เธอ เขา และ รัก เรา ตอนที่ 1
***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย **** ที่สำนักงานกฎหมาย “ผมได้อธิบายรายละเอียดทุกอย่างให้พวกคุณฟังไปหมดแล้ว ถ้าพวกคุณไม่มีข้อสงสัยอะไรแล้วละก็ ได้โปรดดูที่เอกสารนี้อีกครั้งและเซ็นชื่อของพวกคุณลงไป หลังจากนั้นพวกคุณสองคนก็ถือว่าได้หย่าขาดจากกันอย่างทางการแล้วละครับ ฮืม... ผมเคยพูดแบบนี้มาหลายครั้งและวันนี้ผมก็ยังอยากที่จะมันพูดซ้ำอีก....พวกคุณได้โปรดช่วยคิดทบทวนเรื่องนี้ให้รอบคอบอีกซักครั้งเถอะครับ” ทนายความได้พูดกับพวกเขา ฮวางโบไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว เธอหยิบปากกาขึ้นมาและเซ็นชื่อของเธอลงไปในเอกสารนั้นทันที นี่ถือเป็นการเซ็นชื่อโดยใช้อารมณ์ของเธอมาเป็นตัวตัดสินใจเป็นครั้งที่ 2 แล้ว แต่ทั้งสองครั้งมันได้เปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งชีวิตของเธอ ครั้งแรกที่เธอเซ็นคือ...ในใบทะเบียนสมรสของเธอกับฮยอนจุง ส่วนครั้งที่สอง...ในใบหย่าเพื่อเป็นการยุติชีวิตแต่งงาน 8 เดือนของเธอกับฮยอนจุง ฮยอนจุงมองดูเธอเซ็นชื่อลงไปในใบหย่าของพวกเขาโดยไม่ลังเลเลยซักนิด เขารู้ดีว่าสิ่งที่ดีที่สุดตอนนี้ที่เขาจะทำให้กับเธอได้คือ...การปล่อยเธอไป เขาจึงเซ็นชื่อลงไปในใบหย่าให้กับเธอ และนึกเสียใจที่ตลอดเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันเขาไม่เคยเรียนรู้ที่จะรักเธอให้มากกว่านี้....เมื่อตอนที่เขามีโอกาส เขาเกลียดตัวเองที่มารู้ตัวเอาเมื่อสายว่าเขารักเธอมากแค่ไหน...ตอนที่เธอต้องเดินจากไป และมันก็เป็นช่วงเวลาที่เขาจำเป็นต้องปล่อยเธอไปด้วย 10 เดือนก่อนหน้านั้น – ที่อพาร์ทเม้นท์ของฮวางโบ ฮวางโบกำลังง่วนอยู่กับการเก็บข้าวของในอารพ์ทเม้นท์ของเธอ และเมื่อเสียงกริ่งที่หน้าประตูดังขึ้น เธอเดินไปประตู และคนที่ยืนอยู่หน้าประตูก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...เป็น ‘โบรัม’ เพื่อนสนิทของเธอที่เธอขอร้องให้มาช่วยเธอเก็บของนั่นเอง “ดูเหมือนว่าความช่วยเหลือของฉันคงไม่จำเป็นแล้วซินะ เพราะเธอเก็บของเกือบจะเสร็จหมดอยู่แล้วนี่” โบรัมพูดเล่นกับเธอ “ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะพูดแบบนั้น ฉันขอให้เธอมาที่นี่ก่อนเที่ยงไม่ใช่หรือ แล้วดูซินี้มันกี่โมงเข้าไปแล้ว นี่มัน 16.30 น. แล้วนะ!” ฮวางโบพูดตอกกลับไปด้วยความโมโห “โอเค...ฉันขอโทษ ก็วันนี้รายการที่ฉันไปถ่ายมันเสร็จช้ากว่ากำหนดนี่ เอายังงี้...ฉันจะเป็นคนไปช่วยเธอแกะและจัดข้าวของพวกนี้ที่บ้านแม่ของเธอแทนแล้วกัน ดีไหมล่ะ” โบรัมพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงขึ้นและรู้สึกเสียใจจริงๆ “แทนที่เธอจะรอให้มันถึงตอนนั้น ฉันว่าตอนนี้...ทำไมเธอไม่ไปหาอะไรมาให้เราสองคนกินเป็นอาหารเย็นนี้แทนล่ะ?” ฮวางโบพูดกับโบรัม ตอนนี้ภายในอพาร์ทเม้นท์ของเธอแทบจะดูโล่งไปหมด เพราะภายในห้องเหลือเพียงกล่องที่ใส่ของใช้ส่วนตัวของเธอเพียงไม่กี่กล่องตั้งอยู่เท่านั้น ส่วนเฟอร์นิเจอร์และของใช้อื่นๆ ได้ถูกขนย้ายไปไว้บ้านแม่ของเธอก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้วแล้ว และในขณะที่ฮวางโบนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นเพื่อกินบิบิมบัพที่โบรัมเป็นคนซื้อมา เธอก็มองไปรอบๆ อพาร์ทเม้นท์ของเธอที่เธอได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาตลอด 4 ปีเต็ม มันทำให้เธอรู้สึกใจหายเมื่อเธอจะต้องจากที่นี่ไป ฮวางโบถอนหายใจออกเสียงดัง “เฮ้อ...จริงหรือเนี่ย....ฉันอุตส่าห์ทำงานอย่างหนักมาตลอด 9 ปี แต่ดูเหมือนว่าการทำงานอย่างหนักที่ฉันทำมาทั้งหมดมันก็ยังไม่เพียงพอที่จะชดใช้หนี้สินที่ฉันไม่ได้เป็นคนก่อจำนวนนี้ได้เลย และสุดท้ายฉันก็ไม่สามารถรักษาอพาร์ทเม้นท์นี้ไว้ได้” “ฉันเองก็ตกใจเหมือนกันที่อยู่ๆ เธอก็ตัดสินใจขายอพาร์ทเม้นท์นี้ทิ้ง เธอตกหลุมรักอพาร์ทเม้นท์นี้ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอเห็นมัน...ฉันจำได้ มันไม่มีทางอื่นอีกแล้วหรือ?” โบรัมพูดด้วยความสงสัย “นี้เป็นทางเดียวที่ฉันทำได้เท่านั้น ฉันเหนื่อยกับมันมามากพอแล้วตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันไม่อยากแบกรับภาระหนี้สินก้อนนี้ไว้อีกแล้ว 70% ของรายได้ทั้งหมดที่ฉันทำมาตลอดทั้งปี ฉันต้องเอามันมาใช้หนี้สินที่ฉันมีอยู่ และอาชีพนักร้องของฉันมันก็ไม่แน่นอนด้วย ฉันคิดว่าถ้าฉันขายอพาร์ทเม้นท์นี้ไปแล้วและเคลียร์หนี้สิ้นที่เหลือของฉันหมด ฉันก็อยากจะออกจากวงการบันเทิงนี้ซะที” ฮวางโบพูดระบายความรู้สึกของเธอออกมา “นี่...ทำไมล่ะ? อะไรทำให้เธอคิดอะไรโง่ๆ แบบนั้น?” โบรัมพูดด้วยความตกใจ “มันก็สมเหตุสมผลดีแล้วไม่ใช่หรือไง....เพราะหลังจากที่ฉันทำงานอยู่ในวงการนี้มาหลายปี ฉันมองเห็นมันได้อย่างชัดเจนเลยว่าตอนนี้ชั้นยืนอยู่ตรงจุดไหนของวงการบันเทิงนี้ไปแล้ว นอกจากที่ถูกรุ่นน้องรุ่นหลังๆ ให้ความเคารพในฐานะรุ่นพี่แล้ว ในฐานะการเป็นนักร้องของฉันก็เป็นที่รู้จักกันในวงแคบๆ แฟนคลับของฉันก็ไม่ได้มีมากเหมือนกับนักร้องคนอื่นๆ ในเกาหลีด้วย อัลบั้มเพลงของฉันที่ออกมายอดขายยังเทียบกับนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ๆ ที่ออกมายังไม่ได้เลย ฉันใกล้จะ 30 แล้วนะ มันถึงเวลาแล้วล่ะที่ฉันจะต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่างกับอาชีพของฉันเอง” ฮวางโบระบายความรู้สึกตัวเองออกมาอีกครั้ง “นั้นมันไม่จริงเลยนะ รายการ Infinity Girl ที่เราทำด้วยกันก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี และเธอก็ยังมีงานถ่ายแบบติดต่อมาอยู่เรื่อยๆ ไม่ใช่หรือไง แล้วก็พูดถึงเรื่องแฟนคลับนั่นก็เหมือนกัน เธอเองก็เพิ่งได้รับการสนับสนุนจากแฟนคลับกลุ่มใหม่ๆ ทั่วโลกด้วยไม่ใช่หรือ หลังจากที่เธอเข้าร่วมแสดงในรายการ WGM กับคิมฮยอนจุงนะ” โบรัมพูดให้เหตุผลกับเธอ “เธอคิดว่านั้นเหมือนการถูกรางวัลแจ็คพ็อตหรือไง! เธอรู้ไหมว่านั้นเป็นสิ่งที่ฉันเกลียดที่สุด ฉันอยู่ในวงการบันเทิงนี้มาตั้งนานก่อนหน้าที่เขาจะเข้าซะอีก แต่ฉันต้องมาอาศัยเด็กหนุ่มอย่างเขาเพื่อสร้างกระแสให้ตัวเองได้ความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างงั้นหรือ!?” ฮวางโบเริ่มพูดออกมาด้วยความโมโห “ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นซะหน่อย....ที่ฉันพูดฉันหมายความว่า...การที่เธอได้เข้าไปร่วมในรายกานนั้น มันทำให้คนส่วนใหญ่เริ่มรู้จักนิสัยและตัวตนที่แท้จรงของเธอมากขึ้น และพวกเขาก็เริ่มรักเธอในแบบที่เธอเป็นเธอ ที่เธอแสดงผ่านในรายการนั้นต่างหาก...ไม่ใช่รักเธอในฐานที่เธอเป็นภรรยาของคิมฮยอนจุงซะหน่อย” โบรัมอธิบายกับเธอ “ฉันอยากจะเดินออกมาให้พ้นจากเงาของเขาจริงๆ นะ นี่มันก็เป็นเดือนๆ แล้วตั้งแต่จบรายการ WGM ที่เราทำด้วยกัน แต่คนอื่นๆก็ยังคอยหาเรื่องเชื่อมโยงฉันกับเขาอยู่นั้นแหละ....มันทำให้ฉันเกลียดที่สุดเลย” เธอพูด “มันก็เหมือนกับเป็นการโปรโมทเธอไปในตัวเลยนะ” โบรัมพูดแหย่เธอ “อ้าห์~...ทำไมนะ...ทำไม...ฉันไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆ?” ฮวางโบพูดอย่างหงุดหงิด “เข้าใจแล้ว...เข้าใจแล้วจ๊ะ....เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กันอีกอีกไหมล่ะ ว่าแต่เธอมีแผนจะทำยังไงกับชีวิตต่อไปล่ะ?” โบรัมพูด “ฉันว่าหลังจากที่ฉันขายอพาร์ทเม้นท์นี้ไปแล้ว ฉันคงสามารถปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากหนี้สินก้อนนี้ได้ซักที และฉันอาจจะตัดสินใจทำงานในวงการนี้ต่อไปก็ได้ แต่มันก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับฉันซักเท่าไหร่ที่ฉันจะทำ ฉันอยากจะช่วยเหลือผู้คนที่ยากไร้ สร้างโรงเรียนและบ้านให้กับพวกเด็กๆ ที่ด้อยโอกาส แต่นั่นคงต้องใช้เงินจำนวนมาก และฉันคงทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถ้าฉันตัดสินใจทิ้งวงการบันเทิงนี้ไปใช่ไหมล่ะ” ฮวางโบพูด “อย่ากังวลกับอะไรให้มากไปหน่อยเลย...เฮจอง ฉันว่าเธอน่าจะค่อยๆ คิด และก้าวผ่านไปมันทีละสเต็ปจะดีกว่านะ” โบรัมพูดกับเธอ และวันต่อมาฮวางโบได้รับโทรศัพท์จากผู้จัดการของเธอ เขาต้องการให้เธอเข้ามาที่ออฟฟิศของเขาโดยด่วน...ทั้งๆ ที่เธอเพิ่งย้ายข้าวของมาถีงที่บ้านแม่ของเธอได้ไม่นาน...เธอจึงจำเป็นต้องหยุดมือที่จะจัดการกับข้าวของพวกนั้น และขับรถมุ่งหน้าตรงไปยังออฟฟิศของเขาทันที ที่ออฟฟิศต้นสังกดของฮวางโบ เธอขับรถมาถึงที่หน้าออฟฟิศแล้ว และเดินตรงไปที่ห้องประชุมของบริษัททันที หลังจากที่ผู้จัดการของเธอบอกกับเธอว่า เขากำลังรอเธออยู่ที่นั่น เมื่อเธอเข้าไปในห้องประชุมเธอก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า...ทำไมถึงมีคนอื่นเขามานั่งอยู่ห้องประชุมนี้ด้วย และคนๆ นั้นก็ดูหน้าตาคุ้นๆ เหมือนเธอเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แล้วจู่ๆ คนๆ นั้นก็เรียกชื่อเธอขึ้นมา “คุณฮวางโบ...เราไม่ได้เจอหน้ากันนานเลยนะครับ คุณเป็นยังไงบ้างครับ สบายดีไหม?” ผู้จัดการ SS501 พูดกับเธอและยื่นมือของเขาออกเพื่อมาจับมือเธอเป็นการทักทาย “เอ้อ~ ฉันสบายดีค่ะ” เธอตอบคำกลับไปได้แค่นั้น เพราะเธอกำลังสับสนว่าทำไมจู่ๆ ผู้จัดการ SS501 ถึงมายื่นอยู่ที่นี่...อยู่ในบริษัทต้นสังกัดของเธอ? เธอหันหน้ากลับไปทางผู้จัดการของเธอและหวังว่าเขาคงจะมีคำตอบให้กับเธอ “เขามาที่นี่เพื่อมายื่นข้อเสนอบางอย่างให้กับเรานะ” ผู้จัดการของเธอตอบ “หา? ข้อเสนอ...ข้อเสนออะไรหรือค่ะ?” เธอถามออกมาอย่างตะกุกตะกักด้วยความตกใจ ---------------------------------------- จบตอนแรกแล้วค่ะ มาลงประเดิมครั้งแรก ช่วยติชมกันด้วยนะว่าเป็นยังไงบ้าง
Create Date : 16 กรกฎาคม 2553
Last Update : 16 กรกฎาคม 2553 20:22:06 น.
4 comments
Counter : 633 Pageviews.
โดย: มินมิน IP: 125.25.228.181 วันที่: 16 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:45:16 น.
โดย: snooker IP: 125.24.57.228 วันที่: 16 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:58:01 น.
โดย: AE IP: 124.122.167.166 วันที่: 25 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:28:55 น.
โดย: ป้ารดา IP: 124.122.203.109 วันที่: 27 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:00:47 น.
"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"