอียดเท่าไร เพราะใจต้องการหาแต่คำตอบ ขอลง พระบรมธาตุหริภุญชัย อีกมุมนึงนะครับ ออกจาก วัดหริภุญชัย ขับออกมาหน่อย ก็มาถึง วัดจามเทวี (อยู่ในตัวเมือง )วัดนี้ก็สวยครับแต่ผมไม่ได้ชื่นชมวัดสักเท่าไหรเพราะต้องช่วยกันหา อาร์ซี  นี้เป็นเจดีย์ ที่วัดจามเทวี ตรงเจดีย์ข้างบนจะหัก ชาวบ้านจึงเรียกว่า “กุดกู่”  หลังจากนั้นตามโปรแกรม 17.00 น.ให้ถึงที่พัก กัสซัน ขุนตาล 18.30 น.ทานอาหาร นี้เกือบจะ 18.00 น.ยังวนอยู่ใน ตัวเมือง ลำพูน อยู่เลย ไม่อยากจะบอก แม่ผมถูกรถเตอร์รี่ท้าย 2 ตัว ซื้อที่ อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ตรงนี้ละครับ เบอร์ 29 เป็นหมายเลขรถผมแข่งขัน ซื้อมาตั้ง 1 คู่  แล้วก็มาถึงที่นี้จนได้ เข้าทาง อช.ขุนตาล/แม่ตะไคร้ ประมาณ 35 ก.ม. มาถึงทุ่มกว่าๆ น้ำท่าไม่ต้องอาบแล้ว ตรงไปที่ห้องจัดเลี้ยง ประธานเปิดงาน มีโชว์นิดหน่อย หลังจากทานเสร็จ ก็เข้าห้องพักผ่อน ห้องน้ำครับ นี้บรรยาศยามเช้า เปิดม่านข้างหลังก็เจอวิวนี้เลยครับ เห็นพนักงานบอกว่าเวลาเช้าจะเห็นขบวนรถไฟลอดเข้าอุโมงขุนตาล  บริเวณด้านหน้ารีสอร์ท จะเห็นภูเขาล้อมรอบอยู่ด้านหน้ารีสอร์ท จะเห็นหมอกปกคลุมอยู่ตามยอดเขาเต็มไปหมด และนี้คือรถผู้เข้าแข่งขันตอนเช้า พร้อมที่จะออกเดินทางไปยัง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย  หลังจากทานอาหารเช้าที่ รีสอร์ท แล้วก็ออกเดินทางเลยครับ ไปถึง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ระยะทาง 30 ก.ม.เข้าไปก็ฟังบรรยาย จากเจ้าหน้าที่ศูนย์ การแสดงของช้าง และที่ขาดไม่ได้ก็ต้อง หา อาร์ซี นี้ก็เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งในศูนย์ พาช้างไปอาบน้ำครับ สรรพนามช้าง ที่ฟังบรรยายคราวๆ ถ้าเป็นช้างพระมหากษัตริย์ คู่บ้านคู่เมืองเรียกว่า ช้าง 1 ช้าง ถ้าเป็นช้างบ้านหรือช้างเลี้ยง เรียกว่า 1 เชือก ถ้าเป็นช้างป่า เรียกว่า 1 ตัว ถ้าอยู่หลายตัวเรียกว่าโขลง ส่วนมากชาวต่างชาติจะชอบครับ จะอยู่เลี้ยงช้างเป็นอาทิตย์เลย เค้ามีสอนการบังคับช้างด้วย สนใจติดต่อกันเอาเองนะครับ รูปนี้ก็เป็นฝีมือช้าง ไม่ใช่ซิต้องเรียกว่า ฝีงวงช้างวาด วาดเสร็จก็ขายเลยครับ รูปละ 500 บาท(วาดสวยกว่าผมอีก) หลังจากนั้นก็ออกจากศูนย์ แล้วกลับเข้า จ.ลำปางต่อครับ ประมาณ 11 โมงเช้า ก็มาถึง วัดศรีชุม เป็นวัดแรก ทีมอื่นก็หา อาร์ซี กัน ส่วนทีมผมก็นำผ้าจำนำพรรษา พร้อมหลอดไฟ ถวายที่วัด แล้วค่อยมาหา อาร์ซี ทีมอื่นออกกันหมดแล้ว ทีผมยังหาไม่ครบเลยครับ เลยถ่ายรูปวัดนี้มาได้ 2 รูปเองครับ หลังจากนั้น ก็ไปวัดพระแก้วดอนเต้า ต่อครับ มาช้าไปหน่อยแต่ก็ช่วยกันหา อาร์ซี จนครบวัดนี้ค่อยมีเวลาถ่ายรูปหน่อยครับ วัดที่เหนือสวยๆ ทั้งนั้นเลยครับ ถ้ามีเวลาจะอยู่แช่มันทั้งวันเลย รูปและประวัติ วัดพระแก้วดอนเต้า ผมชอบโบสถ์นี้ครับ ไม่ใหญ่โต เล็กๆ เรียบง่าย ดูแล้วสบายตาดี อยู่ในวัดพระแก้วดอนเต้า ต่อจากนั้นก็ไปหา อาร์ซีทีวัด พระเจดีย์ซาว ใน ลำปาง ต่อครับ และวัดนี้เป็นวัดสุดท้ายที่หา อาร์ซี ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาสักรูปเลย เพราะเริ่มหิวกันแล้ว และต้องขับรถไปส่ง อาร์ซี และทานอาหารที่ อช.แจ้ซ้อน อีก  ข้อมูลวัดพระเจดีย์ซาว จากพระเจดีย์ซาว มาถึง อช.แจ้ซ้อน ประมาณ 80 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ พอมาถึงแล้วหายเหนื่อยเลยครับ เพราะร่มรื่น เย็นสบาย ต้นไม้สวยงาม อากาศก็ดี    หลังจากนั้นทานอาหารกลางวันเสร็จ ส่งคำตอบ ก็ปล่อยตามอิสระ ใครจะกลับไปนอนพักผ่อนที่ ลำปาง หรือ อยู่เที่ยวที่ อุทยานก็ตามสบาย ทีมผม ขออยู่ที่ อช.ต่อดีกว่าไหนๆ ก็ขับมาตั้งไกล ครอบครัวผมไม่ได้ขึ้นไปบนน้ำตก เพราะแม่ขี้เกียจเดินขึ้นไป ได้แต่แช่น้ำร้อน ชอบทางไหน ไปตามสบายเลยครับ ก่อนมาถึงป้ายตรงนี้ จะมีทางซ้ายขับรถขึ้นไปยังน้ำตกได้ครับ สภาพอากาศวันนั้น พอไปถึงประมาณบ่ายโมง ฝนตกโปรยๆ อากาศเย็นสบายดีครับ ทานอาหารที่บนอุทยาน เป็นบุฟเฟต์ มียำไข่ที่ต้มมาจากบ่อน้ำร้อนด้วย  หลังจากนั้นประมาณ 4 โมงเย็น ทีมผมก็ออกจาก อช. มาพักในตัวเมืองลำปาง ที่ โรงแรมเวียงลคอร อาบน้ำแต่งตัว หนึ่งทุ่ม ให้ไปทานอาหารขันโตก และประกาศรางวัลที่ บ้านเสานัก  ความจริงทีมงานเค้าได้เตรียมงานไว้กลางแจ้ง แต่พอดีฝนตกเค้าเลยย้ายเข้ามาจัดข้างใน บรรยากาศเหนือสุดๆ ขอความร่วมมือผู้แข่งขันทุกท่านแต่งตัวล้านนาด้วยครับ งานนี้แจกรางวัลเพียบ  ทานขันโตกเสร็จ ก็กลับเข้าที่โรงแรม ตอนเช้าก็ Breakfast ที่โรงแรม ทานเสร็จก็ออกเดินทางไปพระธาตุลำปางหลวงต่อ ไปถึงนักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยมี เลยมีโอกาสถ่ายรูปกับครอบครัว ประวัติพระธาตุลำปางหลวง พระธาตุประจำปีเกิด รูปนี้เป็นวิหารพระพุทธครับ งดงามอย่าบอกใครเลย วิหารนี้มีเงาพระธาตุกลับหัว ถ้าปิดประตูให้มืดก็จะปรากฎแสงที่มาจากข้างนอก สะท้อนเข้ามาเป็นรูป พระธาตุ วิหารที่นี้จะมี เงาพระธาตุ 2 ที่ครับ อีกที่จะให้เข้าดูได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้นสำหรับที่วิหารนั้นทุกคนเข้าได้หมดครับ ส่วนภาพนี้อยู่ด้านหลัง สตรี ห้ามเข้าไป   มาลำปางก็ต้องถ่ายคู่กับรถม้าครับ มีจอดอยู่หน้าพระธาตุเลย ถ่ายคู่กับรถม้า ครอบครัวผมถ่ายกันครบ มีทั้งคู่ ทั้งเดี่ยว ทั้งครอบครัว จะยืน จะปีน ตีลังกายังไง ก็ตามใจ จะถ่ายกี่ภาพก็ได้ คนละ 10 บาทเอง เจ้าของรถม้าก็ใจดีช่วยถ่ายให้ครับ มีเลือกมุมให้ด้วย ไม่ถูกใจถ่ายให้ใหม่ ถูกใจจริงๆ ชอบๆๆ   ชื่นชมความงามได้พักใหญ่ ทั้งทำบุญ ถ่ายรูปไปทั่วดูเวลาแล้วขอออกนอกเส้นทางไปชมความงามที่วัดพระธาตุดอยปิงหน่อยครับ วัดนี้ห่างจากพระธาตุลำปางหลวงประมาณ 10 กว่ากิโล วัดนี้จะเล็กกว่าพระธาตุลำปางหลวง แต่ก็มีเงาพระธาตุกลับหัวเหมือน พระธาตุลำปางหลวงเหมือนกัน ถ้าใครมีเวลาก็แวะไปเที่ยวได้นะครับ และแล้วก็สิ้นสุด ทริปแรลลี่ ได้เลี้ยงข้าวกลางวันพร้อมล่องแพชมบรรยากาศรอบเขื่อนภูมิพลเป็นมื้ออำลา หลังจากนั้นก็แยกย้ายกลับ วันที่ผมไปดูน้ำในเขื่อนน้อยไปหน่อยนะครับ  เขื่อนภูมิพล   สำหรับ แรลลี่ ในครั้งนี้ ก็เป็นครั้งแรกที่ครอบครัวผมได้ไปพร้อมกัน สำหรับ 3 วัน 2 คืนผมว่ามันน้อยไปทำให้เราไม่ค่อยได้ซึมซับกับสถานที่ต่างๆได้เลย เพราะมันถูกจำกัดด้วยเวลาและการหาอาร์ซี มันเหมาะกับคนชอบเล่นเกมส์ และชอบความท้าทาย ทั้งเหนื่อย ทั้งมัน ทั้งสนุก แต่ข้อดีสำหรับผมคือ ครอบครัวเราได้ทำกิจกรรมร่วมกัน และได้รู้จักหลายสถานที่ ผมคิดว่า ผมต้องกลับไปเที่ยวทั้งลำปาง และลำพูน อีกครั้งแน่ แต่จะอยู่หลายวัน และสถานที่เที่ยวก็สวย บรรยากาศ สภาพภูมิประเทศ โดยเฉพาะวัดสวยๆ มีเยอะมาก เพียงแค่เข้าไปนั่งเงียบๆ ปล่อยเวลาให้มันผ่านไปเรื่อยๆ อยากจะทำอะไรก็ทำ ผมว่าแค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ .. สรุป ค่าเสียหาย - ค่าสมัครแรลลี่ ราคาต่อคัน มีผู้เดินทาง 2 ท่าน ราคาคันละ 5,600 บาท - ผู้เดินทางร่วมท่านละ 2,500 บาท *2 ท่าน ราคา 5,000 บาท - ค่าน้ำมันตลอดการเดินทางประมาณ 1600 ก.ม. ราคา 3,020 บาท วันที่ 28 ก.ค.50 - ค่าอาหารมื้อเช้า ราคา 104 บาท - ค่าอาหารกลางวันที่กำแพงเพชร ราคา 220 บาท - ค่าเข้าอุทยาประวัติศาสตร์กำแพงเพชร คนละ 10*4 ราคา 40 บาท - ถวายซองสังฆทาน ราคา 1,000 บาท - ทำบุญที่ศูนย์ช้าง ราคา 200 บาท วันที่ 29 ก.ค.50 - ค่าเข้าอุทยานแจ้ซ้อน 4 ท่าน รถ 1 คัน ราคา 150 บาท วันที่ 30 ก.ค.50 - ค่าถ่ายรูปกับรถม้า คนละ 10*4 บาท ราคา 40 บาท - ซื้อของฝาก และ ส่วนตัว ราคา 1,795 บาท - ค่าอาหารมื้อเย็น ราคา 200 บาท รวมทั้งหมด 17,369 บาท   Create Date : 12 สิงหาคม 2550 8 comments Last Update : 27 มีนาคม 2560 13:38:43 น. Counter : 3597 Pageviews. Share Tweet

ตามน้องมะละกอมาแรลลี่ด้วยค่ะ น่ารักจังค่ะ....พาคุณแม่ไปแรลลี่   โดย: แม่น้องมีน IP: 58.136.105.109 12 สิงหาคม 2550 23:13:22 น.

ดีจังเลยครับ กิจกรรมดีๆเชื่อมสัมพันธ์ในครอบครัว สนุกสนาน ได้เที่ยวไปด้วย อยากหาโอกาสไปแรลลี่บ้างครับ   โดย: pompier 12 สิงหาคม 2550 23:13:54 น.

กำลังหา trip ไปแรลลี่อยู่... อยากไปแข่งแรลลี่บ้างอ่ะ ลป. แข่งแรลลี่ได้ทะเลาะกับ navigator ริป่าว... ถ้าไม่ทะเลาะแสดงว่ายังไม่ได้รสชาดของการแข่งแรลลี่ที่แท้จริง..   โดย: TooNew 13 สิงหาคม 2550 2:03:21 น.

อ่านแล้ว เหมือนได้เกาะล้อไปเก็บอาร์ซี ด้วยเลยล่ะ ข้อมูลแน่นปึ๊ก รูปสวยดี   โดย: เหมยขาบ 13 สิงหาคม 2550 19:09:12 น.

สวัสดีครับคุณแม่น้องมีน ผมก็ชื่นชมแม่น้องมีนที่พาครอบครัวไปทริปต่างๆ โดยเฉพาะทริปที่พาอนาคินกลับบ้าน ประทับใจจัง ถือว่าปลูกฝังให้เด็กๆ มีใจเมตตาและเอื้ออารีย์ต่อสิ่งที่มีชีวิตที่อยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้ แต่ช่วงนี้ไม่มีเวลา เลยเข้ามาตอบช้าไปหน่อยครับ ........................................... สวัสดีครับคุณ Pompier จริงครับแข่งแรลลี่ เชื่อมสัมพันธ์ภายในครอบครัว ตอนกลับถึงบ้านแล้วนะครับกลับมาคุยสนุกดี แต่ตอนแข่งนึกว่ามาทำสงครามกันอีก ................................................ สวัสดีครับคุณ TooNew ไม่ได้ทะเลาะกันครับ เพราะแม่ผม พี่สาว และแฟนผม เค้าสมานฉันท์ และสนธิกำลังกันครับ ส่วนผมคนขับรถ หัวเดียวกระเทียมลีบ โดนเต็มๆ จะไปทำอะไรได้ ผมยึดคติ สู้ไม่ได้ก็ยอมเป็นพวกอะครับ 5555555 ................................................... สวัสดีครับ คุณเหมยขาบ สำหรับข้อมูลที่ทำละเอียด ผมทำไว้เพื่อเก็บไว้ดูเองนะครับ เวลาผ่านไป เรานึกถึง หรืออยากดูก็เข้ามาดูใน บล็อกของเราได้เลยครับ ขอบคุณคำชมรูปภาพนะครับ ตั้งแต่ถ่ายรูปมา เป็นคนแรกเลยครับ ที่ชมว่ารูปสวย 55555 ............................................... ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยื่ยมครับ   โดย: nongmalakor 20 สิงหาคม 2550 18:50:38 น.

แวะ ตามมาด้วยคน บรรยากาศ ดี ไป กานเยอะๆ อบอุ่น   โดย: iamorange 29 กันยายน 2550 12:22:47 น.

สวัสดีครับ คุณ iamorange ด้วยความยินดีครับ ตามไปด้วยกันเยอะๆสนุกดี ครับ ..............................................   โดย: nongmalakor 30 กันยายน 2550 13:03:21 น.

ภาพน้อยไปหน่อยค่ะแต่ก็ ok   โดย: สิรินดา IP: 125.25.72.89 8 สิงหาคม 2552 14:36:37 น.