[Y]มาแชร์ประสบการณ์ความรักให้ฟังครับ 4

วันนี้ผมเป็นคนเลือกหนังเองครับ ผมเลือกที่จะดูเรื่อง money ball เกมส์ล้มยักษ์

โดยส่วนตัวเป็นคนดูหนังวิจารณ์หนังอยู่แล้ว หนังดีๆก็เลยไม่พลาดครับซึ่งเขาก็ก้มหน้าก้มตายอมรับ ไม่ปริปากบ่นอะไร เพราะทุกครั้งที่มาดูเพื่อนผมก็จะให้ผมเลือก แล้วถ้าดูสองคน เขาก็จะให้ผมเลือกอยู่แล้ว แต่นานๆทีเขาก็จะเป็นคนบอกมาก่อนว่าอยากดูเรื่องนี้นะ อยากดูเรื่องนั้นนะซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นการ์ตูนเด็กๆที่ผมไม่ค่อยชอบดู 55555

เราสองคนมาถึงก่อนเวลาประมาณครึ่งชม.ครับ วันนี้คนไม่เยอะเหมือนเคยอาจเป็นเพราะวันจันทร์แถมยังเป็นรอบดึก คนที่มาดูส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นพวกสิทธิพิเศษแบบผมก็ได้55555 แซวเล่นนะครับ

เนื่องจากที่นี่ไม่ใหญ่มาก มีแค่3ชั้น และลานขายของข้างๆห้างซึ่งดึกแล้วก็คงเก็บร้านกันไปแล้ว เราก็เลยได้เดินแต่ในห้าง และแน่นอนครับผมก็จะลากเขาไปร้านหนังสือก่อนเลย

เพราะผมเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมากกกกก โดยเฉพาะจิตวิทยาร่างกายมนุษย์นี่ชอบที่สุด เพื่อนในกลุ่มเคยถามผมว่า

“ทำไมมรึงไม่ไปเรียนด้านนั้นเลยวะ”

ผมก็ได้แต่จ้องหน้ามันแล้วตอบตามความรู้สึกของผมไป

“ไม่รู้ว่ะ กูแค่ชอบที่จะศึกษาให้เป็นงานอดิเรกกู ว่างกูก็อ่านไม่ว่างกูก็ไม่อ่าน กูกลัวว่า ถ้ากูไปเรียนด้านนั้น จากที่กูชอบกูจะอ๊วกออกมาหน่ะสิ”

ใช่ครับ ผมคิดยังงี้แหละ ก็ผมแค่สนใจไม่ได้อยากเข้าไปผ่าตัดเป็นสักหน่อย จริงเปล่าหล่ะ

ผมยืนเลือกหนังสือสักพัก จริงๆ ก็เลือกไว้แล้ว ดูไว้ก่อนตั้งนานแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้เข้าห้างไปซื้อ วันนี้จึงจัดมา1เล่มเบาๆ 180 นั่นก็คือ มุนินทฺ เป็นการ์ตูนที่อ่านแล้วเพลิน สบายใจ (ผมไม่ได้โฆษณานะ แต่ผมมีของเค้าทุกเล่มเลย 5555)

พอจ่ายเสร็จ เดินออกมาหน้าร้านก็เห็นเขายืนรออยู่แล้ว

อ๊ะๆ ลืมบอก เขาเป็นคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือเอามากๆเลยครับเวลาผมยื่นให้เขาอ่าน เขาก็ปัดออก ไม่อ่าน เขาให้เหตุผลว่า “กูว่ากูอ่านมาเยอะแล้วนะ”ก็คงจริงของเขาครับ เขาเรียนเก่ง อ่านหนังสือเยอะ จนแอดมิดชั่นเข้ามหาลัยฯดีๆคณะเด่นๆได้ ต่างจากผมที่ อ่านไปงั้นๆ คะแนนถึงอะไรก็เลือกเอา 5555

เขาเห็นผมถือถุงออกมา ก็ยกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น แล้วถามคำถามจี้ใจดำผม

“ไหนบอกว่าไม่มีเงิน แล้วนี่อะไร ซื้อมาอีกหล่ะ อันเก่ามรึงอ่านหมดแล้วหรือไง”

555555555 หงอยเลยครับ ผมเพิ่งบ่นว่าไม่มีเงินแต่พอเรื่องหนังสือนี่มีเงินตลอด เกือบทุกครั้งที่ผมมาดูหนังกับเขาเอยกับเพื่อนเขาเอย ผมจะต้องได้หนังสือติดตัวกลับไปตลอด ทำไงได้หล่ะครับ คนมันชอบหนิ
“5555555 ก็กูเก็บเงินไว้ซื้อหนังสือนี่ไง”

ผมยกถุงขึ้น พร้อมกับยิ้มให้เขา

“เออ เรื่องของมรึง ไปๆ หนังจะเข้าหล่ะ”

ผมรู้สึก จึ๊ก! ในหัวใจนิดนึง (ไม่รู้จะใช้คำไหนดี)กับคำที่เขาพูดว่า “เรื่องของมรึง” ผมไม่ค่อยชอบเลยแฮะคำนี้ แต่ก็ปล่อยผ่านไปเพราะเหลือบไปดูนาฬิกาที่แขวนอยู่ เหลืออีกแค่1นาทีนี่ผมดูหนังสือนานขนาดนี้เลยหรอเนี่ย แล้วเขายืนรอไม่บ่น ไม่เรียกไม่ไปนั่งรอเลยเนี่ยนะ

คิดยังไม่เสร็จ ก็รีบวิ่งตามเขาไปให้พนักงานฉีกตั๋วบัตรพร้อมกับแสกนบัตรจอดรถ

ในโรงหนังคนไม่เยอะมากครับ ผมกับเขานั่งกันสองคน ตามสไตล์วัยรุ่นไทย -- ยังไงวะ

เริ่มฉายตัวอย่างหนังไปสักพัก ก็มีคนมาขนาบข้างผมแต่ข้างเขาว่างไม่มีคนนั่ง ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ดูหนังต่อไป หยิบป๊อปคอนรสเค็มกินต่อไป

ปกติแล้วถ้าผมดูหนังกับคนอื่น ผมจะสั่งห้ามครับ ไม่ให้ซื้อป๊อปคอนกับน้ำโค้กเพราะไม่ชอบเสียงดังเวลาเคี้ยว แล้วก็กลัวจะกินเยอะจนต้องลุกไปฉี่ แต่กับเขาเนี่ย ยังไงเขาก็ไม่ยอมจะซื้อกินให้ได้ ถึงผมไม่กินเขาก็ซื้อ ผมก็เลยต้องเป็นคนเลือกรส จะได้แอบกินด้วยจะช่วยจ่าย เขาก็บอก

“เก็บเงินไว้ซื้อหนังสือเถอะ”

เออ ก็ดี อย่ามาขอละกัน ชิ!

แล้วเวลานั่งในโรงหนัง ผมจะนั่งฝั่งขวามือเขาตลอด เพราะว่าผมชอบนั่งแล้วเอียงตัวไปทางขวา ถ้าไม่มีคนมานั่งข้างก็ดีไป ได้เอนเต็มที่แต่ถ้ามีคนมานั่งข้างๆ ก็ได้เอนนิดเดียว

เรื่องพวกนี้เขารู้ครับ เพราะเขาเคยถามผม ผมก็ตอบตามนี้ไปไม่จำเป็นต้องโกหก เวลามาดูกันสองคน(ช่วงแรกๆ) หรือกับเพื่อหลายคน ผมก็จะปรี่ - -เรียกว่าปรี่เลยทีเดียว ไปนั่งทางขวาก่อน จะได้ไม่เป็นภาระลูกหลาน

แต่ครั้งนี้ สงสัยมันจะไม่เป็นอย่างนั้นแล้วสิครับ

จากที่แค่เซงๆที่ไม่ได้เอนตัวอย่างเต็มที่ กลับกลายต้องมางงไปอีกเมื่อเขาสะกิดผมแล้วกระซิบข้างหูพร้อมๆกับใช้น้ำเสียงยั่วยวนผม “.....กันมั้ย”ไอบ้า!!! ไม่ใช่โว้ยยยยยย

เขากระซิบว่า

“เห้ย มานั่งที่กูดิ กูไม่อยากนั่งคนเดียว”

ผมงงครับ อะไรเนี่ย หนังฉายอยู่นะ ให้มาลงมาลุกแลกที่มีที่ไหนแถมเขาก็รู้หนิว่าผมเอียงขวา เห้ย!หมายถึงนั่งเอนขวาแล้วจะมาแลกที่เนี่ยนะ อีกอย่าง มรึงนั่งคนเดียวที่ไหน กูนั่งข้างๆมรึงเนี่ยยยยยยย

แต่ผมก็ได้แค่คิดครับ เพราะพอเขาลุกขึ้นยืนไอร่างกายที่ใหญ่โตมโหฬาลของเขาเนี่ย สามารถบังจอคนข้างหลังเต็มๆผมเห็นแล้วก็สงสาร ไม่ได้ปริปากบ่นอะไร รีบๆลุกแลกที่ให้เสร็จไปจะได้ดูหนังต่อ

แล้วหนังก็ดำเนินไปเรื่อยๆของมัน ผมรู้ครับว่าเขาคงไม่ชอบเพราะเล่นพูดกันทั้งเรื่อง จุดพงจุดพีคไม่มี ใส่คำพูดเข้าอย่างเดียว แต่ผมหน่ะหรอนั่งจ้องนั่งอ่าน นั่งฟังมันส์เลยครับ เพราะคำพูดที่หนังใช้มันเจ๋งจริงๆ

ทำให้ผมลืมตัวเอนขวาไปเรื่อยๆ จนมือผมไปชนไหล่เขา

ลองนึกภาพตามนะครับ

ผมนั่งชันขาสองข้างขึ้นมา เอนไปทางขวา มือสองข้างกุมไว้ ว้างไว้ข้างหัวเอาศอกค้ำแขนเก้าอี้ไว้ แล้วเอนไปเรื่อยๆจนมือผมไปวางแหมะไว้บนไหล่เขาซึ่งมันก็เข้าล๊อคพอดี ผมก็ไม่ไหลเอนต่อไป นั่งดูหนังไปเรื่อยๆจนมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ เขาขยับตัว

ผมรีบชักมือออกแล้วหันไปมองเขา

โหหหห ขนาดมืดอย่างนี้ กูยังเห็นจมูกมรึงชัดเจนเลยนะเนี่ยไอแฟ๊บเอ้ยยยย ขาวเกินไปแล้วนะ แต่ก็ต้องเอะใจ เมื่อเห็นตัวเขา นั่งเอนมาทางซ้ายเหมือนกับเพื่อให้ผมวางแขนได้สะดวก

แน่นอนครับ ผมเอะใจ แต่ไม่คิดอะไร ทำไมอ่ะ เพื่อนกัน นั่งดูหนังกันเมื่อย เอน ไหล ธรรมดา เหมือนผมไง

ผมก็เลยหันหน้าไปดูหนังต่อ ไม่คิดอะไร กลับไปนั่งท่าเดิมวางมือไว้บนไหล่เหมือนเดิมแบบชิลๆ ก็ทำไมอ่ะ มันสบายหนิ อิอิ

พอหนังจบ ผมก็ยืนบิดขี้เกียจนิดๆ แล้วหันไปมองเขา พร้อมกับถามว่า

“เป็นไงมรึง หลับมั้ย” ก็ผมคิดว่าเขาคงไม่สนุกหนิครับ

“ก็โอเคนะกูว่า หนังมันก็ดีดีนะ”

เหยดดดดดดดดดดดดด พ่อคูณณณณณณณ ดูหนังเป็นด้วยหรอเนี่ยนึกว่าจะหลับไปแล้วซะอีก กะว่าจะแซวเขาเบาๆ แต่เขาเดินไปทางออกเสียแล้ว

ระหว่างทางไปที่จอดรถ ผมก็เจอรุ่นน้องที่มาดูหนังกับแฟนสงสัยจะเป็นเรื่องเดียวกัน

“เห้ย มาดูหนังหรอวะ” อ่าว แล้วให้ทำไรวะ ผมทักน้อง

“ใช่พี่ เพิ่งจบเนี่ย กำลังกลับหล่ะ พี่หล่ะ” น้องมันถามผมกลับเขา

“เออ เหมือนกัน” ผมตอบพร้อมกับหันไปมองแฟนมันนิดนึง เออ สวยดีว่ะขาวดี พอดีกับที่แฟนมัน หันมามองคนข้างๆผม สงสัยหลงความหล่อเขาแล้วสินะ 5555เหมือน น้องผมมันจะรู้ทัน มันเลยรีบพูดขึ้นมาก่อน

“พี่ เดี่ยวผมกลับหล่ะ เจอกันที่ม.ครับ” แหมมมมมม รีบชิ่งเลยนะมรึงกลัวคนข้างๆกูงาบไปสินะ

แล้วมันก็เดินจากไป พอกำลังจะขึ้นรถ ผมเลยแซวเขาไปนิดนึง

“แฟนน้องกูจ้องจนจะกินมรึงอยู่แล้วนะ”

แทนที่จะทำหน้าสลดเสียใจ กลับตอบกลับมาหน้าตาเฉย

“ทำไงได้ กูหล่อ” แล้วก็ขึ้นรถปิดประตูไปทิ้งให้ผมยืนอึ้งอยู่ข้างนอกอย่างนั้นสักพัก ก่อนที่จะก้าวขึ้นรถตามไป

ผมเลือกที่จะนั่งเงียบในรถ ปล่อยให้เพลงในวิทยุคลอไปไม่วิจารณ์หนังให้เขาฟัง ไม่พูดถึงหนังว่าเป็นยังไงบ้างเพราะไม่อยากให้มันน่าเบื่อไปกว่านี้ แล้วผมก็นึกออกว่าต้องทำอะไรต่อไป

“เห้ย เดี่ยวกูกลับเองก็ได้ มรึงจะไปกินเหล้าต่อกับเพื่อนหนิ”

ใช่ครับ เขาจะไปปาร์ตี้ต่อหนิ แต่เขาก็ตอบกลับมาหน้าตาเฉยๆ

“ก็เดี่ยวไปส่งมรึงก่อน จะเป็นไรไป”

ผมเห็นดังนั้น ก็เลยนั่งเงียบๆ ปล่อยให้เขาขับรถไป

อะไรจะเปรมขนาดนี้ ไปกลับฟรี ดูหนังจ่าย20 (ผมจะจ่ายเต็มแต่เขาหยิบไปแค่ใบเดียว)กินน้ำโค้ก ป๊อปคอนฟรี แถมยังได้หนังสือกลับมาเล่มนึงอีก มีความสุขจริงๆเพราะสิ่งเหล่านี้สินะที่ทำให้หัวใจพองโต คงไม่ใช่เพราะคำพูดความเอาใจใส่ของเขาหรอกเนอะ อิอิ

ผมยืนอยู่หน้าคอนโด มองเขาขับรถออกไปเพื่อนที่จะไปปาร์ตี้กับเพื่อนต่อแหมะ สงสัยรีบเชียว ขับเร็วเชียวนะมรึง ขนาดพี่ยามยังถามเลย

“พ่อหนุ่มนั่นจะรีบไปไหนของเขานะ”

ผมหันไปยิ้มก่อนที่จะตอบว่า

“ไอนี่มันติดเหล้าครับลุง 55555” ก่อนที่จะเดินเข้าคอนโด ขึ้นห้อง

เวลาผ่านไปแปปเดียว เขาก็บีบีมา

“กูถึงหร่ะ เดี่ยวกินเหล้าก่อน นอนไปก่อนเลยนะมรึง”

อ่าว ไอนี่!! ปกติกูต้องรอมรึงอนุญาตกูหรอ กูถึงจะนอนได้แต่ก็อาจจะจริงนะ เพราะทุกวันนี้ ก่อนนอน เราจะต้องคุยบีบีกันเสมอแล้วร่ำรากันก่อนนอนทุกที คงมีแค่วันนี้แหละ ที่ผมนอนหลับไปทั้งๆที่เขาเพิ่งจะเริ่มเมาเอง 555555

และนี้ก็เป็นเหตุการณ์ในโรงหนังหนึ่งเหตุการณ์ที่ผมจำได้มาจนถึงทุกวันนี้แต่ยังมีอีกหลายครั้งในโรงหนัง ที่มากกว่านี้ด้วย 5555 แต่ผมจะค่อยๆมาเล่าให้ฟังลำดับเวลาก่อนหลังให้ถูกเพื่อที่จะให้คนอ่านเข้าใจการกระทำของแต่ละคนกันไปด้วยนะครับ

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2555 Last Update : 26 พฤศจิกายน 2555 0:45:46 น. Counter : 7282 Pageviews.		11 comments
Share Tweet